แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

บทที่ 373 เพื่อคุณ ผมยินดีจะโค่นโลกทั้งใบ!



บทที่ 373 เพื่อคุณ ผมยินดีจะโค่นโลกทั้งใบ!

บทที่ 373 เพื่อคุณ ผมยินดีจะโค่นโลกทั้งใบ

ตระกูลลัดดาวัลย์จากเกียวโต

เงินขวัญถุงหนึ่งร้อยล้าน

สองคำนี้ก้องสะท้อนไปมาอยู่ในหูของทุกคน ทุกคนใน คฤหาสน์ทั้งหมดต่างเงียบลง

ตาสีทองพาทุกคนจากตระกูลลัดดาวัลย์เดินเข้าไปข้าง ใน เพราะเมื่อครู่หิ่งที่คนตรงประตูนั่นตะโกนออกมามันน่า ตกตะลึงจริงๆ จนทำให้ทุกคนต่างก็ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ เสียงดังเกินไปเลย

ทั่วทั้งในคฤหาสน์เหลือเพียงเสียงฝีเท้าของบรรดาผู้คน จากตระกูลลัดดาวัลย์

ญาดาเดินตามหลังตาสีทอง หลังจากเห็นรูปแกะสลักของ รพีพงษ์และอารียาตรงหน้าเธอ ภายในใจเธอก็เกิดความ รู้สึกหมดหนทาง เสียใจภายหลัง และอิจฉาริษยาขึ้นมา
รอกระทั่งทุกคนในตระกูลลัดดาวัลย์เดินไปถึงพื้นที่ บริเวณด้านหน้าสุดแล้ว ทุกคน ณ ที่นี้ถึงดูเหมือนจะรู้สึก โล่งใจขึ้นมาบ้าง ต่างพากันถอนหายใจยาวๆออกมาเฮือก หนึ่ง แรงกดดันที่ตระกูลลัดดาวัลย์แผ่มาให้ทุกคนเมื่อครู่ นี้รุนแรงเกินไปแล้วจริงๆ นั่นคือออร่าซึ่งมีเพียงผู้ยิ่งใหญ่ ที่แท้จริงเท่านั้นถึงจะมีได้ ในสายตาของคนเหล่านี้พวก เขาก็เป็นได้แค่มดตัวเล็กๆเท่านั้น

“ตระกูลลัดดาวัลย์จากเกียวโตก็ยังมาแล้วเลย วันนี้ฉัน ต้องฝันไปแน่ๆ นี่มันน่าตกใจจริงๆ!

“โอ้พระเจ้าช่วย เงินขวัญถุงหนึ่งร้อยล้าน เกรงว่าจะมีแต่ ครอบครัวอย่างตระกูลลัดดาวัลย์เท่านั้นแหละที่สามารถใช้ เงินแบบนี้ได้

“ตระกูลลัดดาวัลย์! ตระกูลลัดดาวัลย์! รพีพงษ์ก็นามสกุล ลัดดาวัลย์ เป็นไปได้ไหมว่า…”

บนใบหน้าของทุกคนต่างก็มีการแสดงความหวาดกลัว ปรากฏขึ้นมา ในใจก็เดาบางอย่างได้รางๆบ้างแล้ว

ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลล้วนมองไปด้านหน้าด้วยแวว ตาเหม่อลอย เมื่อมองเหล่าคนตระกูลลัดดาวัลย์ภายในใจก็มีความรู้สึกซับซ้อนอย่างหนึ่งที่ไม่อาจอธิบาย ได้

ไม่ว่าจะเป็นธาตุกรหรือกันตาหรือว่าบรรดาคนตระกูล ฉัตรมงคล ตอนนี้ต่างก็ถูกบรรดาแขกเหรื่อเหล่านี้ที่ร พงษ์เชิญมาทำให้หวาดผวาอย่างหนัก

