บทที่182 ฉันอยู่บ้านที่เป็นวิลล่า
บทที่182 ฉันอยู่บ้านที่เป็นวิลล่า
ตอนที่ปรางทิพย์และโมไนยกำลังเดิน กลับอย่างช้าๆนั้นศศินัดดาและครอบครัว ได้ไปถึงคฤหาสน์ตระกูลเขมพงศ์เพื่อไป หาพ่อของศศินัดดา ไวทยุดแล้ว
ไวทยุตไม่ได้ดีใจกับการที่ศศินัดดากลับ มาบ้านเลย ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่ได้ ใส่ใจลูกสาวคนนี้ซักเท่าไหร่ ยิ่งไปกว่า นั้นเมื่อศศินัดดาแต่งกับศักหาตระกูล ฉัตรมงคลยิ่งทำให้ไม่มีหน้าไม่ตาเข้าไป ใหญ่
บวกกับศศินัดดายังพารพีพงษ์กลับมา ทำให้ไวทยุดยิ่งรู้สึกแย่เข้าไปอีก ดังนั้น หลังจากที่ได้สนทนากันไปบ้างแล้ว เขา
จึงได้เดินจากไป ถึงแม้คฤหาสน์ตระกูลเขมพงศ์ยังมีห้อง ว่างอยู่บ้าง แต่ไวทยุดไม่อยากให้พวก เขารบกวนตนเอง ก็จัดให้ศศินัดดาและ ครอบครัวอยู่ที่บ้านของดุลยวัต
ตุลยวัตและบจีเพิ่งจะซื้อบ้านสไตล์ตะวัน ตกขนาดเล็กสองชั้นหนึ่งหลัง เพิ่งจะ ตกแต่งเสร็จไปไม่นาน ทั้งคู่อดใจรอไม่ ไหวที่จะให้ศศินัดดาและครอบครัวเข้าไป อยู่ที่บ้าน แบบนี้พวกเขาถึงจะโอ้อวดบ้าน ของตนเองได้ง่ายหน่อย
ธีริทธิ์กลับมาถึงอำเภอหยก ก็กลับไปที่ บ้านตนเอง แต่บให้เขากลับไปบอกพ่อ กับแม่ของเขา ว่าตอนกลางคืนทาน ข้าวด้วยกัน เลี้ยงต้อนรับศศินัดดาและ ครอบครัว
ในบ้านสไตล์ตะวันตกของบจี บจีพูดกับ ศศินัดดาอย่างมั่นใจในเรื่องบ้านของตน “บ้านสไตล์ตะวันตกของพวกเราใน อำเภอหยกนี้ ก็ถือได้ว่าเป็นระดับท็อป แล้ว ในตอนแรกก็เป็นโมไนยขอความช่วย เหลือจากคอนเน็คชั่นของท่านยุคถึงจะซื้อ มาได้ ไม่งั้นพวกเธอมา ก็ไม่มีที่อยู่นะ”บจี พูดพลางหัวเราะ
ศศินัดดาคิดว่าเปรียบเทียบบ้านสไตล์ ตะวันตกนี้กับวิลล่าของเธอมันช่างต่างกัน เหลือเกิน แต่ตอนนี้นอนบ้านของเค้า เธอก็ไม่กล้าจะขัดอะไรบจีมาก ได้แต่ หัวเราะแล้วพยักหน้า
บจีเห็นศศินัดดาไม่โต้เถียง ในใจก็ ดูแคลนขึ้นมา ในใจคิดว่าถ้าศศินัดดาและ ครอบครัวอยู่วิลล่าจริงๆล่ะก็ ด้วยนิสัยของ ศศินัดดา ต้องต่อร้องต่อเถียงขึ้นมาตั้ง นานแล้ว ตอนนี้ดูๆแล้ว ครอบครัวเธอไม่
ได้อยู่วิลล่าเสียด้วยซ้ำ เพียงแต่รถคันนั้นที่ครอบครัวศศินัดดา ขับกลับมานั้นทําให้เธอรู้สึกอิจฉาเล็ก น้อย รถคันนั้นดูๆไปแล้วดีกว่ารถออดี้ของ โมไนยเสียอีก เพียงแค่เธอและดุลยวัต ไม่รู้จักเท่านั้นเอง แล้วก็ไม่รู้ว่าราคารถนั้น เท่าไหร่
