บทที่172 การคาดการณ์ของศักดา
ศศินัดดา กตาทันใด กำลังเพ่งมองไปที่รพีพงษ์ แล้วกล่าว “นี่มันธุระอะไรของแก นี่มันเป็นของๆ ลูกสาวฉันทั้งนั้น ฉันจะเอาก็ต้องเอา แกยุ่งได้ด้วย หรอ?”
รพีพงษ์ไม่ได้เกรงใจศศินัดดาแต่อย่างใด แล้ว กล่าว “ถ้าคุณยังไม่มีเหตุผลต่อไป แม้แต่ของเหล่านี้ คุณก็จะไม่ได้มันไปเช่นกัน”
ศศินัดดาเหีนรพีพงษ์เด็ดเดี่ยว ก็กลัวขึ้นมาทันที แล้วพึมพำ “เชอะ เสแสร้งให้มันน้อยๆหน่อย เงินที่ แกเอามาสักวันหนึ่งก็จะถูกใช้หมด ถึงเวลานั้นอย่า มาขอร้องฉันแล้วกัน”
เธอพูดพลาง หยิบเครื่องประดับอย่างอื่นขึ้นมาดู รพีพงษ์เอาต่างหูคู่นั้นยื่นให้กับอารียา หัวเราะ
พลางกล่าว “ลองใส่ดูสิ
อารียายื่นมือออกไปรับต่างหูคู่นั้น แล้วกล่าว “คุณไม่ต้องสนใจแม่ของฉัน เธอเป็นแบบนี้แหละ”
รพีพงษ์หัวเราะแล้วหัวเราะอีก แล้วแสดงท่าทีไม่ ซีเรียส
ศศินัดดาได้ยินประโยคนี้ของอารียา แล้วรีบพึมพำ ขึ้นมา “เข้าข้างคนนอกจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะเขาซื้อ ของเหล่านี้มา เรื่องที่เขาทำให้เธอถูกออกจากง จากงาน ฉันก็จะให้แกหย่ากับเขา
อารียาไม่อยากสนใจศศินัดดาแล้ว แล้วลากร พงษ์กลับห้องไปลองต่างหู
ศศินัดดาเลือกเครื่องประดับเหล่านั้นอย่างสุขใจ เต็มเปี่ยม คิดในใจครั้งนี้ที่กลับบ้านพ่อแม่ สุดท้ายก็ ไม่ต้องระทมแล้ว ใส่เครื่องประดับราคาแพงแบบนี้ คนพวกนั้นที่บ้านพ่อแม่ทั้งหมดจะต้องให้เกียรติเธอ มากขึ้นไปอีก
ผ่านไปไม่นาน ศักดากลับมาจากข้างนอก มองเห็น ศศินัดดากำลังเลือกเครื่องประดับอยู่ ถามด้วยความ สงสัยว่า “รถที่อยู่ข้างนอกนั้นของใคร?”
“ของครอบครัวเรา ต่อจากนี้ไปครอบครัวเราจะใช้รถคันนี้แล้ว” ศศินัดดาก้มหน้ากล่าว
กดาตาโตขึ้นมาทันที แล้วกล่าว “นั่นมัน ปอร์เซ911นะ ฉันได้ยินมาว่าสี่ล้านกว่าเลยนะ รถคัน นี้มาจากไหน?”
“รพีพงษ์กับอารีเปลี่ยนตอนขากลับมาของวันนี้ จะ ไปสนทำไมว่ามาจากไหน มีรถดีๆขับไม่ใช่ว่าเป็นสิ่ง ที่ดีหรอ ครั้งนี้ที่เรากลับก็ขับคันนี้ไป ให้ผู้คนที่บ้าน พ่อแม่ฉันพวกนั้นได้เปิดหูเปิดตา ดูสิใครจะกล้าดูถูก พวกเราอีก” ศศินัดดากล่าว
ศักดาเพ่งมองไปที่เครื่องประดับเหล่านั้นที่วางอยู่ บนโซฟา ตาโตขึ้นมาทันที แล้วกล่าว “นี่คือเครื่อง ประดับของร้านเครื่องประดับแสงดาว?”
