แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

บทที่296 กลอุบายของโกมุท



บทที่296 กลอุบายของโกมุท

บทที่296 กลอุบายของโกมุท

เมื่อนฤพลได้ยินประกาศแล้วนั้น ก็ยิ้มอย่างสบายใจออกมา รู้สึกมั่นใจกับการแข่งขันครั้งนี้แล้ว

ปิยะคือมือวางอันดับสองในรุ่นเดียวกันของสมาคมโกะแห่ง เมืองริเวอร์ รพีพง ใช้เวลาสิบห้านาทีชนะเขา พิสูจน์ได้ว่า ฝีมือของเขา สูงกว่าปิยะอย่างมาก ในเมื่อเป็นแบบนี้ โกมุทก็ มิใช่คู่แข่งของเขาแน่นอน

ถึงแม้การชนะเลิศการแข่งขันนั้นมีอยู่หลายปัจจัยรวมกัน ไม่ เพียงแค่ดูจากฝีมือผู้เล่น แต่ถ้าฝีมือต่างกันมากเกิน ก็จะมี เหตุผลอย่างอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง

“ท่านปิยังกูร ตอนนี้คุณยังรู้สึกว่า รพีพงษ์เป็นไอ้สวะอยู่ ไหม?” นฤพลหันไปมองที่ปิยังกูร

หน้าตาปิยังกูรแย่มาก จนแทบอยากจะฆ่าปิยะให้ตายเสีย เลย ตอนนั้นปิยะยังพูดต่อหน้านักข่าวว่าไม่ถึงสามสิบนาทีก็ ต้องแพ้ ตอนนี้ตัวเขาเองยืนหยัดไม่ถึงยี่สิบนาทีก็แพ้แล้ว คิด ไม่ออกจริงๆว่านักข่าวจะทําข่าวนี้ออกมายังไงชื่อเสียงของบริษัทอสังหาริมทรัพย์เมค์สในฐานะของผู้ สนับสนุนก็จะเสียไปด้วย

ครั้งนี้ปิยังกูรวางแผนว่าจะพึ่งการแข่งขันโกะนี้เพื่อเผยแพร่ ชื่อเสียง จากนั้นการแข่งขันผ่านไปสิบห้านาที พวกเขาก็กลาย เป็นตัวตลก

ถ้าครั้งนี้โกมุทคว้าแชมป์ไม่ได้ล่ะก็ งั้นครั้งนี้บริษัท อสังหาริมทรัพย์เมค์สไม่เพียงแต่ไม่มีชื่อเสียง ถ้าเรื่องนี้ดังไป ถึงเมืองริเวอร์ ก็ต้องกระทบต่อการค้าของบริษัทในเมืองริเวอร์ อีกด้วย

“ไอ้งั่งเอ้ย!” ปิยังกูรกัดฟันดูไปยังปิยะที่อยู่ด้านล่าง กำหมัด สองมือไว้แน่ โมโหจนตัวสั่นไปหมด

หลังจากที่ปิยะได้ยังกรรมการประกาศผลแล้วนั้น แทบอยาก จะมุดกินหายตัวไป ครั้งนี้เขาอับอายขายขี้หน้าจริงๆ

รพีพงษ์ยิ้มไปที่ปิยะอย่างมีเลศนัย แล้วถาม “จะไลฟ์สดกิน โกะไหม ถ้าไม่ไลฟ์สดผมจะไปล่ะ

ปิยะยืนขึ้น มองไปที่รพีพงษ์อย่างโกรธแค้น แล้วเดินออกไป นอกสนาม
ตอนนั้นที่เขากล้าพูดว่าจะไลฟ์สดกินโกะนั้น เพราะเชื่อว่า รพีพงษ์คือไอ้สวะ ไม่คิดว่าเขาจะชนะได้ จึงได้พูดแบบนั้น แต่ ตอนนี้ชนะแล้วจริงๆ เขาจะกินโกะได้อย่างไรกัน มีบางคนที เป็นแบบนี้ ตอนพนันกล้าได้กล้าเสีย คนอื่นแพ้ไม่เป็นไร แต่ พอตัวเองแพ้กลับไม่ทําตามคําพูด

หลังจากที่ปิยะเดินออกจากสนามแล้ว กลุ่มนักข่าวก็ล้อมรอบ เขาเอาไว้ ไม่หยุดถามคำถามเขา

“พวกเราได้ยินมาว่าคุณคือมือวางอันดับสองในรุ่นของเมือง ริเวอร์ แต่ครั้งนี้ใช้เวลาไม่ถึงสิบห้านาทีก็แพ้ให้กับไอ้สวะแห่ง เมืองริเวอร์ของพวกคุณ มิทราบว่าว่ามีอะไรอยู่ในกอไผ่หรือ ไม่?”

