บทที่ 452 พวกแกกล้าที่จะเอาไหมล่ะ
บทที่ 452 พวกแกกล้าที่จะเอาไหมล่ะ
รพีพงษ์จ้องตาโตทันที มองนนทภูอย่างไม่กล้าที่จะเชื่อเล็ก น้อย คําพูด ของเขาทําให้รพีพงษ์ถึงกับสั่นสะท้าน
“พ่อหมายความว่า พวกเราก็เป็นคนในตระกูลนิธิวรสกุล?” รพี
พงษ์เอ่ยปากถาม
“ถ้าหากย้อนกลับไป ก็เป็นเช่นนี้จริง ๆ แต่ว่าตอนนี้ไม่ใช่แล้ว พวกเราเปลี่ยนเป็นนามสกุลลัดดาวัลย์แล้ว งั้นพวกเราก็เป็น คนตระกูลลัดดาวัลย์ ไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับตระกูลนิธิว รสกุล” นนทภูเอ่ย
“คุณพ่อ นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?” รพีพงษ์อยากที่จะรู้คําตอบ อย่างเร่งด่วน
“คุณปู่ของลูกในปีนั้นอยู่ที่ตระกูลนิธิวรสกุลนั้นเป็นประเภทที่ แปลกแยกไปจากแแบบแผนของสังคม ด้วยเหตุนี้จึงถูกพี่น้อง ทั้งหลายของเขาบีบคั้น บวกกับปีนั้นก็ไม่ได้รับโปรดปรานจาก คุณทวด สถานการณ์ของเขาตอนที่อยู่ในตระกูลนิติวรสกุล นั้นสิ้นหวังเป็นอย่างมาก”
“หลังจากที่คุณทวดทั้งสองตายไป พี่ชายคนโตของคุณปู่ลูก ก็ได้เป็นเจ้าของบ้านตระกูลนิธิวรสกุล เขามองว่าคุณปู่ของลูก นั้นเป็นคนที่ขัดหูขัดตาที่สุด ดังนั้นจึงร่วมมือกันกับพี่น้องคน อื่น ไล่คุณปู่ของลูกออกจากตระกูลนิธิวรสกุลโดยตรง”
“คุณปู่ของลูกก็จำใจ ก็เลยต้องกลับมาพัฒนาภายในประเทศ เดิมที่นี่เป็นเรื่องที่ในสายตาคนตระกูลนิธิวรสกุลนั้นเห็นเป็น เรื่องตลก พวกเขาดูถูกคุณปู่ของลูกมาโดยตลอด แต่ว่าหลัง จากนั้นคุณปู่ของลูกก็พัฒนาได้ไม่เลว แถมยังทำให้ตระกู ลนิธิวรสกุลนั้นเกิดปัญหาบางอย่าง ในบางเรื่อง ด้วยเหตุนี้พี่ ชายคนโตของคุณปู่เลยโกรธแค้นอยู่ในใจ ก็เลยวางแผนที่จะ ทำร้ายคุณปู่ของลูก”
“ดังนั้นพวกเราก็ไม่ไใช่คนตระกูลนิธิวรสกุลตั้งนานแล้ว พวก เราสกุลลัดดาวัลย์ และตระกูลนิธิวรสกุล ก็คือศัตรูตัวฉกาจ ของพวกเราตระกูลลัดดาวัลย์ เป้าหมายที่พ่อมาที่กิสนานั้น ก็ เพื่อที่จะทำลายตระกูลนิธิวรสกุลให้พังพินาศย่อยยับไป เพียง แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้พ่อยังไม่สามารถออกจากกิสนาได้ ดีที่ พ่อนั้นยังมีลูกอยู่ ลูกไม่ได้ทำให้พ่อผิดหวัง ขณะนี้กำลังของกิ สนานั้นเติบโตในระดับเดียวกันกับตระกูลนิธิวรสกุลเรียบร้อย แล้ว หลายปีมานี้พ่อได้จัดการทำสิ่งต่าง ๆ ภายนอกอย่างเงียบ ไว้เรียบร้อย ถึงแม้ว่าตระกูลนิธิวสกุลนั้นอาจจะลงมือกับ พวกเราอย่างรวดเร็ว แต่ว่าลูกก็ไม่จำเป็นต้องกังวล พ่อจัดการ ทั้งหมดไว้แล้ว พวกเราไม่กลัวพวกเขาแม้แต่น้อย”
ตอนที่นนทภูพูดนั้น บนใบหน้าก็ยังปรากฏความโกรธแค้นนิด หน่อย เกี่ยวกับที่ตัวเองเก็บสะสมมาหลายปี และก็รู้สึกภูมิใจ เป็นอย่างมาก
