บทที่151 วางเดิมพันด้วยโรงงานของแก
สีหน้าของ พนนท์เต็มไปด้วยความกังวล เขา จ้องมองคนที่อยู่ข้างหลัง แล้วถาม: พวกนายยัง มีใครที่เล่นเกมได้ดีอีก ไม่จำเป็นต้องเก่งมาก ขอ แค่สามารถตามทันsupportก็พอ ฉันรู้ดีว่าความ สามารถของธีริทธิ์ เขาสามารถพาเราได้
พูดอยู่ ชีพนนท์ก็หันหน้าไปมองธีริทธิ์ อันที่จริงเขา มีความสงสัยในใจ เพราะว่ารอบเมื่อกี้ธีริทธิ์ไม่ได้ แสดงฝีมือออกมาเหมือนคืนนั้น ซึ่งทำให้เขามีความ กังวลเล็กน้อย
คนที่อยู่ข้างหลังของชีพนนท์ทุกคนก้มหน้าก้มตา ไม่มีใครอยากขึ้นไป ถ้าเกิดแพ้ขึ้นมา นั่นมันเงินล้าน เลยนะ
คนของพงศ์เทพมองมาที่กลุ่มคนของชีพนนท์ ด้วยความเย้ยหยัน
ชีพนนท์ ให้ไวหน่อย พวกฉันไม่ได้มีเวลาให้พวก นายมากหรอกนะ ไม่งั้นพวกนายก็สี่ต่อห้า ไม่งั้นก็ จ่ายเงินมา มีอะไรให้ต้องลีลาชักช้า”พงศ์เทพพูดขึ้น
ชีพนนท์กัดฟันแน่ แล้วจ้องแล้วชีพนนท์ก็พูด: ” อย่าได้ใจได้ไปเลย ต่อให้ต่อห้า
พวกฉันก็ชนะพวกแกอยู่ดี!”
ธีริทธิ์เองก็มีความกังวลเล็กน้อย เขารู้ดีว่า อยู่ใน สถานการณ์ระดับนี้ หากต้องการชนะด้วยสี่ต่อห้า อาจจะเป็นไปได้ยาก นอกจากฝั่งตรงข้ามผิดพลาด
ในเวลานั้นเองรพีพงษ์ก็เดินออกมาจากมุมห้อง เขา เหลือบไปมองชีพนนท์และคนอื่นๆที่เต็มด้วยความ วิตกกังวลอยู่ ยิ้มแล้วพูด: “ฉันมาแทนช่องโหว่ที่ ขาดไปเอง”
ชีพนนท์อึ้งไปชั่วขณะ แล้วถาม: “คุณรพี คุณก็เล่น เกมนี้ด้วยเหรอครับ?”
“เคยเล่นแค่ครั้งเดียว” รพีพงษ์ตอบ
ชีพนนท์นึกว่ารพีพงษ์คือขั้นเทพของเกมนี้ ในใจก็ มีความหวังขึ้นมาทันที แต่พอหลังจากได้ยินว่าร พงษ์เคยเล่นแค่หนึ่งครั้ง ก็หมดหวังทันที
พวกคนข้างหลังชีพนนท์ก็ทําอะไรถูก แต่ด้วยความ กลัวพีรพงษ์ พวกเขาก็ไม่กล้าที่พูดอะไร
รีริทธิ์จำได้ว่าคืนนั้นพรีพงษ์เล่นได้penta killด้วย มือถือของเขา แต่เขาคิดว่าเป็นเพราะพีรพงษ์โชค ช่วย และยังเล่นเป็นแถวคู่ตอนนี้พวกเขาคือห้าต่อห้า แล้ว ทั้งห้าคนของพงศ์เทพก็อยู่ในทีมต่อสู้ และให้ ความร่วมมือ มีความยากสูงกว่าแถวคู่มาก
“พี่เขย เกมนี้ เคยเล่นแค่หนึ่งครั้ง ทั้งห้าคนฝั่งตรง ข้ามจัดการไม่ง่ายเลยนะ หรือว่าให้คนอื่นมาแทน กว่า”ธีริทธิ์กล่าวขึ้น
ชีพนนท์ก็พยักทันที เขาไม่กล้าปฏิเสธรพีพงษ์ โดยตรง ทำได้เพียงให้ธีริทธิ์เป็นคนพูด
“ไม่เป็นไร ถึงยังพวกนายก็หาคนมาแทนที่ไม่ได้ ถ้างั้นให้ฉันลองดู”
ชีพนนท์นั่งลงที่เก้าอี้พร้อมด้วยรอยยิ้ม แล้วหยิบ
มือถือด้านบนมา
