แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

บทที่ 448 ทำให้เขาไปรับบทเรียน



บทที่ 448 ทำให้เขาไปรับบทเรียน

บทที่ 448 ทําให้เขาไปรับบทเรียน

ห้องรับรอง

หลังจากที่ธาตรีและธายุกรออกไปจากห้องแล้ว ผู้อำนวย การหันหน้าไปมองจารุณีด้วยสีหน้ารู้สึกผิดและก้มศีรษะ ลงแล้วพูดว่า: “คุณหนู เรื่องนี้เป็นความผิดพลาดของผมเอง และผมก็มีความรับผิดชอบด้วยเช่นกัน หากคุณหนูต้องการ ลงโทษผม ผมจะไม่มีข้อเรียกร้องใด ๆ แน่นอน”

จารุณีจ้องไปที่ผู้อำนวยการและกล่าวว่า: “หลังจากนี้เวลาจะ มองหาซัพพลายเออร์มีของหวานให้ฉันก็พอแล้ว ความร่วม มือครั้งนี้มอบให้เธอแล้วกัน คุณก็ดูแลส่วนที่เหลือ ฉันต้องหา ที่พักเงียบ ๆหลังจากนี้

ด้วยเหตุนี้ เธอจึงมองไปที่ดวงตาของ อารียาด้วยความหมาย ที่ซับซ้อนในดวงตาของเธอ

“ได้ครับคุณหนู ผมจะจัดการตามที่คุณหนูต้องการครับ” ผู้ จํานวยการรีบตอบ

จารุณีไม่ได้พูดอะไรและเธอก็ไม่ได้ทักทายอารียาหันหลัง เดินออกจากห้องรับรอง เธอกลัวว่าอีกเดี๋ยวจะควบคุมอารมณ์ ของตัวเองไม่อยู่ อย่างไรก็ตามเธอคนนี้ อารียาก็เป็นศัตรู หัวใจของเธอ แล้วจะให้เธอทำตัวใจเย็นต่อหน้าศัตรูหัวใจของ ตัวเองได้ยังไง
เดิมทีอารียาอยากจะทักทายกับจารุณีทั้งสองคนก็คล้ายกับ คนรู้จักกัน จารุณียังช่วยเธอแก้ปัญหาที่เพิ่งเกิดขึ้น เธอรู้สึกว่า ตัวเองต้องขอบคุณจารุณีสักหน่อย

แต่เธอยังไม่ทันได้เปิดปากพูด จารุณีก็มองเธอด้วยสายตาที่ แฝงความหมายบางอย่างเอาไว้ แล้วหันกลับมาและเดินออก จากที่นี่ไป

ไม่รู้ว่าทำไม เธอสัมผัสถึงความอ้างว้างจากสายตาและแผ่น หลังของจารุณี

เธอประสบกับเรื่องที่สิ้นหวังอะไรมา? สายตาที่มองฉันเมื่อกี้ดู เหมือนกำลังมองไปที่ศัตรู แต่ก็ไม่ได้ก้าวร้าวจนเกินไป

จำได้ว่าตอนที่ฉันเจอเธอครั้งสุดท้าย เธอยังเป็นเด็กสาวที่ ร่าเริง แล้วทําไมเจอเธอครั้งนี้ถึงได้เปลี่ยนเป็นคนที่เศร้าหมอง ถึงขนาดนี้กันนะ?

ความสงสัยบางอย่างเพิ่มขึ้นในใจของอารียาแต่ไม่มีใครมา ให้คําตอบกับเธอได้ เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหยุดคิดถึง เรื่องเหล่านี้และพูดคุยเกี่ยวกับความร่วมมือกับผู้อำนวยการ

ตอนบ่าย
ท่ามกลางโรงน้ำชาในเมืองริเวอร์

ธายุกรกำลังชงชาในลักษณะที่เหมาะสม แต่อย่างไรก็ตาม เขามีความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมการชงชาเพียงเล็กน้อย เพื่อ แสร้งทำเป็นต่อหน้าผู้อื่นเท่านั้น ดังนั้นจึงมีข้อผิดพลาด มากมายในชงชาของเขาและท่าทางที่ดูไม่สง่างามเลยสักนิด

“คุณอาครับ คุณอาลองดื่มชานี้ดู นี่เป็นชาที่ดีที่สุดของพวก เขาที่นี่ ชาหม้อนี้ผมซื้อมาตั้งพันกว่าหยวนเลยนะ” ธายุกรมอง ศศินัดดาที่นั่งตรงหน้าของเขา ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม

ศศินัดดาจ้องมองไปที่ธายุกรตอนนี้เงินหนึ่งพันหยวนไม่ได้มี ค่าอะไรสําหรับเธอ เรื่องแค่นี้ธายุกรก็เอามาพูดโอ้อวดได้ ซึ่ง มันทำให้เธอรู้สึกดูถูกดูแคลนเขาจริง ๆ

“ชาหนึ่งพันหยวนแล้วยังไง ถึงฉันอยากดื่ม แต่ก็ไม่ได้ดื่มทุก วันอยู่ดี เธออย่าคิดว่าจะเอาของเล็กน้อยแบบนี้มาเอาใจฉัน เลย รีบพูดมาที่เธอมาหาฉันวันนี้ต้องการอะไร จะให้พูดจริง ๆ แล้ว ครอบครัวของฉันก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเธอเลย เธอก็ อย่ามาเรียกฉันว่าอา ฉันกับเธอไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรแบบ นั้นแล้ว” ศศินัดดาแบะปากพูด

ธายุกรรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้สนใจคำพูดศศิ นัดดาเขายืนและพูดว่า “คุณอาครับ ทําไมคุณอาพูดห่างเหิน กันขนาดนี้ล่ะครับ ไม่ว่ายังไงก็ตาม พวกเราต่างก็เป็นคนของ ตระกูลฉัตรมงคล ทำไมคุณอาถึงพูดว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับ ผมล่ะครับ”
“มีอะไรก็รีบๆพูดมา อย่ามาพูดเรื่องไร้สาระกับฉันที่นี่”ศศิ นัดดากล่าวอย่างไม่สบอารมณ์

“เนื่องจากคุณอาเป็นคนพูดตรง ๆ ถ้าอย่างนั้นผมก็จะพูดตาม ตรง ที่ผมมาหาอาครั้งนี้ ผมอยากให้อาช่วยผมเรื่องหนึ่ง” ธา ยุกรกล่าว

“เรื่องอะไร?” ศศินัดดาอยากจะปฏิเสธตามสัญชาตญาณ

“ช่วยทำให้บริษัทของตระกูลฉัตรมงคลล้มละลาย” รอยยิ้ม ชั่วร้ายปรากฏขึ้นที่มุมปากของธายุกร

ศศินัดดาก็ลุกขึ้นยืนและตะโกนด่าทอใส่ธายุกร: “ฉันคิดว่า เธอตื่นเช้ามาแล้วถูกประตูหนีบหัวแล้วใช่ไหม? บริษัทของ ตระกูลฉัตรมงคลเป็นของลูกสาวฉัน เธอคิดว่าฉันจะโง่เหมือน เธอเหรอ? แล้วอยากให้ฉันช่วยเธอทำให้บริษัทของตระกูล ฉัตรมงคลล้มละลาย?”

ธายุกรรีบโบกมืออย่างรวดเร็ว ในใจได้แค่คิดว่าแม่เสือตัวนี้ อารมณ์ฉุนเฉียวง่ายจริงๆ “คุณอาครับ คุณอา คุณอาอย่าเพิ่ง ตื่นเต้นไป คุณอานั่งลงฟังผมก่อน รอให้ผมอธิบายเสร็จ คุณ อาก็จะรู้เองว่าทำไมผมถึงอยากให้คุณอาช่วย”

ศศินัดดายังคงเต็มไปด้วยความโกรธ เธอรู้สึกว่าธายุกรมา ทีนี่ ก็เพื่อที่จะมาแค่แกล้งเธอ เธอไม่ได้วางกาน้ำชาลงบนโต๊ะ กาน้ำชาใบนั้นถ้าทุบใส่บนใบหน้าของธายุกรก็คงไม่เลว
“งั้นเธอก็อธิบายเหตุผลที่ดีที่สุดมา ถ้าหากเธอไม่มีเหตุผล ที่ดีพอ ฉันจะเอาน้ำชาการทุบใส่หน้าเธอ” ศศินัดดาพูดด้วย อารมณ์โกรธ

“คุณอาครับ ไม่ใช่ว่าคุณอาไม่ชอบรพีพงษ์เหรอครับ บริษัท ของตระกูลฉัตรมงคลเป็นของรพีพงษ์อารียาเพียงแค่ทำงาน ให้กับรพีพงษ์ก็เท่านั้น คุณอาควรอยากให้บริษัทของตระกูล ฉัตรมงคลล้มละลายสิครับถึงจะถูก” ธายุกรกล่าว

