แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

บทที่308 รังเกียจที่ตัวเองอายุยาว



บทที่308 รังเกียจที่ตัวเองอายุยาว

บทที่308 รังเกียจที่ตัวเองอายุยาว

ดงเย็น คฤหาสน์กลางเมือง

หลังจากที่รพีพงษ์กลับมาจากสนามบิน ก็รีบกลับมาอย่างว่องไว ถึงแม้อารียาจะถูกธฤตญาณและเธียรวิชญ์ทั้งสองคนช่วยลงมา แล้ว แต่พอเห็นตัวของอารียา รพีพงษ์ยังคงกังวลอยู่บ้าง

หลังเขากลับมาถึงที่นี่ มองเห็นคนที่ธฤตญาณส่งมาคุ้มกันที่นี่ เขาก็เข้าไปบอกให้คนเหล่านั้นแยกย้าย ปัจจุบันนี้เขากลับมาแล้ว ไม่ต้องการคนอื่นมาปกป้องอารียาแล้ว

พอผลักประตูคฤหาสน์เปิด รพีพงษ์ก็มองเห็นอารียากำลังนั่ง ใจลอยอยู่บนโซฟา เสียงเปิดประตูทำให้อารียาได้สติกลับมา เธอ หันหน้ามองเข้าไป พบว่าเป็นรพีพงษ์กลับมาแล้ว จึงรีบลุกขึ้นพุ่ง เข้าไปที่รพีพงษ์ทางนั้นทันที

อารียากอดรพีพงษ์เอาไว้ รพีพงษ์ยื่นนิ่งอยู่ที่เดิม ยื่นมือมาโอบ เอวของอารียาไว้

“ในที่สุดนายก็กลับมาแล้ว ฉันเป็นห่วงแทบแย่จริงๆ ฉันยังคิดว่า ตัวเองจะไม่ได้เจอนายอีกแล้ว” ใบหน้าอารียาเต็มไปด้วยความลำบากใจเอ่ยปากขึ้น

รพีพงษ์นํามือข้างหนึ่งมาวางไว้บนศีรษะของอารียา ลูบไล้เบาๆ ไปหน่อย พลางเอ่ยปากบอก “ครั้งนี้เป็นความผิดของผม ทำให้ คณได้รับความสําบาก พวกคนกลุ่มนั้นไม่ได้ทำอะไรคุณนะ?”

อารียาส่ายหน้าบอก “พวกเขายังไม่ได้ทำอะไรกับฉัน ธฤตญาณ มาถึงทัน ตอนนี้คนพวกนั้นโดนธฤตญาณจับขึ้นมาไว้หมดแล้ว”

รพีพงษ์พยักหน้า เดินไปที่โซฟาทางนั้นด้วยกัน หลังจาก นั่งลงมา รพีพงษ์ก็มองทางอารียา เอ่ยปากถาม “ทำไมบริษัท อสังหาริมทรัพย์ เมค์สทางนั้นถึงจ้องคุณ พวกเขาน่าจะไม่มี โอกาสลงมือถึงจะถูก เล่าให้ผมฟังสักหน่อยได้มั้ยว่าเกิดเรื่อง อะไรขึ้น?”

ใบหน้าอารียาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด จากนั้นนําเรื่องที่ตนเอง กับบริษัท อสังหาริมทรัพย์ เมค์สเจรจาร่วมงานกันและตอนหลัง จากที่โดนไตรวิทย์ข่มขู่มาเล่าให้รพีพงษ์ฟัง และเล่าการกระทำ วันนั้นที่เธอโดนจับให้รพีพงษ์ฟังสักหน่อย

หลังจากรพีพงษ์ฟังแล้วถึงเข้าใจว่าทำไมบริษัท อสังหาริมทรัพย์ เมค์สทางนั้นถึงจ้องอารียาอยู่ เดิมทีการร่วมงาน ที่อารียาเจรจาครั้งนี้คือบริษัท อสังหาริมทรัพย์ เมค์ส
“รพีพงษ์ เรื่องนี้ต้องโทษฉัน ถ้าฉันบอกนายเร็วหน่อย เรื่องราว อาจจะไม่เปลี่ยนเป็นแบบนี้ ฉันไม่รู้ว่านายเข้าร่วมการแข่งขันโกะ และคู่แข่งเป็นคนของบริษัท อสังหาริมทรัพย์ เมค์ส” อารียาพูด ด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด

