แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

บทที่83 หาเรื่อง



บทที่83 หาเรื่อง

บทที่83 หาเรื่อง

รพีพงษ์หันออกไปมองด้านนอก แล้วถามขึ้น”เกิดอะไร

ขึ้นเหรอ”

ธฤตญาณฝืนยิ้ม แล้วพูดขึ้น”ช่วงนี้พัฒนาได้ค่อนข้างเร็ว สร้างความไม่พอใจให้หลายคนมักจะมีนักเลงมาหาเรื่อง เรื่องนี้เดี๋ยวไตรทศก็จัดการเองแหละ”

ไตรทศใช้มือถูกำปั้น หักนิ้วทั้งสองมือดังกรัวบๆ

“แม่งเอ๊ย กำลังคันไม้คันมือพอดี ก็ใช้มันเป็นกระสอบ ทรายแล้วกันวะ”

เจ้าอ้วนเห็นสถานการณ์ด้านนอก จึงรีบวิ่งไป เปิดปาก พูด”พวกนายออกไปก่อน ฉันปวดท้อง จะไปห้องน้ำ เดี๋ยว ตามไปสมทบ”

เจ้าอ้วนค่อนข้างขี้ขลาด ทุกครั้งเวลาเจอเรื่องแบบนี้ ก็มัก

จะหลบ
ธฤตญาณกับไตรทศชินชาเสียแล้ว เลยไม่พูดอะไร รพี ทำบัญชี

พงษ์ไม่ได้ใส่ใจอย่างไรเสียเจ้า อ้วนก็มาช่วยธฤตญาณ

ทั้งสามคนเดินออกมาจากสตาร์กาย ยืนต่อหน้านักเลง หัวไม้ทั้งหมดยี่สิบคน

หัวโจกที่นำเป็นนักเลงวัยรุ่นผมทอง ในมือถือมีด สีหน้า ดุร้าย ท่าทางเหมือนไปฆ่าไก่มา

“พวกแกสามคน ใครคือธฤตญาณ”วัยรุ่นผมทองถาม

ธฤตญาณก้าวขึ้นหน้า เปิดปากพูด”ฉันเอง แกคิดจะทำไร”

วัยรุ่นผมทองมองธฤตญาณตั้งแต่หัวจรดเท้า แค่นหัวเราะ พูดว่า “คิดว่าจะแน่สักแค่ไหน ดูๆไปก็เหมือนคนขายโรตีไข่ จริงๆ”

รพีพงษ์กับไตรทศหัวเราะเสียงดังฮ่าๆ รพีพงษ์มองธฤต ญาณที่หนึ่ง ในใจคิดว่าเจ้าผม

ทองนี่มองคนได้แม่นดีจริงๆ
ธฤตญาณโมโหหน้าเขียว ถลึงตาจ้องวัยรุ่นผมทองพูด ว่า “ดังนั้นพวกแกเลยมารนหาที่ตาย”

วัยรุ่นผมทองเบ้ปาก พูดขึ้น”พวกข้าก็มาแทนแกไง แกไอ้ ธฤตญาณเป็นตัวอะไรวะ เมือง ริเวอร์จะต้องมีที่ให้เรา ส่วนแกก็เป็นหินให้พวกเราเหยียบ ! ”

“ฉันก็จะไม่รังแกพวกแก พวกแกก็เรียกคนของพวกแก ออกมา แค่พวกแกสามคน ไม่พอค่าน้ำจิ้มโว้ย”

ในเวลานี้ไตรทศเดินขึ้นหน้า พูดขึ้น”พวกเราสามคนก็มาก พอละ สำหรับเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมแบบพวกแก กูคนเดียวก็ เหลือแหล่ละ”

วัยรุ่นผมทองมองไปที่ไตรทศ พินิจอย่างละเอียดดั้งแต่ หัวจรดเท้า แล้วถามขึ้น”แกเป็นใครอีก”

“กู ไตรทศมีไร ไม่เคยได้ยินหรือไงไตรทศเปิดปากพูด

วัยรุ่นผมทองชะงักในใจ แน่นอนว่าย่อมเคยได้ยินชื่อ ไตรทศ เขาเป็นคนเหี้ยมโหดมาก แต่แค่ไม่รู้ว่าไตรทศ

