บทที่ 334 ผมเป็นเจ้าของที่นี่จริงๆ
บทที่ 334 ผมเป็นเจ้าของที่นี่จริงๆ
ศศินัดดาได้ยินว่ารพีพงษ์จะเก็บชนิสราเอาไว้ จึงรีบพูดขึ้นว่า “รพีพงษ์ แกบ้าไปแล้วเหรอ พวกเราไม่อยู่ที่นี่แล้วจะเก็บชนิสรา ไว้ทำไม แกมีเงินเหลือเยอะขนาดนั้นเลยเหรอ
“นี่ไม่เกี่ยวกับเงิน พี่สาทำอาหารถูกปากผมมาก อีกทั้งต่อจากนี้ ผมอาจจะไม่มีเวลาทำงานบ้าน เพราะฉะนั้นจึงต้องให้พี่สาเป็นคน ทำ” รพีพงษ์เอ่ยขึ้น
ชนิสราหันไปหารพีพงษ์แล้วพูดว่า “ไม่เป็นไรหรอครพีพงษ์ พวกคุณไม่อยู่ที่นี่ก็ไม่จำเป็นต้องใช้งานฉันอีก ฉันไปหางานอื่น ก็ได้
อารียาเดินเข้าไปจับแขนของชนิสราแล้วพูดว่า “พี่สาอย่าไปเลย ที่ผ่านมาพี่เข้ากันได้ดีกับพวกเรา ถ้าพี่ไปฉันก็ไม่ได้ทานหวาน เย็นเม็ดบัวฝีมือพี่น่ะสิ
“นี่ลูกโง่หรือเปล่า มันเป็นแค่คนนอกเท่านั้น ลูกอยากกินแม่ ทำให้ก็ได้” ศศินัดดาพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
อารียาเหลือบมองศศินัดดาแล้วพูดว่า “แม่ไม่ทำอาหารมานาน ขนาดไหนแล้ว ถึงพวกเราจะย้ายที่อยู่ แม่ทำความสะอาดเป็นเหรอ สองสามปีมานี่รพีพงษ์เป็นคนทำตลอด หนูกลัว ว่าแม้จะทำไม่เป็นแม้แต่กวาดขยะ ถ้าไม่ให้พี่สาอยู่ แม่จะทำงาน บ้านไหม เพราะหนูกับรพีพงษ์ก็ยุ่งทั้งคู่ ไม่มีเวลาทำงานบ้าน หรอก ถ้าแม่ยอมทำ หนูจะให้รพีพงษ์ช่วยหางานใหม่ให้พี่สา
เมื่อศศินัดดาได้ยินที่อารียาพูด เธอก็เงียบทันที สองสามปีมานี้ เธอกลายเป็นคนขี้เกียจ ไม่ทำอาหารไม่ทำงานบ้านมานานแล้ว ถ้าต่อจากนี้เธอต้องทำงานบ้าน เธอก็ไม่อยากทำเหมือนกัน
“เหอะ ยังไงพวกแกก็เป็นคนจ่ายเงินให้มัน ฉันไม่สนหรอก แต่ ถ้าแกจะให้มันอยู่ต่อ แกต้องหาบ้านที่ใหญ่พอสําหรับจํานวนคน ด้วย ถ้าให้ฉันขลุกอยู่กับมัน ฉันก็ไม่เต็มใจอยู่เหมือนกัน” ศศิ นัดดาบ่นพึมพำ
“วางใจเถอะ ผมไม่ทําให้คุณสามากใจหรอก” รพีพงษ์เอ่ยขึ้น
ชนิสราเห็นรพีพงษ์กับอารียาเกลี้ยกล่อมเธอ เธอรู้สึกซาบซึ้ง มาก ถึงแม้ว่าทั้งสองคนพูดว่าจะให้เธอทํางานบ้าน ทําอาหาร จึงอยากให้เธออยู่ต่อ แต่ในใจของเธอรู้ดีว่าพวกเขาพูดให้เธอ สบายใจเท่านั้น
อีกอย่างแค่การหาคนทํางานบ้าน จากเงินเดินทีรพีพงษ์จ่ายให้ สามารถหาคนที่ทำงานหนักและเชื่อฟังได้โดยไม่จำเป็นต้อง ให้เธออยู่ต่อ ยิ่งไปกว่าสามารถหาได้ในตอนที่กำลังหาบ้านใหม่ ก็ได้
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ฉันก็ไม่ปฏิเสธแล้ว รพีพงษ์ อารี บุญคุณของ พวกคุณฉันจะไม่ลืมตลอดชีวิต ฉันจะดูแลงานในบ้านให้ดี” ชนิส ราพูดนําตาคลอ
รพีพงษ์กับอารียาสบตากันแล้วหัวเราะออกมา
