แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

บทที่224 พวกเราไม่มีความสัมพันธ์ใดๆกับ เขา



บทที่224 พวกเราไม่มีความสัมพันธ์ใดๆกับเขา

กวีมองไปที่รพีพงษ์ แล้วด่า “มึงเป็นใครกล้ามา ขวางกู หรือมึงไม่เห็นพี่ชิตยืนอยู่ข้างหลังหรือไง? รีบไสหัวไปซะ กูจะมีความสุขกับผู้หญิงคนนี้

“พี่ชิตแล้วไง กูอยู่ที่นี่ วันนี้ใครกล้าแตะต้องเธอ! รพีพงษ์พูดอย่างเกรี้ยวกราด

เมื่อคำพูดนี้ถูกพูดออกไปทุกคนก็ตกตะลึง ไม่มี ใครคาดคิด ว่าไอ้สวะที่โด่งดัง จะกล้าเป็นปฏิปักษ์ กับชิตวร

อันนามองไปที่เขาอย่างมึนงง ในหนึ่งวัน รพีพงษ์ได้ รับหน้าแทนเขาแล้วสองครั้ง ถึงแม้เธอจะมีอคติต่อ รพีงษ์ แต่ช่วงเวลานี้ อคติเหล่านั้นก็เริ่มจางหายไป

ไม่ว่าจะเป็นใคร ล้วนต้องมีความรู้สึกพิเศษต่อคนที่ เข้ามาช่วยตัวเองในสถานการณ์เลวร้ายถึงสองครั้ง ในวันเดียวกัน
จิตใจของอันนาในขณะนี้ไม่รู้สึกว่าเกลียดรพีพงษ์ อีกต่อไป แต่ทว่ากลับเกิดเป็นความชอบเล็กๆขึ้น ภายในใจ

ชิตวรเห็นว่ามีคนห้ามกวีไว้ ก็มองไปที่นั่น หลังจาก ที่เขาเห็นหน้าของรพีพงษ์แล้ว ก็หยุดชะงัก เหมือน กับว่าคิดอะไรออกขึ้นมาทันที ด้านหลังเต็มไปด้วย เหงื่อที่ไหลออกมา

คน…คนนี้ทําไมหน้าคุ้นๆ ง? เขาออกจากเกียวโต ไปแล้วไม่ใช่หรอ? ทำไมถึงได้ปรากฏตัวอยู่ที่นี่?

ถึงแม้ตอนนั้น ควรจะโชคดีได้เจอรพีพงษ์ไม่กี่ครั้ง แต่หน้าตาของรพีพงษ์เขายังคงจําได้อย่างแม่นยำ ถึงแม้รพีพงษ์จะดูเปลี่ยนไปไม่น้อย แต่ลักษณะใน ตอนนั้นก็ยังคงมีอยู่

ใจชิตวรเต้นรัวๆ ถ้าเป็นรพีพงษ์คนนั้นล่ะก็ เกรงว่า วันนี้เขาต้องจบเห่แล้วเป็นแน่

“มึงบ้าไปแล้วหรอไง มึงไม่ได้ยินที่พี่ชิตพูดเมื่อกี้ หรอ? เรื่องวันนี้ถ้ามึงกล้ายุ่ง ก็มีแต่ตายกับตาย! มึง บไสหัวไปซะ อย่าเสียเวลาเพื่อนของพี่ชิต” หลัง จากที่กฤติกาได้ยินรพีพงษ์พูดแล้ว ก็รีบตะเบงใส่ทันที

รพีพงษ์ท้าทายชิตวร หากชิตวรโมโห พวกเขาที่อยู่ ในเหตุการณ์ทุกคน ก็ต้องโชคร้ายไปด้วย