“มิทราบว่าทำไมคุณหาเรื่องให้ตัวเองขนาดนี้ หรือว่าคุณ ตั้งใจ เพียงเพราะสร้างความสนุกสนานให้ทุกคน?”

“สิบห้านาทีพ่ายแพ้ พูดได้ว่าในการแข่งขันระดับนี้เกิดเรื่องนี้ ขึ้น มิทราบว่าคุณในฐานะคนในเหตุการณ์ รู้สึกอย่างไรบ้าง?”

“มิทราบว่าตอนนี้คุณจะไลฟ์สดกินโกะเลยไหม?”
ปิยะมองไปที่นักข่าวที่อยู่ตรงหน้าอย่างบูดบึ้ง ไม่พูดอะไรสัก คำ แล้วผลักคน เดินออกไปข้างนอก

“ตอนนี้พวกเราได้เห็น ปิยะผู้เข้าแข่งขันของสมาคมโกะแห่ง เมืองริเวอร์ เพราะได้ทำสถิติในการแพ้เร็วที่สุดในการแข่งขัน โกะของเมืองกรีนโคลนี้ ดังนั้นจึงโมโหอย่างเกรี้ยวกราด แล้ว ลงไม้ลงมือกับนักข่าวของเราทันที….….……. นักข่าวคนหนึ่งกำลัง ไลฟ์สดกล่าวขึ้นมา

หลังจากที่รพีพงษ์นั่งอยู่อีกสักแป๊ป ก็ลุกขึ้นไปที่ห้องพักผ่อน เพื่อเตรียมการแข่งขันต่อในรอบบ่าย

การแข่งขันรอบสอง คู่แข่งของรพีพงษ์คือวัยรุ่นจากเมืองกรี นโคล เพราะเกรงว่าจะชนะเร็วเกินไป รพีพงษ์จึงเล่นให้ช้าลง ใช้เวลาแข่งกับวัยรุ่นคนนี้ไปสองชั่วโมง

เรื่องในช่วงเช้าที่ปิยะแพ้เพียงในเวลาสิบห้านาทีทําให้จิตใจ ของวัยรุ่นคนนี้หวาดหวั่น เพราะความสามารถของเขาไม่เท่า ปิยะ ปิยะยืนหยัดได้แค่สิบห้านาที เขาก็หนักเข้าไปใหญ่

ดังนั้นหลังจากที่จับฉลากไปเจอรพีพงษ์แล้วนั้น เขาก็สิ้นหวัง

ในทันที
แต่ตอนที่เขาแพ้นั้น พบว่าตนเองยืนหยัดได้ถึงสองชั่วโมง ทําให้เขาไม่รู้สึกผิดหวังมากนัก แต่กลับรู้สึกดีใจ ที่สามารถยืน หยัดได้นานขนาดนี้ ถือเป็นการแสดงถึงความสามารถของเขา เช่นกัน

การแข่งขันวันแรกจบลง นอกจากรพีพงษ์ที่สบายๆแล้ว รวิ นท์และนฤมิตก็ไม่ได้เจอกับคู่แข่งที่เก่งกาจมากนัก ก็ชนะมา ได้ทั้งสองรอบ

แต่สมาคมโกะแห่งริเวอร์ค่อนข้างแย่ เพราะเมื่อปิยะลงแข่ง ก็แพ้ให้รพีพงษ์ทันที ทําให้คนของสมาคมโกะแห่งเมืองริ เวอร์เริ่มหวาดหวั่น เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นทําให้คนที่ฝีมือไม่เลว แสดงศักยภาพออกมาได้ไม่เต็มที่ กลายเป็นว่าในการแข่งขัน วันแรก ก็ต้องถูกคัดออกไป

แม้ในช่วงบ่ายโกมุทจะใช้เวลาเพียงสามสิบกว่านาทีชนะคู่ แข่ง ทําให้ทุกคนตะลึงเช่นกัน แต่สิ่งที่เขาทำ มันเทียบกับรพี พงษ์ไม่ได้

ช่วงค่ำ ณ โรงแรมที่พักของสมาคมโกะแห่งเมืองริเวอร์

ในห้องเพลสสิเดนท์สูท ปิยังกูรกำลังนั่งอยู่บนโซฟา ด้วย สีหน้าที่โมโห
ปิยะคุกเข่าต่อหน้าของปิยังกูร การ์ดที่เคร่งขรึมทั้งสองผลัด กันตบหน้าเขา ใบหน้าของเขาบวมเปล่ง เลือดไหลออกจาก ปากไม่หยด

