บทที่ 424 คนบ้านเดียวกัน
บทที่ 424 คนบ้านเดียวกัน
รพีพงษ์เดินออกมาจากคฤหาสน์อย่างประหลาดใจ ถ้าพูด ตามหลักการแล้ว การที่เขาเดินออกมาจากคฤหาสน์ต้องมีคน วิ่งมาจับตัวเขากลับไปในคุกใต้ดินสิ
แต่ทว่าหลังจากที่ออกมากลับไม่มีใครตามเขามาเลยสักคน เขายืนอยู่ที่เดิมครู่หนึ่ง ยังคงไม่มีใครเดินมาหาเขา มันทำให้ เขารู้สึกผิดเหมือนมีอะไรผิดปกติ
รพีพงษ์รู้สึกเช่นนั้น และเขาก็มีลางสังหรณ์ไม่ดี เมื่อมาอยู่ใน สถานที่ไม่คุ้นเคย เขาจำเป็นต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก เพื่อ ตัวเองจะได้มีชีวิตรอดต่อไป
เมื่อไม่มีใครมา รพีพงษ์คิดไปคิดมา จากนั้นเขาจึงกลับไปที่ คุกใต้ดินด้วยตัวเอง
ถึงแม้ว่าตอนนี้จะไม่มีใครสนใจเขา ถึงเขาคิดจะหนีก็ไม่มี ใครเห็นแน่นอน
แต่ว่าเขามาที่นี่เพื่อตามหาคน ตอนนี้เป้าหมายของเขายังไม่ สำเร็จ ถ้าเขาหนีไปก็เท่ากับการมาที่นี่สูญเปล่า
เขาเดินไปบนถนนที่เงียบสงัด ไม่มีใครสักคน
รพีพงษ์ไม่รู้ว่าที่กิสนาเมื่อตกดึกจะเงียบขนาดนี้ หรือเงียบ แค่วันนี้เท่านั้น บรรยากาศที่เงียบจนผิดปกติ ทําให้เขารู้สึกถึง ลางสังหรณ์ที่ไม่ดี
เขาเดินไปเกือบครึ่งทาง จู่ๆ รพีพงษ์ก็รู้สึกเหมือนมีอะไรอยู่ ด้านหลัง ราวกับมีอะไรซ่อนอยู่ ทันใดนั้นเขาจึงเตรียมรับมือ กับการปรากฏตัวของสิ่งที่มองไม่เห็น
เขาทำเป็นไม่รู้และแกล้งเดินต่อไป จู่ๆ ก็มีเงาดำปรากฏตัวขึ้น ข้างหลังเขาอย่างรวดเร็ว ภายใต้แสงของดวงจันทร์ เขาเห็น มือข้างหนึ่งของเงานั่น มันถือมีดสั้นอยู่ในมือ
รพีพงษ์หันหลังกลับ แล้วกระโจนเข้าหาเงานั่นอย่างไม่ลังเล
เงานั่นเห็นรพีพงษ์หันหลังกลับมา อย่างไม่กลัว การ เคลื่อนไหวของมือเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว มีดสั้นเล่มนั้นก็พุ่ง เข้ามาหารพีพงษ์
รพีพงษ์ดูออกว่า คนคนนี้มีพละกำลังมาก แข็งแกร่งกว่าสวิส ประมาณหนึ่งขั้น
หรือว่าคุณหนูฝนสุดานั่นจะหาคนมาจัดการเขาอย่างนั้นเหรอ ความสงสัยแวบเข้ามาในใจของรพีพงษ์
ถ้าพูดตามหลักการ เขาเอามือถือของเธอมา จากนิสัยของ เธอไม่น่าจะทำกับเขาแบบนี้ เขาเพิ่งออกมาจากคฤหาสน์ของ ฝนสุดาได้ไม่นาน ทำไมถึงมีคนมาตามฆ่าเขาแล้วล่ะ
ความคิดนี้แวบเข้ามาในหัวของเขา รพีพงษ์ตั้งสติเพื่อจะ รับมือกับคนที่จะฆ่าเขา อีกฝ่ายมีพละกำลังมาก ไม่เหมือนกับ พวกที่อยู่ในคุกใต้ดิน ถ้าเดาไม่ผิด คนคนนี้น่าจะเป็นผู้มีฝีมือ ในกิสนา ไม่ก็บอดี้การ์ดที่อยู่ในตระกูลชั้นนำ
คนที่มาเพื่อฆ่ารพีพงษ์ รู้ตัวว่าเขาไม่สามารถจัดการรพีพงษ์ ได้ในเวลาอันสั้น เขารู้สึกตกใจ จากนั้นจึงต่อกรกับรพีพงษ์อีก ครั้ง ไม่เพียงแค่จะไม่สามารถทำร้ายรพีพงษ์ได้ กลับกันรพี พงษ์ยังทําให้มีดในมือของเขาตกลงไปบนพื้นด้วย
