บทที่409 สิบนาที ทำให้ชื่อนี้สูญหายไป
บทที่409 สิบนาที ทำให้ชื่อนี้สูญหายไป
ทุกคนถูกเสียงพูดนี้ดึงดูดให้ฟัง พวกเขาล้วนหันไปดู เห็น รพีพงษ์ กำลังยืนอยู่ที่นั่น
“รพีพงษ์!” มีคนตะโกนขึ้นมาทันที
รพีพงษ์ส่งสายตาให้ธฤตญาณ ว่าเขาจะจัดการเอง ธฤต ญาณพยักหน้า จากนั้นก็หลีกทางให้รพีพงษ์
รพีพงษ์มองไปที่จารุณี แต่ตอนที่จารุณีสบตากับรพีพงษ์ นั้น ก็หันหน้าหลบทันใด
ขัดเจน ว่ากำลังมึนเมา ตอนนี้จารุณีก็ไม่อยากเจอรพีพงษ์
รพีพงษ์ถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย ตอนนี้เขาต้องตัดการ เรื่องที่อยู่ตรงหน้าก่อน ดังนั้นจึงไม่สามารถขอโทษจารุณี ได้ก่อน
ครองอาตม์มองไปที่รพีพงษ์ ขมวดคิ้ว เขาไม่คาดคิดว่าเรื่องนี้ยังมีคนอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องอีก แต่เขาก็ไม่ได้ หวาดหวั่น จะมาสักกี่คน เพียงแค่เป็นคนของเมืองริเวอร์ เขาก็ไม่ใส่ใจอะไรมากมายแล้ว
แต่เขารู้สึกค่อนข้างคุ้นเคยกับรพีพงษ์ชื่อนี้ เหมือนกับ ได้ยินที่ไหนมาก่อน
“มึงเป็นใครอีก พ่อกูจะมาแล้ว เกรงว่ามึงต้องคุกเข่า ขอโทษเขา” ครองอาตม์ตะโกนออกมา
รพีพงษ์เดินไปข้างหน้าของครองอาตม์ ชี้ไปทางจารุณี แล้วถาม “เมื่อกี้มึงลวนลามจารุณี?”
“ลวนลามแล้วไง กูจะเอามัน มึงจะทำอะไรก” ครองอาตม์ ไม่พอใจ
“ขอโทษเธอ แล้วกูจะยกโทษให้ มิเช่นนั้น คนที่โชคร้าย จะไม่ใช่แกคนเดียว” รพีพงษ์กล่าว
ครองอาตม์เยาะเย้ย แล้วกล่าว “ทำเป็นเจ๋ง เมื่อกี้กูได้ยิน คนรอบข้างเรียกมึงว่ารพีพงษ์ใช่ไหม กูนึกออกล่ะ ครั้งที่ แล้วที่กูมาเมืองริเวอร์ ได้ยินคนพูดว่า มึงเป็นไอ้สวะขึ้นชื่อ ของเมืองเลยล่ะ เกาะเมียกิน อย่างมึง ยังจะให้กูขอโทษ?”
พูดจบ เขามองคนรอบๆข้างอย่างสะใจ แล้วตะคอก “ไอ้ นี่มันคือไอ้สวะเมืองริเวอร์ของพวกมึงใช่ไหม ตลกชิบหาย เกาะเมียกิน ยังกล้ามายโสกับกูอีก พวกมึงว่าตลกไหม?”
ครองอาตม์คิดว่าเมื่อเขาตะโกนแบบนี้แล้ว ทุกคนจะต้อง เยาะเย้ยรพีพงษ์ไปพร้อมกับเขา แต่สิ่งที่เขาไม่คาดคิดคือ หลังจากที่เขาพูดจบ ผู้คนรอบๆกลับเงียบสงัด
ทุกคนมองเขาด้วยสีหน้างงงวย ทำเอาเขารู้สึกอับอายขึ้น มา
ครองอาตมไม่เข้าใจว่าทําไมทุกคนถึงมองเขาด้วยสายตา แบบนี้ ไอ้สวะคนหนึ่งมายโสโอหังต่อคุณชายตระกูลหนึ่ง ของเกียวโต พวกเขาควรที่จะเยาะเย้ยพร้อมๆกับเขาสิ?
