แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

บทที่ 423 ความลับของฝนสุดา



บทที่ 423 ความลับของฝนสุดา

บทที่ 423 ความลับของฝนสุดา

“นายทำอะไร ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!”

ฝนสุดาเบิกตาโพลงมองรพีพงษ์ สีหน้าของเธอเต็มไปด้วย ความไม่อยากจะเชื่อ เธอนึกว่าเขาจะถอดเสื้อของเธอ คิดไม่ ถึงว่าเขาจะเอาเชือกที่ติดอยู่กับชุดกิโมโนมามัดตัวเธอเอาไว้

เธอยืนอยู่ที่เดิมโดยไม่สามารถขยับตัวได้ เธอทำได้เพียง เบิกตามองรพีพงษ์

“คุณใจเย็นก่อน ผมไม่ได้อยากทําร้ายคุณ” รพีพงษ์พูดกับ ฝนสุดา จากนั้นเขาก็หมุนตัวมองไปรอบๆ ห้อง

ขณะนั้นเองฝนสุดาจึงรู้ว่ารพีพงษ์ไม่ได้จะทำอะไรเธอ ถ้า เปลี่ยนเป็นผู้ชายคนอื่นล่ะก็ ตอนนี้คงอยากอุ้มเธอขึ้นไปบน เตียงจนอดไม่ไหว แต่ไอ้หมอนี่กลับมัดเธอเอาไว้

นี่มันทำให้เธอเปลี่ยนมุมมองในการมองผู้ชาย ในโลกใบนี้ยัง มีผู้ชายที่ยังไม่เข้าใจอะไรแบบนี้

“นายปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ฉันเป็นคุณหนูแห่งตระกูลก้องวณิช กุลเชียวนะ ฉันแค่พูดก็สามารถเอาชีวิตของนายได้แล้ว ถ้า นายอยากมีชีวิตต่อไป ก็จงเชื่อฟังฉัน” ฝนสุดาขมวดคิ้วแล้วพูดกับรพีพงษ์

“วันนี้คุณเห็นพละกำลังของผมแล้ว ตอนนี้ในห้องมีแค่ผม กับคุณ ถ้าผมอยากฆ่าคุณ ไม่จําเป็นต้องพูดอะไรสักคำ หวัง ว่าคุณจะเข้าใจสถานะระหว่างผมกับคุณ คุณไม่ต้องคิดทํา อะไร” รพีพงษ์พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

จู่ๆ ฝนสุดาก็ไม่รู้จะพูดเถียงรพีพงษ์อย่างไร เธอทําได้เพียง กัดฟันมองรพีพงษ์อย่างโมโห

รพีพงษ์มองไปรอบๆ ห้องของฝนสุดา เขาไม่เห็นว่ามีอะไรน่า สนใจเป็นพิเศษ ที่นี่น่าจะเป็นสถานที่ที่กิสนาเตรียมให้พวกเขา ไม่มีข้อมูลอะไรที่เกี่ยวกับตระกูล

เขาไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับตระกูลของฝนสุดา แต่ก็พอเดาได้ จากคำพูดของเธอว่าตระกูลนี้ไม่ธรรมดา แถมยังมาเที่ยวที่นี่ ได้ ก็ต้องเป็นคนที่อยู่ในตระกูลสูงส่งอย่างแน่นอน ถึงจะไม่รู้ ว่าตระกูลก้องวณิชกุลจะมีอิทธิพลแค่ไหน แต่สิ่งที่สามารถ ยืนยันได้ก็คือตระกูลนี้แข็งแกร่งกว่าตระกูลลัดดาวัลย์แน่นอน

ถึงจะเป็นตระกูลที่มีอิทธิพลมากในเกียวโต ตระกูลลัดดา วัลย์ไม่เคยมีโอกาสมาที่กิสนา นี่แสดงให้เห็นว่าในสายตาขอ งกิสนา ตระกูลลัดดาวัลย์ไม่มีคุณสมบัติเพียงพอ

“บอกผมว่าที่ที่เราอยู่คือที่ไหน ที่นี่ห่างจากประเทศจีนแค่ ไหน” รพีพงษ์เอ่ยถาม
ฝนสุดาส่งเสียงหีแล้วพูดว่า “ทำไมฉันต้องบอกนาย นายรีบ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นฉันจะบอกหัวหน้าของกิสนาให้จัดการ นาย”

รพีพงษ์ยกยิ้มร้ายกาจ เขาเดินเข้าไปตรงหน้าของฝนสุดา แล้วใช้มือลูบไปที่ใบหน้าเนียนละเอียดของหญิงสาว “ตอนนี้ คุณเป็นลูกแกะในกำมือของผม ถ้าคุณไม่เชื่อฟังผม ผมจะให้ คุณได้ลิ้มรสกับวิธีการของผม