ดังนั้นถึงแม้ว่ากฤติกาจะรู้สึกดีๆต่ออันนาก็เท่านั้น ในสถานการณ์แบบนี้ รักษาตนเป็นยอดดี เขาชอบ หรือไม่ชอบอันนา ก็ไม่มีประโยชน์อะไรต่อไปแล้ว เพราะเพื่อนของชิตวรได้ชอบอันนาเข้าให้แล้ว หลัง จากวันนี้ไปก็จะไม่เป็นผู้หญิงที่บริสุทธิ์อีกต่อไป กฤติกาไม่ชอบผู้หญิงประเภทนี้อยู่แล้ว

เมื่ออันนาได้ยินคำพูดของกฤติกาแล้ว ก็จ้อง กฤติกาด้วยความโกรธแค้น แล้วกล่าว “กฤติกา ฉัน นี่มันบ้าจริงๆ คาดไม่ถึงว่าแกจะเป็นคนแบบนี้!

กฤติกากขายหน้า แต่เหตุการณ์มันก็เลวร้ายอยู่ แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องเสแสร้งอีกต่อไป

“อันนา ผมก็แค่รักษาชีวิตตัวเองก็เท่านั้น คุณไม่ ได้ยินที่ไอ้สวะนั่นพูดเมื่อกี้หรอ? มันกำลังท้าทาย ชิตอยู่นะ คุณรู้หรือเปล่าผลของการท้าทายพี่ชิตนั้น น่ากลัวขนาดไหน ความจริงวันนี้ให้คุณกับเลน่าเสีย สละสักหน่อยก็ได้แล้ว แต่มันกลับทำแบบนี้ ผมช่วยอะไรไม่ได้” กฤติกาอธิบาย

ถูก ไอ้เหี้ยนี่มันกล้าต่อกรกับพี่ชิต มันอยากจะพา พวกเราลงเหวทั้งหมด พิชิต ฉันยอมเพื่อนคุณ เพื่อน คุณจะทําอะไรฉันก็ได้ เพียงแค่ผ่านวันนี้ไป ปล่อยฉันไปก็พอแล้ว” เลน่ากล่าว คุณ

คนที่เหลือเริ่มคล้อยตาม แล้วขอให้อันนายอมกวี เพียงแค่เธอเสียสละ แค่นี้ทุกคนก็รอดหมดแล้ว

“ไอ้พวกหน้าด้าน ฉันนี่มันโชคร้ายจริงๆ ที่เป็นเพื่อน กับพวกแก ให้ฉันเสียสละเพื่อช่วยพวกแก ไม่มีทาง! อันนาตะโกนออกมาอย่างไม่เกรงกลัว

สีหน้าของกฤติกาและเลน่ากับทุกคนเริ่มดูไม่ดีขึ้น มาทันที

“เย็ดแม่ ดูๆแล้วพวกมึงไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงจริงๆ ใน เมื่อเป็นแบบนี้ อย่าหาว่ากูไม่เตือนแล้วกัน!”

กวีตะคอกอย่างรุนแรง แล้วจะลงไม้ลงมือกับรพี พงษ์ ขณะนี้รพีพงษ์ได้ถีบไปยังร่างกายของกวี โดยตรง แล้วกวีก็ได้ลอยไปด้านหลัง
สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไป ไม่คาดคิดว่ารพีพงษ์จะ กล่าลงมือกับกา

ถึงแม้ขิตวรจะเห็นรพีพงษ์ลงมือกับกวี แต่เขาก็ ไม่ได้ให้พวกของตนเข้าไปห้ามแต่อย่างมด ตอนนี้ เขายังคงคิด ว่ารพีพงษ์นี้ใช่คนเดียวกับคนนั้นหรือ ไม่ ถ้าใช่จริงๆ ถ้าแม้รพีพงษ์จะฆ่ากวี เขาก็จะไม่พูด อะไร

