บทที่ 204 หนึ่งพันล้าน มากมายเหรอ
คนดูทั้งหมดหลงใหล!
สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่พื้นผิวของหิน หมายเลขสามสิบหกที่ถูกฝาออกมา และสีเขียวที่มี เสน่ห์ทำให้การเต้นของหัวใจของทุกคนเร็วขึ้นมาก
ทุกคนก็เป็นผู้ชำนาญอยู่ในแวดวงของการพนัน หินมาหลายปี ต่างก็ต้องรู้ดีหยกจักรพรรดิมูลค่าแค่ ไหน หินก้อนใหญ่เท่ากำปั้นขนาดนี้ สามารถขายได้ ในราคาหลายร้อยล้าน
ตามปริมาณของหินหมายเลขสามสิบหกแล้ว อย่าง น้อยก็สามารถขายได้มากกว่าหนึ่งพันล้าน
ก้อนเนื้อแก้วใส่เมื่อกี้ของทิวัตถ์ เมื่อเทียบกับก้อน นี้ แตกต่างกันราวฟ้ากับดิน
ทิวัตถ์ที่ยังอยู่ในท่ามกลางที่ตื่นเต้น แต่เมื่อหลัง จากเห็นหินหมายเลขสามสิบหกฝาออกมาเป็นหยก จักรพรรดิ ก็ตกตะลึงทันทีในตอนนั้นเขายังคงเยาะเย้ยจิรายุคว่าวันนี้เทียบ เขาไม่ได้ เพราะเขาดูแล้วว่าหินหมายเลขสามสิบหก ก็เป็นแค่หินเสีย ยังไงก็ไม่สามารถผ่าออกมาเป็นเนื้อ น้ำได้
ไม่ใช่มีเพียงเขาที่คิดแบบนี้ ผู้คนที่อยู่ในที่นี้ก็รู้สึก ว่าหินหมายเลขสามสิบหกเป็นแค่หนเสีย กล่าวได้ ว่า หินหมายเลขสามสิบหก นั้นภายนอกแย่ที่สุดใน บรรดาหินทั้งหมดในที่นี้
ดังนั้นทุกคนจึงไม่มีความหวังกับหินก้อนนี้
แต่ตอนนี้หินก้อนนี้กลับฝาออกมาเป็นหยก จักรพรรดิ ความตกใจนี้ เหมือนกับระเบิดปรมาณูที่ ระเบิดในฝูงชนคนมากมาย
เมื่อตอนที่จิรายุศเห็นหินหมายเลขสามสิบหกฝาสี เขียวออกมา ก็อ้าปากค้าง ตาของเขาจ้องมองนิ่งๆ อย่างกับวัว จากนั้น ตัวของเขาก็เริ่มสั่น
“หยก………….จักรพรรดิ!!! พีรพี คือหยก จักรพรรดิ! พวกเราฝาออกมาเป็นหยกจักรพรรดิ ผมอยู่ในแวดวงหินหยกมาหลายปี นี่เป็นครั้งแรกที่ ฝาออกมาเป็นหยกจักรพรรดิพี่รพี พี่เป็นดาวนำโชคของผมจริงๆ
ตื่นเต้นมาก จนแทบจะกระโดด
“สุดยอดจริงๆ เปิดออกมาเป็นหยกจักรพรรดิ นี่ถือ เป็นประวัติศาสตร์ของอำเภอหยกของเราเลย เป็น หยกจักรพรรดิ ก้อนที่ใหญ่ที่สุดเลย
“โอ้พระเจ้า ฉันได้เห็นหยกจักรพรรดิของจริง ก้อน นี้มูลค่าน่าจะเริ่มต้นที่หนึ่งพันล้าน ทำให้คนอิจฉา จริงๆ
ชายหนุ่มคนนี้สุดยอดจริงๆ ทุกคนต่างก็ไม่ได้ สนใจมองหินก้อนนี้ มีเพียงเขาที่เสียเงินหนึ่งล้าน เพื่อประมูลหินก้อนนี้ลงมา ตอนนี้เปิดออกมาเป็น หยกจักรพรรดิ ทำกำไรได้ง่ายๆเลยนะ”
