บทที่ 472 นายน่าจะรู้ตัวสักหน่อย
บทที่ 472 นายน่าจะรู้ตัวสักหน่อย
ไตรทศได้ยินสิ่งที่รพีพงษ์พูดก็หัวเราะออกมา “พีรพี ฝีมือของ พี่ไม่ว่าจะสนามประลองไหน ก็คงไม่มีคู่ต่อสู้ของพี่หรอก”
ธฤตญาณที่อยู่อีกด้านคิดสักพัก แล้วพูดออกมา “ถ้าอยาก ระบายเฉยๆ ไม่จําเป็นต้องไปหาคนที่ต่อกรกับรพีพงษ์ได้ หรอก แค่หาคนที่ยอมรับหมัดเขาเท่านั้น ไตรทศนายลองไหม ให้รพีพงษ์ได้ระบาย
ไตรทศเบิกตาโพลง แล้วพูดขอร้องรพีพงษ์ “พีรพี ไว้ชีวิตผม เถอะ ผมอยากมีชีวิตอยู่อีกหลายปี ถึงพี่จะต่อยผมเพื่อระบาย อารมณ์ แต่ผมคงต้องนอนนิ่งๆ บนเตียงไปปีกว่าๆ เลยล่ะ”
ธฤตญาณหัวเราะออกมา แล้วพูดว่า “ดูนาย กลัวจนหัวหด ฉายาของนายคือก๋าราบทั่วเมืองริเวอร์ ไม่มีใครต้านทานได้ ไม่ใช่หรือไง ทําไมพออยู่ต่อหน้าของรพีพงษ์ถึงกลายเป็นแบบ นี้”
ไตรทศเกาหัวแกรกๆ และพูดอย่างเขินอาย “ก็เพราะพี่รพีเก่ง ขนาดนี้ไง นายยังกล้ามาว่าฉันนะ นายกับฉันร่วมมือกันยังสู้ ไอ้ ศิวะศักดิ์ ไม่ได้เลย ผลคือพีรพีใช้เวลาจัดการมันได้อย่าง รวดเร็ว อย่าบอกนะว่านายยังไม่สัมผัสถึงความเก่งของพีรพี นายอย่าเป็นกระสอบทรายให้พี่รพีก็เป็นไปสิ ฉันไม่เอาด้วยหรอก”
ได้ยินทั้งสองคนเถียงกัน รพีพงษ์จึงยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย ความเครียดเมื่อครู่เริ่มผ่อนคลายลง
“หรือพวกนายสองคนจะมาเป็นที่รองรับอารมณ์ฉัน?” รพีพงษ์ ยิ้มแล้วพูดขึ้น
ครั้งนี้แม้แต่ธฤตญาณก็เงยหน้าขึ้นมา ดูก็รู้ว่าเขากลัวที่จะ เป็นกระสอบทรายให้รพีพงษ์ “จริงๆ ผมรู้จักอยู่ที่หนึ่ง คุณไป ระบายที่นั่นได้ แถมยังช่วยให้เราสามารถพัฒนาได้อีกด้วย”
“ที่ไหน” รพีพงษ์รีบเอ่ยถาม
“เมืองแทยก ที่เป็นรอยต่อระหว่างเมืองริเวอร์ เมืองโบเวนและ เมืองกวาง เพราะว่าเมื่อเทียบรอยต่อสามเมืองกับที่ทั่วไป มัน มีความพลุกพล่านมากกว่า ที่นี่มีคนย้ายมาอยู่เป็นจำนวนมาก มีคนหลายประเภทเข้ามาที่นี่ทุกเดือน เรียกได้ว่ามีทั้งคนเลว และคนดีปะปนกันอยู่
“เพราะเหตุนี้สนามประลองใต้ดินที่เมืองแทยกจึงค่อนข้างมี คนพลุกพล่าน คนทั้งสามเมืองพากันมารวมตัวที่นี่ และช่วยกัน สอดส่อง และผลประโยชน์ที่เกี่ยวข้องมันก็มากมายมหาศาล
“นานมาแล้วผมเคยส่งคนไปที่เมืองแทยก เพราะอยากได้ผล ประโยชน์บ้าง แต่ว่าอำนาจของทั้งสามเมืองไม่ได้ต่างกันมากนัก คนที่ผมส่งไปไม่มีวิธีเอาชนะคนอีกสองเมืองได้ เพราะ ฉะนั้นเลยได้แค่กำไรเพียงเล็กน้อย
“ถ้ามีคนสามารถรวมคุกใต้ดินที่เมืองแทยกให้เป็นหนึ่งเดียว ได้ เงินที่ได้ก็จะมากมายมหาศาล และคนที่สามารถทำเรื่องนี้ ได้คงมีแค่พี่เท่านั้น”