“เธอพูดจาอะไรเหลวไหล บริษัทของตระกูลฉัตรมงคลเป็น ของอารีอยู่แล้ว จะเป็นของรพีพงษ์ได้ยังไง อารีเป็นถึงผู้ บริหารของบริษัทของตระกูลฉัตรมงคล” ศศินัดดากล่าวพร้อม จ้องตาธายุกร

“คุณอาคงไม่รู้สินะครับ อารียาแค่มีตำแหน่งเป็นประธาน ก็เท่านั้น ตอนแรกรพีพงษ์เป็นคนซื้อบริษัทของตระกูล ฉัตรมงคลไปจากผม และเป็นไปได้ไหมที่ผมจะไม่รู้เรื่องนี้?” ธายุกรไม่ได้บอกว่ารพีพงษ์ซื้อบริษัทของตระกูลฉัตรมงคล ไปในราคาหนึ่งหยวน เรื่องนี้เป็นรอยด่างพร้อยในชีวิตของเขา ตลอดไป

“เธอว่าอะไรนะ! บริษัทของตระกูลฉัตรมงคลเป็นรพีพงษ์ที่ซื้อ ไปจากเธอ? มันควรจะเป็นของอารีไม่ใช่เหรอ?” ดวงตาของ ศศินัดดาเบิกกว้างทันที

เมื่อเขาเห็นปฏิกิริยาของศศินัดดาก็ยิ้มขึ้นมาทันที และรู้ว่า เรื่องนี้มีความหวังแล้ว เขาพูด: “คุณอาครับ คุณอาอย่าเสีย เวลาอยู่ที่นี่เลย รพีพงษ์จะให้บริษัทของตระกูลฉัตรมงคลกับอารียาได้ยังไงกัน เขาเพิ่งขอให้อารียาดำรงตำแหน่ง ประธานของบริษัทของตระกูลฉัตรมงคลให้เธอช่วยบริหาร บริษัท แล้วเขาก็ให้เงินเดือนแค่นั้นเอง”

“รพีพงษ์คนนี้ฉลาดจริงๆ ภายนอกก็ทําเป็นยก บริษัท ให้อารี ยาให้เธอบริหาร แต่จริงๆแล้วให้เงินเดือนเธอเพียงเล็กน้อย เท่านั้น ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของการหาแรงงานราคาถูก อารียา เชื่อในตัว รพีพงษ์มากเกินไป พวกคุณคงไม่คิดว่าเขามีความ สัมพันธ์กับตระกูลลัดดาวัลย์ แล้วเขาจะไร้เดียงสาขนาดนี้ได้ ยังไง”

พอได้ฟังธายุกรพูดแบบนี้ ศศินัดดาค่อยๆนั่งลงไป ด้วย ใบหน้าที่เหลือเชื่อ เธอถาม: “ที่เธอพูดเป็นความจริงเหรอ? อารี แค่ทํางานให้กับรพีพงษ์ที่ไร้ยางอายคนนั้นน่ะเหรอ?”

“ผมคงโกหกคุณอาไม่ได้หรอกครับ ถ้าคุณอาไม่เชื่อละ ก็ ตอนนี้สามารถเข้าอินเทอร์เน็ตเพื่อตรวจสอบผู้ถือหุ้นของ บริษัทของตระกูลฉัตรมงคลก็ได้นะครับ ผมไม่จำเป็นต้อง โกหกเรื่องพวกนี้กับคุณอา” ธายุกรกล่าวอย่างเคร่งขรึม

“ดังนั้นที่เธอมาหาฉัน ที่แท้ก็ต้องการที่จะจัดการกับ รพี พงษ์?” ศศินัดดาถาม

ธายุกรพยักหน้าและกล่าวว่า “เท่าที่ผมรู้ ตอนนี้คุณอาจะ รังเกียจรพีพงษ์เอามากๆ และเขาก็มีความสัมพันธ์กับตระกูล ลัดดาวัลย์ อีกทั้งยังรู้จักกับผู้คนมากมาย เป็นไปไม่ได้ที่คุณ อาจะจัดการกับเขา หรือว่าคุณอายังอยากให้อารียาทำงานรพี พงษ์กับต่อไป? บางทีวันหนึ่งเขาอาจจะทิ้ง อารียาไว้ แล้วหนีไปพร้อมกับเงินก็ได้ คุณอาอยากให้ผลลัพธ์เป็นแบบนี้เห รอครับ?”