นี่คือผู้ชำนาญการพนันหินที่แท้จริง หนึ่งล้าน กลายเป็นหนึ่งพันล้าน นี่คือผลตอบแทนที่น่ากลัว อาจไม่เคยมีในประวัติศาสตร์ก่อนเลย
ทุกคนพูดถึงเรื่องนี้ และแสดงออกทางสายตา แชมและอิจฉารพิพงษ์
จารุพิชญ์และจารุกิตติ์ทั้งคู่มีใบหน้าที่ซีดจาง เมื่อ กี้จารุพิชญ์แสร้งทำเป็นยกย่องรพีพงษ์อย่างถ่อมตัว แม้ว่ารพีพงษ์จะประเมินของโบราณเก่ง แต่พนันหิน ก็ยังห่างไกลอีกเยอะ คิดไม่ถึงว่าจะโดนตบหน้าเร็ว ขนาดนี้
ที่สําคัญหินหมายเลขสามสิบเป็นหินที่ทุกคนดูถูก มีเพียงรพีพงษ์คนเดียวเท่านั้นที่คิดว่ามันน่าสนใจ แม้แต่จารุพิชญ์ก็มั่นใจมาก ว่าหินก้อนนี้ไม่สามารถ ออกเนื้อน้ำที่ดีได้ แต่รพีพงษ์ก็ยืนยันที่จะประมูลหิน ก้อนนี้ลงมา
นี่แสดงให้เห็นว่าวันนี้ในหมู่คนทั้งหมดที่มีอยู่ใน ตอนนี้รพีพงษ์ เป็นนักชำนาญการพนันหินที่แท้จริง
จารุพิชญ์และรพีพงษ์เทียบกันแล้ว ยังห่างไกลกัน มาก
ถ้าวันนี้รพีพงษ์ไม่มา ก้อนหินที่สวยงามเช่นนี้ สําหรับคนอื่นคงจะมองว่าเป็นขยะ และถูกโยนลงถัง ขยะ
อาจารย์ นีรพีพงษ์คน …..ตกลงว่าเป็นใครกันแน่? ทําไมเขาสามารถมองออกในสิ่งที่เรามองไม่ออก เขายังเป็นแค่คนที่อายุใกล้เคียงกับผมจริงๆเหรอ?”
จารุกิตติ์จ้องมองไปที่รพีพงษ์อย่างว่างเปล่า ทั้ง สองครั้งที่แข่งกับรพีพงษ์ ทำให้เขาเริ่มสงสัยกับ ชีวิต
จารุพิชญ์จ้องมองรพีพงษ์ด้วยอารมณ์ ณ ตอนนี้ เขาไม่รู้สึกเกลียดชังรพีพงษ์ได้อีกต่อไป เพราะฝีมือ ระดับรพีพงษ์ นั่นสูงกว่าเขาไปเยอะมาก
เมื่อคนคนหนึ่งที่ดีเลิศเหนือคนรอบข้างขนาดนี้ คน รอบข้างเขาก็ต้องรู้สึกอิจฉา ริษยา อยากเหนือกว่า เขา และพิสูจน์ตัวเอง
แต่เมื่อคนคนหนึ่งมีความเป็นเลิศเหนือคนรอบ ข้าง ทุกคนจะชื่นชมเขา และเคารพเขา นี่คือความ ประทับใจอย่างสุดซึ้ง เพราะทุกคนรู้ดีว่า ไม่ว่าพวก เขาจะพยายามแค่ไหน ก็ไม่สามารถอยู่เหนือคนคน นี้ไปได้
ตอนนี้จิตใจของจารุพิชญ์ก็เป็นแบบนี้ เขาได้ตระหนักว่า ตัวเองไม่มีคุณสมบัติที่จะเปรียบเทียบ กับรพีพงษ์ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นการพนันหินและ การประเมินวัตถุโบราณ รพีพงษ์เป็นคนที่มีความ เชี่ยวชาญอย่างแท้จริง แต่จารุพิชญ์นั้นแค่มีชื่อ เสียงที่เมืองริเวอร์เท่านั้นเอง และเมื่อเทียบกับท่าน อาจารย์จริงๆ ก็ยังห่างไกลอีกมาก