“เหอะ อย่าคิดว่าฉันจะกลัวนาย กลับกันฉันชอบเรื่องแบบ นี้มาก นายทําให้ฉันตื่นเต้นสิ ฉันไม่ใช่คนที่รักนวลสงวนตัว หรอกนะ” ฝนสุดาพูดอย่างหงุดหงิด

“ต๊ะ? งั้นเหรอ งั้นถ้าผมแอบพาคุณไปที่คุกใต้ดินล่ะ ที่ห้อง ของพวกเรายังมีผู้ชายกำยำอีกยี่สิบกว่าคนนะ คุณไม่ถือสา จริงเหรอ” รพีพงษ์เอ่ยขึ้น

สีหน้าของฝนสุดาชะงักไป เธอรู้สึกเหมือนโดนข่มขู่ คิดไม่ ถึงว่าไอ้หมอนี่จะร้ายกาจจนไม่รู้ว่าอะไรดีอะไรชั่ว รวมทั้งการ ที่เรียกเขามา เขากลับจะพาเธอไปที่คุกใต้ดิน น่าเกลียดจริงๆ

“ทะ ทีนี่คือส่วนกลางแอนดีสในอเมริกาใต้ ส่วนห่างจาก ประเทศจีนเท่าไร นายน่าจะรู้ดี” ฝนสุดาลังเลเล็กน้อย สุดท้าย เธอก็ต้องยอมแก้ให้กับผู้ชายซื่อบื้ออย่างรพีพงษ์
อีกด้านหนึ่ง ในคฤหาสน์ ธนเทพกำลังนัวเนียกับผู้หญิงสาม คนบนเตียง

ผ่านไปพักใหญ่ ธนเทพลงมาจากเตียงแล้วเดินไปที่หน้าต่าง เขาหยิบ การออกมาสูบ

ขณะนั้นเองมีเสียงเคาะประตูดังขึ้นจากข้างนอก ธนเทพไม่ ได้สนใจว่าผู้หญิงสามคนบนเตียงจะมีเสื้ออยู่บนตัวหรือไม่ เขาพูดออกมาว่า “เข้ามา”

ลูกน้องของธนเทพเดินเข้ามา เขาปรายตามองผู้หญิงสามคน บนเตียง จากนั้นจึงก้มหน้าพูดกับธนเทพ “คุณชาย เมื่อครู่ผม เห็นคนพาไอ้หนุ่มที่มีฝีมือโดดเด่นในการประลอง ไปที่พักของ คุณหนูสุดา จนถึงตอนนี้มันก็ยังไม่ออกมา

เมื่อธนเทพได้ยิน เขาก็ชะงักมือที่กำลังจะยกซิการ์ขึ้นมาสูบ ซิการหลุดออกจากมือของเขาจนหล่นลงไปบนพื้น เขายกเท้า กระทืบลงไปบนพื้น แล้วก่นด่าในใจ

“นังฝนสุดา ไปมีใจให้ไอ้หมาตัวนั้น แต่กลับไม่เปิดใจให้ฉัน สมองของมันมีปัญหาหรือยังไง!” ธนเทพกัดฟันพูด ธนเทพเคย ได้ยินความชอบของฝนสุดา ว่ากันว่าฝนสุดาชอบไปหาพวก ผู้ชายที่น่าสนใจในสังคมชั้นต่ำ และเธอก็ไม่ลังเลที่จะทำอะไร กับพวกเขา

เธอเรียกมันว่าอิสระ แต่สําหรับธนเทพ การทําแบบนี้มันเป็น พฤติกรรมโง่ๆ ที่ลดคุณค่าของตัวเอง
แต่สิ่งที่สำคัญก็คือ ไม่ว่ายังไงธนเทพก็เป็นคุณชายใน ตระกูลใหญ่ แต่กลับไม่อยู่ในสายตาของฝนสุดา นี่เป็นเรื่องที่ เขาหงุดหงิดที่สุด

เขายืนอยู่ข้างเตียงอยู่ครู่ใหญ่ ธนเทพหรี่ตาลง สายตาของ เขามีแววอาฆาต จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “ไป หาคนในอันดับเทพเจ้าแห่งสงครามที่กิสนา ฉันให้ร้อยล้าน จัดการไอ้หมอนั่นให้ตาย เริ่มทำคืนนี้เลย ฉันจะสั่งสอนให้ไอ้ พวกไม่รู้จักชั่วดีได้รู้ว่า มันไม่มีสิทธิ์มาแหย็มฉัน”