เขาได้วางแผนไว้ตั้งนานแล้ว รพีพงษ์จะต้องมาหาเขาแน่ถึงตอนนั้นเขาก็จะให้รพีพงษ์เป็นตัวแทนของกิสนาที่อยู่ ภายนอก นนทภูไม่สามารถออกไปได้ แต่ว่าผู้มีฝีมือในกิสนา สามารถออกไปได้นิ ทรัพยากรจำนสวนมากของกิสนาก็ สามารถเอาหยิบออกไปได้ เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
หลังจากที่รพีพงษ์เข้าใจสถานการณ์ของกิสนา รับรู้ศักยภาพ ของกิสนา ไม่จำเป็นที่จะต้องกลัวงศ์ตระกูลระดับสูงใดๆใน โลกอย่างแท้จริง
“คุณพ่อ ผมจะช่วยแก้แค้นเอง ความแค้นของคุณปู่ ผมก็จะ รับหน้าที่ไปแก้แค้นเอง วันข้างหน้าจะต้องทําลายตระกูลนิธิว รสกุลให้พังพินาศ นี่ก็คือหน้าที่ของผม เพียงแต่ว่าตอนนี้ที่ผม ต้องเผชิญหน้า ก็คือการประลองปีนบันไดสูง ทั้งหมดนั่นจะ ต้องรอการประลองนั้นผ่านไปเสียก่อน ถึงจะสามารถทำต่อ ได้” รพีพงษ์บอก
นนทภูตะลึงไป เอ่ยปากบอก: “ที่กิสนา พ่อตั้งใจว่ามากกว่า อะไรทั้งหมด ไม่มีใครกล้าขัดคําสั่งพ่อ พ่อสามารถช่วยลูก ยกเลิกการประลองครั้งนี้ได้
รพีพงษ์หัวเราะขึ้นมา เอ่ยปากบอก: “ไม่ต้อง ก็แค่การ ประลองเท่านั้น ถ้าหากว่าในปีนั้นพ่อสามารถทำได้ล่ะก็ ผมที่ เป็นลูกชาย ไม่มีทางที่จะยอมแพ้ คุณพ่อวางใจได้ ผมจะไม่ ทําให้พ่อผิดหวัง”
ได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ นนทภูก็ตกตะลึงไป ก็ปรากฏอาการ ปลื้มอกปลื้มใจออกมาทันที ยกมือขึ้นมาตบไปที่บ่าของรพี พงษ์ บอก “ไม่เสียแรงที่เป็นลูกชายของนนทภู ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นก็จะให้ลูกได้ลองดู นี่ก็นับเป็นการให้ ประสบการณ์แก่ลูก”
หลังจากนั้นเขาก็จ้องมองรพีพงษ์หนึ่งที เอ่ยปากถาม: “การ ปีนบันไดครั้งนี้คุณชายคนนั้นของตระกูลวัชรากิจกุลเป็นคน จัดการ เกิดอะไรขึ้นระหว่างลูกกับเขา?”
รพีพงษ์ก็ไม่ได้ปิดบัง เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากที่ตัวเองเข้า มาที่นี่ให้นนทภูฟัง
หลังจากที่นนทภูฟังจบ หรี่ตาลง พริบตาเดียวก็มีกลิ่นอาย โหดร้ายทารุณระเบิดขึ้นมาบนตัวขนเขา ทำให้รพีพงษ์ถึงกับ ตกใจ
“คนของตระกูลวัชรากิจกุลแต่ไหนแต่ไรมานั้นไม่รู้จักชั่วดี พ่อรู้สึกขัดหูขัดตาเรียบร้อยแล้ว ในเมื่อคุณชายตระกูลพวก เขากล้าที่จะสร้างความลำบากให้ลูกชายพ่อ งั้นพ่อก็จะใช้ โอกาสนี้ ให้พวกเขาได้รู้ว่า ลูกชายของเทพสังหาร พวกเขา ไม่มีสิทธิมายุแหย่!”น้ำเสียงของนนทภูนั้นแฝงไปด้วยความน่า เกรงขามที่ทําให้คนยากที่จะต่อต้าน รพีพงษ์ได้ฟังก็ใจสั่น
ดูเหมือนว่าไม่กี่ปีมานี้นนทภูนั้นเป็นคนที่ยืนอยู่จุดสูงสุด ของโลกในรุ่นนั้นแล้วจริงๆ อย่างไรก็ตามตระกูลวัชรากิจกุล นั้นก็เป็นตระกูลชั้นหนึ่งของโลก แต่ในสายตาของนนทภูนั้น ราวกับว่าตระกูลนี้ไม่มีสิทธิที่จะมาวิพากษ์วิจารณ์กิสน่าอย่าง สิ้นเชิง