“บางที อาจจะเป็นความอัจฉริยะ บางคนเกิดมา ก็เก่งกว่าเรามาก นี่คืออิจฉาแต่ก็ริษยาไม่ลง จารุ พิชญ์พูดนําม
จารุกิตติ์กำหมัดแน่น เขามองไปที่รพีพงษ์อย่าง ดุร้ายด้วยตาทั้งสองข้าง เขารู้สึกว่าอายุของตัวเอง ไม่ต่างจากรพีพงษ์มากนัก ที่สำคัญตัวเองก็ได้รับ การยกย่องว่าเป็นเก่งจากคนอื่นมาตั้งแต่ยังเด็ก เขา คิดว่าเขาสามารถเทียบกับรพีพงษ์ได้
แต่หลังจากจ้องมองไปที่รพีพงษ์สักพัก หมัดของ จารุกิตติ์ก็คลายออกอีกครั้ง และบนใบหน้าของเขา ก็ปรากฏความรู้สึกไร้เรี่ยวแรงขึ้น เขารู้ว่าแม้ว่าเขา จะใช้เวลาทั้งชีวิตไล่ตามรพีพงษ์ แต่เขาก็ไม่อาจ ตามทันได้ .
ที่สําคัญคือเขาทําได้เพียงแค่พัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องในด้านการประเมินวัตถุโบราณ
ขณะที่รพีพงษ์มีความเชี่ยวชาญในทุกสิ่ง ซึ่งไม่ใช่ สิ่งที่สามารถเอาชนะได้ด้วยความพยายาม
ทิวัตถ์มองไปที่หินหมายเลขสามสิบหกอย่างรับไม่ ได้ที่ฝาออกเนื้อนาดี คนทั้งคนก็ตะลึงอึ้งไปเลย
เติมทีเขาคิดว่าเขาสามารถใช้ประโยชน์จากการ ประมูลในวันนี้ เพื่อเอาชนะจิรายุศได้ แบบนี้เขาจะมี โอกาสเปิดช่องทางในตลาดหยกของอำเภอหยกได้ และเขาพอจะสามารถแข่งขันธุรกิจหยกกับจิรายุศ ได้ในอนาคต
แต่ตอนนี้เขาตระหนักได้แล้วว่า ทุกสิ่งที่เขาทำ มา ทั้งหมดนี้กลับกลายเป็นสะพานให้จิรายุศเหยียบ ไปถึงฝั่ง หินที่ประมูลคืนนี้ก็สามารถขายได้ในราคา ที่ดีพอสมควร แต่ว่าคืนนี้จิรายุศเปิดออกมาเป็นหยก จักรพรรดิ ในคืนนี้สายตาของทุกคนจดจ่อไปที่จิรา ยุค ดังนั้นตำแหน่งของจิรายุศในแวดวงหยกของ อำเภอหยกจะสั่นคลอนได้ยากขึ้น
บางทีเขาอาจจะทําธุรกิจหยกในอำเภอหยก แต่ยัง ไงก็ไม่สามารถเหยียบหัวเขาเข้าแวดวงนี้ได้เพียงแค่จิรายุ ต้องการ ก็สามารถขับไล่เขาออก จากอำเภอหยกได้ตลอดเวลา
เก่าแก่ วัตถ์ ขอโทษด้วยจริงๆนะ หินหมายเลข สามสิบหกที่คุณไม่สนใจ แต่กลับเปิดออกมาเป็นเนื้อ น้ำดีอย่างหยกจักรพรรดิ ที่สำคัญยังเป็นก้อนใหญ่ ขนาดนี้ด้วย แม้แต่พระเจ้ายังไม่ต้องการให้ผมแพ้ ให้คุณเลย”จิรายุศยิ้มแล้วมองไปที่ทิวัตถ์
