บทที่ 425 น้อยคนจะต้านทานได้
บทที่ 425 น้อยคนจะต้านทานได้
เตชัสแสดงสีหน้าเข้าใจรพีพงษ์และไม่ได้พูดอะไรอีก
เมื่อรพีพงษ์เห็นท่าทีของเตชัส เขารู้สึกเหมือนว่ามีอะไรผิด พลาดใหญ่หลวง
“เราเดินพลางคุยพลางเถอะ เพราะเมื่อกี้ฉันจะลงมือจัดการ นาย ฉันเลยเบี่ยงเบนความสนใจของพวกคนที่เดินลาดตระ เวนแถวๆ นี้ไปหมดแล้ว เดี๋ยวพวกมันก็กลับมา ถ้ามันเห็นว่าฉัน ยืนคุยกับนาย ฉันว่าเรื่องจบไม่สวยแน่” เตชัสเอ่ยขึ้น
รพีพงษ์พยักหน้า จากนั้นจึงเดินไปกับเตชัส
เตชัสพารพีพงษ์ไปในที่ที่จะไม่โดนพวกคนลาดตระเวนจับ ได้ ทั้งสองพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องที่ต่างคนต่างเจอมา รพีพงษ์ได้รู้ เรื่องที่เตชัสมาอยู่ที่กิสนาละเอียดขึ้น
ที่แท้การที่จะมาที่กิสนาได้นั้น สามารถทำได้สองวิธี หนึ่งใน นั้นคือวิธีที่รพีพงษ์ใช้เข้ามาที่นี่ แต่วิธีนี้เป็นวิธีขยายประชากร ชนชั้นล่างในกิสนา พวกที่ได้มาก็เป็นเพียงพวกเดนตายและ คนที่มีพื้นฐานทางสำคัญต่ำ
การมีอยู่ของคนพวกนี้ ก็เพื่อเวลาที่คนในกิสนาไม่มีอะไรดู ก็ ให้พวกคนเหล่านี้ขึ้นไปแข่งขันสร้างสีสันให้คนในกิสนา
บางคนก็โดนพาไปเป็นช่างซ่อมสิ่งพื้นฐานในกิสนา คนเหล่านี้
ไม่มีที่ยืนในกิสนาเลยด้วยซ้ำ
และวิธีที่สองที่จะเข้ามาที่นี่ก็คือ การที่คนในกิสนาส่งผู้ เชี่ยวชาญออกไปตามหาเหล่าคนที่มีพละกำลัง มีภูมิหลังดี เมื่อคนเหล่านั้นตกอยู่ในอันตราย พวกเขาจะช่วยคนเหล่านั้น ให้รอดพ้นจากอันตราย สิ่งที่คนพวกนั้นต้องตอบแทนก็คือต้อง เข้ามาอยู่ที่กิสนา และไร้ซึ่งอิสระ
ตอนนั้นเตชัสเจอศัตรูที่ภาคใต้ถึงสามคน เขาโดนคนมีฝีมือ ล้อมไว้กว่าสิบคน ตอนที่เตชัสกำลังจะยอมแพ้ คนที่กิสนา เข้ามาช่วยเขาให้รอดพ้นจากอันตราย
ถ้าไม่ใช่เพราะคนที่กิสนา ตอนนี้เตซัสคงตายอยู่ในวงล้อม ของคนพวกนั้นแล้ว
แต่ทว่าคนของกิสนาก็เคารพการยินยอมของคนที่ประสบ เหตุ ถ้าพวกเขาไม่อยากไร้ซึ่งอิสระ คนที่กิสนาก็จะไม่บังคับ อย่างมากพวกเขาก็ยืนมองคนพวกนั้นตกอยู่ในวิบากกรรม ด้วยความเย็นชา
คนส่วนใหญ่เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์คับขันมักจะยอมทำทุก
อย่าง
การไร้ซึ่งอิสระก็ยังดีกว่าการไร้ซึ่งชีวิตเป็นไหนๆ