ดูท่าตระกูลวัชรากิจกุล คงจะโชคร้ายเพราะธนเทพแล้ว
ทั้งสองต่างก็พูดคุยกันถึงเรื่องราวที่ผ่านมาในไม่กี่ปีมานี้ หลัง จากที่นนทภูได้ฟังรพีพงษ์เล่าเรื่องราวของวีธราสองพี่น้อง บน ในหน้าก็ปรากฏอาการปลงตกเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงที่ เขาแต่งด้วยคนนี้ จะใจดำอำมหิตเช่นนี้
จากนั้นนนทภูก็ให้รพีพงษ์กลับไปเตรียมตัวสำหรับการ ประลองปืนยันได้สูงในอีกสองวันนี้ดี ๆ หลังจากที่ผ่านการ ประลองครั้งนี้ไป นนทภูก็จะให้รพีพงษ์นำคนออกไป และใน ตอนนั้น ก็จะเป็นการที่พวกเขาเริ่มต้นตอบโต้ตระกูลนิธิวรสกุล อย่างเป็นทางการ
รพีพงษ์เดินออกจากคฤหาสน์หลังนั้น เดินมาถึงด้านนอก ใน มือก็ถือป้ายคำสั่งที่นนทภูมอบให้เขา
ป้ายคำสั่งนี่ชื่อว่าป้ายบัญชาการเทพสงคราม เป็นป้ายที่ เป็นสัญลักษณ์ของหัวหน้ากิสนาโดยตรง ถือป้ายคำสั่งนี้ไว้ ก็ เหมือนว่าหัวหน้าของกิสนามาด้วยตัวเอง สามารถโยกย้าย ทรัพยากรส่วนใหญ่ของกิสนาได้
และไม่ว่าจะอยู่ในกิสนาหรือภายนอก คนของกิสนาทั้งหมด ล้วนให้ความเคารพป้ายคำสั่งนี้
ชายวัยกลางคนที่ก่อนหน้านี้พารพีพงษ์มาที่นี่ไม่รู้ว่าหายไป ไหนแล้ว รพีพงษ์เดินไปตามริมเกาะ มีคนสองคนรออยู่ที่ข้าง เรือยอร์ช รับผิดชอบรับส่งผู้คนที่เดินทางไปมายังเกาะแห่งนี้
รพีพงษ์เดินไปที่ข้างหน้าสองคนนั้น พูดกับสองคนนั้นว่า: “ไป ส่งฉันหน่อย”
สองคนนั้นพิจารณารพีพงษ์ขึ้นลงอย่างละเอียด หนึ่งในนั้น หัวเราะก่อนจะพูดว่า: “นายก็คือรพีพงษ์ใช่ไหม? ที่กำลังจะเข้า ร่วมการประลองปีนบันไดสูงคนนั้น? นายนี่ก็โชคร้ายเหลือเกิน นะ คาดไม่ถึงว่าจะไปล่วงเกินคุณชายตระกูลวัชรากิจกุลเข้า นี่เป็นการเอาชีวิตน้อยๆของตัวเองเพิ่มเข้าไปแล้ว”
“เหอะ ๆ นายเข้าไปเมื่อกี้นี้ น่าจะเป็นหัวหน้าของพวกเรารู้สึก สนใจนายที่เพิ่งจะเข้ากิสนาได้ไม่นาน ก็อยากที่จะปีนบันได สูง คนประเภทแบบนายนี่มันช่างเป็นผู้มีความสามารถที่ชอบ รนหาที่ตาย คาดว่าหัวหน้าของพวกเราก็คงจะไม่ได้พูดกับ นานดีๆ นะ?”ผู้ชายอีกคนที่บนหน้ามีแต่ความเย้ยหยันพูด ออกมา
พวกเขาไม่ได้กังวลว่าตำแหน่งของรพีพงษ์นั้นจะอยู่สูงกว่า พวกเขา อย่างไรเสียสองวันหลังจากนี้ รพีพงษ์ก็จะต้องออกไป ตายแล้ว
พวกเขาทั้งสองคนอยู่ที่นี้ก็แค่รับผิดชอบขับเรือยอร์ชเท่านั้น ไม่ใช่พนักงานที่มีความสำคัญอะไร ก็แค่คนที่โชคดีได้ออกมา จากคุกให้ดิน ดังนั้นจึงไม่มีคุณลักษณะที่สูงนัก
รพีพงษ์ที่ได้ฟังค่สองคนนั้น ก็มองพวกเขาอย่างเย็นชาเอ่ยปากบอก: “ผมบอกให้ส่งผมกลับไป คำพูดไร้สาระของ พวกคุณน่ะพูดจบแล้วหรือยัง?”
