แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

บทที่ 116 บอกว่าเขาเป็นไอ้ปัญญาอ่อนก็ไม่เกินไป



บทที่ 116 บอกว่าเขาเป็นไอ้ปัญญาอ่อนก็ไม่เกินไป

ธายุกรและนภทีบ์ อึ้งไปทั้งสองคน ไม่คิดว่าเรียรวิชญ์จะพูดแบบนี้

“ผู้อำนวยการ รายุคือหลานแท้ๆของผม เขาเก่งตั้งแต่เด็ก ไม่นาน มานี้เพิ่งไปฝึกประสบการณ์ด้านตะวันตกมา ด้านการทำงานก็ดีกว่า อารียาเยอะหรือเป็นเพราะว่าอารียามาพูดอะไรกับผู้อำนวยการ ผู้ อ่านวยการถึงพูดแบบนี้?” นก ทีป์ พูดด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยดี

“ไม่ใช่ แค่ส่วนตัวผมสงสัยความสามารถของรายุกรเพียงเท่านั้น เอง” เธียรวิชญ์ ยิ้มปนพูด

นภทีป อารมณ์ขึ้นทันที ทางฝ่ายเขานภที่ป์เป็นคนเลือกผู้รับผิด ชอบเพียงผู้เดียว ที่เขามาครั้งนี้แค่มาแจ้งเท่านั้น

แต่ไม่คิดว่าเรียรวิชญ์จะสงสัยความสามารถของหลานชาย ใน สายตาของเขาถ้าสงสัยธายุกรก็คือสงสัยตัวเขาด้วย

“ผู้จัดการ ความสามารถของธายุผมรู้ดีที่สุด อารียาสู้เขาไม่ได้ จริงๆ และที่พวกเราจะเปลี่ยนไม่เปลี่ยนผู้รับผิดชอบโปรเจคผม เป็นคนตัดสินใจ ที่ผมมาก็เพื่ออยากจะแจ้งเท่านั้น หวังว่าผู้อำนวย การจะเข้าใจ” นภทีป์พูด

ได้ยินนกที่พูดแบบนี้ เธียรวิชญ์ ก็หัวเราะ ที่รพีพงษ์นั้นพูดถูก นภทีปเป็นคนที่หลงตัวเองมาก

รายุกรเองก็นึกไม่ถึงว่านกที่ป์จะใช้คำพูดแบบนี้พูดคุยกับเธียร วิชญ์ สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันทีและรีบพูดว่า “ผู้อำนวยการอย่า ถือสาเลย ปูของผมเป็นคนนิสัยแบบนี้”

“แต่ที่ท่านพูดก็ไม่ผิด ครั้งนี้ที่พวกเราเปลี่ยนตัวเพราะหล่อนแบบ ใช้เงินในโครงการสองวันก่อนปู่เพิ่งจับตัวหล่อนกลับมา คนแบบนี้ ถึงแม้จะเป็นพวกคุณก็คงไม่กล้าใช้

เธียรวิชญ์มองไปทางธายุกร “เพราะสาเหตุนี้ ? ”

รายุกร อึ้งไปซักแป๊บแล้วพยักหน้า “ใช่ เพราะสาเหตุนี้คงจะเพียง พอที่จะเปลี่ยนตัวอารียาแล้วมั้ง”

เธียรวิชญ์ พยักหน้าและพูดว่า “ที่คุณพูดถูก แต่ถ้าเป็นอย่างนั้น จริงๆ ก็ควรจะเปลี่ยนตัว”

ธายุกรและนภทีป์ ดวงตาสว่างขึ้นมาทันที ดูแล้วเธียรวิชญ์ก็ เห็นด้วยกับการเปลี่ยนคน

“แต่เท่าที่ผมรู้มา เรื่องราวไม่ใช่อย่างที่พวกคุณพูด ” พูดต่อ

ธายุกร ตกใจไม่คิดว่าเธียรวิชญ์จะเล่นมุกกับพวกเขา

“ทำไมถึงพูดอย่างนี้ ? ” นภทีบัถาม

เธียรวิชญ์ เอาเอกสารออกมาแล้วพูดกับคนทั้งสองว่า “นี่คือผล รายงานที่เราสองฝ่ายร่วมมือกัน ในนี้เขียนว่าตอนที่อารียารับผิด ชอบคนเดียว ไม่มีปัญหาด้านบัญชี กำไรพุ่งขึ้นไม่หยุด”