ถ้าเป็นหนึ่งเดือนก่อนหน้านี้ รพีพงศ์ปรากฏกายที่นี่ สำหรับครองอาตม์แล้ว คนเหล่านี้อาจจะหัวเราะเยาะเย้ย ไปพร้อมกับเขาอย่างที่คิดไว้
แต่หลังจากงานแต่งที่โอ่อ่าอลังการที่ผ่านไปแล้วนั้น ก็ ไม่มีใครมองรพีพงษ์ว่าเป็นไอ้สวะอีกต่อไป
และทุกคนก็ไม่ได้สงสัยในคำพูดนั้นของรพีพงษ์เลย แม้แต่น้อย ครองอาตม์เป็นคุณชายในตระกูลหนึ่งของ เมืองเกียวโตจริง แต่เป็นแค่ตระกูลรองเท่านั้น ตอนรพี พงษ์แต่งงาน ตระกูลลัดดาวัลย์แห่งเกียวโตและหอการค้า สมน.ได้ให้ของมูลค่าค้างฟ้า
สองตระกูลใหญ่ของเมืองเกียวโตให้ความสำคัญกับรพี พงษ์ขนาดนี้ ถ้าใครยังมองว่ารพีพงษ์เป็นไอ้สวะล่ะก็ มันก็ บ้าเต็มทีแล้ว
“คนนี้ทันชั่งโชคร้ายจริงๆ โดนรพีพงษ์หาเรื่องแล้ว ถ้าไม่ เกิดความผิดพลาดใดๆล่ะก็ เขาจะต้องพบจุดจบที่แย่มาก แน่ๆ
“ก็แค่คนของตระกูลรองเมืองเกียวโตเท่านั้น รพีพงษ์เป็น คนที่มีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับตระกูลลัดดาวัลย์เมืองเกีย วโตนะ เขาจะชนะรพีพงษ์ได้ไงกัน น่าขำจริงๆ
“ไอ้นี่มันบ้า ยังคิดว่ารพีพงษ์เป็นไอ้สวะอยู่อีก ตอนนี้ที่เมืองริเวอร์ใครบ้างไม่รู้ ว่ารพีพงษ์เป็นคนที่ปตะต้องไม่ ได้ที่สุด”
ครองอาตม์ได้ยินคนรอบข้างถกเถียงกัน ฟังไม่ค่อย ชัดเจน จึงไม่รู้ว่าคนเหล่านั้นทำไมถึงมีปฏิกิริยาแบบนี้
แต่เขาคิดว่า ไม่ว่าคนเหล่านั้นจะมีปฏิกิริยาอย่างไร ตนก็ ไม่จำเป็นต้องกลัวไอ้สวะนี่
เขาหลับตาลง แล้วกล่าว “ในเมื่อมึงกล้าให้กูขอโทษ งั้น กูขอพูดอะไรอย่าง มึงมาคำนับกูสามครั้ง แล้วให้ผู้หญิงคน นั้นนอนกับกู แล้วกูจะไม่ถือสาอะไรอีก มิเช่นนั้น แม้แบล็ค กูจะอยู่เมืองเกียวโต แต่ก็ยังสามารถทำให้พวกต็อกต๋อยอ ย่างมึงอยู่ไม่ได้ต่อไปเช่นกัน”
รพีพงษ์ได้ยินครองอาตม์พูด จึงเดินไปข้างหน้า แล้วตบ ลงไปหนึ่งฉาด กล่าว “ไร้มารยาท ต้องโดนตบเสียบ้าง!”