ศศินัดดาเงยหน้าขึ้นไปมองศักดา แล้วกล่าว “ไม่ คาดคิดว่าคุณจะรู้เรื่องนี้ด้วย ฉันจะบอกคุณให้รู้นะ สิ่งของเหล่านี้ถูกสุดก็ยังต้องหลักแสนนะ คุณไม่เห็น อารมณ์ของพรภาตอนนั้น เธอยังหยิบไอ้หยกห่วย แตกนั้นมาโอ้อวดฉัน ไม่คิดมาก่อนว่ารพีพงษ์จะซื้อ เครื่องประดับมากมายขนาดนี้กลับมาให้ฉัน”
พวกนี้รพีพงษ์เป็นคนซื้อทั้งหมด?” ศักดาถาม
“ก็ใช่นะสิ ไอ้สวะรพีพงษ์นี้ไม่รู้แอบเงินไว้ลับหลัง เราทเท่าไหร่ ไม่ช้าก็เร็วฉันจะให้เขาพูดความจริง ออกมา ศศินัดดากล่าว
ศักดาเงียบนิ่งครุ่นคิดสักพัก นั่งลงข้างๆของศศิ นัดตา แล้วกล่าว “หรือคุณไม่คลางแคลงใจบ้างหรอ ว่าทำไมรพีพงษ์ถึงได้มีเงินมากขนาดนี้?
ศศินัดดา นปาก แล้วกล่าว “ก็ต้องเป็นตอนนั้นที่ แม่คุณให้นั่นแหละ”
ศักดาส่ายหัว แล้วกล่าว “นี่เป็นไปไม่ได้ คุณเคย เห็นเขยคนไหนแต่งเข้าบ้านภรรยา แล้วได้เงิน มากมายขนาดนี้ แล้วสถานการณ์ของครอบครัวผม ผมรู้ดี แม่ผมไม่ได้มีเงินมากมายขนาดนั้นให้รพีพงษ์ หรอก”
ศศินัดดาชะงัก แล้วกล่าว “ความหมายของคุณคือ เงินพวกนี้เป็นของรพีพงษ์เอง?”
“นอกจากความเป็นไปได้จุดนี้ ผมก็คิดความเป็น
ไปได้อย่างอื่นไม่ออกแล้ว ความจริงตั้งแต่ตอนที่ ชื่อวิลล่านั้น ผมก็เริ่มสงสัย รพีพงษ์อาจจะไม่ได้ ธรรมดาอย่างที่พวกเราคิดไว้” ศักดากล่าว
“เขามีอะไรที่ไม่ธรรมดา ก็ไม่ใช่แค่ไอ้สวะตัวนึงที่ ใครๆก็รู้จักป่ะ นอกจากจะมีเงินก้อนหนึ่งที่ไม่รู้ที่มา ที่ไป จุดอื่นๆก็ไม่มีอะไรสักอย่าง” ศศินัดดายังคง เหยียดหยามเช่นเคย
“สายตาของแม่ผมตอนนั้นถือได้ว่าตาดีมากๆ คน ที่เธอชอบ ปกติจะไม่ค่อยแย่ แล้วตอนนั้นเธอก็ชอบ อารีขนาดนั้น คุณคิดว่าเธอสามารถที่จะไม่คิดถึงจิต ใจของอารี แล้วให้แต่งกับสวะได้หรอ? ศักดากล่าว
“ไม่งั้นล่ะ?” ศศินัดดาคิดว่าตอนนั้นคุณย่าไม่ชอบ ครอบครัวของเธอ ถึงได้บังคับให้อารียาแต่งกับรพื พงษ์
“นี่แสดงว่า สถานะของรพีพงษ์ไม่ได้ธรรมดาอย่าง ที่เราคิดเอาไว้ ความจริงช่วงนี้ผมก็กำลังคิดอยู่นะ คุณว่ารพีพงษ์ ก็ใช้แซ่ของตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็น ไปได้ไหมว่าจะเป็น คนตระกูลลัดดาวัลย์แห่งเกี่ยว
โต…… ศักดาคาดเดา
ศศินัดดาพูดขึ้นมาทันที “ความหมายคุณคือรพี พงษ์คือคนของตระกูลลัดดาวัลย์แห่งเกียวโต?”
กาพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก แล้วหันไปดูข้าง หลัง เหมือนกับกลัวรพีพงษ์ได้ยินอย่างไรอย่างนั้น
“คุณอย่ามาล้อฉันเล่น คุณคิดว่าคุณแค่นี้แล้วจะ ต้องเป็นคนของตระกูลลัดดาวัลย์หรอ ยิ่งไปกว่านั้น รพีพงษ์ยังเป็นสวะที่ขึ้นชื่อของเมืองริเวอร์ของเรา นะ ตระกูลลัดดาวัลย์เกียวโตจะมีสวะได้อย่างไร กัน คุณอย่ามาคิดมั่วๆแถวนี้ ถ้ารพีพงษ์เป็นคนของ ตระกูลลัดดาวัลย์เกียวโต เกรงว่าจะไม่อยู่ที่เมือง เล็กๆแบบเมืองริเวอร์ไปนานแล้ว” ศศินัดดากล่าว
ศักดาได้ยินก็รู้สึกว่ามีเหตุผลอยู่บ้าง ถึงแม้เขาจะ สงสัยว่ารพีพงษ์คือคนของตระกูลลัดดาวัลย์เกียวโต แต่เขาก็ไม่เข้าใจ คนตระกูลลัดดาวัลย์ของเกียวโต ไม่มีอะไรทำไมถึงได้เป็นสวะขึ้นชื่อของเมืองริเวอร์ ไปได้
“ก็ถูก อีกไม่กี่วันคนของตระกูลลัดดาวัลย์ก็จะมา แล้ว ถึงเวลานั้นก็จะรู้แล้วว่ารพีพงษ์เป็นคนของ ตระกูลลัดดาวัลย์หรือไม่” ศักดากล่าว
“คุณอย่ามาล้อเล่นตรงนี้ ครั้งนี้ที่คนของตระกูลลัด ดาวัลย์มานั้น สิทธิ์ในการเข้าร่วมยังไม่มีเลย ถ้าเขา เป็นคนของตระกูลลัดดาวัลย์จริงๆล่ะกัน คุณคิดว่าเขาจะไม่ใช้โอกาสนี้เปิดเผยตัวตนหรอ?” ศศิ
นัคคากล่าว
ศักดาคิดๆแล้วก็ใช่ ถ้ารพีพงษ์เป็นคนของตระกูล ลัดดาวัลย์ของเกียวโตจริงๆล่ะก็ ก็คงไม่ต้องใช้ชีวิต ที่แย่แบบนี้
“ฉันว่านี่คุณกำลังหาข้ออ้างให้กับการเป็นสวะของ ตัวเองอยู่นะ รพีพงษ์กับคุณก็เป็นสวะเหมือนกัน จะ บอกให้รู้ไว้นะ สวะมันก็คือสวะ ชาตินี้ก็เปลี่ยนไม่ ได้
ศศินัดดาชักตาไปที่ศักหา แล้วเก็บเครื่องประดับ เหล่านั้นไว้ เดินขึ้นชั้นบน
ศักดาถอนหายใจอย่างเสียอารมณ์ แล้วก็เดินตาม ขึ้นไปพร้อมกัน
ในช่วงกี่วันต่อจากนี้ไป คนของตระกูลฉัตรมงคล ทั้งหมดได้เตรียมพร้อมเพื่อการมาของคนตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต
ธายุกรตกแต่งวิลล่าของตระกูลฉัตรมงคลอย่าง อลังการ เพื่อคนของตระกูลลัดดาวัลย์จะได้มีภาพความทรงจําที่ดี
ช่วงหลายวันนี้ซรินทร์ทิพย์ก็อยู่ที่วิลล่าตระกูล ฉัตรมงคลตลอด กำหนดให้คนเหล่านั้นมาตกแต่ง วิลล่าตระกูลฉัตรมงคลอย่างที่ตนเองชอบ
ช่วงหลายวันนี้ชรินทร์ทิพย์อยู่ในจระกูลฉัตรมงคล นี้ยิ่งอยู่ยิ่งยโสโอหัง ทุกคนก็คิดว่าการที่ตระกูลลัด ดาวัลย์มาในครั้งนี้เพื่อการสู่ขอทั้งนั้น ดังนั้นจึงไม่มี ใครกล้ายั่วโมโหเธอ ทุกคนล้วนบริการเธอราวกับ เป็นเจ้าหญิงไปแล้ว