สีหน้าทิวัตถ์เคร่งเครียด จากนั้นจ้องมองจิรายุ อ ยางเคียดแค้น สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร และสะบัด แขนเสื้อแล้วออกจากที่นี่
จารุพิชญ์และจารุกิตติ์ตามออกไปด้วยความ อับอาย วันนี้เป็นช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดในชีวิตของ พวกเขาอย่างไม่ต้องสงสัย
จิรายุศเห็นว่าทิวัตถ์ออกไปด้วยความโมโห สีหน้า ก็เต็มไปด้วยชัยชนะ หันกลับไปมองรพีพงษ์ ยิ้มแล้ว พูด “พีรพี หยกจักรพรรดินี่พี่เป็นคนเปิดออก ก้อน นี้ก็เป็นของพี่ พี่เอาไปเถอะ ผม กทุกข์ใจหรอก ครับ แค่วันนี้ทำให้ไอ้หลานอย่างทิวัตถ์ไม่ประสบ ความสําเร็จ ก็ถือเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผม
รพีพงษ์ยิ้ม แล้วพูด: “แค่หินก้อนเดียวเอง ฉันหาได้ ไปยาก นายเก็บไว้เถอะ
สีหน้าจิรายุศเต็มไปด้วยความตะลึง คิดไม่ถึงว่า รพีพงษ์จะไม่สนใจหินก้อนนี้ นี่หยกมันมูลค่าหนึ่งพัน ล้านเลยนะ
“พี่รฟ์ พี่ก็อย่าปฏิเสธเลย หินก้อนนี้มีมูลค่าตั้งหนึ่ง พันล้านเลยนะ ผมไม่สามารถรับไว้ได้ หินก้อนนี้พี่ เป็นคนประมูลมาเอง ไม่ต้องเกรงใจผม จิรายุ พูด
“หนึ่งพันล้าน มากมายเหรอ?”รพีพงษ์ถาม
จู่ๆจิรายุสก็รู้สึกหายใจไม่ออกทันที เขามองไปที่ รพีพงษ์ด้วยความตกใจ ชายที่อยู่ตรงหน้าตัวเอง มี ชีวิตแบบไหนกันนะ นี่คือหนึ่งพันล้านเลยนะ แล้วเขา รู้สึกว่าหนึ่งพันล้านไม่มาก
“ไม่ต้องรบเร้าแล้ว เงินหนึ่งพันล้านนั้นไม่มากเกิน ไปสำหรับฉันจริงๆ นายเก็บหินก้อนนี้ไว้เถอะ แค่วัน ใดฉันขอให้นายช่วยในอนาคต นายแค่อย่าปฏิเสธก็ พอ”รพีพงษ์กล่าวด้วยรอยยิ้ม
จิรายุคแสดงออกถึงความขอบคุณ มองไปที่ร พงษ์อย่างจริงจัง แล้วพูด: “พีรพี พี่สบายใจได้ ผม จิรายุสก้ายังมีลมหายใจอยู่ ก็จะบุกน้ำลุยไฟเพื่อที่ อย่างแน่นอน”
รพีพงษ์พยักหน้า การประมูลของวันนี้สิ้นสุดลงแล้ว และถึงเวลาที่ต้องกลับไป
ในตอนนั้นโทรศัพท์ของจิรายุศก็ดังขึ้น เขารับ โทรศัพท์ สีหน้าก็เปลี่ยนไปเคร่งขรึมขึ้นมา
รพีพงษ์ดูท่าทางของเขาแบบนี้ ในใจก็รู้สึกแปลกๆ และถามว่า “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”
จิรายุสวางสายไป แล้วพูด: “ ฝั่งพี่สะใภ้เกิดปัญหา นิดหน่อย”
ใบหน้าที่นิ่งสงบอยู่รพีพงษ์ก็เป็นกังวล “เกิดอะไร ขึ้น?”