กลางพื้นที่ด้านหน้าสุด ทุกๆคนล้วนสามารถบดขยี้พวก เขาได้ คนเหล่านี้ต่างก็เป็นคนในระดับที่ปกติแล้วพวกเขา ไม่อาจสัมผัสถึงได้เลย

รพีพงษ์มีเครือข่ายที่แข็งแกร่งเช่นนี้ กระทั่งตระกูลลัดดา วัลย์แห่งเกียวโตยังให้ของขวัญงานแต่งของเขาในวันนี้ ถึงหนึ่งร้อยล้าน แต่พวกเขากลับตะโกนว่ารพีพงษ์เป็นเศษ ขยะมานานหลายปีขนาดนี้

พวกเขากระทั่งจะเชิญใครสักคนในหมู่คนเหล่านี้ที่ร พงษ์เชิญมาก็ยังทำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ถ้ารพีพงษ์เป็นเศษ ขยะจริงๆล่ะก็งั้นพวกเขาจะเอาหน้าจากไหนมามีชีวิตอยู่ บนโลกนี้ต่อไปได้ล่ะ

“ระหว่างฉันกับรพีพงษ์ ไม่มีอะไรที่จะเทียบกันได้เลย จริงๆเหรอ? ตระกูลลัดดาวัลย์แห่งเกียวโต รพีพงษ์เหอะๆ ไม่น่าแปลกใจที่ฉันกับเขาสู้กันมานานขนาดนี้ สุดท้ายคนที่เสียเปรียบกลับเป็นฉัน ที่แท้แล้วเขาก็ไม่เคย มองฉันเป็นคู่แข่งเลยสินะ” ในใจธายุกรเกิดความรู้สกพ่าย แพ้อยู่ลึกๆ ตอนนั้นเองที่เขาตระหนักได้ว่าก่อนหน้านี้ตัว เองโง่ขนาดไหน

กันตามองไปที่เหล่าคนตรงหน้าด้วยความงุนงง ปากพูด คำว่า “รพีพงษ์ ตระกูลลัดดาวัลย์” ซ้ำไปซ้ำมาไม่หยุด ใน ใจเองก็ตระหนักได้ถึงบางอย่าง

“เขา เขาเป็นคนตระกูลลัดดาวัลย์ ไม่น่าแปลกใจที่ตอนอยู่ เมืองกรีนโคล สุกรณ์กลัวเขามากขนาดนั้น ไม่แปลกใจเลย ที่บริษัท อสังหาริมทรัพย์ เมค์สยั่วยุเขาแล้วก็ล้มละลาย ภายในไม่ถึงสองวันรพีพงษ์เป็นคนตระกูลลัดดาวัลย์ไง! สุดท้ายแล้วก่อนหน้านี้ฉันทำเรื่องโง่ๆมามากมายขนาด ไหนกัน ถึงขนาดยั่วโมโหเขาครั้งแล้วครั้งเล่า แม้ว่าเขาจะ ลบฉันออกไปจากโลกนี้ก็เกรงว่าจะไม่มีใครรู้ใช่มั้ย? “

เมื่อนึกมาถึงตรงนี้ ร่างกายกันตาก็สั่นสะท้าน ในใจเกิดนึก กลัวทีภายหลังขึ้นมา

โศรวิทย์ คิมหัตต์ และชลิดากับนทีนาถ ก็ล้วนตระหนักได้ ในตอนนี้ว่า รพีพงษ์ต้องมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับตระกูลลัดดาวัลย์แน่ๆ ไม่อย่างนั้นตระกูลลัดดาวัลย์คงจะ ไม่ให้ของขวัญชิ้นใหญ่ขนาดนี้หรอก

แล้วรพีพงษ์ก็นามสกุลลัดดาวัลย์ด้วย ความสัมพันธ์ของ รพีพงษ์กับตระกูลลัดดาวัลย์ที่พวกเขาจะคิดได้ ก็มีเพียง แค่อย่างเดียวเท่านั้น

