แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

บทที่292 ไม่แสดงออก



บทที่292 ไม่แสดงออก

บทที่292 ไม่แสดงออก

“แกพูดว่าอะไรนะ? ตอนนี้แกจะแก้ทางวิธีเดินหมากนี้?” นฤ ชิตได้ยินคำพูดของรพีพงษ์แล้ว ก็ตาโตขึ้นมา

รพีพงษ์พยักหน้า จากนั้นก็เอามือยื่นไปที่ตัวหมากที่วางอยู่ บนกระดาน

ทุกคนมองไปที่รพีพงษ์อย่างไม่เชื่อ คิดว่าเขากำลังวางมาด ให้ใหญ่โตเพื่อตบตาคนอื่นอยู่

“เขากำลังโกหกพวกเราอยู่ไหม นี่ผ่านไปแค่แป๊ปเดียวเอง เขากลับบอกว่าสามารถแก้เกมส์นชีซิงจุ้ยนุ้ยได้แล้ว”

“ต้องขี้โม้แน่ๆเลย จนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้มีปรมาจารย์แค่ไม่กี่ คนเท่านั้นที่สามารถแก้ทางได้ เขามองแป๊ปเดียวก็แก้ทางได้ งั้นวิธีการนี้ก็ต้องไม่เป็นที่เลื่องลือแล้วนะสิ

“รู้สึกว่าเขาดูเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น แล้วคิดว่าตัวเองสามารถ แก้ทางได้แล้ว ความจริงเขาไม่ได้เห็นความพิถีพิถันของวิธีนี้ เลย เขาคิดว่าตนเองสามารถแก้ทางได้ ก็เป็นแค่ความรู้สึกที่ ผิดๆเท่านั้น”
รวินท์ก็ไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ว่ารพีพงษ์จะแก้ทางวิธีชีซิงจุ้ย ได้เร็วขนาดนี้ แต่ไมือของรพีพงษ์ดีกว่าเธอ คนนี้มักจะทําให้ คนอื่นเซอร์ไพร์สได้ตลอดเวลา ไม่แน่เขาอาจจะทำให้คน ตะลึงอีกครั้งก็ได้นะ

รพีพง ไม่ได้ใส่ใจค่าพูดของคนรอบข้าง แล้วเริ่มเดินหมาก ที่อยู่บนกระดาน เอาวิธีที่เขาคิดออกในการแก้เกมส์นี้มาใช้บน กระดานนี้

ในตอนแรกที่ทุกคนเห็นท่าทางของรพีพงษ์ที่ตั้งใจก็ยังคง หัวเราะอย่างหยามเหยียดอยู่ คิดว่ารพีพงษ์ก็แค่เสแสร้งว่าตัว เองทำได้ก็เท่านั้น

แต่เมื่อรพีพงษ์วางหมากลง ทุกคนก็เริ่มโฟกัส คนที่เยาะเย้ย รพีพงษ์เหล่านั้นจ้องไปที่กระดาน

แม้แต่นฤมิตก็จ้องไปที่กระดานเช่นกัน เพราะทุกก้าวทีรพี พงษ์เดิน พวกเขาจะได้เรียนรู้การเดินแบบใหม่ขึ้นทันที วาง หมากเดินไปเรื่อยๆ รพีพงษ์เหมือนว่าจะสามารถแก้ทางวิธีนี้ ได้

เวลาผ่านไป ทุกคนก็ผุดความคิดที่ว่า “ความจริงก็เดินแบบนี้ได้ด้วย”ขึ้นมา ขณะนี้ไม่มีใครกล้าเยาะเย้ยรพีพงษ์แล้ว แม้จะ ถึงขั้นนี้ คนธรรมดาทั่วไปก็คิดไม่ออก นี่แสดงให้เห็นว่า ฝีมือ ของพวกเขาห่างไกลกับรพีพงษ์อยู่มาก

ไม่นาน รพีพงษ์ได้วางหมากตัวสุดท้าย หันไปมองทุกๆคน แล้วกล่าว “แก้ทางได้แล้ว ทานข้าวได้

ทุกคนสูดหายใจเข้าลึกๆ จ้องไปที่รพีพงษ์อย่างไม่คาดคิด คิดไม่ถึงว่าเขาจะสามารถแก้ทางชีซิงจุ้ยนุ้ยได้