สมาชิกฝั่งตรงของพงศ์เทพลูบท้องแล้วหัวเราะ แล้วมองมาที่รพีพงษ์ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเยาะเย้ย
“ชีพนนท์ สมองนายโดนน้ำเข้าเปล่า แล้วยอมให้ คนที่เคยเล่นเกมนี้มาแค่ครั้งเดียวมาแข่งกับพวก เรา? นี่แกอยากให้เงินพวกฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?” ธีริทธิ์กล่าว
“นี้มันน่าขำาสิ้นดี แค่คนที่เคยเล่นเกมนี้แค่หนึ่งครั้ง ก็กล้ามาแข่งกับพวกเราที่แข่ง แรงค์ Conqueror 20ดาวเนี่ยนะ ฉันสามารถตีเขาและป้อมแม่แตกไป พร้อมกัน”
“นี่คงเป็นเรื่องที่ตลกสุดแห่งปีนี้ที่ฉันได้ยินมา วิธี เล่นยังไงเขาคงไม่รู้เลย ยังอยากมโนมาแข่งกับพวก ฉัน”
“ไม่แน่นเขาอาจเก่งเหมือนปากก็ได้ พูดจาโอ้อวด เก่งทักษะเหมือนอย่างมาก
เมื่อฟังคําเยาะเย้ยของทีมตรงข้าม ชีพนนท์กำ หมัดแน่นและ แล้วด่าว่า “เย็*แม่ง หุบปากของพวก แกซะ คุณรพีไม่ใช่คนที่พวกแกสามารถที่จะหัวเราะ
พวกที่อยู่ข้างหลังเขามองคนกลุ่มของพงศ์เทพ อย่างกับมองคนโง่ เล่นเกมเก่งไม่เก่งพวก เขาก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าถ้าพงษ์อยากตัดขาพวกเขา ก็พูดได้ว่าเรื่องง่ายๆ
ความจริงธีริทธิ์อยากให้รพีพงษ์หยุดสร้างปัญหาที่ นี่ แต่เมื่อคิดถึงท่าทางของชีพนนท์ที่เคารพรพีพงษ์ เขาก็ไม่กล้าที่จะพูด
แมร่งเอ้ย ถ้าเกิดคุณร อยากเล่น งั้นพวกเราก็ เล่นไปพร้อมกับคุณรพี ก็แค่เงินห้าล้านเอง ถือสาว่า ทำธุรกิจละกันชีพนนท์พูดขึ้น
พงศ์เทพจ้องมองไปที่ชีพนนท์ แล้วรู้สึกว่าชีพนนท์ เรียกร พงษ์ว่าคุณรพีอยู่ได้ ก็เลยแปลกใจเล็กน้อย จึงถามว่า: “คนกล้าหาญแบบนาย ฉันก็เพิ่งเคยเห็น เป็นครั้งแรก ไม่ทราบว่าชื่อแซ่อะไรครับ ”
รพีพงษ์” รพีพงษ์ตอบกลับ
พงศ์เทพอึ้งชั่วขณะ แล้วถาม: “คงไม่ใช่รพีพงษ์คน ที่เกาะชายกระโปรงผู้หญิงกินคนนั้นนะ? ”
“ใช่แล้ว ก็คือเขา ฉันเคยเห็นรูปของเขา เมื่อ เขาพูด อฉันก็นึกขึ้นได้ทันที ถึงว่าทำไมหน้าตา คุ้นๆ”คนข้างๆพงศ์เทพเป็นคนพูด
“ที่แท้ก็แมงดาที่มีชื่อเสียงของเมืองริเวอร์เรานี่เอง เฮ้ย ไอ้หมอนี่มันคงบ้าไปแล้ว ถึงกล้าที่จะมาเล่นเกม กับเรา? ”
“แม่ง น่าขำ หาย ก็แค่คนเกาะผู้หญิงกิน ยังกล้า ที่จะเล่นแทนที่ช่องโหว่กับพวกเรา รนหาที่ตายชัดๆ
พงศ์เทพมองมาทีชีพนนท์อย่างหยอกล้อ แล้วถาม: “ชีพนนท์ นี่แกน้ำเข้าสมองจริงเหรอเนี่ย? ที่ให้ไอ้ แมงดานี่มาเล่นแทนช่องโหว่ที่ขาดไป ที่สำคัญแก ยังให้ความเคารพ ฐานะอย่างแก คนแบบนี้แค่ถือ รองเท้าให้แกก็ยังไม่คู่ควรเลยไม่ใช่เหรอ? ”