“ทีแรกบริษัทพวกคุณไม่มีสิทธิ์ที่จะร่วมมือกับพวกเรา แต่หลังจาก ที่รับงานนี้ไป อารียาทำได้ดีกว่าบริษัทใหญ่ๆหมายความว่าความ สามารถของเธอ ทุกคนมองเห็นได้”

“และไม่นานก่อนหน้านี้คุณให้ธายุกรและอารียา รับผิดชอบด้วย กัน เริ่มตั้งแต่ตอนนั้นก็เกิดปัญหาไม่หยุด กำไรก็ลดลงไม่น้อย ฉัน ได้ยินมาว่าเป็นคำสั่งที่ผิดพลาดของธายุกรทำให้ทุกคนมีปัญหา ตามมาไม่น้อย”

“นี่ก็คือความสามารถที่คุณบอกว่ามากกว่าอารียา? ผมขอพูดตรง ตรงเลย รายุกรคงสู้ไม่ได้แม้กระทั่งนิ้วก้อยของอารียา ถ้าใช้ คนปัญญาอ่อนไร้สมองมาเปรียบเทียบก็คงไม่เกิน”

บนหน้าผากของธายุกร มีเหงื่อไหลไม่หยุด แถมได้ยินเธียรวิชญ์ หมิ่นตัวเองขนาดนี้ บนใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความอายแต่ก็ไม่ กล้าตบกลับ

“ผู้อำนวยการ ผมรู้จักธายุดี คุณว่าเขาแบบนี้ของจะเกินไปแล้ว” นภทีป์ เริ่มไม่มีความมั่นใจ

เรียรวิชญ์ เอาเอกสารยื่นไปตรงหน้าของนภทีป์และพูดด้วยน้ำ เสียงที่เป็นชาว่า “นี่คือผลทั้งหมด จะทำขึ้นมาไม่ได้ คุณ ช่วยหลาน ชายพูดขนาดนี้ ไม่รู้เหมือนกันว่าปกติเขาจะพูดประจบคุณยังไง?”

รายุกร อยากจะมุดเข้าไปในดินจริงๆ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีคนดูถูก เขา แถมยังเป็นผู้อำนวยการของบริษัทซันบับเบิล กรุ๊ป คำพูดที่คน ระดับนี้พูด จะหนักกว่าคนธรรมดาพูดมากมาย

นภทีป์ ดูไปที่เอกสาร สีหน้ามืดครึ้มทันที ไม่คิดว่าหลังจากที่ธายุ กรเริ่มรับผิดชอบโปรเจคมีปัญหามากขนาดนี้

เขาหันไปจ้องมองธายุกร รายุกร รีบมองไปทางอื่นไม่กล้าสบตา กับนภทีป์ “มาพูดเรื่องใช้เงินส่วนกลางอีกที เมื่อกี้ธายุกรบอกว่าอารียาเป็น คนใช้เงินส่วนกลาง หลายวันก่อนผมเห็นมีคนมาปผ่านทางผมเพื่อ ไปเช็คบัญชี ทาง ฝ่ายการเงินให้คำตอบมาเป็นคนที่ชื่อธายุกรและ ชรินทร์ทิพย์ใช้เงินส่วนกลาง คุณไม่รู้สึกว่าพูดเรื่องนี้กับผมเหมือน ไม่ใช้สมองหรอ?” เธียรวิชญ์พูด

ธายุกรรู้สึกเสื้อเปียกไปหมดเลย หน้าก็เริ่มซีด

ถ้าบริษัทซันบับเบิล กรุ๊ป จับเรื่องนี้ไม่ปล่อย จะส่งเขาเข้าคุกก็เป็น

ไปได้

ธายุกร คิดยังไงก็คิดไม่ถึง เขามาพูดเรื่องเปลี่ยนคนอย่างมีความ สุข แต่กลับถูก ผู้อำนวยการของพวกเขาพูดจนไร้ค่า