กฤติกาเห็นชิตวรไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบใดๆ แล้ว ก็มองไปรอบๆ กล่าวว่า “พี่ชิต ไอ้สวะนี่มาจากต่าง แดน เขาเป็นไอ้สวะขึ้นชื่อของที่นั่น อาจจะเป็น เพราะปัญญาอ่อน พวกเราไม่รู้จักมัน มันเองต่าง หากที่หน้าด้านจะมาร้องเพลงกับพวกเรา ดังนั้นสิ่งที่ เขาทำไม่เกี่ยวข้องใดๆกับพวกเรา อย่าเป็นเพราะมัน แล้วพาลมาหาพวกเรานะ

“ใช่ๆพี่ชิต เขาไม่มีความสัมพันธ์ใดๆกับพวกเรา มัน ท่าของมันเองอย่าโทษเหมารวมว่าเป็นเพราะพวก เรานะ”

“ถูก พี่ชิต การตัดสินใจทั้งหมดของมันไม่เกี่ยวข้อง ใดๆกับพวกเราทั้งสิ้น พวกเราไม่รู้จักมันเลยแม้แต่ น้อย
คนที่เหลือก็พูดๆตามกัน

ในขณะนี้กวีได้ลุกขึ้นจากพื้น ทนกับความเจ็บปวด จ้องไปที่รพีพงษ์ แล้วกล่าว “พี่ชิต คุณยืนดูอะไรอยู่ ไอ้เด็กเปรตนี่ลงไม้ลงมือกับผมแล้ว คุณยังไม่ให้คน ของคุณเข้ามาจัดการมันอีก

ชิตวรไม่สนใจกวี แล้วเดินไปตรงหน้าของรพีพงษ์ ด้วยใบหน้านอบน้อม แล้วถามอย่างนอบน้อมว่า “มิ ทราบว่าท่านนามสกุลลัดดาวัลย์หรือไม่?”

“พี่ชิต ไอ้เหี้ยนี่ชื่อรพีพงษ์ มาจากเมืองริเวอร์เล็กๆ เขาเป็นสวะที่โด่งดังของที่นั่น คุณไม่ต้องเกรงใจ มัน” กฤติกาเห็น ควรยืนอยู่ตรงหน้ารพีพงษ์อย่าง เคารพนอบน้อม จึงพูดออกมา

สีหน้าของชิตวรเปลี่ยนทันที ตระกูลลัดดาวัลย์ท่า นั้น ชื่อรพีพงษ์พอดี แล้วต่อมาเขาก็ได้ยินมา ว่ารพี พงษ์ได้ไปเมืองริเวอร์ ตอนนี้กฤติกาพูดแบบนี้ เขา มั่นใจทันที คนที่อยู่ในห้องส่วนตัวนี้ คือคนตระกูลลัด ดาวัลย์คนนั้นแน่นอน!

ทันใดนั้นเขาก็หันกลับ จ้องไปที่กฤติกาทันที มอง ไปที่ลูกน้องแล้วกล่าว “จับมันเอาไว้ ตบปากมันร้อยครั้ง”

ลูกน้องสองสามคนของ ตวรรีบเดินไป จับกฤติกา ไว้ แล้วตบหน้าเขาอย่างรุนแรง

กฤติกางงๆ ไม่เข้าใจว่าทําไมจู่ๆชิตวรให้ลูกน้อง เขามาตบตัวเอง เขาอยากอ้อนวอน แต่ก็ตบมาแล้ว อีกฉาด ทำให้เขาไม่มีโอกาสแม้แต่จะพูดใดๆ

เลน่าและคนอื่นๆต่างก็มองไปที่กฤติกาอย่างตกใจ ไม่กล้าพูดมั่วๆแล้วแต่อย่างใด ไม่งั้นคนต่อไปที่จะ โดนตบปาก เกรงว่าจะเป็นพวกเขาเสียเอง

แต่พวกเขาก็ไม่เข้าใจ กฤติกาว่ารพีพงษ์เพียงไม่ กี่คำเท่านั้น ทำไมชิตวรต้องมีปฏิกิริยาตอบสนอง มากมายขนาดนี้?

