บทที่243 แข่งรถ
เมื่อจารุณีได้ยินรีบขมวดคิ้วทันที ” นายเป็นคน ชอบเห่าเหมือนสุนัขหรือ ?”
สีหน้าของลิปตามืดไป :” ผมพูดถึงการเดิมพัน คุณ เข้าใจหรือเปล่าหมายถึงอะไร ?”
จารุณีไม่พอใจแล้วหันไปมองรพีพงษ์ :” รพีพงษ์ พวกเราไมพนันกับเขา ให้เขาไปเห่าเอง ”
ที่จริงจารุณีพูดแบบนี้ ก็เพราะว่าเห็นผู้ชายคนนี้ เป็นที่หนึ่งบนหน้าจอทางนั้น เธอคิดว่ารพีพงษ์ต้อง แพ้แน่นอน ตอนนั้นถ้าต้องเห่าเหมือนสุนัขจริงๆ คงจะอับอายแน่นอน
“ฉันว่าพวกเธอไม่กล้าแน่นอน ก็เช่นรพีพงษ์ ถ้า กล้าจริงๆ ก็ไม่เกิดเรื่องตลกมากมายขนาดนี้ที่เมือง เวอร์แล้ว ขี้ขลาด ” ชรินทร์ทิพย์ดูถูก
” ได้ พนันกัน ” รพีพงษ์พูด
จารุณีรีบร้อนทันที หันไปมองเขาอย่างไม่พอใจ” โง่หรือเปล่า คนนี้เป็นลำดับที่หนึ่งนะ แข่งกับเขา สุดท้ายต้องทําตามการเดิมพันแน่เลย ”
รพีพงษ์ ม : ผมบอกแล้วไม่ใช่หรือ สถิติของเขา ผมทําลายได้ง่ายมาก คุณก็อย่างลองดูไม่ใช่ ตอนนี้ ท้อถอยแล้วหรือ ?”
จารุณีรีบยืนตรงยกหน้าอกของตนเองขึ้น :” ใคร…ใครกลัว ยังไงเมื่อถึงเวลาคนที่เห่าไม่ใช่ฉัน ไปก็ไป
ลิปตาเห็นรพีพงษ์ตอบตกลง ก็มีรอยยิ้มที่เย็นชา ขึ้น : ถ้างั้นแบบนี้ ก็ให้เธอสองคนนั่งข้างคนขับรถ น้อง การแข่งรถเป็นกีฬาที่อันตรายมากเลยนะ ถ้า ฝีมือของรพีพงษ์ไม่ดี อาจจะเกิดอุบัติเหตุได้ ต้อง คิดดีๆ ”
จารุณีจ้องลิปตา รู้สึกไม่พอใจผู้ชายคนนี้ขึ้นมา : ไม่ต้องมาสาปแช่งฉัน ถ้าฉันเกิดอุบัติเหตุ นายก็ต้อง ตาย
ลิปตาไม่สนใจ :” ในอำเภอนกฟ้า ยังไม่เคยมีใคร กล้าพูดว่าผมจะตาย คุณจะให้ผมตายยังไง ใช้ผู้ชายที่อยู่ข้างๆหรอ
พูดจบเขาและทิพย์ก็หัวเราะขึ้นมา จารุณีไม่กลัว ฉันเป็น
เธอไม่ได้พูดออกมา พูดไปครึ่งหนึ่งก็หยุด
สี่คนเดินไปทางสนามแข่งรถ มีคนมากมายทักทา ยลิปตาหลังจากที่เขาเข้าไป ลิปตาภูมิใจมาก ยิ้ม ว่า:” ในสนามแข่งรถนี้ไม่มีใครไม่รู้จักผม ถึงจะเป็น เจ้าของสนามก็ให้เกียรติผมเหมือนกัน ในอำเภอนก ฟ้า ผู้ชายที่อายุเหมือนผม ไม่มีใครมีความสัมพันธ์ ระหว่างบุคคลเยอะอย่างผม ”
” ใช่ๆ สามีฉันสุดยอดมากๆ ไม่มีใครเทียบได้ ส่วน รพีพงษ์เมื่อก่อนอยู่เมืองริเวอร์ ก็โด่งดังเหมือนกัน แต่ดังในด้านไม่ดี “ชรินทร์ทิพย์ยิ้ม
จารุณีได้ยิน โมโหมาก เธอหันไปมองรพีพงษ์ :” หล่อนว่านายแบบนี้แล้ว นายยังไม่โกรธหรอ ?”