“ไอหยา แม่มึงเก่งมากจังเลยนะ ทำไมล่ะ วันนี้พวกเราไม่ส่ง นายไปจะทำอย่างไร? คิดจะให้พวกเราไปส่ง ท่าทางแบบนี้? ว่ายน้ำไปเองไป!”มีหนึ่งคนตะโกนใส่รพีพงษ์ทันทีอย่างเหิมเก ริม
ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ก็มักจะมีคนที่คิดว่าตัวเองอยู่สูงกว่าคนอื่น อยู่เสมอ
รพึงพงษ์ไม่คิดที่จะพูดไร้สาระกับพวกเขา ใช้ฝ่ามือโบกไป บนหน้าของคนที่พูดเมื่อกี้นี้โดยตรง พูดเสียงเย็นว่า: “ไปขับ เรือยอร์ชตอนนี้ ผมก็สามารถไม่เอาเรื่องกับพวกคุณได้ ไม่ อย่างนั้นพวกคุณรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ที่ตามมาไม่ได้หรอก”
คนนั้นเกิดโทสะขึ้นทันที แต่ว่าเมื่อพิจารณาถึงฝีมือของรพี พงษ์ เขาก็ไม่กล้าที่จะลงมือตรง ๆ แต่กลับมุ่งดารพีพงษ์อย่าง โหดเหี้ยมแทน: เย็ดแม่ มึงกล้าลงมือกับกุ! มึงคิดว่ามึงเป็น ใคร มึงก็แค่คนโชคร้ายที่จะมีชีวิตอยู่ไม่ถึงสองวันเท่านั้น วัน นี้กูไม่ขับให้มึง มึงจะทำอย่างไรได้? หรือมึงคิดว่าเป็นไปได้ที่ หัวหน้าของพวกกุจะมาช่วยคนที่จะตายไปอย่างมึง?
อีกคนที่เห็นแบบนี้ ยื่นมือไปขวางคนที่จะถูกตีคนนั้น เอ่ยปาก บอก: “อย่าคิดว่านายมีศักยภาพที่แข็งแกร่งแล้วจะสามารถทํา เรื่องไม่มีเหตุผลกับพวกเราที่นี่ได้ จะบอกให้นะพวกเราเป็นเจ้าหน้าที่พนักงานของกิสนา เกิดเรื่องขึ้นมา หัวหน้าจะต้องช่วยพูดให้พวกเราอย่างแน่นอน เมื่อกี้นี้นาย ลงมือตีเขา เรื่องนี้ไม่สามารถช่างมันไปได้ ถึงอย่างไรนายก็ จะเข้าร่วมการประลองปีนบันไดสูงอยู่แล้ว สถิติส่วนใหญ่ไม่มี ชีวิตรอด ไม่งั้นตอนนี้นานเอาของมีค่าทั้งหมดเอามาให้พวก เรา พวดเราสามารถไม่เอาเรื่องนายได้”
รพีพงษ์ยิ้ม หยิบเอาป้ายบัญชาการเทพสงครามในมือตัวเอง ออกมา ไกวไปมาตรงหน้าทั้งสองคน เอ่ยปากบอก: “ของที่มี ค่าที่สุดก็คืออันนี้ พวกนายกล้าที่จะเอาไหมล่ะ?”
พริบตาที่สองคนนั้นเห็นป้ายบัญชาการเทพสงคราม รูม่านตา ก็หด จากทันใดนั้นบนใบหน้าก็ปรากฏความหวาดกลัวที่ยาก จะระงับได้ขึ้นมา
พวกเขาไม่ลังเลแม้แต่น้อย คุกเข่าลงตรงหน้าของรพีพงษ์ ทันที ตบฟาดหน้าตัวเองอย่างโหดเหี้ยมไร้ความปรานี
“เห็นป้ายบัญชาเทพสงครามเหมือนเห็นหัวหน้า พวกเราผิด ไปแล้ว พวกเราสมควรตาย ขอนายท่านยกโทษให้พวกเรา ด้วย!”
รพีพงษ์จ้องมองป้ายคำสั่งนั้นที่อยู่ในมือของตัวเอง คิดไม่ ถึงว่ามันจะสามารถทำให้ทั้งสองคนคุกเข่าได้ภายในพริบตา ดูท่าแล้วนี่เป็นของดีชิ้นหนึ่งเลยจริง ๆ
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