“เย็*แม่ง หุบปากซะ คุณรพีคือคนง่ายๆอย่างที่พวก แกคิดไม่ถึง ถ้าทำให้เขาโกรธ พวกแกจะกินก็ไม่ได้ กินก็ต้องไป!”ชีพนนท์เป็นกังวลทันที
รพีพงษ์โบกให้เขา บอกให้เขาอย่าหุนหันพลันแล่น
พงศ์เทพเบะปาก และไม่เชื่อคำพูดของชีพนนท์ พูดอย่างเย็นชา “ถ้าพวกแกอยากให้เงินฉันขนาดนั้น งั้นเราก็มาแข่งต่อกันเถอะ ไอ้แมงดานี่รวมกับพวก แก วันนี้พวกฉันอยากแพ้ยังยากเลย
รพีพงษ์ยิ้มแล้วมองไปที่เขา แล้วพูด: ” ทำไมแกถึง มั่นใจขนาดนั้น ทำไมเราไม่วางเดิมพันเพิ่ม? ”
พงศ์เทพยิ้มเย้ยหยัน แล้วพูด: “คิดไม่ถึงว่าแมงดา อย่างแกจะกล้าที่จะเพิ่มเติมพัน อยากวางเดิมพัน เพิ่ม แกอยากวางเงินเพิ่มเท่าไหร่? แกอย่าบอกกับ ฉันนะว่าเพิ่มอีกสองร้อย
ผู้คนด้านหลังเขาก็หัวเราะขึ้นทันที
เมื่อกี้แกบอกว่าพ่อแกเพิ่งยกโรงงานวัสดุก่อสร้าง “ ให้แกไม่ใช่เหรอ? ถ้าเกิดว่าฉันจำไม่ผิด น่าจะเรียก ว่าโรงงานวัสดุก่อสร้างโฮมาท์ใช่มั้ย ทำไมแกไม่วาง เดิมพันอันนี้ ขึ้นมาละ?”รพีพงษ์ยิ้มแล้วกล่าว
พงศ์เทพเบิกตากว้าง เดิมทีเขานึกว่ารพีพงษ์พูด วางเดิมพันคือ วางเงินเพิ่ม แต่คิดไม่ถึง ว่ารพีพงษ์จะคิดที่จะให้เขาวางเดิมพันด้วยโรงงานสิ่งที่มีมูลค่า ที่สุดบ้านตัวเอง
“แมร่ง แกอย่ามาพูดจาโอ้อวด? ฉันวางเดิมพันเพิ่ม สมบัติบ้านฉัน แล้วแกวางอะไร?โรงงานแบบแกมัน มีมูลค่าแค่ไหนมันวัดกันได้เหรอ แกมันก็แค่แมงดา สามารถเอาของที่มีมูลค่าเทียบเท่ากับสมบัติบ้านฉัน ออกมาเหรอ?”พงศ์เทพกล่าวอย่างเยือกเย็น
ทุกคนๆก็ไม่มีใครเชื่อว่ารพีพงษ์จะสามารถเอาของ ที่มีมูลค่าที่เทียบเท่ากับสมบัติของบ้านพงศ์เทพออก มาได้ แล้วมองไปที่เขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วย ความดูถูก
รพีพงษ์หยิบบัตรแบล็คการ์ดธนาคารออกมาจาก กระเป๋าเสื้อ แล้วเขย่าตรงหน้าพงศ์เทพ แล้วพูด: “บัตรธนาคารใบนี้ น่าจะมีมูลค่ามากกว่าโรงงานแก เยอะเลยทีเดียว”
“++ แมร่งหลอกใครวะ แค่การ์ดธนาคารใบ เดียวเนี่ยนะ…..เดียวนะ นี่มันแบล็คการ์ดของ ธนาคารโลก!?? “พงศ์เทพตกใจแล้วลุกขึ้นจากเก้าอี้
พวกที่อยู่ข้างหลังเขาก็นิ่งอึ้ง แล้วจ้องมองไปที่แบ ล็คธนาคารในมือของรพีพงษ์
ชีพนนท์รู้ว่ารพีพงษ์มีแบล็คการ์ดธนาคาร ก็เลยไม่ ค่อยตกใจ แต่ว่าพวกที่อยู่ข้างหลังเขาไม่รู้ หลังจาก ที่รพีพงษ์หยิบการ์ดธนาคารออกมา ก็หยุดหายใจ ไปชั่วขณะ
ใบหน้าของพงศ์เทพเต็มไปด้วยความสงสัยแล้ว มองไปที่การ์ดธนาคาร แล้วถามชีพนนท์: “แบล็ค ธนาคารโลก มีมูลค่าขนาดนั้นเลยเหรอ?”