ผ่านไปไม่นาน โมไนยและปรางทิพย์ กลับมาถึงบ้าน มองเห็นศศินัดดาและ ครอบครัวนั่งในบ้านของตนเองด้วยความ ครื้นเครง ปรางทิพย์รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา ทันที
บมองไปปรางทิพย์และโมไนย แล้วก ล่าว “ปราง พวกแกไม่ใช่ว่าไปรับคุณป้า กับพวกเขาหรอ ทําไมพวกเขากลับมาถึง ตั้งนานแล้ว พวกแกเพิ่งจะถึงล่ะ”
ปรางทิพย์นั่งข้างๆบ อย่างโมโหสุดๆ แล้วชักตาไปที่รพีพงษ์กับอารียา ด้วย สายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง
“เรื่องนี้คุณต้องถามอารียากับไอ้สวะร พงษ์นั่น แม่ คุณไม่รู้อะไร วันนี้ท่านยุดก็ ไปสถานีขนส่งเพื่อรับคน แล้วยังใช้รถมอ เตอร์ไซด์นําทางเป็นพิเศษ โมไนยบอกว่า ใช้เพื่อต้อนรับบุคคลสำคัญ แต่ปรากฏว่า ไอ้สวะรพีพงษ์ฉวยโอกาสนี้ใช้เส้นทางนั้น ห้ามยังไงก็ห้ามไม่อยู่” ปรางทิพย์กล่าว
บจีและตุลยวัตได้ยินดังนั้น ก็ตาโตขึ้น มาทันที บรีบหันไปมองรพีพงษ์ แล้วด่า “แกไอ้สวะนี่ แกโง่หรือแกล้งโง่ ถนนที่ ท่านยุดเปิดทางไว้แกยังกล้าใช้ เรื่องนี้ถ้า ท่านยุคเอาเรื่องล่ะก็ พวกแกทั้งครอบครัว อย่าแม้แต่จะคิดกลับเมืองริเวอร์อีกเลย
ใบหน้าศศินัดดาถอดสี ไม่คาดคิดว่าเรื่อง นี้จะสําคัญขนาดนี้ ก็มองรพีพงษ์อย่าง
โมโห “นี่ไม่ใช่ว่าก็ดีๆอยู่หรอ ท่านยุคนั้นก็ไม่น่า จะหาเรื่องอะไรนะ” รพีพงษ์กล่าวอย่างไม่ แคร่
แกยังมีหน้ามาพูดแบบนี้อีก วันนี้ถ้า ไม่ใช่เพราะโมไนย แกคิดว่าพวกแกยังจะ นั่งสบายๆอยู่ที่นี่ได้อีกหรอ? ที่ท่านยุดไม่ หาเรื่อง ก็ไม่ใช่ว่าเพราะให้เกียรติโมไนย หรอกหรอ แกไม่ขอบคุณก็แล้วไป แต่ยังก็ พูดอย่างหน้าไม่อายแบบนี้อีก”
โมไนยมองรพีพงษ์อย่างเหยียดหยาม แล้วกล่าว “ปรางทิพย์ อย่าไปโมโหกับคน ประเภทนี้ พวกเราไม่ได้มีความสัมพันธ์ ใดๆกับไอ้สวะแบบนี้”
รพีพงษ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก คิดไม่ ถึงว่าทั้งคู่จะนึกว่าที่จิรายุศไม่หาเรื่องนั้น จะเป็นเพราะให้เกียรติโมไนย บจีและดุลยวัดมองรพีพงษ์อย่างไม่ พอใจ ม กล่าว “นัดดา ลูกเขยสวะคนนี้ ของแกนั่งหน้าไม่อายจริงๆ ใช้บารมีของ โมไนยก็แล้ว แม้แต่คําขอบคุณก็ไม่มี น่า อายจริงๆ”
ศศินัดดา กตาไปที่รพีพงษ์ แกล่าว “ร พงษ์ แกยังไม่รีบขอบคุณเค้าอีก แกเป็น ใบ้หรือไง?”