ที่สำคัญที่สุดคือ เขาใช้เวลาไม่ถึงยี่สิบนาที ตามที่พวกเขารู้ มา แม้จะเป็นปรมาจารย์ขั้นสุดยอด แก้ทางชีซิงจุ้ยนุ้ย ก็ต้อง ใช้เวลาหลายชั่วโมง จึงจะแก้ทางได้ นี่มันมหัศจรรย์จริงๆ

“แก…..ทําไมแกแก้ทางได้เร็วขนาดนี้ แกรู้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ใช่ไหมว่าต้องแก้เกมส์ยังไง?” นฤมิตไม่ยอมรับ รู้สึกตลอด เวลาว่าการที่รพีพงษ์แก้เกมส์ชีซิงจุ้ยนุ้ยได้เร็วขนาดนี้ เพราะรู้ วิธีการแก้เกมส์มาอยู่แล้ว

“เอิ่ม เมื่อกี้พวกคุณพูดแล้วหนิ วิธีแบบนี้มีปรมาจารย์ไม่กี่คน เท่านั้นที่แก้ทางได้ แล้วพวกเขาก็ไม่ได้เปิดเผยวิธีการ แล้วผม จะรู้ล่วงหน้าได้ไง” รพีพงษ์กล่าว

ทุกคนรู้สึกว่าที่รพีพงษ์พูดนั้นมีเหตุผล วิธีการแก้เกมส์นั้นมีปรมาจารย์ไม่กี่คนที่รู้ ถึงแม้รพีพงษ์จะรู้วิธีการแก้มาจาก ปรมาจารย์เหล่านั้น ก็พูดได้ว่าความสัมพันธ์ของรพีพงษ์และ อาจารย์คนนั้นไม่ธรรมดาเอามากๆ

เพราะถ้าไม่รู้จักเค้า เค้าก็ไม่มีทางบอกวิธีในการแก้เกมส์ให้ รพีพงษ์หรอก

ไม่ว่าจะยังไง รพีพงษ์ก็ไม่ใช่คนธรรมดา

รวินท์จ้องไปที่นฤมิต แล้วกล่าว “ทำไมข้ออ้างคุณเยอะขนาด นี้ แม้รพีพงษ์จะรู้วิธีแก้เกมส์ก่อนหน้า งั้นคุณก็ไปเรียนรู้ก่อน หน้าบ้าง หรือการที่จะยอมรับของรพีพงษ์เก่งนั้นมันยากมาก ขนาดนั้นเลยหรอ?”

นฤมิตอับอาย เขาไม่อยากยอมรับว่ารพีพงษ์เก่งกว่าเขาจึง ได้หาข้ออ้างมากมาย ตอนนี้มีคนรู้ทันแล้ว แล้วยังเป็นวินท์ที่ รู้ทันอีก เขาแทบอยากจะมุดดินหายไปแล้ว

“รินท์ ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น…..” นฤมิตอยากจะกู้ หน้าของตัวเองคืนมา

รวินท์พูดกับเขาอย่างเยือกเย็น แล้วดึงรพีพงษ์ไปนั่งหน้าโต๊ะ แล้วกล่าว มานั่งแล้วสั่งอาหารดีกว่า”
เมื่อพูดจบ เธอมองไปที่รพีพงษ์อย่างหลงใหล แล้วกล่าว “รพีพงษ์ คุณเก่งมากเลย ฉันรับรองว่าต่อไปจะไม่ชวนทะเลาะ แล้ว”

รพีพงษ์ยิ้มให้เธออย่างมีมารยาท ในใจก็รู้สึกเบื่อหน่าย เขา สามารถนับรู้ได้ถึงความรู้สึกที่รวินท์มีต่อเขา แต่เขาแต่งงาน แล้ว ความรู้สึกของตนมีต่อรวินท์ ไม่มีทางเป็นไปได้

ทุกคนนั่งลงบนที่นั่ง คนจำนวนไม่น้อยที่ทักทายรพีพงษ์อย่าง เคารพนอบน้อม ไม่ว่าอยู่ที่ไหน ความสามารถของเขาทำให้ คนนับถือได้ตลอดไป ตอนนี้รพีพงษ์ได้แสดงความสามารถ ของตนให้เห็นแล้ว ก็ต้องได้รับการเคารพจากคนเหล่านี้เป็น ธรรมดา