“พี่ชิต นี่คุณเป็นอะไร? คุณควรจะให้คนไปจัดการ ไอ้เหี้ยนั่นนะ” กวีตะโกนออกมาอย่างไม่เข้าใจ

ชิตวรตบไปที่หน้าของกวีหนึ่งฉาด แล้วต่า “กูว่ามึง นั่นแหละที่เป็นไอ้เหี้ย มึงอยู่นิ่งๆ ไม่งั้นแม้แต่กูก็ช่วย อะไรถึงไม่ได้!”
กวีจ้องไปที่ ตวรด้วยความตะลึง เห็นแววตาที่เต็ม ไปด้วยความอาฆาต ก็รู้แล้วว่าเขาไม่ได้ล้อเล่นแต่ อย่างใด ดังนั้นจึงรีบหุบปากตัวเองทันที

ชิตวรเดินไปที่รพีพงษ์ ตอนนี้เขาไม่มีความผยอง เย่อหยิ่งใดๆอีกต่อไป เขากลับไปเป็นคนในตอนนั้น ที่ทํางานในตระกูลลัดดาวัลย์ ที่เคารพนอบน้อมต่อ รพีพงษ์ และไม่กล้าล่วงล้ำใดๆ

” ชิตวรกําลังจะเรียกเขาว่าคุณชาย เห็น รพีพงษ์ชักตามส่เขา เขาเข้าใจความหมายของร พงษ์ แล้วรีบเปลี่ยนสรรพนามเรียกทันที “คุณรพี ไม่ คาดคิดจริงๆว่าจะเจอคุณที่นี่ หลายปีแล้วที่ไม่ได้ เจอ คุณเปลี่ยนไปมากจริงๆ ผมเกือบจะจําคุณไม่ได้ แล้ว”

แกก็เปลี่ยนไปเยอะ เทียบกับในปีนั้นแล้ว ตอนนี้ แกดูสูงส่งขึ้นเยอะ” รพีพงษ์ยิ้มพลางกล่าว

“คุณรพีก็ว่าไป ผมจะกล้าเทียบกับคุณได้ยังไง ใน สายตาคุณ ผมเป็นคนทำงานเท่านั้น เรื่องวันนี้เป็น เรื่องเข้าใจผิด ผมคาดไม่ถึงว่าคุณรพีก็อยู่ในห้อง ส่วนตัวนี้ด้วย ถ้ารู้อย่างนี้ผมไม่มีทางให้พวกเขามา หาเรื่องพวกคุณแน่นอน” ชิตวรกล่าวอย่างรู้สึกผิด
ทุกคนเห็นท่าทีของชิตวรที่มีต่อรพีพงษ์ แม้ในใจ จะตกใจแต่ก็เข้าใจทั้งหมด ชิตวรและรพีพงษ์จะ ต้องรู้จักกันแน่นอน และตัวตนของรพีพงษ์จะต้องไม่ ธรรมดาแน่ๆ ไม่งั้นไม่สามารถทำให้ชิตวรผู้ยิ่งใหญ่ ก้มหัวได้มากขนาดนี้

พวกเขาเริ่มเสียใจขึ้นมา ล้วนรู้สึกว่าก่อนหน้านี้ไม่ ควรทำอย่างนั้นต่อรพีพงษ์ ถ้ารพีพงษ์รู้จักกับ ควร จริงๆล่ะก็ ท่าทีที่พวกเขามีต่อรพีพงษ์ก่อนหน้าก็ชั่ง หาเรื่องให้ตัวเองสุดๆ ตอนนี้ก็เหมือนกับหาเรื่องให้ ตัวเองแล้วแหละ