“งั้นเราออกจากที่นี่กันก่อนเถอะ วันนี้เราพักที่โรงแรมก่อน อีก สักพักค่อยไปทานข้าวกันข้างนอก แล้วค่อยปรึกษากันว่าจะไปอยู่ ที่ไหน” รพีพงษ์เอ่ยขึ้น
เขาเดินไปหาศักดาและรับกล่องมาจากมือของศักดา จากนั้นพา ทุกคนเดินออกไปข้างนอก
“ถ้าเงินในกล่องหายไปแม้แต่บาทเดียว แกต้องจ่ายให้ฉันสอง เท่า” ศศินัดดาไม่เชื่อใจรพีพงษ์โดยลืมไปว่าเงินสามล้านนั่นเป็น เงินทรพีพงษ์ให้เธอ
รพีพงษ์พาทุกคนมาถึงหน้าโรงแรมบลูสกายอินเตอร์เนชั่นเนล
อารียารู้แล้วว่ารพีพงษ์เป็นเจ้านายของบริษัทซันบับเบิล กรุ๊ป เพราะฉะนั้นเธอจึงไม่ได้ตกใจที่รพีพงษ์พามาที่โรงแรมนี้
ก่อนหน้านี้เธอกังวลว่ารพีพงษ์จะใช้เงินทั้งหมดในการซื้อสร้อย หัวใจวีดัส ซี้อคฤหาสน์ ซื้อรถ ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าเงินพวกนั้น สำหรับรพีพงษ์มันก็แค่เศษเงินเท่านั้น
อีกอย่างถ้ารพีพงษ์เอาตระกูลลัดดาวัลย์กลับมาได้สำเร็จ จะ ทําให้เขามีอำนาจและเงินที่ทําให้คนต้องตกใจ
บวกกับตอนนี้บริษัทตระกูลฉัตรมงคลกำลังรุ่งเรือง อีกไม่นาน คงจะได้เป็นธุรกิจอันดับต้นๆ ของเมืองริเวอร์ โลกทัศน์ของอารี ยากว้างไกลมากขึ้น ดังนั้นการที่มาอยู่โรงแรมบลูสกายอินเต อร์เนชั่นเนลไม่ใช่เรื่องหรูหราอะไร
“รพีพงษ์ แกแน่ใจเหรอว่าจะให้พวกเราอยู่โรงแรมหรูอย่างนี้ ฉัน ได้ยินมาว่าที่นี่แพงที่สุดในเมืองริเวอร์เลยนะ พวกเราหาคนอย่าง น้อยก็ต้องสามห้อง คืนนี้ต้องใช้เงินเท่าไร” ศศินัดดามองความ หรูหราในโรงแรมบลูสกายอินเตอร์เนชั่นเนล เธอแอบหวั่นใจ เพราะกลัวว่ารพีพงษ์จะไม่มีเงินจ่าย แล้วจะให้เธอใช้เงินสดของ ตัวเองจ่าย
“ใช่รพีพงษ์ นายอยู่ในเมืองริเวอร์ไม่ได้รวยเหมือนพวกท่านยุด ที่อำาเภอหยกหรอกนะ การที่เขาจัดโรงแรมหรูแบบนี้ให้นายได้ ไม่ได้หมายความว่านายจะทำเหมือนเขาได้นะ ถึงเราจะ มีเงินอยู่ในมือ แต่ถ้านายใช้เงินนั่นมาอยู่โรงแรมหรูแบบนี้ ศศิ นัดดาไม่ยอมหรอก” ศักดาพูดเสริม
รพีพงษ์ยิ้มบางๆ แล้วพูดว่า “พวกเราอยู่ที่นี่ไม่ต้องจ่ายเงิน แถม ผมยังให้พวกเขาจัดห้องที่ดีที่สุดให้พวกเรา
ศศินัดดามองรพีพงษ์อย่างดูถูกแล้วพูดว่า “แกหลอกใครอยู่ พูด เหมือนตัวเองเป็นเจ้าของที่นี่ ไม่ต้องจ่ายเงิน แกนพูดโกหกหน้า ไม่อายจริงๆ
“จริงๆ ผมเป็นเจ้าของที่นี่” รพีพงษ์เอ่ยขึ้น
ตอนนี้วีธราได้ตายไปแล้ว คนที่คอยกดขี่เขาได้ตายไปแล้ว เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่จําเป็นต้องปิดบังอะไรอีก ให้ศศินัดดาได้รู้ ถึงความเก่งของเขาเสียหน่อย จะได้ไม่ต้องมาดูถูกเขา
