แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

บทที่251 แม้แต่เทพเจ้าก็ช่วยอะไรพวกมึง ไม่ได้



บทที่251 แม้แต่เทพเจ้าก็ช่วยอะไรพวกมึงไม่ได้

เมื่อลิปตาและชรินทิพย์ทั้งคู่ได้ยินคำพูดของประดิ พุทธิ์แล้วนั้น ก็สบตากัน ก็ยิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มที่ มีเลศนัย พวกเขารู้ว่าประดิพุทธิ์ไม่มีทางปล่อยร พงษ์ไปง่ายๆแน่

จากนั้นก็เดินเข้าไปในห้องทำงาน หลังจากเห็น พนที่นั่งอยู่บนพื้นแล้วนั้น ก็ตกใจ คิดไม่ถึงว่าเขาจะ กล้าทำแบบนี้กับลูกน้องของตน คงไม่อยากมีชีวิต อยู่ต่อไปแล้วจริงๆ

เมื่อพี่พนเห็นประดิพุทธิ์มาถึง สีหน้าก็เศร้าหมอง ทันที แล้วกล่าว “พี่พุด พี่จะต้องแก้แค้นแทนผมนะ ผมรอพี่ตลอด เลยไม่กล้าไปโรงพยาบาล คนเชี้ยนี่ ก็บอกว่าถึงแม้พี่จะมาก็ไม่กล้าทำอะไรกับมัน มันชัก เหิมเกริมไปแล้ว ไม่ว่าจะยังไง วันนี้พี่พุดต้องให้มันรู้ ถึงความร้ายกาจของพี่นะ!”

รพีพงษ์นั่งบนเก้าอี้ เห็นประดิพุทธิ์เดินเข้ามา ก็ยิ้ม ออกมาทันท่
ลิปดาและชรินทรัพย์เห็นรพีพงษ์ยังยิ้มได้แม้ กระทั่งในตอนนี้ ก็จ้องไปที่เขาอย่างโกรธเคือง ลิป ตากล่าว รพีพงษ์ พุดมาถึงแล้ว แกยังไม่กลัวตาย อีกหรอ!”

เมื่อประดิพุทธิ์ได้ยินรพีพงษ์สองคำนี้ ก็ชะงักใน ทันที เขารีบหันหน้าไป แล้วเดินไปในห้องทำงาน เมื่อเห็นรพีพงษ์กำลังนั่งยิ้มอยู่บนเก้าอี้ให้เขา ก็ ขนลุกขึ้นมาทั้งตัว

เขากลืนน้ำลาย แล้วมองไปที่ลิปตา กล่าว แก แน่ใจหรอว่าคนที่เยาะเย้ยฉัน คือเขา?”

ลิปตาพยักหน้าอย่างมั่นใจ แล้วกล่าว “ใช่ พี่พุด ไอ้ นี่แหละ มันบอกว่าพี่ไม่มีค่าอะไรในสายตามัน ยัง บอกอีกนะว่ารอให้พี่มาถึงก่อน ก็จะจัดการ พร้อม กันด้วยเลย

สีหน้าของประดิพุทธิ์ซีดลง มองไปที่สายตาอัน แค้นเคืองของลิปตา แล้วกล่าว “ฉันให้โอกาสแกได้ อธิบายว่าแกอธิบาย บอกฉันมา ว่าแกไปยั่วโมโหเขา ได้ไงกัน?”

“ก็เมื่อวานไอนี่มันให้ฉันเห่าหอนต่อหน้าคนหมู่มากฉันไม่โอเค ก็เลยให้ พรมาจัดการมัน แต่ไม่คิดว่า มันจะเก่งกาจได้ขนาดนี้” ลิปตากล่าว

ทำไมเขาต้องให้แกเห่าหอน?” ประดิพุทธิ์ถามต่อ ”