สีหน้าของนภที่บีก็แย่มาก ทีแรกเขาอยากจะเปลี่ยนคนรับผิดชอบ ให้เป็นธายุกร เป็นเรื่องปกติดี เพราะในสายตาของเขาธายุกรเก่ง กว่าอารีเก่งมาก

จนกระทั่งผู้อำนวยการคนนี้พูดปัญหาของธายุกร เขาถึงจะรู้ว่า หลานชายของตัวเองคนนี้ไร้ประโยชน์ขนาดไหน ขายขี้หน้าของ เขาจริงๆ

ความมั่นใจของเขาหายไปหมด ไม่มีแม้กระทั่งความกล้าที่จะคุย กับเธียรวิชญ์ “ผู้…. ผู้อำนวยการพูดถูก เพราะผมประมาทเอง หลังจากกลับไป ผมจะสั่งสอนหลานคนนี้ดีดี ส่วนเรื่องจะเปลี่ยนคนรับผิดชอบก็ไม่ เปลี่ยนแล้ว” นภที่พูด

เรียรวิชญ์เป๊ปาก “คุณท่าน ผมเคารพคุณ เรื่องที่คุณเคยทำไว้ ผม ก็เคยได้ยิน แต่ไม่ว่ายังไงพวกเราก็เป็นนักธุรกิจ สิ่งที่ผมเห็นมีเพียง ผลประโยชน์ ครอบครัวของคุณเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ทำให้ผมรู้สึก ผิดหวังมาก”

“เรื่องที่จะเปลี่ยนผู้รับผิดชอบไม่มีความหมายแล้ว เพราะบริษัท พวกเราตัดสินใจจะหยุดโปรเจคนี้ไว้ก่อน ถ้าคุณท่านอยากจะทำต่อ ก็ไปหาบริษัทอื่นเถอะ”

เรียรวิชญ์ พูดความจริงคิดของตัวเองมาเขาไม่อยากจะร่วมมือกับ ตระกูลฉัตรมงคลต่อ

แน่นอนวันนี้ก็เป็นความคิดของรพีพงษ์

นภทีป์ ลุกขึ้นอยากจะเดินจากไป แต่พอได้ยินคำพูดของเธียร วิชญ์ ก็ขาอ่อนและล้มลงบนโซฟา

รายุกร ก็ไม่คิดว่าเพราะเขาจะทำให้โปรเจคนี้ได้หยุดลง ถ้านภทีป์ เอาเรื่องนี้มาโทษเขา งั้นก็แปลว่าเขาจบแล้วจริงๆ เขารีบลุกขึ้นมามองไปทางเธียรวิชญ์อย่างอ้อนวอน “ผู้อำนวยการ ขอร้องอย่าหยุดการร่วมมือของพวกเราเลย ผมไม่ได้เรื่องเอง แต่ อย่าหยุดเพราะเรื่องนี้เลย ผมรับรองว่าต่อไปจะไม่ยุ่งเรื่องนี้อีก ได้ ไหม?”

“ขอโทษ ตระกูลฉัตรมงคลทำให้ผมผิดหวังเกินไป ไม่ใช่ผมไม่ อยากร่วมมือกับพวกคุณ แต่เพียงแค่ทุกคนไม่รู้จักรักษาโอกาส เท่านั้นเอง”

“พวกคุณออกไปได้แล้ว”

เธียรวิชญ์ ก้มหน้าดูเอกสารต่อ

บนใบหน้าของธายุกรเต็มไปด้วยความเร่งรีบ ไม่รู้เขาจะทำยังไง เขามองไปทางนภที่ บ์ นภทีป์ ลุกขึ้นใหม่อีกครั้งไม่พูดอะไรแล้วตบ ไปที่หน้าของเขาแรงแรง

“ไอ้โง่ ! คุกเข่าเดี๋ยวนี้เลย”

ธายุกร ไม่หลังเลยแม้แต่วินาทีเดียวคุกเข่าลงไปทันที

“ปู่ ผมผิดไปแล้ว ให้อภัยผมเถอะ” “ขอร้องฉันมีประโยชน์อะไร ไปขอร้องผู้อำนวยการสิ ! ” นภทีป์

