เห็นนกทีป์ตัดสินใจแบบนี้ อารียาก็ทำได้เพียงพ หน้าแล้วพยักหน้าอีก แล้วกล่าว “ทราบแล้ว คุณปู่ เพียงแค่ถ้าเรื่องนี้ถูกบริษัทซันบับเบิ้ล กรุ๊ปรู้เข้า ถ้า โทษ ก็อย่าโทษฉันนะ”
ธายุกรหัวเราะเยาะเย้ยทันที แล้วกล่าว “อารียา เรื่องนี้นอกจากแกจะไปฟ้อง ไม่งั้นบริษัทซันบับเบิ้ล กรุ๊ปจะรู้ได้ยังไง ถ้าแกอยากจะกล่าวโทษแกก็โทษ ที่แต่งงานกับไอ้สวะรพีพงษ์เถอะ ใครให้เขาเป็นเศษ สวะขนาดนี้ แล้วยังนามสกุลเดียวกับตระกูลลัดดา วัลยอีก”
อารียาไม่ได้สนใจธายุกร เธอไม่ได้กล่าวโทษร พงษ์ แต่กลัวรู้สึกซาบซึ้ง ถ้าไม่ใช่เพราะรพีพงษ์ เธอ คงถูกธายุกรและบรินทร์ทิพย์บีบจนมุมไปแล้ว
“เรื่องนี้ก็ตกลงตามนี้ วันที่ตระกูลลัดดาวัลย์ส่ง คนมานั้น รพีพงษ์ห้ามปรากฏตัว บริษัทก็มอบให้ ธายุจัดการ เชื่อมั่นว่าจระกูลฉัตรมงคลของฉันจะ มีอนาคตไกล เป็นตระกูลระดับต้นที่ประจักษ์แห่ง เมืองริเวอร์ จะเป็นจริงในไม่ช้า” นกทีป์กล่าวอย่างคนของตระกูลฉัตรมงคลทุกคนเริ่มปรบมือ หัวเราะ ยินดีกับคําพูดของนกที
หลังจากได้ตัดสินใจแล้ว ก็กลับขึ้นไปพัก ผ่อนชั้นบน
ญาติเหล่านั้นของตระกูลฉัตรมงคลล้วนกำลังพูด คุยเรื่องคนของตระกูลลัดดาวัลย์จะมาที่ห้องรับแขก
ธายุกรและชรินทร์ทิพย์ทั้งคู่เดินไปข้างหน้าของ อารียาและรพีพงษ์ ใบหน้าเต็มไปด้วยความสะใจจน จะล้นออกมาแล้ว
“อารียา เกรงว่าแกคงคิดไม่ถึง ถึงแม้แกจะทำให้ โรงงานวัสดุก่อสร้างโฮมมาท์ลดราคาให้หนึ่งเท่า สุดท้ายก็ต้องโดนไล่ออกจากบริษัทอยู่ดี น่าเสียดาย จริงๆ ความจริงแกอยู่ในบริษัทก็เจริญก้าวหน้าที่อยู่ หรอก ก็เพราะไอ้สวะรพีพงษ์ที่ทำให้เดือดร้อน ฉันว่าแกรีบหย่าร้างกับเขาเถอะ” ธายุกรหัวเราะ อย่างเยาะเย้ยแล้วกล่าว
หย่าหรือไม่หย่าก็ไม่ต่างกัน เธอสามารถทำให้เขา ลดราคาได้เท่าตัว ก็ไม่ใช่ว่าใช้วิธีการที่ไม่เหมือน คนทั่วไปเค้าทํากันหรอ บนหัวของรพีพงษ์ เป็นสี เขียวตั้งนานแล้ว” ขรินทร์ทิพย์หัวเราะพลางกล่าว
สีหน้ารพีพงษ์สงบนิ่ง หัวเราะอย่างดูแคลนแล้ว กล่าว “คนที่ไม่มีศักยภาพ จะหาเหตุผลต่างๆนาๆ ให้ ร้ายผู้อื่น”
ชรินทร์ทิพย์ถสั่งตามองทันที แล้วกล่าว “ร พงษ์ แกว่าใครไม่มีศักยภาพ? แกต่างหากที่เป็นไอ้สวะขึ้น ชื่อของเมืองริเวอร์ปะ?”