หลังจากที่รฤตญาณพูดจบ รพีพงษ์ก็ยิ้มอย่างคาดหวัง ถ้ารพี่ พงษ์สามารถรวมสนามประลองใต้ดินที่เมืองแทยกให้เป็นหนึ่ง เดียวได้ มันก็เป็นผลดีกับสิ่งที่เขากำลังพัฒนาอยู่ที่เมืองริเวอร์ และยังสามารถเข้าถึงเมืองโบเวนและเมืองกวางได้อีกด้วย
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ตอนที่ธฤตญาณเข้าไปหาประโยชน์ที่ นั่นมันค่อนข้างช้าไปหน่อย จึงทำให้คนที่เขาส่งไปที่นั่นถูก กลั่นแกล้ง ถ้ารพีพงษ์สามารถเข้าไปช่วยเขาได้ เขาจะได้ สบายใจขึ้นไม่น้อย
“ไปเมืองแทยกใช้เวลานานแค่ไหน” รพีพงษ์เอ่ยถาม
“ขับรถไปไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงครับ” ธฤตญาณตอบ
รพีพงษ์ลุกขึ้นยืนแล้วพูดว่า “ไประบายอารมณ์กันเถอะ ถือ โอกาสช่วยนายร่วมสนามประลองใต้ดินให้เป็นหนึ่งเดียวด้วย”
ธฤตญาณมีสีหน้าสลด สำหรับเขาแล้วการรวมสนามประลองใต้ดินให้เป็นหนึ่งเดียวเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก ไม่ใช่แค่ เขาที่คิดว่ายาก แต่คนที่เมืองโบเวนและเมืองกวางก็คิดเช่นนั้น เหมือนกัน ถึงทั้งสามเมืองจะมีสิ่งที่แตกต่างกัน แต่มันก็ไม่ได้ แตกต่างกันมาก
แต่ทว่ารพีพงษ์ไม่ใช่แค่พูด แต่เขาจะทําตามที่ตัวเองพูดอีก ด้วย นี่ทำให้ธฤตญาณตระหนักได้ว่าคนเรามีความแตกต่าง กัน
เมืองแทยก
ธฤตญาณขับรถพารพีพงษ์กับไตรทศมาถึงหน้าร้านเกมที่ ค่อนข้างเก่าและทรุดโทรม เพราะว่าเธียรวิชญ์กำลังจัดการ เรื่องที่บริษัทซันบีบเบิล กรุ๊ป จึงไม่สามารถตามมาได้
ทั้งสามคนลงมาจากรถ แล้วเดินเข้าไปในร้านเกม ภายในร้าน มีเครื่องเล่นเกมมากมาย มีเด็กจำนวนมากกำลังเล่นอยู่ในนั้น
ทั้งสามคนเดินเข้าไปเรื่อยๆ เขาเห็นประตูเล็กๆ ตรงปลาย ทาง มีชายร่างกายกำยำนั่งเล่นมือถืออยู่ตรงนั้น
ธฤตญาณเดินนำเข้าไป ชายร่างกายก๋าย่าพูดกับพวกเขา โดยไม่เงยหน้าขึ้นมา “ถ้าจะเข้าไปดูการแข่งขันข้างในต้อง จ่ายค่าเข้าคนละห้าร้อย ถ้าไม่จ่ายก็ไสหัวไป
ธฤตญาณกระแอมออกมาเบาๆ ขายร่างก๋าย่าจึงเงยหน้าขึ้นมามอง หลังจากที่เห็นว่าเป็นธฤตญาณ เขารีบพูดขึ้นมา ทันทีว่า “โอ๊ะ พี่ธฤตนี่เอง ผมก็นึกว่าใคร ช่วงนี้พี่ไม่ค่อยมาที่นี่ เลย เพราะลูกพี่ของเราแย่งส่วนแบ่งของพี่ไปนิดๆ หน่อยๆ พี่ โกรธจนไม่มาที่นี่เลย”
รพีพงษ์ฟังออกว่าน้ำเสียงของชายร่างกำยำกำลังเยาะเย้ย ทำให้เขาไม่พอใจ
ระหว่างทางมาที่นี่ ธฤตญาณได้อธิบายให้รพีพงษ์เข้าใจแล้ว ว่าสนามประลองใต้ดินแห่งนี้ ถูกควบคุมโดยสามเมือง และ ต้องแบ่งเงินตามส่วนแบ่ง