“มันจบแล้ว รพีพงษ์ดันเป็นคนในตระกูลลัดดาวัลย์ ก่อน หน้านี้เราทําตัวแบบนั้นกับเขา เขาคงจะไม่ฆ่าพวกเรา ทั้งหมดด้วยความโกรธหรอกใช่ไหม?” ชลิดาพูดด้วย ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นตระหนก

ธาตุกรหัวเราะอย่างขมขื่น และพูดว่า “ที่น่าเศร้าไปกว่านี้ คือเขามองว่าเราเป็นแค่มดมาโดยตลอด ในสายตาของเขา เกรงว่าเขาจะไม่สนใจมาคิดเล็กคิดน้อยกับเราเลยด้วยซ้ำ”

เมื่อคนรอบข้างได้ยินคำพูดของธายุกร ต่างพากันถอน หายใจออกมา ทะเลาะกันมาตั้งนาน พวกเขาไม่มีแม้แต่ คุณสมบัติที่จะทำให้ รพีพงษ์มาสนใจด้วยซ้ำ ถ้าคิดแบบ นี้ สิ่งต่างๆที่พวกเขาเคยทำก่อนหน้านี้นั้นล้วนอาจเป็นแค่ เรื่องตลกในสายตาของรพีพงษ์ก็ได้
ศศินัดดาเองก็มองไปที่คนเหล่านั้นในตระกูลลัดดาวัลย์ ด้วยความตกใจนิดหน่อยเช่นกัน หายใจเข้าลึกๆ แต่ภายใน ใจยังคงหวาดหวั่นอยู่บ้าง

เพียงในชั่วพริบตา ที่คนตระกูลลัดดาวัลย์ปรากฏตัวออก มา ก็ทําให้ความคิดภายในใจของศศินัดดาสั่นคลอนได้บ้าง แล้ว

“ไม่ได้ ต่อให้ตอนนี้เขาจะกลายเป็นทายาทที่แท้จริงของ ตระกูลลัดดาวัลย์แล้วยังไง แต่เขาก็ยังคงเป็นตัวซวยอยู่ดี ไม่ว่าเขาจะมีอำนาจมากแค่ไหน มันก็ไม่ได้มีประโยชน์ อะไรกับเรา แต่กลับจะนําความหายนะมาสู่ครอบครัวของ เราอย่างไม่รู้จักจบจักสิ้นต่างหาก แต่ฉันทำไม่ได้ ฉันจะ ไม่ถูกความมีหน้ามีตาตอนนี้ของเขาหลอกให้หลงกล ไม่ อย่างนั้นเมื่อถึงตอนที่เขาโชคร้ายขึ้นมา ครอบครัวของเรา จะต้องซวยไปด้วยแน่”

ศศินัดดาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อปลอบตัวเอง แต่ความ ตื่นตระหนกในใจของเธอจะทำอย่างไรก็ไม่สามารถระงับ ลงได้

หลังจากคนตระกูลลัดดาวัลย์มาถึง ประตูคฤหาสน์ก็ปิด ลง ซึ่งนี่ก็หมายความว่าแขกคนสุดท้ายของวันนี้มาถึงแล้ว และถึงเวลาที่เจ้าบ่าวและเจ้าสาวจะปรากฏตัวได้แล้ว

ตามติดมาด้วยเสียงดนตรีที่เปลี่ยนไป ความสนใจของทุก คนต่างก็ตกอยู่ที่บนเวทีคริสทัลข้างหน้า เห็นเพียงรพีพงษ์ จูงมืออารียาค่อยๆเดินออกมาจากด้านใน

อารียาสวมชุดแต่งงานที่น่าตื่นตาตื่นใจพร้อมรอยยิ้ม เล็กๆบนใบหน้า ราวกับเจ้าหญิงที่เดินออกมาจากโลกแห่ง เทพนิยายก็ไม่ปาน อ่อนโยนและเปล่งประกายระยับตา