“เพราะ….เพราะฉันแข่งรถแพ้เขา” ลิปตารู้สึก อับอายขึ้นมา

“พี่พุด ไอ้นี่มันก็แค่ไอ้สวะที่มาจากต่างเมืองเท่านั้น มันจะเทียบกับลิปตาได้ไงกัน มันให้ลิปตาเห่าหอน ต่อหน้าคนหมู่มาก เสียหน้าของพี่นะ ดังนั้นวันนี้พี่จะ ปล่อยมันไปไม่ได้นะ” ชรินทร์ทิพย์พูดยุยงอยู่ข้างๆ

สีหน้าของประดิพุทธิ์บึ้งถึงขั้นขีดสุด เขาได้เข้าใจ แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ลิปตาแข่งรถแพ้รพีพงษ์ เลย ต้องเห่าหอน แต่ไอ้นี่มันไม่ยอมรับ เลยจัดคนมา จัดการกับรพีพงษ์ แต่สุดท้ายแล้วก็ยังโดนรพีพงษ์ จัดการ

พวกเขาต่อกรไม่ไหว จึงได้เรียกประดิพุทธิ์มา แล้ว ยังบอกว่ารพีพงษ์เยาะเย้ยเขา นี่มันเล่นตลกกันชัดๆ

ด้วยความสามารถของรพีพงษ์ จะมาเยาะเย้ยเขาได้ไงกัน จะค่อยประดิพัทธิ์โดยตรงก็ยังได้ ดังนั้น เมื่อเขาได้ยินจึงรับรู้ได้ในทันทีว่าลิปตากำลังโกหก อยู่

“พี่หด ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร ไอ้สวะนี่มันได้ยั่ว โมโหพวกเราแล้ว ตอนนั้นมันยังพูดอีกนะว่าจะต่อย พี่พุดให้เข้าโรงพยาบาลเลย พี่รีบให้คนของเรา จัดการกับมันเถอะ” ลิปตาพูดขึ้นมาอีกครั้ง

ประดิพุทธิ์ต่อยไปที่หน้าของลิปตาหนึ่งหมัด แล้ว ด่า “กูจัดการเชี้ยอะไร จึงเห็นกูโง่หรอ ยังกล้าจะ โกหกกูอีก ถึงแม่งไร้น้ำยา แพ้เขา ยังไม่ยอมรับอีก แล้วยังไปหาพี่พนให้มาต่อกรกับเค้า สุดท้ายก็ยัง โดนเค้าตบเข้าให้อีก ดังนั้นจึงจะได้เรียกกูมานี่”

“พวกมึงแม่งทำกูอับอายขายขี้หน้าไปถึงไหนต่อ ไหนแล้ว พวกมึงรู้ไหมว่าคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นคือใคร? นั่นคือลูกพี่กู แค่ความสามารถของเขา จะเยาะเย้ย อะไรกู? เขาบอกว่ากูเป็นแค่ขยะ กูก็เป็นไอ้ขยะ จริงๆ!”

“กูก็คิดว่ามครหาเรื่องในเขตของกู ทะเลาะมาตั้ง นานสุดท้ายก็คือพวกมึงที่หาเรื่องมาให้กู กูดูๆแล้ว วันนี้กูต้องจัดการกับพวกมึงจนถึงขั้นเข้าโรงพยาบาลซะแล้ว!

ประดิพุทธิ์พลางตะคอก พลางยกมือจะต่อยลิปตา แล้วก็ถีบไปยังขาของ พนอีกด้วย ทั้งคู่มึนงง ถูก ประดิพุทธิ์ต่อยอย่างไม่รู้ข้อผิดพลาด

ซรินทร์ทิพย์มองไปที่รพีพงษ์อย่างตะลึง เมื่อเธอ ได้ยินคำพูดหนึ่งในประโยคที่ประดิพุทธิ์พูดออกมา ที่นั่งอยู่ตรงนั้นคือลูกพี่ของเขา งั้นก็หมายความว่า รพีพงษ์คือลูก ของประดิพุทธิ์ แล้วประดิพุทธิ์ยัง พูดด้วยตัวเองอีก