รพีพงษ์ใช้โอกาสที่มันเผลอ เขาจับข้อมือของมันเอาไว้ จาก นั้นเขาก็จัดการไปที่จุดสำคัญของมัน ถ้าอีกฝ่ายยังกล้าขัดขืน รพีพงษ์ก็สามารถหักแขนของมันได้ทันที
เหมือนมันรู้ตัวว่าตัวเองไม่สามารถสู้รพีพงษ์ได้ จึงไม่ได้
ขัดขืนเขา
“ใครส่งแกมา” รพีพงษ์เอ่ยขึ้น
มันใช้แสงจันทร์มองรพีพงษ์ สีหน้าของมันดูตื่นตระหนก จาก นั้นมันจึงถามออกมาด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจ “ระ รพีพงษ์ ใช่นาย ไหม”
รพีพงษ์อึ้งไปเพราะคิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะเรียกชื่อเขา อีกทั้ง น้ำเสียงของอีกฝ่ายยังเหมือนกับรู้จักเขามานานอีกด้วย
“แกเป็นใคร” รพีพงษ์เอ่ยขึ้น
อีกฝ่ายรีบใช้มืออีกข้างถอดหมวกโม่งออก เผยให้เห็นใบหน้า คล้ำแดด ใบหน้านั่นดูมืดมนเล็กน้อยเมื่ออยู่ภายใต้แสงจันทร์
เมื่อเห็นใบหน้านั้น ความทรงจำบางอย่างก็แวบเข้ามาในหัว ของรพีพงษ์ “เตชัส”
“เตชัส ใช่นายหรือเปล่า” รพีพงษ์ถามออกไปอย่างไม่แน่ใจ
อีกฝ่ายพยักหน้าทันที เขาพูดด้วยสีหน้าตื่นเต้น “ฉันเอง รพี พงษ์ คิดไม่ถึงว่าจะเจอนายที่นี่ ทําไมนายถึงมาที่นี่ล่ะ”
รพีพงษ์ปล่อยมือของเตชัส เขายิ้มออกมาแล้วมองคนที่อยู่ ตรงหน้าอย่างคาดไม่ถึง เขารู้สึกเหมือนเจอคนบ้านเดียวกัน อย่างไรอย่างนั้น
เตชัสเป็นเพื่อนที่รพีพงษ์รู้จักตอนที่เขาได้รับการยอมรับจาก อาจารย์และเขามาฝึกฝนในป่าลึกที่สำนักศิลปะการป้องกันตัว เขารู้จักกับเตชัสในหมู่บ้านละแวกนั้น
ในตอนนั้นอาจารย์ของรพีพงษ์ได้คิดค้นกระบวนท่าที่ค่อน ข้างวิปริต ถ้าตอนนี้เขาอยู่ในป่าลึกวันๆ นอกจากฝึกวิชาก็คง ไม่ได้ทําอะไรอีก
บางครั้งรพีพงษ์ก็แอบอู้ไปเที่ยวเล่นตามภูเขา ตอนนั้นเอง เขาก็ได้เจอกับหมู่บ้านแห่งหนึ่งในภูเขา และได้เจอกับเตชัส
หมู่บ้านที่เตซัสอยู่สามารถพูดได้ว่าแตกต่างจากโลก การนอกอย่างสิ้นเชิง คนที่ใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นค่อนข้างล้าหลัง พวกเขายังคงใช้ชีวิตและเครื่องมือในการดำรงชีวิตแบบเมื่อ สิบกว่าปีที่แล้ว และรู้เรื่องภายนอกน้อยมาก
แต่สิ่งที่แปลกประหลาดของหมู่บ้านแห่งนี้คือ คนในหมู่บ้าน แห่งนี้ล้วนมีพละกำลังมาก แทบจะเป็นสองเท่าของคนทั่วไป รพีพงษ์คิดว่าคนในหมู่บ้านนี้ยังมีวัฒนธรรมการล่าสัตว์และใช้ แรงงานอย่างหนักอยู่ จึงทำให้พวกเขามีพละกำลังมาก
หลังจากที่ได้รู้จักกับเตชัส รพีพงษ์มักจะพาเตชัสไปฝึกด้วย กันบ่อยๆ พละกำลังของเตชัสดีที่สุดเท่าที่รพีพงษ์เคยเจอมา เขาซ้อมกับรพีพงษ์โดยไม่ได้เป็นภาระอะไรให้รพีพงษ์เลย
รพีพงษ์มักจะเอาเคล็ดวิชาที่อาจารย์สอนให้ มาสอนให้กับ เตชัส การเรียนรู้ของเตชัสก็ดีมากเช่นกัน ระยะเวลาเพียงไม่ นาน ฝีมือของเขาใกล้จะไล่ตามรพีพงษ์มาแล้ว