รพีพงษ์ก็อยู่ในชุดสูททางการทั้งตัว ผมของเขาหลังจาก ผ่านการจัดแต่งแล้วก็กลายเป็นเปล่งประกาย ไม่แพ้กันกับ เจ้าชายในโลกแห่งเทพนิยายเท่าไหร่เลย

ทั้งสองเดินไปถึงด้านหน้าของทุกคน ราวกับกิ่งทองใบ หยกก็ไม่ปาน

ทุกคนต่างพากันหันไปตื่นตะลึงกับพวกเขาสองคนที่ตอน นี้ราวมีแสงส่องประกายออกมาจากตัว หลายคนทยอย กันหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเพื่อบันทึกช่วงเวลาอัน ศักดิ์สิทธิ์และสวยงามนี้
ได้แล้ว

ตามติดมาด้วยเสียงดนตรีที่เปลี่ยนไป ความสนใจของทุก คนต่างก็ตกอยู่ที่บนเวทีคริสทัลข้างหน้า เห็นเพียงรพีพงษ์ จูงมืออารียาค่อยๆเดินออกมาจากด้านใน

อารียาสวมชุดแต่งงานที่น่าตื่นตาตื่นใจพร้อมรอยยิ้ม เล็กๆบนใบหน้า ราวกับเจ้าหญิงที่เดินออกมาจากโลกแห่ง เทพนิยายก็ไม่ปาน อ่อนโยนและเปล่งประกายระยับตา

รพีพงษ์ก็อยู่ในชุดสูททางการทั้งตัว ผมของเขาหลังจาก ผ่านการจัดแต่งแล้วก็กลายเป็นเปล่งประกาย ไม่แพ้กันกับ เจ้าชายในโลกแห่งเทพนิยายเท่าไหร่เลย

ทั้งสองเดินไปถึงด้านหน้าของทุกคน ราวกับกิ่งทองใบ หยกก็ไม่ปาน

ทุกคนต่างพากันหันไปตื่นตะลึงกับพวกเขาสองคนที่ตอน นี้ราวมีแสงส่องประกายออกมาจากตัว หลายคนทยอย กันหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเพื่อบันทึกช่วงเวลาอัน ศักดิ์สิทธิ์และสวยงามนี้ของผมกับภรรยาของผมในวันนี้ ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ภรรยา ของผมได้รับความกดดันและความคับข้องใจมากมาย เพราะผม ผมเคยสัญญากับเธอว่าจะเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง เพื่อเธอ งานแต่งงานในวันนี้ ณ ที่นี้เป็นการพิสูจน์ของผม ต่อทุกๆคน ผมต้องการให้ทุกคนรู้ว่า ผมรพีพงษ์ สามารถ ทำให้อารียามีความสุขไปตลอดชีวิตได้!” รพีพงษ์ยัง ตะโกนกล่าวด้วยท่าทางฮึกเหิมอีกด้วย

หลังจากที่ทุกคนได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ พวกเขาต่างก็ เริ่มปรบมือขึ้นมาทันที

ในช่วงเวลานี้ อารียาเป็นคนที่มีความสุขที่สุดในโลกจริงๆ

รพีพงษ์หมุนตัวกลับมา มองไปทางอารียา สายตาที่ จริงใจและสื่ออารมณ์ เอ่ยปากถามว่า “คุณยินดีที่จะแบ่ง ป้นความทุกข์ยากในชีวิตแก่กันและกัน ไม่มีวันแยกจากกัน ไปไหนไหม?”

“ฉันยินดี!” อารียาตะโกนอย่างไม่ลังเลสักนิด

รอยยิ้มพึงพอใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของรพีพงษ์จากนั้นก็กอดกับอารียา โน้มไปใกล้หูของเธอและกระซิบ ว่า “เพื่อคุณ ผมยินดีจะโค่นโลกทั้งใบ

จูบอย่างดูดดื่ม

ร้อนแรงจนเดือด!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