นี่ทำให้ชรินทร์ทิพย์รับไม่ได้

ผ่านไปสักพัก ประดิพุทธิ์หยุดต่อย แล้วลากลิปตา ที่ใบหน้าฟกช้ำดำเขียวและพี่พนมาตรงหน้าของร พงษ์ ให้พวกเขาทั้งคู่คุกเข่าลง

เขาได้หันไปดูชรินทร์ทิพย์ แล้วกล่าว “ กูประดิพุ ทธิ์ไม่ทําร้ายผู้หญิง แต่ในเมื่อมึงก็ยั่วโมโหลูกพี่กู งั้น ก็มาคุกเข่าด้วยกันนี่แหละ ถ้ามึงไม่ยอมทำล่ะก็ กูจะ ให้ลูกน้องกูจัดการกับมึง” เมื่อซรินทร์ทิพย์ได้ยินคำ พูดของประดิพุทธิ์แล้ว ตกใจทันที แล้วมองไปที่ร พงษ์ ให้เธอคุกเข่าให้กับรพีพงษ์ เจ็บปวดยิ่งกว่าฆ่าเธอให้ตายเสียอีก

ประดิพุทธิ์เห็นเธอลังเล ก็กล่าวว่า “คุกเข่าไม่ได้ใช่ ไหม ก็ได้ มานี่สักคน จัดการกับเธอซะ”

“อย่าอย่าอย่า ฉันคุกเข่า

ชรินทร์ทิพย์หวาดหลัวจนรีบเดินไปด้านหน้าของ รพีพงษ์ กัดปากแล้วมองเขา หลังจากถอนหายใจ ก็ได้คุกเข่าลงกับพื้น

รพีพงษ์มองไปที่ชรินทร์ทิพย์อย่างไร้ความรู้สึก แต่ ไหนแต่ไรมาเขาไม่เคยมองว่าชรินทร์ทิพย์คือญาติ ของเขาเลย วันนี้เธอร่วมมือกับลิปตาและพี่พนนั้น เพื่อจะมาเอาชีวิตเขาไม่มีทางเห็นอกเห็นใจเป็นแน่

หลังจากที่เห็นทั้งสามคุกเข่าลงแล้ว ประดิพุทธิ์มอง รพีพงษ์ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความอับอาย แล้ว กล่าว “พีรพี ผมไม่รู้จริงๆว่าพวกเขาจะมาหาเรื่อง ตอนนี้ผมให้พวกเขาคุกเข่าขอโทษพี่ พี่ลองดูล่ะกัน ว่าจะต้องลงโทษอะไรอีกไหม

“พวกเขาไม่ใช่แค่มาหาเรื่องฉัน ถ้าแผลบนตัวฉันยังไม่หายดีล่ะก็ ที่พวกเขาหาวันนี้ น่าจะทําเพื่อเอา ชีวิตฉันนะ” รพีพงษ์พูดอย่างเยือกเย็น

ประดิพุทธิ์สูดหายใจ แล้วถีบไปที่พี่บนร่างของพน โดยตรง แล้วด่า “แม่งเอ้ย มึงคิดจะฆ่า รฟ์ของกู หรอวะ?”

พี่พนผวาทันที แล้วรีบกล่าว “ผม…..ผมก็แค่ฟังคำ พูดของลิปตาแล้วพาคนมาเท่านั้นเอง พี่พุด เรื่องนี้ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับผมเลยนะ เป็นเพราะลิปตาและ แฟนสาวเชียของมันขอให้ผมมา พวกมันมอง ท่าน นี้แล้วขัดหูขัดตา อยากให้ผมจัดการเขาซะ ผมไม่รู้ เลยจริงๆว่านี่คือลูกพี่ของพี่

ประดิพุทธิ์โมโหเกรี้ยวกราด แล้วตะคอก “กูไว้หน้า มึงเกินไปล่ะ ยังจะให้คนมาเก็บลูกพี่กูอีก ทำไมถึง แม่งไม่เก็บกูไปด้วยกันเลยล่ะ!