“เอ่อ พีรพี พี่ไม่ต้องกังวล พี่สะใภ้พวกเขาไม่ได้ เกิดได้เป็นอะไร บอดี้การ์ดทั้งหกคนที่ผมจัดเตรียม ไว้จัดการแก้ปัญหาได้แล้ว เรากลับไปก่อน หลังจาก กลับไปก็จะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จิรายุคพูด
รพีพงษ์พยักหน้า จิรายุ ก็ไปจัดการสั่งการเรื่อง พวกก้อนหิน จากนั้นก็ออกจากห้องนิทรรศการ พร้อมรพีพงษ์และขับรถเข้าไปยังในเมืองของอำเภอ
Rose&Mary Hostel อารียาและศศินัดดาฝักดา ทั้งสามคนต่างก็เข้าพักในห้องชุดด้วยความกลัว สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ทำให้พวกเขารู้สึกกลัวเล็กน้อย ถ้าไม่ใช่คนทั้งหกที่ปรากฏตัวกะทันหัน ตอนนี้ไม่รู้ จุดจบของพวกเขาจะเป็นเช่นไร
ในตอนนี้รพีพงษ์ก็ปรากฏตัวที่หน้าประตู หลังจาก เปิดประตู เห็นว่าทั้งสามคนไม่ได้เป็นอะไร เขาก็รู้สึก โล่งใจ
อารียาเห็นรพีพงษ์กลับมา ก็รีบลุกขึ้น วิ่งไปหาร
พงษ์ และกอดเขา
“รพีพงษ์ วันนี้ฉันเกือบจะไม่ได้เจอนายแล้ว
นะ “อารียาพูด
รพีพงษ์ยิ้ม และพูดปลอบโยน: “ไม่เป็นไรแล้วนะ เธอสบายใจได้แล้ว ไม่มีอะไรอันตรายแล้ว หลังจาก วันนี้ไปเราก็จะกลับเมืองริเวอร์แล้ว”
อารียาพยักหน้า รู้สึกว่าถึงจะ ปลอดภัยที่สุด
ลูก ลูกถอยห่างออกมาจากไอ้ขยะนี่เลยนะ พงษ์แกมันก็หน้าไม่อายจริงๆ กอดอารีต่อหน้าเรา แกก็ถามความเห็นจากเราหน่อยเหรอ?”สีหน้า ของศศินัดดาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
ทั้งคู่ถอยออกจากกัน รพีพงษ์ก็ยิ้มอย่างเขินอาย อารียามองไปที่ศศินัดดา แล้วพูดว่า: แม่ค่ะ แบบนี้ หนูทําอะไรก็ต้องผ่านความคิดเห็นทุกอย่างจากแม่ เหรอคะ หนูก็อายุยี่สิบกว่าแล้วนะคะ
ศศินัดดาบ่นพึมพำและไม่พูดอะไร
รพีพงษ์มองไปที่อารียา แล้วพูดว่า”พวกคุณอยู่ที่ นี่ไปก่อนนะ ผมจะออกไปข้างนอก จัดการเรื่องบาง อย่าง แล้วจะรีบกลับมา
อารียาพยักหน้า รู้ดีว่ารพีพงษ์กำลังจะไปจัดการ กับคนที่มาสร้างปัญหาให้กับพวกเขาในวันนี้
ในตอนนี้รพีพงษ์รู้แล้ว คนที่ว่างจ้างฌัลล์ให้ทำเรื่อง นี้ รพีพงษ์เป็นคนชอบตัดหญ้าถอนโคนเสมอ
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