พูดแบบนี้กับแกละกัน คนที่จะมีแบล็คการ์ด “ ธนาคารโลกได้ ต้องมีสมบัติไม่น้อยไปกว่าหลาย หมื่นล้าน และยังต่ำสุดด้วย”ชีพนนท์พูด
ธีริทธิ์ก็เบิกตากว้างทันที แล้วมองไปที่รพีพงษ์ด้วย ใบหน้าอย่างเหลือเชื่อ เขาคิด ถึง ว่าพี่เขยแมงดา ของเขา ยังมีสมบัติหลายหมื่นล้าน ตีให้ตายยังไง เขาก็ไม่เชื่อ
“คงไม่ใช่ของปลอมนะ เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะมีเงินมากขนาดนี้ เริทธิ์กล่าว
“เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นของปลอม จะปลอมแบล็ค การ์ดธนาคารโลก ที่สำคัญฉันเคยเห็นกับตาว่าเขา ไปถอนเงินที่ธนาคาร”ชีพนนท์พูดอย่างมั่นใจ
ธีริทธิ์กลืนน้ำลาย ทันใดนั้นเขานึกออกทันทีว่าตอน ที่อยู่บ้าน อารียาเคยบอกว่า บ้านพักตากอากาศของ ที่บ้านและรถยนต์ของที่บ้านรพีพงษ์เป็นคนซื้อ ตอน นั้นเขาก็ไม่เชื่อ แล้วไม่ได้ใส่ใจอะไร
แต่พอเห็นตอนนี้ บ้านพักตากอากาศกับรถยนต์ กี คงจะเป็นรพีพงษ์เป็นคนซื้อจริงด้วย
ทีมพงศ์เทพก็ได้ยินเกี่ยวกับเรื่องแบล็คการ์ด ธนาคารโลก ก็รู้เลยว่าการ์ดธนาคารในมือของรพี พงษ์นั่น มีมูลค่าขนาดไหน
การ์ดธนาคารใบนี้ อย่าว่าแต่ซื้อโรงงานของบ้าน เขาเลย ต่อให้ซื้อครึ่งหนึ่งของเมืองริเวอร์ก็ซื้อได้
“ถ้าแกยังสงสัยว่าการ์ดนี้เป็นของปลอมหรือของ จริง ก็สามารถให้คนของธนาคารมาตรวจสอบได้แน่นอนว่า แกก็ต้องเอาสัญญาณกันอ่อนโรงงานมา ด้วย แล้วยังต้องเชิญทนายมาเป็นพยาน ว ร พงษ์กล่าว
พงศ์เทพเพิ่งเข้าใจว่าทำไมชีพนนท์ถึงได้เคารพรฟื พงษ์ขนาดนั้น ใครก็ตามที่มีแบล็คการ์ดธนาคารโลก เป็นไปได้ยังไงว่าจะเป็นแมงดา
แกจะใช้การ์ดธนาคารนี่วางเดิมพันจริงเห แก…. รอ?”พงศ์เทพถามอย่างไม่น่าเชื่อ
ทำไม แกไม่กล้าเหรอ?รู้งี้ โรงงานของบ้านแก คง เทียบกับการ์ดใบนี่ของฉันไม่ได้ ถ้าแกกลัว ก็ช่าง เถอะ”รพีพงษ์กล่าว แล้วก็เก็บการ์ดธนาคาร
“เดี๋ยวก่อน! “พงศ์เทพทักท้วงทันที
ทีมชีพนนท์ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามพวกเขา พูดได้ว่าก็มี โอกาสที่จะชนะได้ รพีพงษ์ก็แค่เคยเล่นเกมแค่ครั้ง เดียว ถึงแม้ว่าจะเล่นตำแหน่งSupport แต่ก็คงจะสู้ พวกเขาไม่ได้
ในระดับเกมไฮเอนด์ ตำแหน่งทุกตำแหน่งก็มีความ สําคัญ ถ้าเกิดรักษาตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งได้ไม่ดี ก็สามารถทําให้ทีมไม่สามารถพัฒนาได้
ดังนั้นพงศ์เทพก็ยังมั่นใจว่าสามารถชนะพวกชีพ นนท์ได้