ลิปตาเสียใจ แล้วกล่าว “ลูกพี่ ผมก็แค่หลงคารม ของไอ้ผู้หญิงบ้านเหมือนกัน ต้องโทษเธอ เธอเอาแต่ พูดว่ารพีพงษ์คือไอ้สวะ ถึงแม้ทำอะไรไปก็ไม่มีใคร ต่อว่าอะไร ผมฟังเธอ จึงได้เรียกพี่พนมาด้วยกัน
ชรินทร์ทิพย์กลืนน้ำลาย รับรู้ได้ว่าริมฝีปากเริ่ม แห้งลง ไม่คาดคิดว่าตอนนี้ ลิปตาจะหักหลังเธอได้

ใบหน้าเธอดูผิดหวัง คิดว่ายังไงก็ไม่มีทางต่อกรกับ รพีพงษ์ได้อยู่แล้ว งั้นก็เยือกเย็นไว้ก่อนล่ะกัน

“เป็นคําสั่งของฉันแล้วจะยังไง รพีพงษ์ แกมันก็แค่ ไอ้สวะ หรือฉันพูดผิด?” ชรินทร์ทิพย์กล่าว

เสียงตบด้งขึ้นมาหนึ่งครั้ง

มีเสียงตบลงบนใบหน้าของชรินทร์ทิพย์หนึ่งฉาด

ใบหน้าข้างหนึ่งของเธอบวมขึ้นมาทันใด

ประดิพุทธิ์ผู้ที่ไม่เคยทำร้ายผู้หญิงมาก่อน เพราะ คําพูดนี้ของชรินทร์ทิพย์ ถึงได้ลงมือ

“มึงแม่งแหกตาของมึงดูให้ดีๆ พีรพีของกูคือสวะ? ถ้าเขาคือสวะ พวกมึงทั้งหลายที่อยู่ที่นี่จะต้องคุกเข่า หรือไง? ถ้าเขาคือสวะ กูจะเต็มใจเรียกเขาว่าลูกพี่ หรอ?”

ชรินทร์ทิพย์รู้สึกมึนงงชั่วขณะ แต่หลังจากที่ได้ยิน คำพูดนี้ของประดิพุทธิ์แล้วนั้น เธอก็เกิดคําถามขึ้นมา

ใช่ ถ้ารพีพงษ์เป็นไอ้สวยจริงๆ ประดิพุทธิ์จะถือเขา เป็นลูกพี่ได้ยังไงกัน ทุกครั้งที่เธอทำท่าจะเป็นศัตรู กับรพีพงษ์ รพีพงษ์จะตัดการได้อย่างง่ายดายเสมอ ถ้าแค่ครั้งเดียวก็จะถือว่าแค่โชคช่วย แต่นี่ก็หลาย ครั้งแล้ว ก็แสดงว่าเป็นเพราะความสามารถของรฟี พงษ์เอง

เพราะความมีอคติ ตั้งแต่แรกชรินทร์ทิพย์จึงตัดสิน ว่ารพีพงษ์คือไอ้สวะ ไม่มีน้ำยาใดๆ ดังนั้นไม่ว่าร พงษ์จะทําอะไร เธอก็ล้วนคิดว่ารพีพงษ์นั้นโชคช่วย เสมอ จนกระทั่งไม่ได้คิดถึงสิ่งที่เกี่ยวโยงสัมพันธ์กัน มาแต่อย่างใด

จนกระทั่งวันนี้ ที่เธอได้ถูกประดิพุทธิ์ตบเข้าอย่าง แรงหนึ่งฉาดนั้น เธอเพิ่งจะฉุดคิดขึ้นได้

เธอเป็นศัตรูกับรพีพงษ์มานานขนาดนี้ ถ้ารพีพงษ์ คือสวะจริงๆ งั้นทําไมทุกครั้งเธอต้องเป็นฝ่ายเสีย เปรียบล่ะ?

ชรินทร์ทิพย์เงยหน้าขึ้นมา จ้องไปที่รพีพงษ์อย่าง คาดไม่ถึง แล้วถาม “แก…แกเป็นใครกันแน่?”195992165_318611763179029_712389902898758547_n


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