รพีพงษ์หัวเราะแล้วเอ่ยปากบอก “เรื่องนี้ไม่โทษคุณ โดยเฉพาะ คุณเพียงแค่คุยธุรกิจทั่วไป ไม่มีเจตนาร้าย เป็นคนของบริษัท อสังหาริมทรัพย์ เมค์สเท่านั้น”

อารียาถอนหายใจทีหนึ่ง บอกว่า “บริษัท อสังหาริมทรัพย์ เมค์ สเริ่มพุ่งเป้ามาที่บริษัทของพวกเรา ตอนนี้ไม่มีสักบริษัทยอมร่วม งานกับพวกเรา กลัวแต่อีกไม่นานเท่าไร บริษัทคงจะล้มละลาย”

“เรื่องนี้คุณไม่ต้องกังวล บริษัท อสังหาริมทรัพย์ เมค์สทำกับคุณ แบบนี้ ผมย่อมไม่ปล่อยพวกเขาไปแน่ ถึงสุดท้ายคนที่ล้มละลาย เกรงว่าจะเป็นแต่บริษัท อสังหาริมทรัพย์ เมค์ส” รพีพงษ์เอ่ยปาก บอก

อารียาจ้องรพีพงษ์ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ สําหรับเธอนั้นรพีพงษ์ไม่ใช่คนของตระกูลลัดดาวัลย์แล้ว ถึงแม้ จะมีความช่วยเหลือของธฤตญาณ ก็น่าจะไม่อาจแข่งกับบริษัท อสังหาริมทรัพย์ เมค์สในฐานะยักษ์ใหญ่วงการธุรกิจได้
“รพีพงษ์ บริษัท อสังหาริมทรัพย์ เมค์สเป็นยักษ์ใหญ่ทางการค้า ของเมืองริเวอร์ เดิมทีพวกเราไม่มีทางสู้กับพวกเขาอยู่แล้ว โดย เฉพาะนายก็ถูกไล่….” พูดถึงตรงนี้ อารียาก็หยุดลงมา

“เรื่องนี้คุณไม่ต้องเป็นห่วง เพื่อนผมเยอะ แค่บริษัท อสังหาริมทรัพย์ เมค์สที่เดียวเท่านั้น ยังไม่ต้องเอามาใส่ใจ หรอก” รพีพงษ์ยิ้มบอก

ฟังรพีพงษ์พูดขนาดนี้ อารียาก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี ในความ ทรงจำของเธอ เพื่อนของรพีพงษ์เยอะมากจริงๆ โดยเฉพาะอย่าง ยิ่งยังเก่งกาจมากด้วย

เพียงแต่ว่าบริษัท อสังหาริมทรัพย์ เมค์สในครั้งนี้ก็ไม่ง่าย ใน ใจอารียายังมีความกังวลอยู่บ้าง ไม่รู้ว่าเพื่อนของรพีพงษ์จะ สามารถรับมือได้หรือไม่

เวลานี้ศศินัดดากับศักดาทั้งสองคนเดินลงมาจากด้านบน พวก เขามองเห็นรพีพงษ์กลับมาแล้ว ชั่วขณะนั้นสีหน้าดูแย่ขึ้นมา เหมือนกัน

“รพีพงษ์ นายไอ้ตัวซวยคนนี้ นายยังมีหน้ากลับมาอีก รับไสหัว ออกไปเดี๋ยวนี้นะ บ้านนี้ไม่อาจให้นายอยู่ต่อไปได้อีก” ศศินัดดา ตะโกนขึ้นทันที
อารียาหันหน้ามองทางศศินัดดา พูดอย่างไม่พอใจ “แม่ นี่แม่จะ โวยวายไปถึงไหนอีก รพีพงษ์พึ่งกลับมา แม่ก็จะให้เขาไปอีก ครั้ง ก่อนเขาให้เงินสดแม่ไปสามล้านกว่าแล้ว แม่ยังอยากจะเอายังไง อีก?”