เป็นกลุ่มเดียวกันกับธฤตญาณ เลยคิดว่าไตรทศโม้
“ถ้าแกแม่งเป็นไตรทศ กูก็เป็นคนตระกูลกุลสวัสดิ์เมืองริ เวอร์ละ ไม่ต้องมาแกล้งโม้หรอก ไตรทศจะมาโผล่ตรงนี้ ได้ไงกัน”วัยรุ่นผมทองเปิดปากพูด

“นั่นสิ ไม่หัดตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาบ้างล่ะ สารรูป แบบแก จะเทียบกับไตรทศได้ไง”

“ลูกพี่ อัดมันสักทีดีไหม ดูว่ามันยังกล้าปลอมตัวเป็นคน

อื่นหรือเปล่า ! ”

พวกหนุ่มๆโห่ร้องเอ็ดตะโร

สีหน้าไตรทศบิ้งขึ้นมาโดยพลัน เขาคิดไม่ถึงว่า คนพวกนี้ ไม่เชื่อในคำพูดของเขา

ที่นี้ถึงคราวที่ธฤตญาณจะหัวเราะไตรทศเข้าบ้าง เมื่อก้ ตอนที่ไตรทศหัวเราะเขา เขาค่อนข้างไม่สบอารมณ์เท่า ไหร่ จึงถือโอกาสนี้ หัวเราะเยาะคืนบ้าง

ในตอนนี้คนๆหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างๆวัยรุ่นผมทองได้มอง มาที่รพีพงษ์ เขาหรี่ตาลงจากนั้นจึงพูดกับวัยรุ่นผมทอง ว่า”ลูกพี่ เจ้านั่นดูคุ้นๆนะ เหมือนสวะที่ค่อนข้างมีชื่อเสียง ในเมืองริเวอร์เลย”
วัยรุ่นผมทองจ้องรพีพงษ์ตาไม่กระพริบ พูดขึ้นว่า”สวะงั้น เหรอ แกหมายถึงรพีพงษ์เหรอ”

“ใช่ มันนั่นแหละ เมื่อก่อนผมเคยเห็น มันมาอยู่นี่ได้ไง”

วัยรุ่นผมทองจ้องรพีพงษ์ตาไม่กระพริบ ในใจคิดว่าสวะ อย่างรพีพงษ์มาอยู่นี่ งั้นคนที่อ้างว่าเป็นไตรทศต้องเป็น พวกต้มตุ้นแน่เลย

ไตรทศจะมาอยู่กับสวะอย่างรพีพงษ์ได้ไง ต้องเป็นของ ปลอมแน่ๆ

“แม่งเอ๊ย เป็นสวะนั่นจริงๆด้วย ธฤตญาณ ดูท่าพวกเราจะ ประเมินแกสูงไป คิดไม่ถึงว่าคนในมือแก จะเป็นไอ้สวะแบ บนี้ว่ะ”หนุ่มผมทองหัวเราะฮ่าๆเสียงดัง

“สวะแบบนี้นะซัดทีเดียวได้สิบคนเลยนะ ว่ากันว่าธฤต ญาณฝีมือพอๆกับไตรทศเลย มาดูตอนนี้ คิดว่าโม้”

“สวะอย่างรพีพงษ์ยังกล้ามาเทียบชั้นกับเราจะบอกให้รีบ หนีไปเถอะ จะได้ไม่ต้องตกใจจนฉีราด”
ธฤตญาณกับไตรทศหันไปมองรพีพงษ์ แล้วก็หัวเราะขึ้น มา ตอนนี้ทั้งสามคนติดกับแล้ว ตอนนี้ไม่มีใครได้หัวเราะ ใครทั้งสิ้น

รพีพงษ์จ้องมองพวกเขาทั้งสอง ทั้งสองคนจึงเงียบปาก ลง รพีพงศ์ยิ้มให้พวกเขา พวก เขาไม่กล้าพูดอะไร แต่ ว่าพวกเขาหัวเราะรพีพงษ์ ก็ต้องคิดว่าจะโดนรพีพงษ์เก็บ