รพีพงษ์ยิ้ม : ถ้าโกรธแล้วก็ คงจะทำให้จิตใจของ ผมต่ำลงถึงระดับเดียวกับนางแล้ว ”
* แต่พวกเขาสองคนน่าโมโหจริงๆ ก็แค่รู้จักคนไม่กี่ คน ดูสภาพอวดของพวกเขาสิ “จารุณีโมโห
“คุณต้องคิดแบบนี้ คนที่เขารู้จักยิ่งเยอะ ตอนที่ เขาเห่าก็จะยิ่งอับอายขายหน้า”
จารุณีโอ๋ไปคำนึง ในใจก็ไม่แน่ใจ เพราะเธอไม่รู้ ระดับฝีมือของรพีพงษ์ ในความทรงจําของเธอ รถ แข่งไม่ใช่จะขับง่าย ตอนนี้รพีพงษ์ก็ยังบาดเจ็บอยู่ ถ้าอยากชนะคนที่หนึ่งของที่นี่ ลำบากไม่น้อย
ลิปตาไปหาเจ้าของ เจรจาไปเข้าๆ ให้เจ้าของจัด สนามให้หน่อย เขาจะแข่งกับคนอื่นว่าใครจะเก่งสุด
เจ้าของฟังเสร็จก็ดีใจ เพราะยังไงลิปตาก็เป็นคน ดัง เขาแข่งกับคนอื่น ก็จะพาผู้ชมมาให้เยอะ
ก่อนแข่ง ลิปตาให้เจ้าของแนะนำรพีพงษ์อย่าง หนัก ให้ผู้ชมทั้งหมดได้รู้ว่า รพีพงษ์อยู่ในระดับไหน
จัดการทุกอย่างเสร็จ เจ้าของได้จัดรถสองคันให้ แล้วหยิบไมโครโฟนขึ้น แนะนำการแข่งขันในวันนี้
“สวัสดีครับ ท่านมีมที่มีเกียรติ การแข่งขันในวัน นี้ โดยเจ้าของบันทึกของพวกเรา ลิปตาและคนที่ชอ ว่ารพีพงษ์ า ง ลิปตาทุกคนต้องรู้แน่นอน ผมได้มา แนะนำคนที่ชื่อรพีพงษ์
* รพีพงษ์คนนี้แป้นคนบ้านเกิดของแฟนของลิปตา ได้ข่าวว่าคนนี้ได้ฉายาว่าคนไร้ค่า ครั้งนี้ลิปตาจะ มาท้าชิงกับเขา ก็เพราะว่าคนแรกถ้าคนนี้เคยทำให้ แฟนของลิปตามีปัญหาขึ้น ดังนั้นวิธีการจัดการของ พวกเขาคือใช้วิธีการแข่งรถมาแข่งว่าใครเก่งกว่า ”
“และพวกเขายังมีการเดิมพัน คือ คนที่แพ้ต้องเท่า เหมือนสุนัขต่อหน้าทุกคน วันนี้ทุกท่านจะเป็นพยาน หลังจากจบการแข่งขัน อย่าลืมการเดิมพันนี้ด้วย ”