ครองอาตม์รู้สึกหน้าของตัวเองร้อนผ่าวๆ แล้วรีบเอามือ จับหน้าไว้
“มึงกล้าตบกู”
ครองมาตย์เครียด ตอนนั้นโดนจารุณีตบไปหนึ่งฉาด ตอนนี้ยังโดนไอ้สวะเมืองริเวอร์ตบอีกหนึ่งฉาด หน้าของ คุณชายแห่งเมืองเกียวโตโดนตบจนอับอาย
เขาผลักร่างของรพีพงษ์ เพราะอยากที่จะกู้ศักดิ์ศรีคืนมา เขาคิดว่า ไอ้สวะเมืองริเวอร์ไม่มีทางเก่งไปกว่าธฤตญาณ แน่นอน
แต่ทว่าเขายังไปไม่ถึง รพีพงษ์ก็ถีบเขาเข้าให้ จนครองอา ตม์ลอยไป
ครองอาตม์ล้มลงกับพื้น เจ็บจนเลือดตกยางออก เขารับ ไม่ได้กับการเสียหน้าของค่ำคืนนี้ได้อีกต่อไป จากนั้นหยิบ มือถือออกมาจากชุดของตน แล้วโทรหาพ่อ
“พ่อ ผมโดนคนรังแกอยู่ที่เมืองริเวอร์ คนหนึ่งชื่อธฤต ญาณ อีกคนชื่อรพีพงษ์ แล้วยังมีผู้หญิงอีกคน ผมจะถ่าย รูปส่งให้พ่อดู พ่อรีบจัดคนมาจัดการพวกมันเลยนะ
ไม่งั้นวันนี้ลูกชายพ่ออับอายขายขี้หน้าคนเลยนะ
พูดจบ เขาก็วางสายไป ถ่ายรูปรพีพงษ์ทั้งสามคน ส่งให้
พ่อเขาดู
รพีพงษ์เห็นครองอาตม์ยังไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง จึงไม่เกรงใจ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือตอนนั้นครงอาตม์ยังคิดจะลวนลามจา รุณี เพิ่งจะเข้าใจผิดจารุณี รพีพงษ์ที่กำลังคิดที่จะชดใช้ ความผิดอยู่พอดีเขาจึงรู้สึกอ่อนไหวต่อเรื่องนี้มากเมื่อเห็น จารุณีถูกรังแก
เขารู้สึกว่าความจริงตัวเองติดค้างจารุณีอยู่ ดังนั้นจึงอยาก ชดเชยให้มากที่สุด ตอนนี้ใครรังแกจารุณี ก็เหมือนกับรน หาที่ตายทั้งนั้น
เขาหยิบมือถือขึ้นมา โทรไปหาท่านคทา
“ตระกูลพงศ์บุญยภาของเกียวโต ฝีมือเป็นไง?” รพีพงษ์
ถาม
“เป็นตระกูลรอง ผมไม่ค่อยทราบเท่าไหร่นัก เพราะ ตระกูลแบบนี้ไม่มีสิทธิ์พอที่จะเป็นคู่ค้ากับพวกเรา ถ้าคุณ อยากได้รายละเอียดของตระกูลพงศ์บุญยภาล่ะก็ เดี๋ยวผม จะให้คนเตรียมไว้ให้” ท่านคทากล่าว
“ไม่จำเป็น ในเมื่อเป็นแค่ตระกูลเล็กๆเท่านั้น งั้นก็ไม่ จําเป็นต้องสืบแล้ว” รพีพงษ์กล่าวอย่างนิ่งสงบ “สิบนาที ทำให้ชื่อนี้สูญหายไปจากเกียวโต”
“ได้ครับคุณชาย” ท่านคทาไม่รอ รีบตอบรับคำสั่งของรพี พงษ์ทันที
หลังจากที่ครองอาตม์ส่งรูปไปให้พ่อเขาแล้วนั้น มองไป ที่รพีพงษ์อย่างเกรี้ยวกราด แล้วด่า “พวกมึงรอก่อน กูบ อกพ่อกูล่ะ เดี๋ยวเขาจะจัดคนมาจัดการกับพวกมึง พวกมึง เตรียมตัวตายได้เลย!
รพีพงษ์วางสายลง ไม่ได้สนใจครองอาตม์ แล้วมองไปที่ จารุณี
“นี เรื่องวันก่อนนั้น ผมเข้าใจคุณผิดไป ผมไม่ควรตบหน้า คุณ ผมขอโทษ ขอโทษนะ คุณยกโทษให้ผมได้ไหม?” รพี พงษ์กล่าวอย่างจริงใจ
จารุณีมองบน แล้วกล่าว “คุณบ้าป๊ะ ฉันไม่รู้ว่าคุณพูดถึง เรื่องอะไรอยู่”
พูดจบ เธอก็เดินไปที่เคาน์เตอร์บาร์ สั่งเหล้าหนึ่งแก้วกล็บเดียวหมด
เห็นจารุณีที่ซื่อๆเปลี่ยนเป็นแบบนี้ รพีพงษ์รู้สึกโทษตัว เอง ดูๆแล้วครั้งนี้เขาทำร้ายจารุณีอย่างมากเลยจริงๆ
คนรอบๆข้างมองรพีพงษ์และจารุณีทั้งสองอย่างแปลกใจ ไม่รู้ว่าทั้งสองมีความสัมพันธ์กันอย่างไร
“ทำไมรพีพงษ์ถึงได้รู้สึกผิดต่อผู้หญิงคนนั้นนะ? ทั้งคู่เป็น อะไรกัน? รพีพงษ์ไม่ใช่ว่าเพิ่งจะจัดงานแต่งกับอารียาไป อีกรอบไม่ใช่หรอ หรือนอกใจ?”