อันนาก็จ้องไปที่รพีพงษ์อย่างแปลกใจ เธอคิด ว่าตนเองและรพีพงษ์จะไปทะเลาะกับชิตวรอย่าง รุนแรงแน่นอน ซิตวรจะต้องไม่ปล่อยพวกเขาไปเป็น แน่ แต่ตอนนี้ดูๆแล้ว ชิตวรกลับไม่กล้าสร้างปัญหา ต่อหน้ารพีพงษ์อีกเลย

ความจริงเธอได้เตรียมตัวเตรียมใจไว้แล้ว ตอนนี้ ดูๆแล้วเหตุการณ์ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด ก็รู้สึกโล่ง อกขึ้นมา

“ ฉันเพิ่งกลับมาเกียวโตวันนี้ ฉันไม่เอาเรื่องแกเกี่ยว กับเหตุการณ์ในวันนั้นแล้ว แต่ต่อไปแกก็ดูเพื่อนแกดีๆหน่อยล่ะกัน อย่าทำอะไรกับผู้หญิงได้ ตามอำเภอใจ คนอื่นฉันไม่สน แต่นี่คือเพื่อนของฉัน ให้กวี นมาขอโทษเธอล่ะกัน” รพีพงษ์กล่าว

ชิตวรแล้วพยักหน้า แล้วหันไปหากวี กล่าว “แกยัง ยืนอึ้งอยู่ทำไม? รีบมาขอโทษเค้าเสียสิ

กวีก็ไม่กล้า คําสั่งของชิตวร รีบเดินไปอย่างเร็ว คํานับให้อันนา แล้วกล่าว “ขอโทษครับ ต่อไปผมจะ ไม่ทําอีกแล้ว”

อันนาไม่รู้จะทำอย่างไร จู่ๆกวีก็ขอโทษเธอ ก็ไม่รู้ ว่าจะพูดอย่างไรดี

“รพีพงษ์ ฉันควรจะพูดอะไรดี ให้อภัยเขาไหม?” อันนาพูดข้างหูรพีพงษ์เบาๆ

“ไม่จำเป็น เรื่องนี้คุณไม่ผิด ไม่จำเป็นต้องให้อภัย เขา” รพีพงษ์กล่าว

กวีอับอาย มองไปที่เลน่า แล้วถาม “คุณรพี ผมต้อง ขอโทษคุณคนนี้ไหม?”

เมื่อกี้แกไม่ได้ยินที่พวกเขาพูดหรอ ฉันไม่มีความสัมพันธ์ใดๆกับพวกเขา แกจะต้องขอโทษเธอหรือ ไม่นั้น แก่ตัดสินใจเอาเองล่ะกัน ไม่ต้องถามฉัน ฉัน ไม่สนิทกับพวกเขา แล้วฉันก็ไม่สนใจความแค้น ระหว่างแกกับพวกเขา ฉันสนใจแค่อันนาคนเดียว เท่านั้น ตอนนี้แกสามารถล้างแค้นต่อได้เลย

ใบหน้าของเลน่าและทุกคนถอดสีทันที รู้ว่าวันนี้ยัง ไงก็หนีไม่พ้นแล้วล่ะ

เมื่อรพีพงษ์พูดจบ ก็หันไปมองอันนา แล้วกล่าว

“พวกเราไปกันเถอะ”

อันนาพยักหน้า แล้วเดินออกไปด้านนอกพร้อมกับ รพีพงษ์ เมื่อใกล้ถึงประตู เขาพูดกับชิตวรว่า “แก จัดการเรื่องทางนี้หน่อยล่ะกัน ฉันรอแกด้านนอก”

ชิตวรพยักหน้าทันที ไม่กล้าขัดคำสั่งใดๆ

หลังจากที่รพีพงษ์ ได้พาอันนาเดินออกไปแล้วนั้น ชิตวรมองทุกคนในห้องส่วนตัวด้วยสายตาเยือกเย็น หันหน้าไปพูดกับกวีว่า “กวี ลงมือต่อเถอะ”

หาอะไรต่อ?” กวีถามชิตวร


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