ทั้งสามเมืองต้องผลัดกันให้คนมาเก็บค่าตั๋วเข้าไปดูการ แข่งขัน และรักษาความสงบเรียบร้อยในสนามประลอง วันนี้ บังเอิญเป็นคิวของเมืองโบเวนพอดี
ลูกพี่ใหญ่ที่เมืองโบเวนมีชื่อว่าธรรมนาถ ส่วนลูกพี่ที่เมือง กวางมีชื่อว่าถิรพุทธิ์ ทั้งสองเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในเมืองของ ตนเอง ล้วนเป็นคนมีฝีมือ รวมถึงมีชื่อเสียงไม่น้อยในสนาม ประลองใต้ดินที่เมืองแทยก
ถ้าจะให้ธฤตญาณเปรียบเทียบสองคนนี้ เขาก็เปรียบเทียบ ไม่ได้เหมือนกัน เพราะว่าเขาให้เพื่อนอีกคนหนึ่งมาจัดการที่นี่ เพื่อนคนนั้นชื่อชัยภัทร เขาเป็นนักต่อสู้ที่บ้าคลั่งคนหนึ่ง ฝีมือ ไม่เลวเลยทีเดียว
เพราะว่าเขาชอบสนามประลองใต้ดินเป็นอย่างมาก เขาจึงตอบตกลงธฤตญาณ และมาช่วยธฤตญาณดูแลที่นี่
หลังจากที่ธฤตญาณได้ยินสิ่งที่ชายร่างกายกํายำาพูด สีหน้า เขาขรึมขึ้น “อย่ามาพูดมีเลศนัย อีกไม่นาน แกก็จะไม่กล้าพูด แบบนี้อีก”
พูดพลาง ธฤตญาณก็เดินเข้าไปข้างใน
ชายร่างกายก่าย่าแบะปาก และคิดในใจว่าธฤตญาณทําอวด เก่ง จึงไม่ได้สนใจเขา
ไตรทศกับรพีพงษ์เดินตามธฤตญาณเข้าไป ไตรทศจ้องชาย ร่างกายกำยำ จนชายคนนั้นไม่กล้าพูดอะไรออกมา ตอนแรก ไตรทศเคยมาโชว์ฝีมือที่นี่ ชายคนนั้นรู้ถึงความเก่งกาจของ เขาดี จึงไม่กล้าทําให้ไตรทศโมโห
ขณะนั้นรพีพงษ์ก็เดินเข้ามาเช่นกัน เมื่อชายร่างกำยำเห็นรพี พงษ์ที่ท่าทางเหมือนจะโดนแกล้งได้ง่ายๆ ชายคนนั้นจึงกลอก ตาไปมา แล้วยื่นมือออกไปขวางรพีพงษ์
“พี่ชาย ดูไม่คุ้นหน้าเลย ไม่เคยมาที่นี่ใช่ไหม ถ้าจะเข้าไป ต้องจ่ายห้าร้อย” ชายร่างกำยำก้มหน้ามองรพีพงษ์แล้วพูดขึ้น
รพีพงษ์หยุดเดิน แล้วปรายตามองชายคนนั้น เขาคิดในใจว่า
ชายคนนี้กําลังรนหาที่ตาย
ธฤตญาณเห็นดังนั้น จึงขมวดคิ้วขึ้นแล้วหันหลังกลับมาทันที เขาจ้องชายคนนั้นแล้วพูดว่า “แกรนหาที่ตายหรือไง กล้ามา เอาเงินกับคนของฉันเหรอ แกคิดว่าฉันได้ส่วนแบ่งน้อยแล้วจะ ทำอะไรก็ได้อย่างนั้นเหรอ”
“ไอ้เวรเอ๊ย แกอยากลิ้มรสหมัดของฉันใช่ไหม” ไตรทศ ตะโกนใส่ชายคนนั้น
ชายร่างก๋าย่าพูดอย่างไม่ตื่นตระหนกว่า “พี่ธฤต ผมไม่เคย คิดจะกลั่นแกล้ง แต่คนนี้ดูก็รู้ว่าเพิ่งมาใหม่ ผมทำตามกฎ ครับ พี่กับพี่ไตรทศไม่ต้องจ่ายค่าเข้า แต่คนที่มาเป็นครั้งแรก ผมต้องเก็บค่าเข้าคงจะไม่ได้ทำเกินไปใช่ไหมครับ ถ้า ธฤต พาคนมาร้อยคน แล้วผมไม่เก็บค่าเข้า งั้นพวกเราจะอยู่ได้ยัง ไงล่ะครับ พี่ว่าถูกต้องหรือเปล่า”
ธฤตญาณกำหมัดแน่น นี่มันกำลังหาเรื่องเขาชัดๆ เขาไม่เคย ได้ยินว่าคนมีอิทธิพลจะพาคนเข้าไปแล้วต้องเสียค่าเข้าด้วย
“แล้วถ้าฉันไม่จ่ายล่ะ” ธฤตญาณยังคุมอารมณ์อยู่ รพีพงษ์ จ้องชายคนนั้นแล้วพูดขึ้น