“เชรด นี่ข่าวใหญ่เลยนะ รพีพงษ์เพิ่งจะดูดีในสายตาคน อื่นไม่นานเองนะ คาดไม่ถึงว่าจะทำเรื่องแบบนี้ได้ คิดไม่ถึง จริงๆ”
“ที่แท้ พอผู้ชายมีเงินแล้วจึงเปลี่ยนไป ฉันคิดว่ารพีพงษ์ รักเดียวใจเดียว ตอนนี้ดูๆแล้ว ไม่ว่าใครก็เหมือนกันทั้งนั้น
รพีพงษ์กลายเป็นประเด็นร้อนที่ทุกคนกําลังเม้าท์มอยกัน คนจํานวนไม่น้อยเริ่มถ่ายรูปจารุณีไว้ ถามคนที่ตนเองรู้จัก อยากรู้ว่าจารุณีเป็นใครกันแน่
รพีพงษ์เห็นจารุณีเหงาหงอย ก็ถอนหายใจอย่าง หมดอาลัยตายอยาก จากนั้นก็มองไปที่ครองอาตม์อย่าง เกรี้ยวกราด อยากจะระบายความโกรธกับครองอาตม์ เต็มที
เขาเดินไป ดึงเสื้อของครองอาตม์ ไม่พูดอะไรมากแล้ว ต่อยไปทันที
ครองอาตมไม่ทันได้ระวังตัว ไม่นาน ก็ถูกรพีพงษ์ต่อยจน บวมเป็นหัวหมู
หลังจากที่ระบายอารมณ์เสร็จแล้ว รพีพงษ์ก็ปล่อยคน ของอาตม์ รอให้ท่านคทาจัดการเสร็จ ค่อยหาโอกาสค กับจารุณี
สิบนาทีผ่านไป ไม่นาน ท่านคทาโทรหารพีพงษ์
“คุณชาย เรียบร้อยครับ
รพีพงษ์อืม หลังจากวางสายแล้ว ก็มองไปที่ครองอาตม์ อีกครั้ง ตอนนี้มือถือของครองอาตม์ดังขึ้น เขามองไปที่ รพีพงษ์ด้วยความอาฆาต แล้วกล่าว “พ่อกูโทรหากูล่ะ เขา จัดการเรียบร้อยแล้วแน่นอน มึงรอก่อน กูจะทำให้มึงเป็น ทุกข์ ไอ้เหี้ยเอ้ย!”
พูดจบ เขาก็รับสาย
“พ่อ พ่อจัดการให้ผมแล้วใช่ไหม เมื่อกี้ไอ้เชียนั่นมันต่อย ผมไปยกนึง ครั้งนี้ผมจะทำให้ขามันหัก ค่อยๆทำให้มัน เจ็บ คุณชายของตระกูลพงศ์บุณยภา ไม่ควรเป็นที่ระบาย อารมณ์ของใคร!” ครองอาตม์ตะคอกออกมา
ปลายทางเงียบไปสองวินาที จากนั้นก็เกรี้ยวกราดขึ้นมา “กูต่างหากที่จะหักขามึง! มึงรู้ไหมว่ามึงหาเรื่องใครอยู่! มึง เป็นคุณชายตระกูลพงศ์บุณยภา ตระกูลพงศ์บุญยภาจะเอา ตัวไม่รอดแล้ว ต่อไปถึงจะเป็นแค่หมาที่โดนรังแกแล้ว!”
ครองอาตม์ชะงัก แล้วรีบถามทันใด “พ่อ หมายความว่า ไง? ตระกูลพงศ์บุญยภาเอาตัวไม่รอดอะไร? พ่อกำลังพูด อะไร?”
“รูปเมื่อกี้ที่มึงถ่ายมา คนหนึ่งคือคนของตระกูลลัดดาวัลย์ คนหนึ่งเป็นคุณหนูของหอการค้าสมน, มึงให้กูจัดคนไปตัด การพวกเขา ถึงบ้าไปแล้วหรือไง? ตระกูลลัดดาวัลย์ลงมือ กับพวกเราแล้ว ตระกูลพงศ์บุญยภาของกู กำลังจะพัง เพราะน้ำมือไอ้ไร้น้ำยาอย่างมึง!”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