ศศินัดดาเริ่มคิดถึงเรื่องนี้ทันทีและทันใดนั้นเองก็รู้สึกว่าคำ พูดของธายุกรก็สมเหตุสมผลเช่นกัน

รพีพงษ์เป็นคนของตระกูลลัดดาวัลย์ ตอนนี้อารียาก็โดนรพี พงษ์จูงจมูก สักวันหนึ่งที่รพีพงษ์ทิ้งอารียาแล้วเดินจากไป และอารยาก็ยังให้เงินรพีพงษ์ไปอย่างกับคนโง่

สําหรับลูกสาวของฉัน มันไม่ยุติธรรมเลย และไม่มีทางบอก เธอเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ หรือต้องพูดว่า อารียาต้องช่วยพูดให้รพี พงษ์แน่นอน

เมื่อเห็นศศินัดดากำลังลังเล ธายุกรก็พูดต่อ: “ผมไม่สามารถ พูดได้ว่าทําเพื่อพวกเรา ผมในตอนนี้เป็นประธานของ WH กรุ๊ป และบริษัทของตระกูลฉัตรมงคลเป็นคู่แข่งของผม ผมทำ แบบนี้ก็เพื่อตัวผมเอง แต่ถ้าว่ามันวิน-วินกันทั้งคู่ ใครจะปฏิเสธ ได้ลง? ผมพูดถูกไหมครับ?”

“เธอจะให้ฉันทำยังไง?” ศศินัดดากล่าวพร้อมมองไปที่ธายุกร

“ง่ายมากครับ ผมจะส่งเอกสารกับคุณอาภายหลัง คุณอา แค่ต้องคิดวิธีที่จะทําให้อารียาเซ็นเอกสารนี้ ผมก็จะสามารถ ทำให้บริษัทของตระกูลฉัตรมงคลประกาศล้มละลายได้ และ ค่าตอบแทน ผมจะให้คุณอา 30 ล้าน เมื่อถึงตอนนั้นคุณอาก็หาทางพาอารียาไปจากเมืองริเวอร์ ไปยัง สถานที่ที่รพีพงษ์หาไม่เจอ แบบนี้พวกเราก็สามารถกำจัดรพื พงษ์ และยังสามารถที่จะใช้ชีวิตที่สะดวกสบายได้” ธายุกรบ อกแผนการของเขา

“บัตรใบนี้มีเงินอยู่สิบล้าน ถ้าคุณอาตกลงที่จะร่วมมือกับผม ก็สามารถเอาบัตรใบนี้ไปได้เลย รอให้เรื่องนี้สำเร็จ ผมจะให้ เงินที่เหลืออีก 20 ล้าน กับคุณอา”

เมื่อพูดแบบนั้นธายุกรก็หยิบบัตรธนาคารออกมาวางไว้บน โต๊ะ

ศศินัดดาจ้องดูบัตรเป็นเวลานาน ตอนนี้เธอไม่ต้องการเงิน มากนัก แต่เธอต้องการให้อารียาออกมาจากรพีพงษ์ และสิ่งที่ ธายุกรพูดนั้นก็ถือเป็นวิธีที่ดี

ตอนนี้รพีพงษ์ไม่ได้อยู่ที่เมืองริเวอร์ ถ้าเธอทำตามที่ธายุกรบ อก แล้วรอรพีพงษ์กลับมา ก็คงจะหาไม่เจอว่าพวกเขาหายไป ไหน

หลังจากครุ่นคิดอยู่นานศศินัดดาถอนหายใจและกล่าวว่า

นำเอกสารที่เธอพูดถึงมาสิ”

ธายุกรยิ้มขึ้นมาทันที และนำเอกสารที่เตรียมไว้ส่งให้กับศศิ

นัดดา

ศศินัดดารับเอกสารมา และถือโอกาสหยิบบัตรธนาคารบนโต๊ะขึ้นมา ลุกยืนขึ้นและพูดว่า “ฉันจะหาทางให้อารีเซ็น เอกสารนี่ หวังว่าเธอจะทำให้บริษัทของตระกูลฉัตรมงคลล้ม ละลายจริงๆ ให้รพีพงษ์ได้ลิ้มรสเป็นบทเรียน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