ศักดากับศศินัดดาเบิกตาโต แววตาของพวกเขาดูไม่เชื่อกับสิ่งที รพีพงษ์พูด
“รพีพงษ์แกเก่งเรื่องต่อสู้ มันทำให้ฉันตกใจจริงๆ แต่ว่าแกอย่า คิดว่าแค่เก่งเรื่องนี้ แล้วจะไปรวมกับเรื่องอื่น โรงแรมบลูสกายอิน เตอร์เนชันเนลเป็นโรงแรมที่ดีที่สุดในเมืองริเวอร์ แกดูขนาดของ ทีนี่ ดูการตกแต่งของที่นี่สิ อยากเปิดโรงแรมแบบนี้ ถ้าไม่มีเงิน สิบล้านก็ทําไม่ได้หรอก นายเอาเงินไปซื้อคฤหาสน์แล้ว คงจะเหลือเงินไม่มากแล้ว จะมาเปิดโรงแรมแบบ นี้ได้ยังไง” ศศินัดดาพูดยืนยันว่ารพีพงษ์ไม่มีทางเปิดโรงแรม ขนาดนี้ได้
แต่ทว่าช่วงนี้สิ่งที่รพีพงษ์ทำให้เห็น ทำให้ศศินัดดารู้ว่ารพีพงษ์ ไม่ใช้คนที่ชอบพูดโอ้อวด
อีกทั้งรพีพงษ์ยังกล้าฆ่านายใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์ นี่มัน ไม่ใช่เรื่องที่คนธรรมดาจะกล้าทำ
รพีพงษ์ไม่เถียงศศินัดดา เขาเดินเข้าไปในโรงแรม พนักงานรีบ เข้ามาต้อนรับและทำความเคารพเขา “คุณผู้ชาย ไม่ทราบว่าพวก คุณต้องการอะไรคะ”
รพีพงษ์หยิบแบล็กการ์ดออกมาส่งให้พนักงาน แล้วพูดว่า “เอา บัตรนี้ไปให้ผู้จัดการ เดี๋ยวผู้จัดการเห็นบัตรนี่ เขาคงจะรีบออกมา หาผม”
พนักงานคนนั้นมองแบล็กการ์ดแวบหนึ่ง เธอรู้สึกว่าบัตรนี่มันไม่ เหมือนของคนอื่น จึงไม่ชักช้ารีบเอาบัตรวิ่งเข้าไปข้างใน
ศักดากับศศินัดดามองรพีพงษ์อย่างสงสัย ศศินัดดาพูดพึมพำ ออกมาว่า “ทำเป็นอวด ไม่ว่ายังไงแกก็ไม่ใช่เจ้าของที่นี่หรอก อย่าโกหกเลย”
ชนิสรามองไปรอบๆ อย่างประหลาดใจ เธอเพิ่งเคยมาที่หรูๆ แบบนี้เป็นครั้งแรกในชีวิต
ที่รพีพงษ์พูดเมื่อกี้ ชนิสราก็เชื่ออยู่เล็กน้อย เพราะเธอรู้ว่ารพี พงษ์ไม่ใช่คนที่ชอบพูดโอ้อวด แต่ทว่าโรงแรมนี่มันทำให้เธอตก ตะลึงเป็นอย่างมาก ถ้ารพีพงษ์เป็นเจ้าของที่นี่จริงๆ ก็เจ๋งสุดๆ ไป เลย
ผ่านไปไม่นาน พนักงานกับผู้จัดการรีบวิ่งออกมา โดยผู้จัดการมี สีหน้าลุกลี้ลุกลน ตอนที่เขาเห็นแบล็กการ์ด เขาก็รู้ทันทีว่าใครมา ที่นี่
“คุณผู้ชาย นี่ผู้จัดการของเราค่ะ” พนักงานคนนั้นยื่นแบล็กการ์ด คืนให้รพีพงษ์ด้วยความนอบน้อมและเดินออกไปอย่างรู้งาน
ผู้จัดการมองรพีพงษ์แล้วยิ้มอย่างนอบน้อม จากนั้นจึงเอ่ย ทักทาย “คุณรพีพงษ์ คุณจะมาที่นี่ไม่แจ้งผมก่อน ผมจะได้เตรียม ต้อนรับคุณ
รพีพงษ์ยิ้มให้ผู้จัดการ ก่อนหน้านี้เขามาที่นี่กับเธียรวิชญ์และได้ เจอกับผู้จัดการคนนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้เกรงใจอะไร
“ช่วยจัดการห้องให้ผมสักสองสามห้อง พวกเราอาจจะอยู่ที่นี่ สองสามวัน