พูด

ธายุกร รีบคุกเข่าเดินไปตรงหน้าของเธียรวิชญ์ พูดอย่างอ้อนวอน ว่า “ผู้อำนวยการให้โอกาสผมอีกสักครั้งเถอะ พวกเรารับรองว่าจะ ทำโปรเจคนี้ให้ดี พวกเราจะฟังทุกคำสั่ง จะให้อารียาเป็นคนรับผิด ชอบ อย่าหยุดทำโปรเจคนี้เลย”

เธียรวิชญ์ ขมวดคิ้วและสั่งให้คนมาเอาตัวสองคนนี้ออกไป

นภทีปและธายุกร กลับไปถึงที่บ้านอย่างไม่รู้ตัว ครั้งนี้เขาไม่กล้า ออกเสียงต่อหน้านภทีป์เลยแม้แต่น้อย เขารู้ว่านภทีป์มีใจที่อยากจะ

ฆ่าเขาแล้ว

เรื่องที่จะหยุดทำโปรเจคเรื่องนี้ดังไปถึงทั้งตระกูล โปรเจคนี้เป็น รายได้หลักของตระกูล

ตอนนี้ได้หยุดทำโปรเจคนี้จะทำให้รายได้ของตระกูลลดลง เงินที่ พ่อเขาได้ก็จะลดลง

ถ้าเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ กลุ่มพวกนี้จะขยันมากที่สุด ทุกคน รีบมาที่วิลล่า ถามว่านกที่ป์เกิดอะไรขึ้น นภทีป์ กล้วยขายขี้หน้าก็เลยไม่ได้พูดว่าเพราะธายุกร แค่บอกว่า บริษัทซันบับเบิล กรุ๊ปเห็นว่าบริษัทเราเล็กเกินไปรู้สึกว่าจะทำให้ โครงการนี้ไม่สำเร็จ

ทุกคนก็เลยชี้เป้าไปที่อารียา เพราะคนที่รับผิดชอบงานนี้มาตลอด ก็คืออารียา บริษัทซันบับเบิล กรุ๊ปคิดว่าจะทำไม่ได้ก็ต้องเป็นเพราะ อารียา

ในเวลานี้ทุกคนต่างก็โทษแต่อารียา บอกว่าหล่อนเป็นคนที่ทำให้ รายได้ในตระกูลขาดหายไป รายุกร เห็นผู้คนมากมายไปโจมตีอารี ยาก็โล่งอกไป

อารียา ไม่คิดว่าโปรเจคนี้จะสิ้นสุด ยิ่งไม่คิดว่าทุกคนจะเอาปัญหา ทั้งหมดยนมาที่ตัวเธอ

วันนั้นรพีพงษ์บอกกับเธอว่าคุยกับเพื่อนที่บริษัทเรียบร้อยแล้ว นภ ที่ป์ จะไม่มีทางทำอะไรเธอแน่นอน

แต่พอมาเกิดเรื่องแบบนี้ก็ทำให้เธอรับมือไม่ได้เหมือนกัน

แต่ดีที่หลังจากนั้นหลายวัน บริษัทซันบับเบิล กรุ๊ป ปล่อยข่าวพูด ถึงเรื่องครั้งนี้อย่างชัดเจน เพราะปฏิกิริยาของบางคนแย่เกินไป แต่ ไม่ได้บอกว่าเป็นใคร แต่พอทุกคนลองคิดดูก็รู้แล้วว่าคนที่พูดนั้นคือ

ธายุกร เพราะโปรเจคนี้มีอารียาและธายุกรแต่รับผิดชอบ

ทางบริษัทซันบับเบิล กรุ๊ป ได้ชมอารียา และยังบอกว่ายินดีที่จะ จ่ายเงินเดือนสูง เพื่อให้เธอไปทำงานที่บริษัทพวกเขา

คนในตระกูลต่างตกใจหมดไม่คิดว่าบริษัทซันบับเบิล กรุ๊ปจะให้ โอกาสอารียาขนาดนี้

ในตอนเย็นหลังจากที่พูดเรื่องนี้ไปนภทีป์ ก็รู้ความสำคัญของเรื่อง นี้แล้ว แจ้งทุกคนในตระกูลว่าพรุ่งนี้ตอนเช้าไปประชุม

แต่ในคืนนั้น เพราะเหนื่อยเกินไปนภทีป์ลุกไม่ได้อีก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