รพีพง สายหัวแล้วกล่าว “เรื่องนี้ไม่ได้ เกี่ยวอะไรกับเขาเลยนะ ผมไม่จําเป็นต้อง ขอบคุณคุณ
บลุกขึ้นทันที ชี้ไปที่หน้าของรพีพงษ์ แล้วด่า “แกไอ้หน้าด้าน ไม่คิดว่าแกจะ กล้าพูดประโยคนี้ออกมา แกคิดว่าแกเป็น อะไร วันนี้ถ้าแกไม่ขอบคุณโมไนย งั้นแก ก็ไสหัวไปซะ อย่าแม้แต่จะคิดอยู่บ้านฉัน!” “งั้นผมออกไปอยู่ข้างนอกล่ะกัน” รพี พงษ์ยืนขึ้นทันที
เขากำลังรู้สึกครอบครัวบจีนั้นน่ารำคาญ อยู่พอดี ออกไปอยู่ข้างนอกก็จะได้สงบ สักที แล้วเขายังต้องไปเจอจิรายุศด้วย ได้ จังหวะฉวยโอกาสนี้ออกไปพอดี
“ชิ ไม่คิดว่าไอ้เศษสวะอย่างแกนี้ยัง กล้าปากเก่งอีก งั้นแกก็ไสหัวออกไป จากบ้านฉันซะ ดูสิแกออกไปแล้วจะนอน ที่ไหน” บจีบึนปากแล้วกล่าว
อารียาไม่คิดว่าเพิ่งจะถึงอำเภอหยก ก็ได้ทะเลาะกับครอบครัวของปรางหนัก ขนาดนี้ แร็บยืนขึ้นทันทีแล้วกล่าว “รพี พงษ์ นอนข้างนอกไม่สบายเท่านอนที่
บ้านนะ ไม่งั้น……. รพีพงษ์ยิ้ม แล้วกล่าว “ไม่เป็นไร ผมออก ไปหาโรงแรมนอน ผมมีธุระพอดี”
อารียาได้ยินรพีพงษ์พูดเช่นนี้ ก็ได้แต่ พยักหน้า แล้วกล่าว “งั้นฉันไปส่งเธอข้าง ล่าง”
พีพงษ์ไม่ปฏิเสธ ทั้งคู่เดินออกจากบ้าน สไตล์ตะวันตกของปรางทิพย์ด้วยกัน
ศศินัดดาดารพีพงษ์ในใจ แล้วหันหน้าไป มองปรางทิพย์ แล้วกล่าว “ปราง รพีพงษ์ ก็แค่ไอ้สวะที่หน้าด้านไม่อาย แกก็อย่าไป ใสใจเขาเลย
“เหอะ เขาหน้าด้านไม่อาย อารียาก็ไม่ ได้ดีไปกว่าเขาหรอก พวกเขาก็ไม่ได้เรื่อง ทั้งคู่แหละ” ปรางทิพย์บน
สีหน้าของศศินัดดาดูแย่ลง ในใจคิด ก็แล้วแกล่ะดีอะไรนักหนา ยังกล้าจะว่า ลูกสาวฉันอีก ถ้าไม่ใช่เพราะวันนี้นอนบ้าน แก กูมีเรื่องกับมึงไปนานล่ะ
ชั้นล่าง อารียาและรพีพงษ์กำลังเดินไป ด้วยกัน
“วันนี้ที่ท่านยุคนําทาง เพื่อจะมารับคุณ โดยเฉพาะใชไหม?”อารียาถาม
รพีพงษ์หันไปมองอารียา ยิ้มแล้วกล่าว “ภรรยาฉันฉลาดจริงๆ
อารียารีบยื่นมือไปที่แขนของรพีพงษ์ แล้วดึงเข้ามา กล่าว “ไร้สาระ”
“คนของครอบครัวแม่ฉันที่นี่ก็เป็นแบบ นี้แหละ คุณอย่าเก็บเอาไปใส่ใจ” อารียา กล่าวปลอบใจ