ชายร่างก๋าย่ามองรพีพงษ์ เขาไม่สามารถหาเรื่องไตรทศกับธ ฤตญาณแบบโจ่งแจ้งได้ แต่กับไอ้คนที่ไม่คุ้นหน้า เขาไม่กลัว มันสักนิด
เขาเดาว่าไอ้หมอนี่น่าจะเป็นลูกน้องของธฤตญาณ ไม่เห็นต้องกลัวอะไร ธฤตญาณก็คงไม่ทะเลาะกับเขาเพราะลูกน้อง คนเดียวหรอก
“ถ้านายไม่จ่าย ฉันจะให้นายได้ลิ้มรสหมัดของฉัน นาย ต้องจ่ายเอง ห้ามให้พี่ธฤตจ่ายให้ นายอย่าทำให้พี่ธฤตต้อง เสียเวลา เป็นแค่ลูกน้องก็ต้องเจียมตัวด้วย” ชายร่างกำยำ พูดกับรพีพงษ์ จากนั้นก็กำหมัดของตัวเอง เพื่อโชว์ว่าตัวเอง แข็งแกร่ง
รพีพงษ์ยื่นมือออกไปบีบแขนของชายคนนั้น จากนั้นเขาก็ใช้ แรงดึงจนแขนของชายคนนั้นหลุด
“ไอ้เวรเอ๊ย แกกล้ามาทำร้ายฉันเหรอ!” ชายร่างกำยำสะกด กลั้นความเจ็บปวด และกำลังจะใช้มืออีกข้างตบไปที่รพีพงษ์
รพีพงษ์ยกเท้าถีบไปที่ร่างของชายคนนั้น ร่างกายอันใหญ่โต
กระเด็นออกไปชนกับเครื่องเล่นเกมจนทำให้เครื่องนั้นพัง
“นายก็น่าจะรู้ตัวสักหน่อยนะ นายมันก็แค่คนเฝ้าประตู ครั้ง หน้าก็ระวังหน่อยแล้วกัน” รพีพงษ์มองชายคนนั้นแล้วพูดขึ้น
ธฤตญาณหัวเราะแล้วมองรพีพงษ์ จากนั้นเขาก็ยกนิ้วโป้งให้
รพีพงษ์
ทั้งสามคนเดินเข้าไปข้างใน ธฤตญาณไม่กลัวว่าชายคนนั้น จะเอาเรื่องไปบอกลูกพี่ของมัน เพราะการที่พวกเขามาที่นี่ ก็ เพื่อที่จะรวมสนามประลองใต้ดินให้เป็นหนึ่งเดียว หลังจากวันนี้เป็นต้นไป สนามประลองทั้งหมดจะตกเป็นของพวก เขา เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่กังวลเรื่องนี้
ยิ่งไปกว่านั้นมีรพีพงษ์อยู่ตรงนี้ เขาก็ไม่ต้องกังวลอะไรอีก แล้ว
สนามประลองใต้ดินของที่นี่ดูครึกครื้นกว่าเมืองริเวอร์มาก ข้างในนอกจากจะมีสนามประลองแล้ว ยังมีส่วนที่เป็นเหมือน ผับอีกด้วย ลักษณะคล้ายกับผับที่เมืองบาสแตร์
ขณะนี้มีผู้คนพลุกพล่านเต็มผับ ผู้คนพากันยืนล้อมอยู่ที่ สนามประลอง และดูการประลองด้วยสีหน้าตื่นเต้น
ธฤตญาณพาไตรทศกับรพีพงษ์ไปยังที่ของพวกเขา ชาย หน้าซูบผอม แต่ร่างกายกำยำเดินเข้ามาหาพวกเขา
“พี่ธฤต จะมาทำไมไม่บอกผมสักคำ ผมจะได้ให้คนไปรับ”
ชายคนนั้นเอ่ยขึ้น
ธฤตญาณยิ้มให้ชายคนนั้น แล้วหันไปแนะนำชายคนนั้น ให้กับรพีพงษ์ “คนนี้คือชัยภัทร ที่ผมเคยคุยกับพี่ เขาเป็นคน จัดการและรับผิดชอบเรื่องที่เมืองแทยกมาตลอด
พูดจบ ธฤตญาณก็มองไปที่ชัยภัทรแล้วพูดว่า “ท่านนี้คือรพี พงษ์ เรียกว่าพีรพี”
ชัยภัทรมองรพีพงษ์อย่างประเมิน จู่ๆ เขาก็อึ้งไปคนคนนี้ดูไปก็แค่คนธรรมดา มีอะไรที่เขาต้องเรียกว่าตัว
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