นฤมิตอยากนั่งข้างๆวินท์ แต่ถูกรวินท์ชักตาใส่เลยไป ทุกคน เห็นนฤมิตอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สู้ดีนัก ก็อยากจะหัวเราะออก มา

ในเวลาเดียวกันพวกเขาก็รู้แล้ว รวินท์ที่เยือกเย็น ตอนนี้เกรง ว่าจะเจอเข้ากับคนที่ทำให้เธอเปลี่ยนไปเป็นนุ่มนวลเข้าแล้ว

ผ่านไปไม่นาน หลังจากที่ทุกคนรอให้อาหารมาครบแล้ว ก็เริ่มทานข้าวพลางพูดคุยเกี่ยวกับการแข่งขันในวันพรุ่งนี้

การแข่งขันครั้งนี้จัดขึ้นสามวัน เพราะคนเข้าร่วมนั้นมีค่อน ข้างมาก ดังนั้นจึงใช้ระบบแพ้คัดออก และวันสุดท้ายจะเป็นวัน ตัดสิน

การแข่งขันครั้งนี้ คนที่อยู่ในการทานข้าวนี้จะเข้าร่วมทั้งหมด ถึงเวลานั้นถ้าต้องเจอกันในการแข่งขัน ก็ต้องเอาจริงเอาจัง เช่นกัน

รพีพงษ์ได้ยินคนเหล่านี้พูดคุย นานๆจะพูดขึ้นมาสักคำ เพราะการแข่งขันครั้งนี้สำหรับเขาแล้วไม่มีความยากใดๆ ไม่ ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น เขาก็สามารถผ่านไปได้อย่าง สบาย

ใจของรวินท์ไม่ได้อยู่ในการแข่งขันแต่อย่างใด ตอนนี้ทุกๆ เวลาเธอจะมองไปที่รพีพงษ์ ทำเอานฤมิตที่นั่งตรงข้ามโมโห จนหน้ามืดตามัว

ไม่นาน การรับประทานอาหารจบลง หลังจากทุกคนแสดง ความคิดเห็นเกี่ยวกับการแข่งขันเสร็จแล้วนั้น ก็ได้เดินออก จากห้องไปพร้อมๆกัน

เพราะหลังจากที่รู้ถึงความสามารถของรพีพงษ์แล้วนั้น ทุกคนก็เดินตามหลังรพีพงษ์ แม้แต่รวินท์ก็ตามรพีพงษ์ เหมือน ดั่งลูกน้องของรพีพงษ์อย่างไรอย่างนั้น

ทุกคนเดินไปที่ประตู ในขณะนี้มีคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้า มา คนพวกนั้นใส่ชุดเหมือนกัน บนชุดมีโลโก้ของบริษัท อสังหาริมทรัพย์เมค์ส

คนพวกนี้เป็นคนที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์เมค์สของเมืองริ เวอร์ให้การสนับสนุน คนนำหน้า เป็นคนที่รพีพงษ์ต้องแข่งขัน ด้วยพอดี โกมุท

โกมุทก็เห็นรพีพงษ์และคนเหล่านั้นแล้วเช่นกัน ในบรรดา พวกเขามีคนจํานวนไม่น้อยรู้จักรวินท์ แค่ดูก็รู้แล้วว่าคนพวกนี้ เป็นคนของสมาคมโกะเมืองกรีนโคล

ดังนั้นเมื่อเห็นพวกเขา โกมุทจึงนำทุกคนเดินไปที่นั่น

“ชั่งบังเอิญจริงๆ รวินท์ เมื่อสองสามวันก่อนคุณไปเมืองริ เวอร์เพื่อดูผมเล่นโกะ สุดท้ายทำไมกลับไปไม่ร่ำไม่ลาสักคำ หรือผวากับความสามารถของฉันเข้าไป?” โกมุทมองไปที่รว นท้อย่างดูถูก

รวินท์มองโกมุทอย่างเยือกเย็น แล้วกล่าว “หยุดเข้าข้างตัว เองได้แล้ว ฝีมือของคุณไม่เลวก็จริง แต่ครั้งนี้ถ้าจะคว้ารางวัลชนะเลิศล่ะก็ ไม่มีทางแล้ว”