อย่าไปต่อร้องต่อเถียงกับเธอ ปากของเธอนั้นเน่า ” ขนาดไหน คุณไม่ใช่ไม่รู้” อารียาพูดกับรพีพงษ์
ชรินทร์ทิพย์หัวเราะเหอะอย่างเยาะเย้ย แล้วกล่าว “ฉันว่าพวกแกกำลังอิจฉาฉันมากกว่า ไม่ว่าจะยังไง ฉันก็กำลังจะได้แต่งเข้าไปในตระกูลลัดดาวัลย์แล้ว ก็ไม่มาต่อร้องต่อเถียงกับพวกแกแล้วล่ะ แต่รอให้ ฉันแต่งเข้าตระกูลลัดดาวัลย์ พวกแกคงโดนไล่ออก จากตระกูลฉัตรมงคลไปนานแล้วล่ะ”
รพีพงษ์ปืนปาก แล้วกล่าว “กลัว แต่ความ ปรารถนา ของแกจะไม่มีทางเป็นจริงได้
ยหน้าชรินทร์ทิพย์เต็มไปด้วยความเหยียดหยาม แล้วกล่าว ” แกว่าคนอื่นในสิ่งที่ตัวเองทำไม่ได้ให้มัน น้อยๆหน่อย ฉันจะบอกอะไรให้นะ ต่อไปฉันจะเป็น คุณนายน้อยของตระกูลลัดดาวัลย์ แกอยู่ให้เป็น หน่อย
อารียา ครอบครัวแกก่อนหน้านี้อาศัย วิลล่า คง มั่นใจน่าดู จะบอกให้แกรู้ไว้นะ ตอนนี้ฉันก็กำลัง เตรียมที่จะซื้อวิลล่าบูติกที่ดงเย็นหนึ่งหลัง แล้วแก ดูไว้นะสิ่งที่แกสวมและใส่ในตอนนี้ ก็ล้วนเป็นของ ราคาถูกสินะ ให้แกดูหยกนี่ของฉัน สามแสนกว่า นะ แล้วก็กระเป๋าใบนี้ ยี่ห่ออามานี่เชียวนะ ปีนหยกน บนหัวฉัน ก็สองแสนกว่านะ เกรงว่าชีวิตนี้แกคงไม่มี ปัญญาซื้อของพวกนี้สินะ?” ชรินทร์ทิพย์เปลี่ยนเรื่อง คุย
อารีย่ามองชรินทร์ทิพย์อย่างไร้ซึ่งคำพูดใดๆ รู้สึก ว่ามองเห็นเงาของปรางทิพย์บนร่างของเธอ ล้วน เป็นพวกชอบเห่อ
อีกทั้งอารียาก็ไม่ได้อิจฉาสิ่งพวกนี้ของชรินทร์ทิพย์เลย ที่บ้านเธอยังมีสร้อยหัวใจของดาวศุกร์วาง อยู่หนึ่งเส้น แค่ งนั้น ราคาก็ปาไปสิบห้าล้านแล้ว
ถ้าไม่ใช่เพราะไม่อยากโอ้อวด ตอนนี้อาริยา คง เอาสร้อยเส้นนั้นมา ให้ซรินทร์ทิพย์ดูแล้ว
“แกแต่งงานกับสวะรพีพงษ์นี่ ถึงแม้จะใช้เงินที่ คุณย่าให้ชื่อวิลล่า แต่ชีวิตนี้ของแก มากสุดก็ได้แค่ นี้แหละ ไอ้สวะรพีพงษ์นี่ให้อะไรแกได้บ้าง แต่กับฉัน ไม่เหมือนกันล่ะ รอให้ฉันแต่งเข้าตระกูลลัดดาวัลย์ ทรัพย์สมบัติมากมายกำลังรอฉันอยู่” ชรินทร์ทิพย์ พูดอย่างสะใจ
พีพงษ์เพ่งไปที่บรินทร์ทิพย์ ภายในใจสงสัยว่า ทำไมจู่ๆเธอถึงได้มีเงินขึ้นมามากมายขนาดนี้ แล้ว กล่าว “ก่อนหน้านี้ครอบครัวแกก็ไม่ได้มีเงินมาก ขนาดนี้ป่ะ แก อสิ่งของเหล่านี้มาได้ยังไง คงไม่ใช่ ลับหลังตระกูลลัดดาวัลย์ เอาอะไรที่มีค่าไปนะ?”