ลูกน้องที่ยืนอยู่ข้างหลังธนเทพพยักหน้า จากนั้นจึงหันหลัง เดินออกไป

ในห้องของฝนสุดา เมื่อรพีพงษ์ได้ยินฝนสุดาบอกว่าที่นี่คือ ส่วนกลางแอนดีส เขาจึงขมวดคิ้วขึ้นทันที

เขาเดาได้ว่ากสินาไม่ได้ตั้งอยู่ในประเทศ แต่คิดไม่ถึงว่าจะ อยู่ไกลขนาดนี้ ถึงจะหนีออกไปจากที่นี่ได้ แต่เมื่ออาหารและ น้ำดื่มไม่เพียงพอ ก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่จนหนีพ้นไปได้

“กิสนามีหัวหน้าหรือเปล่า” รพีพงษ์ถามขึ้นอีกครั้ง

“มี หัวหน้าที่นี่มีอำนาจไม่น้อยไปกว่ากลุ่มบริษัทชั้นนำของ โลก ถ้าเขารู้ว่านายปฏิบัติกับแขกแบบนี้ เขาไม่ปล่อยนายไว้ แน่” ฝนสุดาพูดออกมาอย่างหงุดหงิด

รพีพงษ์พยักหน้าเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ คิดไม่ถึงว่าที่กิสนาจะมีหัวหน้า นนทภูมาอยู่ในนี้หลายปี ถ้าเขายังมีชีวิตอยู่ หัวหน้าคนนี้น่าจะรู้เบาะแสของเขา

“ถ้าผมปล่อยคุณ คุณจะให้คนมาจัดการผมหรือเปล่า” รพี พงษ์ถามขึ้น

“นายคิดว่าไงล่ะ?” ฝนสุดาจ้องรพีพงษ์ด้วยสีหน้าทะมึน ไม่ ต้องบอกก็รู้ว่าเธอจะทำอย่างไร

รพีพงษ์กุมขมับ เมื่อกี้ที่เขามัดเธอเอาไว้ ก็เพราะไม่รู้จะทำ อย่างไร ตอนนี้เขาไม่รู้ว่าจะทำให้ฝนสุดาปล่อยเขาไปอย่างไร ถ้าเธอเอาเรื่องนี้ไปบอกคนในกิสนาจริงๆ เขากลัวว่าตัวเองจะ ต้องหนีออกจากที่นี่ หลังจากที่เพิ่งมาถึงไม่กี่วัน

เขาไม่เคยสงสัยถึงพละกำลังของคนมีฝีมือที่กิสนา ถึงจะ เป็นแค่พวกที่อยู่ในคุกใต้ดิน แต่ระดับฝีมือเทียบเท่ากับคน มีฝีมือในตระกูลลัดดาวัลย์ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีคนฝีมือระดับ ปรมาจารย์อยู่ที่นี่อีกด้วย

จงจินตน์บอกรพีพงษ์ว่าคนในคุกใต้ดินคือคนชั้นต่ำที่สุดใน กิสนา พละกำลังของพวกเขาอยู่ในระดับต่ำ ยังมีคนที่มีฝีมือ จริงๆ สิ่งที่พวกคนรวยอยากดูก็คือการประลองฝีมือของพวก คนมีฝีมือ

“หึ กลัวเหรอ ถ้านายกลัวก็รีบปล่อยฉันแล้วก็ฟังฉัน ถ้านาย ทำให้ฉันมีความสุข ฉันอาจจะลองคิดเรื่องปล่อยนายไป อย่างนั้นนายก็รอรับความตายได้เลย!” ฝนสุดากดเสียงต่ำพูดกับรพีพงษ์

ขณะนั้นเองรพีพงษ์เหลือบไปเห็นมือถือที่อยู่บนโต๊ะ เขา กลอกตาไปมา แล้วเดินไปหยิบมือถือที่วางอยู่บนโต๊ะ

ฝนสุดาเห็นดังนั้นก็หน้าเปลี่ยนสี เธอรีบพูดขึ้นทันทีว่า “นาย วางมือถือลงเลยนะ!”