“ยัยลูกโง่ ลูกดูตรงนี้หน่อยเถอะ บ้านพวกเราไม่สามารถให้เขา อยู่ได้จริงๆ ตอนนี้เขาไปหาเรื่องบุคคลยิ่งใหญ่เข้าแล้ว ขืนให้เขา อยู่ต่อไปอีก พวกเราทั้งบ้านจะถูกพลอยทำให้เดือดร้อนไปด้วย ศศินัดดาเอ่ยปาก

ขณะพูดอยู่ ศศินัดดาก็ยื่นมือถือไปให้อารียา บนมือถือคือคลิป วิดีโอที่รพีพงษ์กำลังจัดการกับไทล์คนกลุ่มหนึ่งที่สนามบิน

ด้านล่างคลิปวิดีโอมีคนบอกว่าพวกของไทล์กลุ่มนี้เป็นคน ของบริษัท อสังหาริมทรัพย์ เมค์ส รพีพงษ์ต่อยคนของบริษัท อสังหาริมทรัพย์ เมค์ส บริษัท อสังหาริมทรัพย์ เมค์สต้องไม่ ปล่อยเขาไปแน่

ศศินัดดาดูคลิปนี้แล้ว หลังมองเห็นรพีพงษ์ ถึงได้มีปฏิกิริยา ใหญ่ขนาดนี้

บริษัท อสังหาริมทรัพย์ เมค์สอยู่ที่เมืองริเวอร์มีชื่อเสียงโด่งดัง ศศินัดดาย่อมเคยได้ยินเช่นกัน รพีพง ต่อยคนของคนอื่นเขา แล้ว ถึงตอนนั้นต้องมาแก้แค้นแน่ แน่นอนว่าหล่อนไม่อยากให้ตนเองพลอยเดือดร้อนไปด้วย

ถ้ารพีพงษ์เป็นทายาทของตระกูลลัดดาวัลย์ หล่อนก็ไม่ กลัวหรอก แต่ว่าครั้งก่อนเรื่องของจักรพันธ์ทาให้ศศินัดดา ว่ารพีพงษ์เป็นเด็กที่โดนทอดทิ้งของตระกูลลัดดาวัลย์ เด็ก ทีโดนทั้งคนหนึ่ง ถึงแม้จะมีเงิน ก็ไม่มีทางตีเสมอกับบริษัท อสังหาริมทรัพย์ เมค์สได้

อารียาดูเนื้อหาภายในคลิปวิดีโอ บนหน้าเต็มไปด้วยความตกใจ เธอคิดไม่ถึงว่ารพีพงษ์อยู่ที่สนามบินยังเจอความยุ่งยากแบบนี้ แต่พอดูภาพด้านในคลิปวิดีโอ รพีพงษ์น่าจะไม่ได้รับบาดเจ็บ

“แม่ คลิปอันนี้มีอะไรแล้วเหรอ ก็คนพวกนี้ไปหาเรื่องวุ่นวายรพี พงษ์ รพีพงษ์จัดการเรื่องยุ่งยากพวกนี้อย่างยุติธรรม มีอะไรไม่ ถูกเหรอ?” อารียามองทางศศินัดดา

ศศินัดดามองอารียาทีหนึ่งด้วยความโมโหเดือดดาล เอ่ยปาก บอก “ลูกก็ดูที่คนเหล่านั้นพูดกันด้านล่างเองสิ คนพวกนี้ที่ รพีพงษ์ต่อยเป็นคนของบริษัท อสังหาริมทรัพย์ เมค์ส บริษัท อสังหาริมทรัพย์ เมค์สเป็นที่ที่พวกเราหาเรื่องได้งั้นเหรอ คนอื่น เขาต้องมาแก้แค้นแน่ หรือว่าลูกยังอยากให้พวกเราพลอยเดือด ร้อนไปด้วยกันกับเขาเหรอ”

รพีพงษ์จ้องมองศศินัดดาแวบหนึ่ง แล้วบอกว่า “แม่ครับเรื่องนี้แม่ไม่ต้องเป็นห่วง ถึงแม้พวกเขาจะมาแก้แค้น ผมก็มีวิธี รับมือ จะไม่ทำให้พวกแม่เดือดร้อนแน่ครับ”