“วางใจเหอะ คำพูดของพวกเขาผม ไม่เก็บไปคิดหรอก ผมว่านอนข้างนอก สะดวกกว่า คุณจะไปอยู่กับผมไหม? รพี พงษ์กล่าว
ฉันอยู่นี่ก่อนจะดีกว่า ไม่ว่าจะยังไง พวก เขาก็คือญาติ ทำให้มันแย่เกินไปก็ไม่ดี อารียากล่าว
รพีพงษ์พยักหน้า หยุดเดิน แล้วกล่าว “คุณขึ้นไปเถอะ ไม่ต้องเดินออกไปข้าง นอกแล้ว เดี๋ยวพวกคุณต้องไปกินข้าวอีก มีเรื่องอะไรโทรหาผมนะ
อารียพยักหน้า แล้วถาม “งั้นตอนนี้คุณ จะไปหาท่านยุคนั่นใช่ไหม?
รพีพงษ์ตอบอืม อารียาลังเลไปสักพัก แล้วกล่าวว่า “ห้าม สํามะเลเทเมา ห้ามดื่มเหล้ากินข้าวกับผู้ หญิงคนอื่น ถ้าท่านยุดนั่นจัดให้คุณ คุณก็ ห้ามตอบรับ มิเช่นนั้น มิเช่นนั้นฉัน……
รพีพงษ์เห็นท่าทีที่น่ารักของอารียา แล้ว รีบโอบตัวเธอเข้ามากอดไว้ ยิ้มพลางพูด ว่า “วางใจได้ ในสายตาผมมีคุณคนเดียว เท่านั้น ไม่มีทางทําให้คุณเสียใจ”
อารียาเริ่มวางใจ แล้วหันกลับไปกอด
รพีพงษ์เห็นอารียาเดินขึ้นไปข้างบน แล้ว จึงหยิบมือถือขึ้นมา แล้วโทรหาจิรา
ไม่นาน รถโรวสลอยด์คันเดียวที่อำเภอ หยกมีก็จอดที่ประตูของชุมชนบ้านบจี รพี พงษ์ขึ้นไปนั่ง แล้วออกไปจากที่นี่ไป “พีรพ์ พวกเราไปร้านอาหารแชร์โฟล่ะ กัน เป็นร้านอาหารที่ดีที่สุดของอำเภอ หยก ผมมีห้องส่วนตัวส่วนตัวที่ดีที่สุดอยู่ ที่นั่น ผมจะเลี้ยงคุณดีๆสักมื้อ” จิรายุศยิ้ม
พลางพูด
พีพงษ์พยักหน้า สําหรับเขาแล้วไปไหน ก็เหมือนกัน
พลบคํา ครอบครัวของบจีครอบครัวของ ธีฤทธิ์และครอบครัวของศศินัดดามาถึง ประตูหน้าร้านอาหารแซร์โฟ
โมไนยเดินอยู่หน้าสุด หัวเราะพลาง กล่าว ผมได้จองห้องส่วนตัวที่นี่ไว้ ร้าน อาหารแชร์โฟคือร้านอาหารที่ดีที่สุดของ อ้าเภอหยก ห้องส่วนตัวของร้านนี้คน ทั่วไปจะจองก็จองไม่ได้ ผมก็ต้องพึ่งคอน เน็คชั่นของท่านยุคจึงจะจองได้หนึ่งห้อง ส่วนตัว”
ทุกคนมองไปที่โมไนยด้วยใบหน้าที่ นับถือ รู้สึกว่าในบรรดาวัยรุ่นโมไนย นี่ เก่งจริงๆ
“โมไนยนเก่งจริงๆ ห้องส่วนตัวของร้าน อาหารแซร์โฟยังจองได้ เมื่อก่อนพวกเรา อยากมากินข้าวที่นี่ ยังเข้าคิวไม่ได้เลย”