“อ๋อ? พูดงี้ คุณเชื่อมั่นว่าจะชนะผมได้ ผมได้ดูคลิปตอนที่คุณ เล่นโกะแล้ว ฝีมือคุณ จะชนะผม เกรงว่าไม่น่าจะเป็นจริงได้นะ

“เชอะ ฉันชนะคุณไม่ได้ แน่นอนว่าต้องมีคนที่ชนะคุณได้ เก็บ ความทะนงตัวเอาไว้เถอะ บนโลกนี้คนที่จะชนะคุณได้นั้นมีอยู่ ตั้งมากมาย “รวินท์กล่าวอย่างไม่พอใจ

“ใช่ ครั้งนี้พวกเรามีรพีพงษ์ผู้ช่วยฝีมือดี เขาใช้เวลาไม่ถึง ยี่สิบนาทีก็แก้ทางชีซิงจุ้ยนุ้ยได้แล้ว ฝีมือเขา เก่งกว่าคุณ แน่นอน!” ผู้ชายข้างๆรวินท์กล่าว

แววตาของโกมุทมองไปที่รพีพงษ์ ตอนนั้นเขารู้สึกว่าคนที่อยู่ หน้าเขานี่หน้าตาคุ้นๆ แต่นึกไม่ออกว่าเคยเจอกันที่ไหน จึงไม่ ได้ใส่ใจ

คนนี้ได้เรียกชื่อรพีพงษ์ โกมุทก็รู้ขึ้นมาทันใดว่าคนที่อยู่ข้าง หน้านี้เป็นใคร รพีพงษ์ไม่เคยเห็นโกมุท แต่โกมุทเคยเห็น รพีพงษ์ ไอ้สวะของเมืองริเวอร์ โกมุทค้นหารูปรพีพงษ์โดย เฉพาะ ดังนั้นเมื่อเห็นรพีพงษ์ในครั้งแรก จึงได้รู้สึกคุ้นหน้าคุ้น ตา
“รพีพงษ์! เชด ฉันไม่ได้ดูผิดใช่ไหม สุดท้ายคุณก็มา ฟังจาก พวกเขาแล้ว คุณจะเข้าร่วมการแข่งขันในวันพรุ่งนี้ด้วยหรอ คุณไม่ได้ตลกใช่ไหม เป็นไอ้สวะของเมืองริเวอร์ คุณแยกขาว กับคําออกไหม ถึงได้กล้าที่จะมาเข้าร่วมแข่งขันในครั้งนี้?” โกมุทเยาะเย้ยรพีพงษ์อย่างไม่ไว้หน้า

คนเหล่านั้นที่ยืนอยู่หลังโกมุทก็รู้จักรพีพงษ์ ต่างก็พากัน เยาะเย้ยรพีพงษ์ตามๆกัน

“เชด ไอ้สวะรพีพงษ์ก็มาด้วย สมาคมโกะของเมืองกรีนโคล ต้องการอะไร หรือพวกเขาอยากแพ้พวกเรา?”

“ตลกชิบหาย เมื่อกี้คนนั้นบอกว่ารพีพงษ์จะชนะโกมุทได้ พวกเขาไม่รู้ชื่อเสียงเรียงนามของรพีพงษ์ที่เมืองริเวอร์หรือไง ไอ้ขยะรพีพงษ์ เกรงว่าแม้แต่เด็กสามขวบก็เอาชนะไม่ได้นะ

คนของสมาคมโกะแห่งเมืองกรีนโคลได้ยินคนเหล่านั้น เหยียดหยาม ก็ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที ในบรรดาคนเหล่านั้น ได้ยินวินท์พูดถึงเรื่องของเขาแล้วบ้าง คนที่เหลือเพิ่งจะรู้จัก รพีพงษ์วันนี้เป็นวันแรก

ตอนนั้นรพีพงษ์ใช้เวลาไม่ถึงยี่สิบนาทีก็แก้ทางชีซิงจุ้ยนุ้ยได้ แล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงมองว่ารพีพงษ์สุดยอดมาก ได้ยินคนอื่นว่ารพีพงษ์ว่าเป็นไอ้สวะ ล้วนรู้สีกสงสัย