ถ้าชรินทร์ทิพย์แต่งเข้าตระกูลลัดดาวัลย์จริงๆนั้น ก็เท่ากับยกระดับสูงขึ้นไปอีกขั้นแล้ว ตอนนี้พวกเขา ต้องสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับชรินทร์ทิพย์เอาไว้ อนาคตยังสามารถพึ่งพาบารมีได้บ้าง
เรื่องที่ครอบครัวอารียาเปลี่ยนรถเป็นปอร์เช่ แล้ว ก็ได้ซื้อเครื่องประดับมากมายจากร้านเครื่องประดับ แสงดาวนั้น พรภากีได้บอกกับชรินทร์ทิพย์แล้ว
หลังจากที่ชรินทร์ทิพย์ได้ฟังแล้วนั้น ได้ให้บัตร หนึ่งใบกับพรภาทันที และให้เธอไปร้านเครื่องประดับแสงดาวเลือกซื้อได้ตามใจ
ในบัตรนั้นเป็นเงินที่เหลือจากการที่ชรินทร์ทิพย์ ขายวัตถุโบราณไป ความจริงพวกเราเหลือไว้เพื่อ ชื้อวิลล่า
แต่เมื่อคิดถึงตระกูลลัดดาวัลย์จะมาสู่ขอ ต้องมี การให้ของอีกเป็นแน่ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่รู้สึกเสียใจ กับการใช้จ่ายเงินส่วนนี้แล้ว
หนึ่งวันก่อนหน้าที่ตระกูลลัดดาวลัย์จะมาถึง ชริน ทร์ทิพย์ได้ใช้เงินที่ขายวัตถุโบราณไปสองอย่าง เกือบหมดแล้ว
กำหนดวันที่คนตระกูลลัดดาวัลย์จะมานั้นก็มาถึง ในวิลล่าตระกูลฉัตรมงคลเริ่มวุ่นวายกันตั้งแต่เช้าตรู่
อารียาก็ตื่นแต่เช้า นกที ตั้งกฎให้ ทุกคนใน ตระกูลฉัตรมงคลต้องมาพร้อมเพรียงกันในงาน แน่นอน ว่านอกจากรพีพงษ์
“รพีพงษ์ ไม่งั้นคุณก็ไปด้วยกันเถอะ ถึงแม้คุณปู่ พูดว่าคุณไปแล้วจะดูไม่ดี แต่ฉันรู้สึกว่าไม่มีอะไรอารียากล่าว
รพีพงษ์หัวเราะแล้วหัวเราะอีก แล้วกล่าว “เดี๋ยวผม ขับรถไปส่งพวกคุณ ผมรออยู่ข้างนอก ไม่เข้าไปล่ะ กัน”
“ความจริงก็ไม่มีอะไรจริงๆนะ คุณก็อย่าใส่ใจมาก อารียาปลอบ
“ไม่เป็นไร วันนี้ที่นั่นจะเกิดอะไรขึ้น ผมรู้หมดแล้ว ดังนั้นไปหรือไม่ไปก็ไม่ต่าง” รพีพงษ์กล่าว
อารียาชะงัก ไม่เข้าใจความหมายของรพีพงษ์ รพีพงษ์ก็ไม่ได้อธิบาย ถือกุญแจรถแล้วเดินลงไป
ศศินัดดาได้ยินว่ารพีพงษ์จะขับรถไปส่งพวกเขา ก็ ปฏิเสธขึ้นมาทันที ให้ศักดาขับรถไปก็โอเคแล้ว
รพีพงษ์บอกว่ารถปอร์เช่คันนี้ไม่ค่อยเหมือนรถคัน อ้น ศักดาขับไม่ได้
ศศินัดดารู้สึกว่ารพีพงษ์จะฉวยโอกาสนี้เข้าไปมั่วในวิลล่าตระกูลฉัตรมงคล จะเป็นจะตายยังไงก็ไม่ ให้ไป
สุดท้าย ก าลองแล้วลองอีก ก็พบว่าตนเองขับรถ ปอร์เช่คันนี้ไม่ได้จริงๆ ศศินัดดาเสียอารมณ์ ทำได้ เพียงให้รฟ์พงษ์ขับรถไปส่งพวกเขาเท่านั้น
รพีพงษ์นำรถไปจอดไว้ที่ข้างถนนนั้นแถวๆวิลล่า ตระกูลฉัตรมงคล หลังจากที่ศศินัดดาลงจากรถแล้ว ก็ชักตาอย่างร้ายกาจไปที่รพีพงษ์ แล้วกล่าว “แกรอ ฉันนิ่งๆอยู่ตรงนี้ ถ้าแกกล้าแอบเข้าไปข้างใน ฉันจะ ถลกหนังแกออกซะ!”