“นายเอาอะไรมารับมือ เอาสถานะเด็กโดนทิ้งของตระกูลลัดดา วัลย์มาเหรอ นายต่อยเก่งสินะ แถมในมือยังมีเงินสกปรก แต่นี่ จะถือว่าเป็นอะไร คนอื่นเขาคือบริษัท อสังหาริมทรัพย์ เมค์สที่ เดิมที่ไม่เห็นนายอยู่ในสายตา นายอยู่ที่บ้านนี้ มีเพียงแต่นำความ วุ่นวายไม่สิ้นสุดมาให้พวกเรา” ศศินัดดาพูดเสียงเย็นชา

ศักดาที่อยู่ด้านข้างถอนหายใจทีหนึ่งตาม บอกว่า “เริ่มแรก พวกเราคิดว่านายเป็นทายาทของตระกูลลัดดาวัลย์ ยังคิดว่าจะ สามารถดื่มด่ชีวิตแสนสุขตามนายได้ ใครจะรู้ว่านายเป็นเพียงแค่ เด็กที่ถูกทิ้ง โดยเฉพาะยังมักหาเรื่องวุ่นมาไม่ขาด ต่อไปพวกเรา ไม่อยากตกอยู่ในความกลัวตามไปกับนายด้วยแล้ว

พอได้ยินคำพูดของศศินัดดาและศักดาทั้งสองคน ที่จริงเขาก็นำ ความเดือดร้อนมาสู่ตระกูลนี้ไม่น้อย

“พ่อ แม่ พวกพ่อแม่ทั้งสองพูดให้น้อยๆ หน่อยได้รึเปล่า ถ้าไม่มี รพีพงษ์ ตอนนี้กลัวว่าพวกพ่อแม่จะเจอกับเรื่องวุ่นวายมากกว่านี้ อีก” อารียาโต้กลับประโยคหนึ่ง

“เชอะ ไม่มีเขาพวกเราจะเจอเรื่องวุ่นวายอะไร ลูกสาวของฉันเป็นประธานบริษัท พวกเราอยู่ในคฤหาสน์ที่ดีที่สุดของเมืองริ เวอร์ ในมือยังมีเงินสดมากขนาดนี้ วันเวลาผ่านไปอย่างสบายใจ มาก ตอนนี้ที่ต้องตกอยู่ในความกลัว เป็นรพีพงษ์ทำทั้งนั้น” ศศิ นัดดาเอ่ยปาก ราวกับเรื่องพวกนี้ที่หล่อนพูดมาทั้งหมด เป็นใคร ให้มา

อารียาหมดคำจะพูด รู้ว่าเดิมทีศศินัดดากำลังหาข้ออ้าง หล่อน กลัวว่าบริษัท อสังหาริมทรัพย์ เมค์สจะมาหาถึงที่ เลยรีบร้อน อยากจะทําให้ความสัมพันธ์กับรพีพงษ์กระจ่าง

แต่ทว่าพวกเขากลับไม่รู้ ถึงแม้จะไม่มีเรื่องของรพีพงษ์ เธอก็ ต้องเผชิญหน้ากับการคุกคามของบริษัท อสังหาริมทรัพย์ เมค์สอ ยู่ดี ที่จริงเธอเป็นประธานของบริษัท แต่ว่าตอนนี้บริษัทเผชิญกับ วิกฤติใหญ่ และพวกนี้เดิมทีศศินัดดาไม่เคยสนใจ

และอารียาคิดว่าพวกเขาเป็นผู้ใหญ่ คงไม่ดีที่จะไปว่าพวกเขา สองคน ตอนนี้เห็นพวกเขาทั้งสองคิดถึงแต่ตนเอง ในใจจึงไม่ได้ รับความเป็นธรรม

“รพีพงษ์ พวกเรากลับห้องกันเถอะ” อารียาพูดประโยคหนึ่งด้วย สีหน้าอึมครึม

รพีพงษ์พยักหน้าแล้ว รู้ว่าถกเถียงกับศศินัดดาสองคนนี้ไป มีแต่

จะเสียเวลา
เช้าวันต่อมา อารียายังคงไปที่บริษัทเพื่อจัดการงาน ถึงแม้ว่า ตอนนี้บริษัทมากมายต่างหยุดการร่วมงานกับพวกเขาแล้ว แต่ว่า บริษัทก็ยังคงต้องยืนหยัดต่อไป