ธายุกรถลึงตาใสรพีพงษ์ทันที แล้วกล่าว “รพีพงษ์ มึงเป็นบ้าไรวะ ตัวมึงเองไม่มีเอง เลยดูถูกคนอื่น?”
รพีพงษ์หัวเราะแล้วหัวเราะอีก แล้วกล่าว “พวกแกไม่ใช่ว่าชอบหาเรื่องแบบนี้กันหรอ?”
ชรินทร์ทิพย์หัวเราะเหอะอย่างดูแคลน แล้วกล่าว “เยอะ บอกแกก็คงไม่เป็นไร เงินพวกนี้ได้มาจากการ ที่ตระกูลลัดดาวัลย์ให้โบราณวัตถุมาแล้วฉันเอาไป ขาย ของพวกนี้ความจริงแล้วก็มอบให้ฉัน ฉันเอาไป ขาย ถึงแม้จะเป็นคุณปู่ก็พูดอะไรไม่ได้
รพีพงษ์รู้โดยพลัน ว่าแท้ที่จริงแล้วเงินของชรินทร์ ทิพย์มาจากไหน
แล้วเขาก็ยิ้มออกมาอย่างเร็ว วัตถุประสงค์จริงๆใน ครั้งนี้ โยษิตามานั้น ก็มาเพื่อเอาของเหล่านี้กลับไป ตอนนี้ชรินทร์ทิพย์เอาวัตถุโบราณพวกนั้นขายไป แล้ว แล้วยังใช้เงินอย่างสุรุ่ยสุร่าย ถึงเวลานั้นที่โยษิ ตาจะมาเอา ก็จะมีหนังสนุกๆแล้ว
“ไม่ทราบว่าแกขายวัตถุโบราณขายได้เท่าไหร่ หรอ?” รพีพงษ์ถามอีกครั้ง
สองอย่างก็ขายได้กี่สิบล้านนะ ทําไม แกอิจฉาจา ร้อนแล้ว? เหอะเหอะ เสียดายที่ชีวิตนี้แกจะไม่ได้มี เงินมากขนาดนี้แล้ว” ซรินทร์ทิพย์พูดอย่างสะใจ
รพีพงษ์รู้สึกว่าชรินทร์ทิพย์นั้นสมองปัญญาอ่อน หนักขึ้นทุกที วัตถุโบราณพวกนั้น สักอย่างอะไร ก็ได้ราคาต่อชิ้นก็เกือบพันล้าน คิดไม่ถึงว่าซรินทร์ ทิพย์รายสองอย่างรายได้สิบกว่าล้าน ซึ่งทําลาย ข้าวของเหลือเกิน
แต่ถ้าขรินทร์ทิพย์ยิ่งทำเกินไป ถึงเวลานั้นรอรับ การลงโทษ ก็ยิ่งน่ากลัวขึ้นไปอีก นี่รพีพงษ์ไม่ต้อง เป็นกังวลใจแล้ว
“ขอให้แกโชคดี” รพีพงษ์หัวเราะแล้วกล่าวต่อบริน ทร์ทิพย์ แล้วจับมือของอารียา เดินออกไปจากวิลล่า
ชรินทร์ทิพย์และธายุกรก็ไม่เข้าใจว่าทำไมรพีพงษ์ ถึงได้พูดประโยคนี้ออกมากะทันหัน แต่พวกเขา คิดว่า ไม่ว่ารพีพงษ์จะพูดอะไร ก็ล้วนแต่เป็นเพราะ อิจฉาพวกเขา
บนทางกลับบ้าน อารียาดูรพีพงษ์อย่างเสียอารมณ์ แล้วกล่าว “ครั้งนี้คุณปู่ให้ธายุกรเข้ามาดูแลบริษัท ถึงแม้จะบอกว่าชั่วคราว แต่ถ้าธายุกรเริ่มรับช่วงต่อ แน่นอนว่าจะไม่มีทางให้โอกาสใดๆกับฉันอีกแล้ว เกรงว่าในอนาคตฉันจะโดนเฉดหัวออกจากบริษัทจริงๆ
รพีพงษ์หัวเราะแล้วหัวเราะอีก แล้วกล่าว ไม่ต้อง เป็นห่วง บริษัทตระกูลฉัตรมงคล เกรงว่าจะอยู่ได้ไม่ นาน ก็ต้องเผชิญกับวิกฤตแล้ว คุณปลีกตัวออกมาอ ก่อนจะเกิดวิกฤต ไม่มีอะไรที่ไม่ดี