รพีพงษ์หัวเราะแล้วหัวเราะอีก แล้วกล่าว “วางใจได้ ผมไม่มีความสนใจในเหตุการณ์ของวันนี้”
ทั้งสามคนเดินไปที่วิลล่าพร้อมกัน มองเห็นข้างทาง วางเต็มไปด้วยดอกไม้ ดูๆแล้วเพื่อต้อนรับตระกูลลัด ดาวัลย์โดยเฉพาะ ใช้ความคิดไปไม่น้อยเลยจริงๆ
รพีพงษ์กำลังดูวิลล่าที่ตกแต่งไปด้วยดอกไม้สด หอม ในใจคิดเดี่ยวถ้าโยษิตามาถึงแล้ว แล้วพูดถึง วัตถุประสงค์ของตนเอง ไม่รู้ว่าคนตระกูลฉัตรมงคลพวกนี้จะมีท่าทีอย่างไร
ในตอนที่รพีพงษ์รออยู่ข้างถนนนั้น โยษิตาส่ง ข้อความหาเขาหนึ่งฉบับ
แค่ให้ฉันเอาของที่มอบให้กับตระกูลฉัตรมงคล ” กลับมาใช่ไหม? ไม่มีเลือกอื่นต้องทำแล้วใช่ไหม?
“ไม่มีแล้ว” รพีพงษ์ตอบกลับหนึ่งฉบับ
“งั้นฉันก็ดูเหตุการณ์แล้วจัดการล่ะกัน” โยษิตา ตอบกลับ
รพีพงษ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ดูแล้วถ้าโยษิตาไม่ หาเรื่องล่ะก็ เกรงว่าไม่น่าจะจบง่ายๆแน่ๆ
เขาไม่ตอบกลับข้อความของโยษิตาอีก แล้วปรับที่ นั่งให้เรียบ พักผ่อนสักพัก
ในวิลล่าของตระกูลฉัตรมงคล ทุกคนล้วนสวมใส่ เสื้อผ้าที่สวยสะอาด ราวกับวันตรุษจีนอย่างไรอย่าง
ยิ่งกว่านั้นทิพย์ได้ซื้อชุดราตรีที่แพงให้กับ ตนเอง เธอคิดว่าวันนี้เป็นครั้งแรกที่จะได้เจอกับ ครอบครัวฝ่ายชาย ต้องยิ่งใหญ่ไว้ก่อน
อารียาทั้งสามคนเดินเข้าวิลล่ามา ทุกคนก็หันหน้า ไปมอง แล้วหัวเราะขึ้นมา
ทุกคนรู้ว่ากับอารียาขัดแย้งกัน วันนี้ ทุกคนต้องเอาใจชรินทร์ทิพย์ แน่นอนว่าต้องแสดง พฤติกรรมไม่ดีต่ออารียา
ชรินทร์ทิพย์เห็นอารียามาถึง ก็เดินเข้าไป กล่าว ด้วยอารมณ์แปรปรวนว่า อารียา วันนี้เป็นวันสำคัญ ที่ตระกูลลัดดาวัลย์ส่งคนมา แกใส่ชุดแบบนี้มา? ถ้า แกไม่มีเงินซื้อเสื้อผ้าก็บอกฉัน ตอนนี้ฉันมีเงิน
อารียา นปากแล้วปากอีก แล้วกล่าว “กลัวว่า เค้าจะไม่ได้มาสู่ขออะดิ ถึงตอนนั้นถ้ามาเพื่อทวง คืนวัตถุโบราณจากแก แกให้เขาไม่ได้ ดูว่าแกจะยัง สะใจแบบนี้อยู่ไหม
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