เมื่อได้ฟังที่เตชัสพูด รพีพงษ์เริ่มมองที่นี่เปลี่ยนไป ก่อนหน้านี้เทพยวงศ์บอกเขาว่าคนที่กิสนาจะจับคนที่มีภูมิหลังและมี อำนาจเข้ามาในกิสนา แต่เมื่อได้ฟังจากที่เตชัสเล่า คนที่กิสนา ค่อนข้างจะเข้าหาเป้าหมายอย่างเป็นมิตร
อย่างน้อยพวกเขาก็ปรากฏตัวเมื่อเป้าหมายต้องการความ ช่วยเหลือ และพวกเขาก็ต้องได้รับผลตอบแทนสำหรับการ ช่วยเหลือ นั่นก็คือการแลกกับอิสระ
เตชัสเล่าว่าอันดับเทพเจ้าแห่งสงครามคืออันดับที่ผู้ เชี่ยวชาญด้านนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้คนในกิสนารู้ถึงพละกำลัง ของคนเหล่านี้ อีกอย่างคือให้คนในตระกูลชั้นสูงที่มาเที่ยวที่นี่ รู้ถึงราคาของพวกเขา และยอมจ่ายเพื่อที่จะได้ดูพวกเขาโชว์ ฝีมือ
ก่อนหน้านี้ปีนบันไดสูงที่จงจินตน์เคยพูดถึง ต้องประลองกับ คนมีฝีมือสิบคน และคนมีฝีมือเหล่านั้นคือคนที่อยู่ในอันดับ เทพสงคราม
รพีพงษ์สอบถามถึงสองบุคคลในประวัติศาสตร์ที่สามารถ พิชิต ปีนบันไดสูง ได้ เตชัสบอกว่าเขาก็ไม่รู้เหมือนกัน เขามา ที่กิสนาได้ไม่นาน จึงไม่รู้เรื่องที่นี่มากเท่าไร
คนที่ได้รับความช่วยเหลือจากคนที่กิสนาเหมือนเตชัส จะ ได้รับสิ่งตอบแทนมากมาย พวกเขาไม่มีข้อจำกัดส่วนบุคคล นอกจากต้องทําตามสิ่งที่หัวหน้าสั่งมา เมื่อคนเหล่านี้จำเป็น ต้องออกไปสู้ พวกเขาไม่สามารถปฏิเสธได้ ส่วนสวัสดิการ ด้านอื่นๆ พวกเขาได้รับไม่ต่างจากพวกคนรวย
แน่นอนว่าเมื่ออยากได้สวัสดิการเหล่านี้ ก็ต้องใช้เงินแลกมา และที่มาของเงินเหล่านี้คือรางวัลที่พวกเขาได้จากการต่อสู้ นั่นเอง
และมีอีกส่วนหนึ่งก็คือการรับเงินใต้โต๊ะ อย่างเช่นการที่เต สได้รับการมอบหมายจากธนเทพ และหัวหน้าที่กิสนาไม่ได้ ก้าวก่ายเรื่องนี้ด้วย เพราะเงินเหล่านั้นก็มาใช้จ่ายในกิสนาอยู่ แล้ว นี่ก็เท่ากับคนเหล่านั้นทำเงินให้กับกิสนา
รพีพงษ์ตกใจกับวิธีหาเงินของหัวหน้าที่กิสนา ขณะเดียวกัน เขาก็สงสัยว่าหัวหน้าที่นี่จะบริหารเงินเยอะแบบนี้ไปทําไม ทั้งๆ ที่ไม่เคยแข่งขันกับกลุ่มการเงินและไม่เคยเข้าร่วมการ พนันครั้งใหญ่ของพวกตระกูลใหญ่ๆ เลยด้วยซ้ำ