“วิกฤต? ทำไมถึงพูดแบบนี้ ถ้าชรินทร์ทิพย์แต่งเข้า ตระกูลลัดดาวัลย์ สำหรับตระกูลฉัตรมงคลแล้ว ควร จะเป็นเรื่องที่ดีจึงจะถูก” อารียาไม่เข้าใจแล้วกล่าว
“ตอนนี้ผมอธิบายคุณได้ไม่ชัดเจน แต่คุณต้องรู้ ไว้ แม้คุณจะไม่มีงานทำแล้ว พวกเราก็ยังคงใช้ชีวิต อย่างมีความสุข ก็เหมือนที่คุณพูดไว้ มีลูกชายให้ ผม เลี้ยงดูเขา ก็เป็นหนึ่งทางเลือกที่ไม่เลว” รพีพงษ์ หัวเราะพลางกล่าว
อารียามองเขาอย่างแสดงอาการไม่พอใจ ยื่นมือ ออกไปแล้วทุบที่ร่างกายของเขาสองครั้ง
“ไสหัวไป ถึงขั้นนี้แล้ว ยังจะมีอารมณ์มาล้อเล่นกัน อีก”
อายามลงรพีพงฟที่ใบหน้านิ่งสงบ เหมือนไม่ได้ ใส่ใจเรื่องนี้เลย แล้วถามอย่างแปลกใจ “รพีพงษ์ คุณมีเงินเท่าไหร่กันแน่? บอกฉันหน่อยได้ไหม?”
พีพงษ์มองไปที่อารียา ในใจคิดในเมื่อเธออยากรู้ งั้นก็บอกเธอละกัน
“ยังมีสา……..
“กี่ล้าน?” อารียาไม่รอให้รพีพงษ์พูดจบ ก็พูดขึ้นมา “กี่ล้านก็ไม่น้อยแล้ว ถ้าฉันไม่มีงาน ก็เพียงพอพวก สําหรับพวกเราใช้ช่วงเวลาหนึ่งแล้ว”
“หืม……..หมื่นล้าน” รพีพงษ์กล่าว
อารียาตาโต เพ่งมองรพีพงษ์คล้ายกับมองเห็น อย่างใดอย่างนั้น แล้วถาม “คุณ…คุณพูดอะไร นะ?”
“หืม ฉันยังมีกี่หมื่นล้าน” รพีพงษ์กล่าว
กี่หมื่นล้าน คือลดจำนวนลงแล้ว เพราะกี่หมื่นล้าน ก็คือเงินในบัตรแบล็กการ์ดนั้นของเขา ทรัพย์สิน ของเขาไม่ได้มีเพียงแค่ในบัตรแบล็กการ์ดนี้ ทรัพยเงินทั้งหมดของเขารวมกันมีเท่าไหร่ แม้แต่เขาก็ไม่
ตอนแรกอารียา นตระหนก แต่ไม่นานเธอก็รู้สึก ตัว รู้สึกว่ารพีพงษ์กำลังล้อเล่นกับเธออยู่
หากรพงษ์ หมื่นล้านจริงๆล่ะก็ ทำไมตอนแรก ต้องแต่งเข้าบ้านของพวกเธอ
“หี ไม่อยากพูดก็ ง คุณยังกลัวฉันจะนึกถึงเงิน จํานวนน้อยนั้นหรอ ไม่จําเป็นต้องล้อเล่นแบบนี้กับ ฉัน” อารียากล่าว จากนั้นก็ไม่ได้สนใจรพีพงษ์อีก เลย
ใบหน้ารพีพงษ์เต็มไปด้วยความเสียอารมณ์ ไม่ คาดคิดว่าอารียาจะไม่เชื่อเขา คิดว่าเขากำลังล้อ เล่น
ในตอนกลับบ้าน ศศินัดดารอที่ห้องรับแขกด้วย ใบหน้าที่เป็นเดือดเป็นร้อน เห็นรพีพงษ์และอารียา เดินเข้ามา รีบเข้าไปต้อนรับ แล้วถามอย่างเป็นห่วง “อารี ฉันได้ยินพวกเขาบอกว่าท่านนกทีปีให้แกผัก ผ่อนสักระยะหรอ? ช่วงนี้ให้ธายุเข้ามาดูแล?”