โกมุทและคนอื่นยื่นอยู่ด้านหลังของปิยะ ก้มหน้า สีหน้า ขีดเขียว ไม่มีใครกล้าเปล่งเสียงออกมา

“ประ……ประธาน ผมไม่ได้เต็มกันมานะ ได้โปรดไว้ชีวิตผม ด้วยเถอะ ผมไม่ได้ตั้งใจ ไม่รู้เลยว่าทำไมไอเหี้ยสวะรพีพงษ์ นั่นมันถึงได้มีปฏิกิริยาโต้ตอบเร็วขนาดนั้น ผมต้านทานไว้ไม่ ไหว ดังนั้นถึงได้แพ้เร็วขนาดนั้น” ปิยะอ้อนวอนปิยังกูร

ปิยังกูรกล่าวอย่างเยือกเย็น รพีพงษ์แม่งก็แค่ไอ้สวะปะวะ ทำไมมันถึงได้เก่งขนาดนี้? นอกจากแกจะเตี้ยมกันมา ฉันคิด วิธีอื่นไม่ออก หรือนฤพลตั้งใจให้แกทำแบบนี้ ถ้าเป็นแบบนี้ บริษัทอสังหาริมทรัพย์เมค์สก็ไม่มีทางมีชื่อเสียงที่เมืองกรีนได้ แล้ว แกจะให้ฉันเชื่อแกได้ยังไง?”

“ตีมันต่อ ตีจนกว่ามันจะยอมรับ!”

การ์ดสองคนตบไปที่หน้าของปิยะต่อ ไร้ซึ่งความใยดี

“ประธาน ผ…….ผมไม่ได้โกหกคุณ ผมไม่เคยเจอนฤพลเลย” ปิยะร้องอวดครวญ และถูกตบอย่างไม่หยุด จนเขาพูดไม่ชัดเจนไปแล้ว

“ประธาน ปิยะไม่ได้โกหก เขาอยู่กับผมตลอด ไม่มีทางเตี๊ยม กับตระกูลธนาพัชรกลแน่นอน ผมได้ดูวิดีโอการแข่งขันของ รพีพงษ์แล้ว ถ้าเป็นผม เกรงว่าจะต้านทานไม่ไหวเหมือนกัน โต้ตอบเร็วจนน่ากลัวขนาดนั้น” โกมุททนดูต่อไปไม่ไหว จึง อธิบายแทนปิยะ

ปิยังกูรมองไปที่โกมุทอย่างไม่พอใจ เขารู้ว่าการ ปิยะจะ เตี๊ยมกันนั้นเป็นไปได้น้อย แต่ตอนนี้เขาโมโหเป็นอย่างมาก ต้องระบายออกมา ปิยะจึงเป็นเครื่องมือในการระบายอารมณ์ ของเราโดยปริยาย

ความหมายของแกคือ แกก็ไม่มีทางชนะไอ้สวะรพีพงษ์นั่น ได้?” ปิยังกูรมองไปที่โกมุทอย่างเกรี้ยวกราด

โกน แค่พูดไปอย่างนั้น แต่เขาก็ไม่กล้าคุยโวอะไรมาก เพราะปิยะคุยโวถึงได้เจอจุดจบแบบนี้ แม้เขาจะเก่งกาจ แต่ก็ ทําได้แค่พูดความจริง

“ดูตามรูปการณ์ เป็น……..เป็นแบบนั้นครับ

ปิยังกูรถือแก้วที่วางบนโต๊ะ แล้วโยนไปที่ปิยะ
แก้วนั้นถูกโยนไปที่หัวของปิยะ ปิยะร้องอวดครวญ แล้วหมด สติไป

โกมุทกลัวจนต้องถอยหลังไป อารมณ์ของประธานเป็น อย่างไรพวกเขารู้ดี ถ้าไม่ใช่เพราะพรุ่งนี้ยังมีการแข่งขัน แก้ว ใบเมื่อก็จะต้องถูกโยนไปที่เขาแน่ๆ

“วันนี้ไอ้สวะปิยะทำให้บริษัทอสังหาริมทรัพย์ของฉันเสีย หน้าอย่างมาก ถ้าแกยังไม่มีปัญญาคว้าแชมป์มาให้ได้ งั้นครั้ง นี้ฉันไม่เพียงสร้างชื่อเสียงในเมืองกรีนโคลได้เท่านั้น แล้วจะ กระทบชื่อเสียงของฉันที่เมืองริเวอร์อีกด้วย แกรู้ไหมว่าทำให้ ฉันเสียหายมากขนาดไหน?” ปิยังกูรกล่าวอย่างร้อนใจ