รพีพงษ์ยังไม่คลายความสงสัยกับคำถามนี้ แต่มันก็ไม่ใช่ เรื่องที่เขาควรคิด เป้าหมายที่เขามาที่นี่ก็คือตามหานนทภู ขอ แค่หานนทภูเจอ เขาจะรีบคิดวิธีพานนทภูออกจากที่นี่ทันที สําหรับเรื่องที่หัวหน้าของที่นี่คือใคร การที่เขาสร้างที่นี่ขึ้นเพื่อ อะไร มันไม่ได้เกี่ยวกับเขาเลยสักนิด
“คนในคุกใต้ดินจะมีโอกาสกลับมามีอิสระ แล้วเป็นแบบนาย ได้ไหม” รพีพงษ์มองเตชัสแล้วถามขึ้น
“มีสิ ทุกๆ ปลายเดือน คนในคุกใต้ดินสามารถขอทดสอบ เมื่อ ผ่านการทดสอบและได้รับชัยชนะจากการประลองกับอันดับ เทพเจ้าแห่งสงครามคนใดคนหนึ่ง ก็จะได้รับอิสระ” เตชัสพูด ขึ้น
รพีพงษ์พยักหน้า ตอนนี้เขาโดนขังอยู่ในคุกใต้ดิน จึงไม่มี โอกาสหาเบาะแสของนนทภู เพราะฉะนั้นเขาต้องได้รับอิสระ เสียก่อน ถึงจะมีโอกาสตามหานนทภู
“นายได้รับมอบหมายให้มาฆ่าฉัน ถ้านายทําไม่สําเร็จจะเป็น ยังไง” รพีพงษ์เอ่ยขึ้น
เตชัสหัวเราะแล้วพูดว่า “สิ่งที่ได้รับมอบหมาย ไม่อาจสําเร็จ ได้ทุกอย่าง อย่างมากทำไม่สำเร็จก็ไม่ได้เงิน กิสนายังคง ปกป้องคนที่อยู่ในอันดับเทพเจ้าแห่งสงคราม พวกคนรวยไม่ กล้าสร้างความวุ่นวายให้กับคนที่นี่ ไม่มีปัญหาอะไรหรอก”
“อีกอย่าง ถ้าฉันจะทำภารกิจนี้ให้สำเร็จจริงๆ ฉันก็สู้นายไม่ ได้ ผลสุดท้ายภารกิจก็ไม่สำเร็จอยู่ดี เหมือนฉันเอาชีวิตแขวน ไว้บนเส้นด้าย”
เมื่อได้ยินเตชัสพูดเช่นนั้น รพีพงษ์จึงยิ้มออกมา ถ้าเขาอยาก จะสู้จริงๆ เตชัสไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา
“นายรีบผ่านการทดสอบนั่นเถอะ หลังจากนี้จะได้มีคน ปกป้องฉัน ฝีมือระดับนายสามารถเข้ามาอยู่ในห้าอันดับ เทพเจ้าแห่งสงครามได้อย่างสบายๆ” เตชัสพูดแล้วยิ้มออกมา
“ต๊ะ? แล้วนายคิดว่าฉันจะผ่าน ปีนบันไดสูง อะไรนั่นไหม” รพี พงษ์ถามขึ้น
เตชัสมองรพีพงษ์แล้วพูดว่า “นายไม่ต้องคิดเรื่องนี้เลย ถึง พละกําลังของนายจะอยู่ในอันดับหนึ่งของอันดับเทพเจ้าแห่ง สงคราม แต่การที่จะพิชิต ปืนบันไดสูง ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะ นายต้องชนะคนในอันดับเทพเจ้าสงครามถึงสิบคนภายในวัน เดียว นี่ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ ถ้าไม่มีพละกำลังที่เกินต้าน นาย ไม่สามารถทําเรื่องนี้ได้แน่นอน”