” ไม่พูดมากแล้ว ต่อไปนี้ให้เราสนใจการแข่งขัน การนี้ดีกว่า ”
หลังจากที่ทุกคนได้ยินการแนะนำของเจ้าของ รีบ มีเสียงหัวเราะขึ้น คนทั้งหมดมองไปทางรพีพงษ์ สายตาของคนพวกนั้นมีแต่ดูถูกร พงษ์
” เป็นแค่คนไร้ค่าอย่างเขาแบบนี้ ยังกล้าท้าชิงกับลิปตา ตลกจริงๆ”
* ลิปดาสามารถพูดได้ว่าเป็นเทพในสนามแข่งรถ นี้ ไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะแข่งได้ง่ายๆ ยิ่งไม่ต้องพูดคน ที่มาจากด้านนอก ”
* นี่ยังแข่งอะไรอีก ให้คนที่ชื่อรพีพงษ์เก่าตอนนี้ก็ จบ ที่เป็นการแข่งที่เห็นผลได้ชัดเจน ”
ลิปตาและรพีพงษ์ คนได้เปลี่ยนชุดเดินออกมา แล้ว จารุณีได้ยินสิ่งที่ผู้ชมพูดแบบนี้ แอบกังวลขึ้น
ถึงวันนี้รพีพงษ์จะแพ้จริงๆ งั้นเธอก็ต้องเสียหน้า แค่คิดแบบนี้ เธอก็ถอดหายใจแล้ว คิดในใจว่า ยัง ไงก็เป็นคนที่นอนเตียงเดียวกันแล้ว รพีพงษ์ยังไงก็ ต้องแข่งกับลิปตา เธอก็ท้อถอยไม่ได้
ลิปตาและชรินทร์ทิพย์มองรพีพงษ์กับจารุณีอย่าง เย็นชา พวกเขาคิดว่าผลการแข่งขันของวันนี้คงจะ เห็นได้ชัดมากแล้ว
คนนั่งอยู่ในรถใครรถมัน ก็มีกรรมการมืออาชีพเดินไปถึงตรงระหว่างกลางของรถสองคัน ยกธงเล็ก ในมือตัวเองขึ้น
จารุณีตื่นเต้นมาก สวมหมวกขึ้น
* ทําตัวสบายหน่อย ชนะเขาเป็นเรื่องง่ายมาก ไม่ ต้องตื่นเต้นขนาดนี้ก็ได้ “รพีพงษ์ยิ้ม
จารุณีก็อยากให้ตัวเองทำตัวสบายลง แต่พอคิดถึง ลิปตาเป็นเจ้าของบันทึกสถิติ แล้วก็ไม่สามารถผ่อน คลายลงได้
รพีพงษ์จะสตาร์ทรถ แต่สิ่งที่เขาคิดไม่ถึงคือรถ แข่งรถคันนี้สตาร์ทไฟไม่ได้
จารุณีเห็นรพีพงษ์สตาร์ทรถไม่ได้ ก็จ้องเขา ” อย่าบอกนะว่าพวกเราจะโชคร้ายขนาดนี้ สตาร์ทรถ ไม่ได้ ?”