ที่สําคัญคือ แบล็คการ์ดธนาคารโลกนี่ก็น่าสนใจ มากด้วย ต่อให้เป็นพ่อเขา ก็คงลองสักครั้ง
ถ้าเกิดว่าสามารถชนะแล้วได้แบล็คการ์ด ธนาคารโลกมา การพัฒนาอุตสาหกรรมของบ้าน เขา ก็จะได้รับส่งเสริมอย่างมาก ถึงเวลานั้นสถานะ ของบ้านเขาที่เมืองริเวอร์ยกระดับขึ้นมา
พงศ์เทพตัดสินใจแล้วคิดในใจ เลยไปโอกาสที่เขา จะได้เงินมายังง่ายดาย ในใจก็ยังคิดว่ารพีพงษ์โง่ ทั้งๆที่รู้ว่าไม่มีทางชนะ ยังกล้าที่จะเอาของที่มีมูลค่า ขนาดนี้ออกมาเดิมพัน
ก็ได้ฉันจะวางเดิมเพิ่มพัน แกวางแบล็คการ์ดใบ “ นี้ ฉันวางโรงงานของฉัน ถ้าเกิดพวกแกแพ้ การ์ดนี้ก็ ต้องไปของฉัน”พงศ์เทพยิ้มอย่างเยือกเย็น
“ตกลง”รพีพงษ์กล่าว
ชีพนนท์มองไปที่รพีพงษ์ แล้วพูด: “คุณรพี ทีม พวกเราไม่ได้เก่งขนาดนั้น เป็นไปได้มากที่จะแพ้ คุณลองคิดใหม่อีกครั้ง”
*ไม่ต้องคิด แค่การ์ดธนาคารใบเดียวเอง ที่สำคัญ ใครว่าเราแพ้แน่นอน”รพีพงษ์ยิ้มแล้วพูด
ชีพนนท์สําลักและพูดไม่ออก แค่การ์ดธนาคารใบ เดียวเอง แต่นั่นเป็นถึงแบล็คการ์ดธนาคารโลกเลย นะ ทำไมมันดูไร้ค่าเมื่อรพีพงษ์พูดถึง
ธีริทธิ์มองไปที่รพีพงษ์ แล้วพูด: “พี่เขย พี่มีเงิน มากมายขนาดนี้ พี่ผมรู้ไหม? ”
รพีพงษ์มองเขา แล้วพูด: “เรื่องนี้ ถ้าแกกล้าบอกพี่ แก ฉันฆ่าแกแน่!”
ธีริทธิ์คอตกทันที ไม่กล้าพูดต่อ
“ถ้าแกตกลง งั้นก็ให้คนไปเอาสัญญามา แล้วตาม มาทนายความด้วย ฉันก็จะเรียกคนของธนาคารมา เพื่อยืนยันว่าการ์ดนี้เป็นของจริงหรือของปลอม”รพี พงษ์หันไปมองพงศ์เทพแล้วพูด
พงศ์เทพก็ไม่ลังเล เขามองว่าให้เป็นธุรกิจที่ทำ กำไรได้โดยไม่ต้องเสียเงิน ในใจก็รู้สึกตื่นเต้นมาก
หลังจากนั้นไม่นาน ทนายความ พงศ์เทพหามาก็ ถือสัญญามาถึงที่คลับรอยัล คนของธนาคารก็มา ถึงที่นี่เช่นกัน แล้วยืนยันว่าแบล็คการ์ดของรพีพงษ์ นั่นคือของจริง
หลังจากที่ทุกอย่างพร้อม ทั้งสองทีมกำลังประจำ วันที่ หยิบมือถือ เตรียมพร้อมที่จะแข่ง
“เมื่อกี้พวกเราชนะไปหนึ่งรอบ แค่ชนะสองรอบ การแข่งขันรอบนี้ก็ถือว่าพวกเราชนะ พวกนาย ไม่ต้องกังวล ก็แค่ใช้เวลาทักษะเพียงแค่ยี่สิบนาที เท่านั้นเอง”พงศ์เทพพูดแล้วยิ้ม
ใบหน้าของชีพนนท์เคร่งเครียด แล้วหันไปมองร พงษ์ แล้วพูด: “คุณรพี คุณเล่นตำแหน่ง support คุณเดิมตามผมก็พอครับ ”
รพีพงษ์ยิ้ม แล้วพูด: “ฉันเล่นJungle เดี๋ยวพวกนาย ก็ฟังคำสั่งฉันละกัน รองรับว่าฆ่าพวกเขาตายอย่าง อับอายขายหน้าแน่
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