อายาพ ทหน้าแล้วพยักหน้าอีก กล่าวอย่างเสีย อารมณ์ “ฉันก็รู้สึกเหนื่อยพอดี พักผ่อนสักระยะก็ดี
คลนัดดาพูดอย่างเคร่งเครียด “ฉันได้ยินมาว่า ตระกูลลัดดาวัลย์จะส่งคนมาหาพวกเรา มาสู่ขอเจ้า หรือเปล่า อารี ช่วงแบบนี้แกจะพักผ่อนไม่ได้นะ ถ้า เจนแต่งเข้าตระกูลลัดดาวัลย์แล้ว ตามความสัมพันธ์ ของเธอและรายุ แกก็ไม่มีโอกาสได้เข้าไปทำงานที่ บริษัทแล้ว
เข้าไม่ได้ก็ไม่เข้า ยังไงฉันก็ขัดตาพวกเขาไปหมด ฉันก็จะได้พักบ้าง” อารียากล่าวอย่างรำคาญ
“ไม่ได้นะ ถ้าแกไม่มีงานทํา ชีวิตของพวกเราจะ ดำเนินต่อไปอย่างไร” ศศินัดดากล่าว
“ไม่ใช่ว่ายังมีรพีพงษ์หรอ เขาสามารถเลี้ยงดูเรา ได้” เมื่อนึกถึงที่รพีพงษ์บอกว่าตนเองมีเงินหมื่นล้าน อารียา อยากหัวเราะขึ้นมา ให้รพีพงษ์ “หมื่นล้าน” เลี้ยงตนเองก็โอเคแล้ว
ศศินัดดามองที่รพีพงษ์ แววตาเปลี่ยนเป็นดุร้ายขึ้น มา กัดปากกัดฟันแล้วกล่าว “เขาไอ้สวะนี่ เอาอะไรมาเลี้ยงพวกเรา ฉันได้ยินมาว่า ท่านนาที ปลดแกออก ก็เป็นเพราะเขา
“รพีพงษ์ แกนี่มันดาบร้อยเล่มเกวียน แกทําร้าย ครอบครัวเราทําร้ายจนอนาถ ตอนนี้อารีไม่มีงานทำ พวกเราต้องอดอยาก ทําไมแกยังดื้ออยู่บ้านฉันไม่ ไปสักทีนะ”
รพีพงษ์มองไปที่ศ นัดดา แล้วกล่าว “แม่ คุณอย่าง เครียด อารีพูดไม่ผิด ถึงแม้เธอไม่มีงานทำ ผมก็ สามารถเลี้ยงดูพวกคุณได้
แกจะเลี้ยงดูยังไง? แม้แต่งานทำแกยังไม่มี แม้ใน มือแกยังพอจะมีเงินบ้าง เงินเหล่านั้นเกรงว่าจะจ่าย ได้แค่ค่าส่วนกลางเท่านั้นแหละ ฉันว่า ชายวิลล่านี้ เสียให้จบเรื่อง
“วันนี้แม่ของเจนมาโอ้อวดฉันอีกแล้ว บนนิ้วสวม แหวน วง บนคอใส่สร้อยทองหนึ่งเส้น ท่าทีแบบนั้น มันน่าโมโหจริงๆ เธอตั้งใจมาเยาะเย้ยฉัน แม้เครื่อง ประดับที่คล้ายคลึงกันฉันยังไม่มีเลย แกสามารถซื้อ สร้อยทองให้ฉันได้ไหม? แม้แต่สร้อยทองแกยังไม่ ซื้อให้ฉันเลย แล้วยังจะมีหน้าที่ไหนมาพูดว่าจะเลี้ยง พวกเรา!”