รพีพงษ์หัวเราะแล้วพูดว่า “กระวนกระวายอะไรขนาดนั้น ดู เหมือนว่าจะมีความลับอยู่ในมือถือไม่น้อยเลยสินะ”

จากนั้นเขาจึงเปิดมือถือ แล้วใช้มือปัดหน้าจอไปมา เขาดูตรง บันทึกในมือถือว่ามีอะไรเกี่ยวกับฝนสุดาบ้าง

แต่ทว่ารพีพงษ์ดูอยู่นาน กลับไม่เจออะไรเลย เป็นข้อความที่ เด็กผู้หญิงทั่วไปชอบพิมพ์กัน ส่วนบันทึกในมือถือก็เป็นไดอารี่ ที่เธอเขียนถึงความเกลียดชังที่มีต่อพ่อ

ดูตามหลักเหตุผลแล้ว อะไรพวกนี้ไม่น่าจะทำให้ฝนสุดา กระวนกระวายขนาดนี้ ในมือถือต้องมีอะไรที่รพีพงษ์ยังไม่เห็น

เขาคิดไปคิดมา แล้วกดดูในอัลบั้ม เลือดกำเดาของเขา เกือบจะไหลออกมา ในอัลบั้มเป็นภาพเซลฟี่แสนเซ็กซี่ของฝน สุดา ภาพนั้นความละเอียดสูง เขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าคุณหนูใน ตระกูลชั้นนำจะมีงานอดิเรกแบบนี้ เป็นคุณหนูที่โดดเด่นกว่า ใครในบรรดาคุณหนูทั้งหลายจริงๆ
รูปพวกนี้คงเป็นสาเหตุที่ทำให้ฝนสุดากระวนกระวายใจ

“คิดไม่ถึงว่าภายใต้ใบหน้าอันบริสุทธิ์ จะซ่อนความตื่น กระหายเอาไว้ คนในตระกูลสูงเขาสะกดอารมณ์เอาไว้แบบนี้ เหรอ” รพีพงษ์ถามอย่างติดตลก

“นายวางมือถือฉันลงเลยนะ นายรู้หรือเปล่าว่าการที่เปิดมือ ถือของคนอื่นดู เป็นเรื่องที่ไม่มีมารยาท ไม่มีใครสั่งสอน!” ฝน สุดาพูดอย่างเสียงดัง

“ผมจะเอาชีวิตไม่รอดอยู่แล้ว จะไปกลัวเรื่องมารยาททำไม ล่ะ” รพีพงษ์ยิ้มแล้วพูดออกมา

ฝนสุดากัดฟันกรอด “นายวางมือถือลงแล้วปล่อยฉัน ฉัน สัญญาว่าจะไม่ทําให้นายเดือดร้อน และจะปล่อยนายไป ทันที”

รพีพงษ์หัวเราะหึหึ เขาไม่เพียงแต่จะไม่วางมือถือลง แต่กลับ เอามือถือใส่เข้าไปในเสื้อของตัวเอง

“ผมจะเก็บมือถือนี้ไว้ชั่วคราว ถ้าคุณให้คนมาจัดการผม ผม จะเอารูปในมือถือทั้งหมดลงอินเทอร์เน็ต เมื่อถึงตอนนั้นคุณ หนูตระกูลก้องวณิชกุล คงจะเป็นดาราชั้นนำระดับโลก” รพี พงษ์ยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น

“นายกล้าเหรอ!” ฝนสุดาพูดด้วยสีหน้ากระวนกระวาย
“ผมจะกล้าหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะปฏิบัติต่อผมอย่างไร” รพีพงษ์เดินเข้าไปตรงหน้าของฝนสุดาแล้วแก้เชือกที่มัดออก

ฝนสุดาจะกระโจนเข้าไปหารพีพงษ์เพื่อแย่งมือถือมา แต่เธอ รู้ว่าตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของรพีพงษ์ สุดท้ายเธอจึงทำได้เพียง จ้องรพีพงษ์ด้วยความโมโห เธอชี้ไปที่ประตูห้องแล้วแผดเสียง ออกมาว่า “รีบไสหัวไปซะ ฉันไม่อยากเห็นหน้านายอีก ถ้ารูป ในมือถือของฉันหลุดออกไปแม้แต่รูปเดียว ฉันจะสับนายเป็น หมื่นชิ้น!”

รพีพงษ์ไม่พูดอะไรแล้วเดินออกไปข้างนอก

เมื่อเดินมาถึงข้างนอก รพีพงษ์เห็นบอดี้การ์ดยืนรออยู่ที่หน้า ประตู เขาเดินลงไปโดยไม่ได้สนใจบอดี้การ์ด

บอดี้การ์ดรีบเข้าไปในห้อง เขาเห็นฝนสุดากำลังผูกเชือกชุด กิโมโน ผมเผ้ายุ่งเหยิง หน้าแดงระเรื่อ เหมือนเพิ่งทำอะไรบาง อย่างเสร็จ

เขายืนอึ้ง แล้วพูดพึมพำว่า “คุณผู้หญิง คุณกับเขา…

“ไสหัวไป!” ฝนสุดาตวาดใส่บอดี้การ์ด “ตอนนี้ฉันไม่มีกะจิต กะใจมาสนใจนาย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