โกมุทรีบกล่าว “ประธาน เหตุการณ์ในครั้งนี้พวกเราก็คาดไม่ ถึงเช่นกัน ใครจะรู้ว่าไอ้รพีพงษ์นั่นจะแปลกประหลาดขนาดนี้ ถ้าไม่มีรพีพงษ์ล่ะก็ ผมรับรองได้ว่า าแหน่งแชมป์จะต้องตก เป็นของพวกเรา”

ความหมายของแกคือ ให้ฉันกําจัดรพีพงษ์?” ปิยังกรจ้องไป โกมุท

โกมุทไม่พูดอะไร แต่ดูจากท่าทีแล้ว เขาต้องการแบบนี้
“นี่คือเมืองกรีนโคล เป็นถิ่นของตระกูลธนาพัชรกุล เกรงว่า ตอนนี้รพีพงษ์จะเป็นคนที่ตระกูลธนาพัชรกุลให้ความสนใจ ปิยังกูรกล่าว

“ประธาน ผมรู้ว่าการจะกำจัดรพีพงษ์ที่เมืองกรีนโคลนี้ ยาก มาก แต่พวกเราไม่จำเป็นต้องฆ่าเขาหนิ แค่ทำให้เขาไม่ สามารถเข้าร่วมการแข่งขันได้” โกมุทกล่าว

“ให้มันยอมแพ้ไปเอง แกจะเอาอะไรมาให้มันยอมแพ้ไป เอง?” ปิยังกูรจ้องไปที่โกมุท

โกมุท มอย่างร้ายกาจ แล้วกล่าว “ถ้าผมจำไม่ผิดล่ะก็ ประธานเคยพูดเอาไว้ว่า ภรรยาของรพีพงษ์ได้เคยคุยเรื่อง ธุรกิจกับคุณ แต่คุณชายอยากได้เธอ แล้วโดนปฏิเสธ ธุรกิจนี้ งล่มไป

“เมืองกรีนโคลคือถิ่นของตระกูลธนาพัชร์กุล พวกเราลงมือ กับรพีพงษ์ไม่ได้ แต่เมืองริเวอร์เป็นถิ่นของคุณหนิประธาน พวกเราลงมือกับรพีพงษ์ไม่ได้ แต่ลงมือกับภรรยาของมัน ได้หนิ ประธานสามารถให้คุณชายมีส่วนร่วมในงานนี้ได้ จับ ภรรยาของรพีพงษ์เอาไว้ ถึงเวลานั้นภรรยามันก็อยู่ในมือของ คุณชาย ถ้าเขากล้าคว้าแชมป์ งั้นคุณชายก็จะลงมือกับภรรยา ของมัน””จากความเป็นห่วงที่มันมีต่อภรรยานั้น น่าจะไม่อยากให้ ภรรยาถูกรังแก รอให้มันยอมแพ้แล้ว คุณชายก็ยังสามารถ ลงมือกับภรรยามันได้อยู่ดี ไอ้สวะตัวหนึ่ง น่าจะทำอะไรมากไม่ ได้ นี่มันยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว”

เมื่อปิยังกูรฟังจบแล้ว ใบหน้าที่บึ้งตึง กลับมามีรอยยิ้มอีกครั้ง และมีสายตาร้ายกาจเต็มไปด้วยเลศนัย

“ไม่คาดคิดว่าแกจะคิดอุบายลงมือกับภรรยามันได้” ปิยังกูร หัวเราะ

“ผมก็แค่คิดแทนคุณชาย” โกมุทหัวเราะตาม

“ได้ ทำตามแกบอก บริษัทตระกูลฉัตรมงคลแห่งเมืองริเวอร์ ไม่เด่น แม้จะจับอารียาแล้ว พวกเขาก็ทําอะไรไม่ได้ ที่เมืองกรี นโคลฉันทำอะไรไม่ได้ แต่ที่เมืองริเวอร์ฉันไม่กลัวใครทั้งนั้น

เมื่อพูดจบ ปิยังกูรก็หยิบมือถือขึ้นมา กดโทรไปหาไตรวิทย์

“ฮัลโหล ลูกชาย พ่อมีเรื่องจะให้แกทํา ทําให้สําเร็จ แล้วแก จะได้สาวสวยไว้ครอบครอง”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