ผู้จัดการรีบพยักหน้า “ห้อง Presidential Suite ยังว่างอยู่ เดี๋ยว ผมพาพวกคุณไปครับ
รพีพงษ์ตอบรับแล้วหันไปมองอารียาและคนอื่น เราไปกันเถอะ”
ศศินัดดากับคนอื่นๆ ถึงกับอึ้งกับท่าทีที่ผู้จัดการปฏิบัติต่อรพี พงษ์ ไม่คิดว่าผู้จัดการของที่นี่จะนอบน้อมกับรพีพงษ์ขนาดนี้
ศศินัดดายังคงไม่เชื่อ เธอรีบเดินเข้าไปหาผู้จัดการแล้วถามว่า “ไอ้หมอนี่มันบอกว่าเป็นเจ้าของที่นี่ จริงหรือเปล่า”
ผู้จัดการได้ยินคำถามของศศินัดดา ก็อึ้งไป ก่อนหน้านี้รพีพงษ์ ห้ามไม่ให้พวกเขาพูดเรื่องนี้ แต่เมื่อศศินัดดาถามเช่นนี้ เขาจึงหัน ไปมองรพีพงษ์เหมือนสอบถาม
รพีพงษ์พยักหน้าให้เขาเป็นสัญญาณให้เขาพูดได้ ผู้จัดการจึง ยิ้มแล้วพูดกับศศินัดดาว่า “จริงครับ คุณรพีพงษ์เป็นเจ้าของที่นี่”
คำตอบของผู้จัดการ ทำให้เธอตกใจเป็นอย่างมาก โรงแรมนี้มี มาตั้งแต่สองสามปีก่อน ถ้ารพีพงษ์เป็นเจ้าของที่นี่ งั้นก็แสดงว่า รพีพงษ์เป็นคนรวย แต่เพราะเขาไม่พูด เธอจึงคิดว่าเขาเป็นคนไม่ เอาไหน
“เขาไม่ปิดบังไม่พูดออกมาเอง การที่ฉันทำไม่ดีกับเขาจะว่าฉัน ไม่ได้นะ” ศศินัดดาพูดพึมพำ
“เรารีบขึ้นไปเถอะครับ เอาของไปเก็บแล้วไปทานข้าวกันก่อน” รพีพงษ์เอ่ยขึ้น
ศศินัดดากับศักดามองรพีพงษ์ด้วยสายตาแปลกๆ แล้วเดินไปกับ เขา
“รพีพงษ์ นายเป็นเจ้าของที่นี่ แสดงว่านายมีเงินเยอะน่ะสิ” ศศิ นัดดาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงมาก
“ก็พอมีนะครับ ผมเคยบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอครับว่าผมจะทำให้ พวกคุณใช้ชีวิตอย่างมีความสุขไปตลอดชีวิต” รพีพงษ์พูดแล้วยิ้ม ออกมา
ให้ศศินัดดากับศักดา ว่าเขาเป็นเจ้าของโรงแรมนี้ก็เพียงพอแล้ว ถ้าให้พวกเขารู้ว่าบริษัทซันบีบเบิล กรุ๊ปก็เป็นของเขาด้วย ไม่รู้ว่า พวกเขาจะมีท่าทีอย่างไร
ศศินัดดาเข้าใจในทันทีว่าทำไมรพีพงษ์ถึงซื้อคฤหาสน์ได้ แถม ยังเอาเงินสดมาให้เธอมากขนาดนี้อีก
เธอจ้องรพีพงษ์กับอารียาแล้วกลอกตาเหมือนใช้ความคิดความคิดบางอย่างแวบเข้ามาในหัวของเธอ
รพีพงษ์รวยขนาดนี้ คิดไม่ถึงว่าจะยอมมาลำบากในครอบครัว ของเธอ ดูเหมือนเขาจะยอมทำทุกอย่างเพราะอารียาจริงๆ
ถ้าเป็นเช่นนี้ งั้นเธอก็ควรจะหาประโยชน์จากเศรษฐีคนนี้น่ะสิ
รพีพงษ์ฆ่านายใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์ ถ้าฝั่งนั้นรู้ ต้องไม่ ปล่อยเขาไว้แน่นอน ก่อนที่รพีพงษ์จะโดนคนของตระกูลลัดดา วัลย์จับไป เธอต้องเอาเงินจากเขามาให้มากที่สุด
หรือว่าจะให้เขายกโรงแรมนี้ให้เป็นชื่อของอารียาดีล่ะ?
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