“พวกคุณพูดอะไร รพีพงษ์จะเป็นไอ้สวะได้ไง?” นฤมิตถาม

“ที่แท้พวกคุณก็ไม่รู้สินะ ที่เมืองริเวอร์ของพวกเรา รพีพงษ์ คือไอ้สวะชื่อดัง เขานอกจากจะเกาะภรรยากิน ทําอย่างอื่น ไม่ได้ ตอนนี้พวกคุณบอกว่ารพีพงษ์จะช่วยพวกคุณให้ชนะ การแข่งขัน ข่าชิบหาย พวกคุณอยากแพ้พวกเราขนาดนี้เลย หรอ?” โกมุทกล่าวอย่างดูแคลน

เมื่อคนของสมาคมโกะแห่งเมืองกรีนโคลได้ยินคําพูดของ โกมุท ก็หันไปมองที่รพีพงษ์ ส่งสายตาตั้งคำถามไปยังรพี พงษ์

รวินท์เห็นคนของสมาคมโกะแห่งเมืองริเวอร์ยโสโอหัง ก็ โกรธขึ้นมา แล้วกล่าว “พวกคุณหยุดพูดจาให้ร้ายคนได้แล้ว นะ พวกคุณไม่รู้ความเก่งกาจของรพีพงษ์ รอให้ถึงการแข่งขัน ในวันพรุ่งนี้ พวกคุณก็จะรู้ในสิ่งที่ไม่รู้แล้ว

โกมุทหัวเราะอย่างเหยียดหยาม แล้วกล่าว “หยุดฝันได้ล่ะ ไอ้นี่น่าจะใช้อะไรสักอย่างโน้มน้าวพวกคุณสินะ ผมว่าพวกคุณ รีบกลับไปค้นหาเรื่องร้ายๆพวกนั้นของรพีพงษ์ซะเถอะ เอา ความหวังไปทิ้งไว้กับไอ้สวะ สมาคมโกะแห่งเมืองกรีนโคล พัฒนาไปอีกขั้นแล้วนะเนี่ย!
พูดจบ โกมุท เดินหัวเราะไปข้างหน้า

คนของสมาคมโกะเมืองริเวอร์ล้วนจ้องไปที่คนของสมาคม โกะเมืองกรีนโคล มองพวกเขาเป็นตัวตลก

หลังจากที่โกมุทเดินไปแล้ว คนของสมาคมโกะเมืองกรีน โคลล้วนมองไปที่รพีพงษ์ สิ่งที่คนพวกนั้นพูดเมื่อกี้จริงหรือไม่

รวมหมองไปที่คนเหล่านั้นอย่างโมโห แล้วกล่าว “ความ สามารถของรพีพงษ์เป็นยังไงเมื่อกี้พวกคุณก็เห็นแล้วหนี ยัง ต้องถามอะไรอีก พวกนั้นก็แค่อยากจะกดดันพวกเรา ถ้าพวก คุณตามพวกเขา ซึ่งขายขี้หน้าคนเมืองกรีนโคลของเรามาก

เมื่อทุกคนได้ยินคำพูดของรวินท์ ก็รู้สึกว่ามีเหตุผล แล้ว ค่อยๆเงียบลง

รพีพงษ์ไม่ได้รู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจใดๆกับคำพูดของโกมุท และคนเหล่านั้น นักปราชญ์จะแสดงความสามารถเมื่อถึงเวลา ยิ่งคนเหล่านั้นมองข้ามเขามากเท่าไหร่ ยิ่งเป็นข้อดีให้รพีพงษ์ เท่านั้น

นักปราชญ์จะระงับอารมณ์ในการทำสิ่งใดๆ รพีพงษ์ไม่อยากเสียเวลากับเรื่องนี้

ในระหว่างทางกลับ รวินท์มองไปที่รพีพงษ์อย่างไม่เข้าใจ แล้วถาม “โกมุทนั้นทำเกินไป แต่ทำไมคุณไม่โมโหเลยสัก นิด? คุณเก่งขนาดนี้ ไม่อยากพี่สูจน์ตัวเองสักหน่อยหรอ?”

รพีพงษ์ยิ้มแล้วมองไปที่รวินท์ แล้วตอบเธอด้วยสำนวนว่า “ไม่แสดงออก แต่เมื่อทำแล้วคนตกใจ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