อาจารย์ของรพีพงษ์รู้เรื่องของเตซัส แต่เขาไม่ได้ห้ามรพีพงษ์ เรื่องที่เอาเคล็ดวิชาไปสอนต่อให้กับคนอื่น
ตอนนั้นรพีพงษ์ยังพาเตซัสไปเจออาจารย์ด้วย เขาอยากให้ อาจารปรับเตชัสเป็นลูกศิษย์ แต่อาจารย์ปฏิเสธ
ก่อนที่ชีวิตการฝึกฝนจะจบลง รพีพงษ์เล่าเรื่องราวอัน สวยงามของโลกภายนอกให้เตชัสฟัง อยากให้เขามีโอกาสได้ไปมองโลกภายนอก
เตชัสก็อยากเห็นโลกภายนอกเหมือนกัน หลังจากนี้เขาอยาก จะออกไปชมโลกภายนอก และเมื่อถึงตอนนั้นเขาก็อยากคุย เรื่องราวเก่าๆ กับรพีพงษ์
แต่ทว่าหลังจากที่เขาออกมาจากภูเขา รพีพงษ์ก็ไม่ได้เจอกับ เตชัสอีกเลย จึงไม่รู้ว่าเตชัสออกมาจากหมู่บ้านแล้วไปที่ไหน แล้วหรือยัง
เขาคิดไม่ถึงจริงๆว่าจะได้เจอรพีพงษ์ที่กิสนาอีกครั้ง
“ไม่เจอกันนาน นายดูคล้ำขึ้นนะ” รพีพงษ์ยิ้มให้เตชัส
เตชัสเอามือเกาหัวอย่างเคอะเขิน จากนั้นจึงพูดว่า “เพราะมัน มืดต่างหาก ตอนกลางวันไม่ได้ดำขนาดนี้”
“ทำไมนายถึงมาอยู่ที่นี่ ตอนแรกนายจะออกไปดูโลกข้าง นอกไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงมาอยู่ที่กิสนาได้ล่ะ” รพีพงษ์ไม่ได้ เซ้าซี้สีผิวของเตชัส และถามเขาอย่างจริงจัง
“ถ้าให้พูดก็ยาวอีก ตอนนี้ฉันไม่มีโอกาสอธิบายให้นายเข้าใจ สรุปว่าฉันเข้ามาที่นี่แบบงงๆ แล้วก็เข้าไปอยู่ในอันดับในอันดับ ที่ 13 ของเทพเจ้าแห่งสงครามแบบงงๆ เหมือนกัน ต่อมาเมื่อ ฉันอยากออกไปจากที่นี่ แต่มันก็ไม่มีโอกาสได้ออกไปอีกแล้ว” เตชัสพูดอย่างหดหู่
“นายนั่นแหละ ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้?” เตชัสย้อนถาม
รพีพงษ์ไม่ได้รีบถามเตชัสว่ารายชื่อคนมีฝีมือคืออะไร เขา ยิ้มแล้วพูดกับเตชัสว่า “ฉันมาตามหาคนที่นี่”
เตชัสพยักหน้าแล้วพูดว่า “แล้วนายไปล่วงเกินอะไรธนเทพ ทำไมเขาต้องจ้างคนมาตามฆ่านายด้วย”
รพีพงษ์ขมวดคิ้ว บ่งบอกว่าเขาไม่รู้ว่าธนเทพคือใคร
“ธนเทพคือใคร” รพีพงษ์เอ่ยขึ้น
“คุณชายของตระกูลวัชรากิจกุล เขาเป็นแขกประจําที่กิสนา เขาจ้างฉันมาฆ่านาย เมื่อกี้นายออกมาจากบ้านของคุณหนูฝน สุดา ฉันรู้ว่าธนเทพจีบเธอมาตลอด นายไม่ได้ไปแทะโลมผู้ หญิงของเขาใช่ไหม” เตชัสยิ้มกับรพีพงษ์อย่างมีเลศนัย
จู่ๆ รพีพงษ์ก็ทำหน้าเหยเก เขาคิดไม่ถึงว่าการที่ฝนสุดาเรียก เขามา จะทําให้ธนเทพจับตามองและจ้างคนมาฆ่าเขา
ดูเหมือนว่าชีวิตของคนจะไม่อยู่ในสายตาของเหล่าคนใน ตระกูลชั้นสูง
“ฉันดูเป็นคนแบบนั้นเหรอ คุณหนูอะไรนั่นเรียกฉันไป ฉันไม่รู้ ว่าธนเทพเป็นอะไรกับคุณหนูฝนสุดาเลยด้วยซ้ำ” รพีพงษ์พูด อธิบาย
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