“ใช่ พวกเราพึ่งบารมีของโมไนย ถึงได้ กินข้าวมื้อนี้”
“ปรางทิพย์หาแฟนแบบนี้ได้ ถือเป็นบุญ แปดชั่วโคตรเชียวนะ
ในขณะนี้เอง ริท มองรอบๆอย่างสงสัย ไม่เห็นเงาของรพีพงษ์ แล้วถาม “พี่เขย ผมล่ะ ทําไมเขาไม่มา “อย่าพูดถึงไอ้สวะนี่ ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ไม่ คู่ควรที่จะร่วมโต๊ะอาหารกับพวก เรา ปรางทิพย์กล่าวออกมาทันที
“คุณพูดอะไรนะ พี่เขยผมเจ๋งจะตายไป เจ๋งกว่าแฟนคุณอีก ต่อไปเรียกเขาว่าสวะ ให้น้อยๆหน่อย” ธีริทธิ์เครียดขึ้นมาทันที
ปรางทิพย์ชักตาทันที แล้วกล่าว “ธีริทธิ์ ทําไมตอนนี้แกไปเข้าข้างคนนอกแล้ว ล่ะ ไอ้สวะรพีพงษ์นั่นมีอะไรดี ตอนนั้นถ้า ไม่ใช่เพราะโมไนย เขาแย่ไปนานแล้ว
ปรางทิพย์ก็ได้เล่าให้ทุกคนฟังถึงเรื่อง ตอนที่พวกเขาไปรับครอบครัวของศศิ นัดดาอีกครั้ง
หลังจากที่พ่อแม่ของธีริทธิ์ได้ยินเข้า จึง รีบกล่าว “พูดถูก ไม่มีโมไนย ไม่แน่ท่าน ยุคอาจจะมาหาเรื่องถึงที่ก็เป็นได้ ธีริทธิ์ ต่อไปนี้ไม่อนุญาตให้พูดแทนกับไอ้สวะ นั่นแล้ว
ธีรัทธับนปาก ไม่ได้คิดว่าเพราะโมไนย ท่านยุคถึงไม่หาเรื่องพวกเขา แต่เขาแค่ เบื่อที่จะสนใจปรางทิพย์แล้ว จึงไม่ได้พูด อะไรต่อ
ทั้งสามครอบครัวเดินเข้าไปในร้านอา หารแซร์โฟ เมื่อถึงห้องส่วนตัวที่โมไนย ได้จองไว้ หลังจากนั่งลงแล้ว โมไนยหยิบ เมนูอาหารมา ยื่นให้ศศินัดดา แล้วกล่าว “สั่งอาหารดีกว่า ไม่ต้องเกรงใจ วันนี้ผม เลี้ยงเอง”
ศศินัดดามองไปที่เมนูอาหาร เห็นว่า ราคาไม่ถูก แต่ก็ไม่เรียกว่าแพง
บจียิ้มแล้วกล่าว “นัดดา ครอบครัวพวก แกยังไม่เคยมาร้านอาหารที่หรูหราแบบนี้ แน่นอน ดูอาหารในเมนูสิ ไม่ต้องคิดว่ามัน แพง สั่งได้ตามใจชอบเลย
ศศินัดดารีบตอบกลับทันใด แล้วกล่าว “นี่ยังถือว่าแพงหรอ ที่เมืองริเวอร์ปกติก็ ราคานี้นะ”
ใบหน้าของบจีซีดลง แล้วกล่าว “นัดดา ครอบครัวแกมีไอ้สวะรพีพงษ์นั่น เกรงว่า ปกติไม่ค่อยได้กินเนื้อสินะ แกยังพูดว่า อาหารที่นี่ไม่แพงอีก
ศศินัดดาเหอะเหอะ แล้วกล่าว “อย่ามอง ว่ารพีพงษ์เป็นสวะนะ ไอ้เด็กนี่มันมีเงิน มาก เขายังพาพวกเราไปกินร้านอาหารหรู มาไม่น้อยเลยนะ ดีกว่าร้านของที่นี่อีก