“จากที่ฉันเข้าใจ คนในสามอันดับเทพเจ้าแห่งสงครามเป็น พวกจิตวิปริตในวิปริตอีกที ไอ้เรื่องที่นายจะสู้พวกมันได้หรือ เปล่านั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง”
รพีพงษ์ไม่ได้คิดว่าที่เตชัสพูดเป็นการดูถูกเขา กิสนา สามารถสร้างชื่อในกลุ่มการเงินระดับโลก การอยู่รอดใน สถานการณ์ที่ต้องต่อสู้ทั้งต่อหน้าและลับหลัง พวกเขาต้องมี ใครอยู่เบื้องหลังแน่ๆ
เพราะฉะนั้นไม่ควรดูถูกคนที่อยู่ในอันดับเทพเจ้าแห่ง
สงคราม
แต่ทว่ารพีพงษ์ยังคงเชื่อมั่นในพละกำลังของตัวเอง เขายังมี ความลับที่ซ่อนอยู่ จนถึงตอนนี้เขายังจำสิ่งที่อาจารย์พูดกับ ประเมินเขาได้ดี “ถ้าสู้สุดกำลัง น้อยคนจะต้านทานได้”
นี่คือคําพูดที่ทําให้เขามั่นใจในพละกำลังของตัวเอง เขารู้ ความน่ากลัวของอาจารย์ดี ขนาดอาจารย์ยังพูดแบบนี้ ถ้า อย่างนั้นพละกำลังของรพีพงษ์ ก็อยู่ในระดับสุดยอดแล้ว
แน่นอนว่าอาจารย์ยังพูดทิ้งท้ายไว้ แต่รพีพงษ์ไม่เข้าใจ ความหมายของมัน ต่อมารพีพงษ์เอาแต่ถามอาจารย์ อาจารย์ แค่บอกให้เขาจำไว้ว่าตอนนี้พละกำลังของเขา น้อยคนที่จะ ต้านทานได้ พูดถึงบนโลกนี้ รพีพงษ์ใกล้จะเป็นผู้แข็งแกร่ง หรือยังต้องใช้เวลาอีกช่วงหนึ่ง
ถึงแม้จะไม่เข้าใจว่าอาจารย์หมายความว่าอย่างไร แต่สิ่งที่ รพีพงษ์เข้าใจก็คือเขายังห่างไกลจากคำว่าผู้แข็งแกร่งที่ออก มาจากปากของอาจารย์ อาจจะไปไม่ถึงจุดนั้น เขาไม่คิดว่าที่ กิสนาจะมีคนแบบนี้ ถ้ามีจริงๆ เตชัสคงไม่ได้ไปอยู่ในอันดับที่ 13 ในอันดับเทพเจ้าแห่งสงครามหรอก
หลังจากที่พูดคุยกันพอสมควร เตชัสพารพีพงษ์เดินไปยัง คุกใต้ดิน รพีพงษ์ไม่สามารถกลับไปเพียงคนเดียว เพราะจะ ทําให้คนที่นั่นสงสัย ดังนั้นเขาจึงให้เตชัสพาเขากลับมาอย่าง เป็นทางการ
ทั้งคู่เดินมาถึงหน้าประตูหอแข่งขันศิลปะการต่อสู้กิสนา มีคน ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูสองคน เมื่อทั้งสองคนเห็นเตชัสก็รีบยืด หลังตรง
ชื่อเสียงของอันดับ 13 ในอันดับเทพเจ้าแห่งสงครามไม่ใช่ เล่นๆ คนมีฝีมือในกิสนาไม่กล้าหือกับคนในอันดับเทพเจ้าแห่ง สงครม ส่วนมากเมื่อเจอกันก็จะนอบน้อมกับพวกเขา