รพีพงษ์ทำให้เธอรู้สึกมั่นใจอีกครั้ง เธอเชื่อว่ารพีพงษ์จะ สามารถช่วยบริษัทให้ผ่านด่านยากครั้งนี้ไปได้

ส่วนรพีพงษ์หลังจากที่อารียาออกไปได้ไม่นาน ก็ออกจากประตู บ้านแล้ว เขาไม่อยากเผชิญกับการบ่นไม่หยุดไม่หย่อนนั้นของ ศศินัดดา

ครั้งนี้ไม่ได้ไปที่สตาร์กาย แต่ว่าไปที่สำนักงานสาขาของบริษัท ซันบับเบิลกรุ๊ปโดยตรง

ภายในห้องทำงานของเธียรวิชญ์ รพีพงษ์นั่งอยู่ตำแหน่งของ เธียรวิชญ์ เธียรวิชญ์ก็ย้ายเก้าอี้ตัวหนึ่งเข้ามาจากที่อื่น ก่อนจะนั่ง ลงมาแล้ว

“บริษัท อสังหาริมทรัพย์ เมค์สกล้ากำเริบแบบนี้ ยังกล้าจับเมีย ฉันมาข่มขู่ฉัน พวกเขารังเกียจที่อายุยาวกันสินะ” รพีพงษ์พูด อย่างเย็นชา

“สไตล์การทำเรื่องของบริษัท อสังหาริมทรัพย์ เมค์สนี้ไม่ คำนวณถึงผลลัพธ์ พวกเขามีตึกการค้ามากมายภายใต้ชื่อของ พวกเขา ซึ่งล้วนแล้วแต่มีสัญญาณของโครงการที่สะเพร่าอยู่ ประธานของพวกเขาทำเรื่องแบบนี้ออกมาได้ ก็ไม่ แปลกอะไรหรอก” เธียรวิชญ์เอ่ยปาก

บริษัท อสังหาริมทรัพย์ เมค์สพุ่งเป้าไปที่บริษัทตระกูลสิริวิ บูรณ์ ทําให้ไม่มีใครกล้าร่วมงานกับบริษัทตระกูลสิริวิบูรณ์ ฉัน อยากกำจัดบริษัท อสังหาริมทรัพย์ เมค์สทิ้ง ทำได้รึเปล่า?” รพี พงษ์มองทางเธียรวิชญ์

บนหน้าของเธียรวิชญ์เผยรอยยิ้มที่ได้ใจออกมา เอ่ยปาก บอก “ผมก็เดาออกแต่แรกว่าคุณอยากลงมือกับบริษัท อสังหาริมทรัพย์ เมค์ส ดังนั้นเลยเตรียมการไว้เรียบร้อย ผมจะ ให้คนไปเจรจาเรื่องเงินทุนหมุนเวียนกับบริษัท อสังหาริมทรัพย์ เมค์ส ในด้านเงินทุนพวกเขาเหมือนจะมีปัญหาอยู่บ้าง ดังนั้นเลย สนใจการจัดหาเงินทุนครั้งนี้อย่างมาก ขอเพียงจัดหาเงินทุนให้ สำเร็จ ห่วงโซ่เงินทุนของบริษัท อสังหาริมทรัพย์ เมค์สก็จะอยู่ใน การควบคุมของพวกเรา อยากจะให้พวกเขาล้มละลาย นั่นไม่ใช่ เพียงเรื่องคําพูดประโยคเดียวเหรอ”

รพีพงษ์หัวเราะขึ้นมา ดังนั้นเขาถึงหมายตาเธียรวิชญ์ไว้ เป็น เพราะเธียรวิชญ์เข้าใจว่าในใจเขากำลังคิดอะไร ตอนทีรพีพงษ์ คิดจะทำเรื่องนี้ เธียรวิชญ์ก็ช่วยเขาทำเสร็จแล้ว มีลูกน้องแบบนี้ ในใจรพีพงษ์ย่อมคลายกังวล

ปัจจุบัน รพีพงษ์เพียงแค่ต้องรอหลังจัดหาเงินทุนให้สําเร็จจากนั้นไปที่บริษัท อสังหาริมทรัพย์ เมค์ส แล้วดูปิยังกูรหน่อยว่า จะมีปฏิกิริยาอย่างไรบ้าง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