สีหน้าของรพีพงษ์สงบมาก พยายามสตาร์ทรถ
ตอนนี้ทางลิปตาได้เตรียมความพร้อมแล้ว ผู้ชมทั้ง หลายเห็นทางรพีพงษ์สตาร์ทรถยังไม่ได้ก็หัวเราะ ไปหมด
เจ้าของมองรถคันนั้นของรพีพงษ์อย่างตลก เขา ตั้งใจทําแบบนี้ ถึงจะรู้ว่าฝีมือของลิปดาสามารถชนะ รพีพงษ์ได้ แต่ถึงลิปตาจะพูดว่ารพีพงษ์ทำอะไรไม่ ได้เรื่อง งั้นรถของเขาก็ต้องมีลำดับที่เหมาะสมกับ ฐานะของเขา
ลิปตาก็ไม่รู้ว่ารถของรพีพงษ์จะมีปัญหาแบบนี้ เขา ได้มีรอยยิ้มอย่างเย็นชา
“คนทําอะไรไม่ได้เรื่องก็ไม่ได้เรื่องจริงๆ แม้กระทั่ง ขับรถยังไม่ได้เรื่องเลย ตลกจริงๆ “ชรินทร์ทิพย์ยิ้ม
และตอนนี้เสียงเป่านกหวีดกรรมการก็ดังขึ้น ต่อมา ธงเล็กๆในมือของเขาก็วางลง เริ่มการแข่งขันทันที รถของลิปตาวิ่งออกไปทันที
” โธ่เอ๊ย รพีพงษ์ พวกเขาได้ไปแล้ว ของพวกเราแม้ กระทั่งสตาร์ทรถยังไม่ได้เลยวันนี้ต้องแพ้แน่นอน ” จารุณีใจร้อนมาก
” ไม่แน่ ยังมีความหวังอยู่ ”
รพีพงษ์เปิดฝาของรถขึ้นเห็นเส้นไฟฟ้าด้านใน ได้หยิบเส้น 2 เส้นออกมาแล้วใช้วิธีการมัดแบบพิเศษ รถนี้ก็สามารถสตาร์ทได้ทันที
หลังจากสตาร์ทรถ รพีพงษ์เหยียบเร่งลง วิ่งไปตา มลิปตา แต่ตอนนี้ลิปตาได้นําหน้าพวกเขาไปเยอะ มาก ถ้าอยากจะชนะคงต้องรอความอัศจรรย์เท่านั้น
จารุณีหมดหวัง รู้สึกอย่างร้องไห้
” คนพวกนี้น่าเกลียดจริงๆ ให้รถเสียกับพวกเรา นี่ ไม่ยุติธรรมเลย พวกเราไม่มีทางชนะแน่นอน “จารุณี
พูด
รพีพงษ์ยิ้มแล้วพูดว่า:” ถนนเส้นแข็งเช่นนี้มีโค้ง 26 โค้ง ฝีมือของลิปตาก็แค่เพิ่งจะถึงขั้นมืออาชีพ เฉยๆ ตอนนี้เขาโค้งสามารถเห็นมันหาอย่างชัดเจน ผมสามารถเอาเวลากลับตอนโค้งรถ มาถึงด้านหลัง สามารถชนะได้ “รพีพงษ์ขับไปพูดไป
จารุณีอึ่งมาก ถึงจะไม่รู้ว่ารพีพงษ์จะทำได้หรือไม่ แต่ฟังไปแล้วรู้สึกสุดยอดมาก
ผู้ชมเห็นรถของรพีพงษ์อย่างดูถูก พวกเขาคิดว่ารพีพงษ์ได้ออกช้าขนาดนี้ คงจะไม่มีโอกาสที่จะชนะ แล้ว เหตุการณ์แบบนี้คงต้องยอมแพ้อย่างเดียว รฟี พงษ์ยังพยายามแต่ก็ไร้ประโยชน์
แต่ตามเวลาไป ก็เขาก็สังเกตเห็นว่าระยะระหว่าง รถของรพีพงษ์และรถของลิปตาไม่ค่อยๆเล็กลง เรื่อยๆ สามารถพูดได้ว่าทุกครั้งที่ผ่านเส้นโค้ง รพี พงษ์ก็จะเอาระยะนั้นคืนมา
พอถึงด้านหลัง ระยะระหว่างลิปตาและรพีพงษ์ ไม่ เหลือเท่าไหร่แล้ว
ลิปตามองจากกระจกมองหลังเห็นรถของรพีพงษ์ กําลังตามมา สีหน้าเปลี่ยนไปทันที ถ้าแบบนี้ยังจะ ให้รพีพงษ์ชนะอีกแล้วก็จะกลายเป็นที่อับอายของ สนามนี้
เพราะยังไงรพีพงษ์ก็ช้าเขาไปเกือบ 30 วินาที
” ให้ตายเถอะ วันนี้กูจะไม่ให้มีงชนะแน่นอน ตาย
ไปซะ !”
รพีพงษ์กลับฟันแล้วปรับพวงมาลัย ถัดไปทางหัว
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