ระหว่างที่คุยกันในตอนนั้น รพีพงษ์ได้รู้ถึงฉายาของเตชัสที่กิ สนา ฉายาของเขาคือ ยมราชเตชัส คนทั่วไปเรียกเขาแบบนี้
“พะ พี่เต พี่มาทำอะไร?” หนึ่งในนั้นถามขึ้น
“ฉันช่วยคนพาไอ้หมอนี่กลับมา พวกแกพามันเข้าไป” จู่ๆ ความเป็นกันเองของเตชัสที่มีกับรพีพงษ์ก็หายไป เขามีท่าทาง เกรี้ยวกราด ดูไปแล้วเหมือนยมราชเตชัสจริงๆ
ทั้งสองคนรีบพยักหน้า พวกเขาจำได้ว่าเมื่อไม่นานมีคนมาพา รพีพงษ์ไป
“ครับพี่เต เดี๋ยวพวกเราจะจัดการเอง” ทั้งสองคนรีบเอาตัวรพี พงษ์มา
เตชัสไม่ได้พูดอะไร แล้วหันหลังเดินกลับไป
ทั้งสองคนพารพีพงษ์เดินเข้ามา เมื่อมาถึงคุกใต้ดิน รพีพงษ์ เข้ามาในห้องหมายเลข 13 เห็นว่าคนข้างในมีสีหน้าพึงพอใจ ดูเหมือนว่าสาวเซ็กซี่ทั้งสิบคนยังไม่ได้ทำอะไรพวกเขา
ภายในคฤหาสน์ของธนเทพ
ลูกน้องคนหนึ่งเดินเข้ามาแล้วก้มหัวให้ธนเทพ “คุณชาย แผน ล้มเหลวครับ”
เมื่อธนเทพที่กำลังนั่งหลับตาผ่อนคลายอยู่บนโซฟาได้ยินสิ่งที่ลูกน้องพูด เขารีบเปิดตาโพลง แววตาของเขาเต็มไปด้วย ความโมโห
“แผนล้มเหลวงั้นเหรอ อย่าบอกนะว่าคนในอันดับเทพเจ้าแห่ง สงครามจะไม่สามารถสู้ไอ้หมอนั่นได้” ธนเทพพูดอย่างโมโห
“ยังไม่รู้เรื่องราวที่แน่ชัดครับ แต่ผมเห็นยมราชเตชัสพาไอ้ หมอนั่นกลับไปที่หอแข่งขันศิลปะการต่อสู้กิสนา ดูเหมือนว่า แผนจะไม่ได้ล้มเหลว น่าจะเป็นเรื่องอื่นมากกว่าครับ” ลูกน้อง พูดตอบ
ธนเทพกัดฟันกรอด จากนั้นเขาจึงหยิบแก้วน้ำบนโต๊ะซัดลง บนพื้น
“ไอ้เวรเอ๊ย ฉันไม่เชื่อว่าคุณชายอย่างฉันจะฆ่าหมาแค่ตัว เดียวไม่ได้ คนในอันดับเทพเจ้าแห่งสงครามฆ่ามันไม่ได้ งั้น ฉันจะฆ่ามันด้วยมือของฉันเอง!”
ลูกน้องเงยหน้ามองธนเทพแล้วพูดว่า “คุณชาย นี่คือถิ่นของกิ สนา ถึงแม้ที่นี่จะไม่ได้ห้ามฆ่าคน แต่ก็ห้ามทำอะไรล่วงละเมิด ที่นี่เหมือนกัน ถ้าคนของเราสร้างเรื่อง อาจจะทำให้หัวหน้าขอ งกิสนาไม่พอใจ”
ธนเทพสูดหายใจลึก ตอนแรกเขากะจะมาผ่อนคลายที่นี่ คิด ไม่ถึงว่าจะมาเจออะไรแบบนี้ มันทำให้เขาหงุดหงิดใจเป็น อย่างมาก
ผ่านไปครู่หนึ่ง เมื่อเขาใจเย็นลง จึงหันไปคุยกับลูกน้อง “โอเค ฉันรู้ว่าอะไรควรทำหรือไม่ควรทำ นายออกไปก่อน ฉัน จะหาวิธีจัดการกับไอ้หมอนั่น”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