รพิพงษ์ได้ยินคําพูดของ นัตตาแล้ว ในใจ ความจริงแล้วช่วงหลายปีมานี้ก็ไม่เคยซื้อของขวัญ ให้เธอเลย ในเมื่อเธอพูดออกมาแล้ว งั้นก็ไปซื้อสัก หน่อย ให้เธอได้หมดห่วง
“งั้นผมจะไปซื้อเดี๋ยวนี้”
พูดจบ รพีพงษ์จบมือของอารียา แล้วเดินออกจาก วิลล่าไป
อารียาตกใจ แล้วกล่าว “รพีพงษ์ แม่ฉันก็แค่พูด ออกมาพร่ำเพรื่อเท่านั้น คุณอย่าถือสา
รพีพงษ์หัวเราะ แล้วกล่าว “ก็ควรที่จะซื้อเครื่อง ประดับที่คล้ายคลึงกันให้พวกเธอแล้วจริงๆ ไม่งั้น โดนคนอื่นเยาะเย้ยบ่อยๆก็ไม่ใช่เรื่อง
จากนั้นรพีพงษ์ก็พาอารียายังร้านเครื่องประดับที่ มีชื่อเสียงของเมืองริเวอร์
หลังจากจอดรถแล้ว รพีพงษ์กับอารียากเข้าไปใน
ร้านเครื่องประดับ
ผ่านไปไม่นาน มีรถปอร์เช911 ใหม่เอี่ยมขับเข้ามาผู้หญิงในรถเดินลงมา แล้วค่าหนึ่งครั้ง “รถเลนจ์โล เวอร์ร้ายๆยังกล้าที่จะมาจอดในที่จอดรถเฉพาะของ ฉันด้วยหรอ นี่หาที่ตายชัดๆ!”
ผู้หญิงคนนี้ชื่อภูรี เป็นลูกค้าประจำของร้านเครื่อง ประดับนี้ ปกติรถของเธอจะจอดไว้ตรงนี้ เพราะเป็น ที่สะดุดตา สามารถดูได้ว่าเธอมีเงิน
ตอนนี้เห็นมีรถจอดที่ตำแหน่งของเธอ ในใจก็โกรธ เป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมา
เธอลงมาจากรถ ยังมีบอดี้การ์ดตามหลังมาด้วย
สองคน
“คนที่มาที่นี่ใครบ้างไม่รู้ว่าที่จอดตรงนี้เป็นที่จอด เฉพาะของฉันภูรี กล้าที่จะจอดที่จอดของฉัน ไม่รู้ อะไรผิดชอบชั่วดีเสียแล้ว ก็แค่เลนจ์โลเวอร์หนึ่ง ล้านป่ะ ทุบให้หมด! ภูรีพูดกับบอดี้การ์ดสองคน
ทันใดนั้นบอดี้การ์ดทั้งสองคนทุบกระจกรถของพี
พงษ์แตก
คนทางเดินผ่านไปมาล้วนตกใจ นี่ต้องมีเงินมาก ขนาดไหน รถคันล่ะล้านสั่งให้ทุบก็ทุบ คนนี้ไม่ควรยั่วโมโหเลยนะ
ฎ เห็นรถโดนทุบ อารมณ์ดีขึ้นมานิดนึง พึมพำาแล้ว กล่าว หากไม่ใช่ว่าอีกแปปฉันต้องไปเจอคุณโยษิตา แห่งเกียวโตล่ะก็ ไม่งั้นฉันจะหาเจ้าของไอ้รถคันนี้ ให้ได้ แล้วจัดการกับมัน ไปเถอะ พวกเราไปซื้อของ ขวัญสองอย่างให้กับคุณโยษิตากันเถอะ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