ใบหน้าของบ ไม่เชื่อ แล้วกล่าว “ดูแก สิ เริ่มขี้โม้อีกล่ะ นี่ก็หลายปีแล้ว แกยังไม่ เปลี่ยนนิสัยคุยโวโอ้อวดอีกหรอ แล้วแก ยังพูดว่ารพีพงษ์มีเงินอีก ใครจะไปเชื่อ”
ศศินัดดา กตาทันที ไม่คิดว่าพวกเขาจะ มองว่าเธอกำลังคุยโวโอ้อวดอยู่
ขณะเดียวกันนี้แม่ของธีริทธิ์กล่าวขึ้นมา
“พวกแกไม่ใช่ว่าอยู่วิลล่าแล้วหรอ ทําไมตอนฉันโทรหาเริทธิ์ เขาบอกว่าเขา อยู่บ้านเพื่อนล่ะ หรือว่าวิลล่าของแกเล็ก ไป เพิ่มมาหนึ่งคนก็นอนไม่ได้แล้ว”
จากนั้นทั้งสองครอบครัวก็หัวเราะขึ้นมา
“บ้านฉันก็คือวิลล่า ธีริทธิ์ แกบอกแม่ แกสิ ฉันไม่จําเป็นต้องขี้โม้เรื่องนี้ป่ะ”ศศิ นัดดาพูดอย่างเสียหน้า
ธีริทธิ์พยักหน้า แล้วกล่าว “คุณป้าพูดไม่ ผิด บ้านของเธอเป็นวิลล่าจริงๆ แล้วยัง เป็นวิลล่าที่ดีที่สุดของเมืองริเวอร์ด้วยนะ แม่ของธีริทธิ์ชักตาไปที่เขา แล้วกล่าว “ธีริทธิ์ ทําไมแกก็เป็นไปกับพวกเขาด้วย เนี่ย ถ้าบ้านเธอเป็นวิลล่า แกจะไปอยู่ที่ บ้านเพื่อนหรอ?”
“แม่ เพราะผมเล่นเกมส์จึงต้องอยู่ด้วย กันกับเพื่อนบ้านของเพื่อนผมก็เป็นวิลล่า แต่ไม่ดีเท่าบ้านของคุณป้า” พูดไป ธีริทธิ์ ก็หยิบมือถือขึ้นมา เอาวีดีโอที่ถ่ายไว้ก่อน หน้าจะกลับมาให้คนที่นั่งอยู่ดู
“ผมยังถ่ายรูปและถ่ายวีดีโอไว้โดย เฉพาะเลยนะ พวกคุณจะบอกว่าวิลล่านี้ไม่ ดี?”
หลังจากที่พวกเขาได้ดูรูปถ่ายและวีดีโอ แล้วต่างก็ไม่พูดอะไรต่อไปอีก
ใบหน้าของบจีและปรางทิพย์ดูไม่ดี คิด ว่าบ้านสไตล์ตะวันตกของพวกเธอนั้น ดีแล้ว แต่เมื่อได้เห็นวิลล่าของศศินัดดา แล้ว กลับไม่คิดว่าบ้านสไตล์ตะวันตก อะไร อีกต่อไป
“เชอะ ใครจะไปรู้ว่าแกถ่ายของคนอื่นมา หรือเปล่า” ปรางทิพย์พิมพ์
“พอล่ะ ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว รีบๆสั่งอาหาร เถอะ” ตุลยวัตขมวดคิ้วพูด
ในขณะเดียวกันนี้เอง ประตูของห้องส่วน ตัวได้ถูกเปิดออก พวกนักเลงหลายคน เดินเข้ามา
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