ไหม

“รีบจัดกันซะ อย่ามาเสียเวลากับเรื่องเล็กๆน้อยๆเลย”รพี พงษ์เปิดปากพูด

ธฤตญาณกับไตรทศต่างพยักหน้า

หนุ่มผมทองเห็นว่าในบรรดาสามคน รพีพงษ์เป็นคนที่มี สิทธิมีเสียงที่สุด ในใจรู้สึกกังขา แต่ว่าพวกเขาค่อนข้างดู แคลนธฤตญาณ คนที่ต้องฟังคำสั่งสวะ จะแน่สักแค่ไหน

“ฉันก็คิดว่าธฤตญาณจะแน่สักแค่ไหน คิดไม่ถึงว่ากลัวไอ้ สวะนี่เอง เสียชื่อเปล่าๆ วันนี้กำจัดพวกแก เมืองริเวอร์ของ เราก็จะได้สูงขึ้นมาหน่อย พวกแกก็คือหินใต้เท้าของพวก เรานี่แหละ ! “วัยรุ่นผมทองประกาศก้อง

ไตรทศเดินขึ้นหน้า พูดขึ้นว่า”หยุดพล่ามสักที จะมาก็มา พร้อมกันทีเดียว กูไม่อยากเสียเวลา”

“เช็ดแม่งเอ๊ย ยังมีหน้ามาโม้อีกนะ เป็นสวะแบบรพีพงษ์ แล้วจะทำไรได้ พี่น้อง ในเมื่อพวกมันไม่รู้ผิดชอบชั่วดี พวก เราลุย ให้พวกมันลิ้มรสความร้ายกาจเสียบ้าง ! ”

วัยรุ่นผมทองบุกไปทางไตรทศ โดยไม่เห็นไตรทศอยู่ใน สายตา

ไตรทศเบ้ปาก กำลังคนพวกนี้เมื่อเทียบกับเขาแล้วก็เป็น แค่มด จะจัดการน่ะเหร แค่เป่าก็กลายเป็นผุยผงแล้ว

เขาบีบข้อมือวัยรุ่นผมทอง วัยรุ่นผมทองอ่อนแรงทันตา มีดในมือร่วงลงพื้น

ต่อมาไตรทศจึงชูวัยรุ่นผมทองขึ้น ทำว่าเขาเป็นหุ่นยนต์ ตนหนึ่ง แล้วโยนใส่พวกคนที่

ตามมาข้างหลัง
อารมณ์ของไตรทศระเบิดขึ้น วิธีการวิวาทก็ค่อนข้างเถื่อน คนที่เคยปะทะกับเขาต่างรู้ดี ว่าเวลาที่เขาเอาเรื่องขึ้นมา

เขาไม่เคยไว้หน้าใคร

นี่คือจิตวิญญาณที่พวกคนโหดร้ายพึงมี และก็เพราะแบบ

นี้แหละ ไตรทศถึงได้ขึ้นชื่อใน เมืองริเวอร์

แน่นอนว่า กว่าเขาจะมีวันนี้ได้ ไม่ใช่เพราะความโหดร้าย อย่างเดียว ความสามารถของ เขาย่อมโดดเด่นไม่เป็นรอง ใครด้วย

แต่ว่าแต่ละเรื่องย่อมไม่เหมือนกัน ไตรทศจะโหดร้ายแค่ ไหน ก็ไม่โหดร้ายเท่ารพีพงษ์

นอกจากนี้เขายังสู้รพีพงษ์ไม่ได้ด้วย จึงได้แต่เดินตามรพี พงษ์อย่างภักดี

เสียดายที่นักเลงหัวไม้พวกนี้ไม่รู้ถึงความเก่งกาจของรพี พงษ์ ตอนนี้คิดว่ารพีพงษ์เป็น เพียงแค่สวะ และก็ไม่รู้ว่าใช้ วิธีการอะไรเอาธฤตญาณให้อยู่หมัดต่างหาก

วัยรุ่นผมทองโดนไตรทศทรมานอยู่สองสามที ก็แน่นิ่งไป ไตรทศจึงใช้หัวเขาจู่โจมนักเลงหัวไม้พวกนั้น พวกนั้นต่างล้มระเนระนาด วัยรุ่นผมทองยิ่งเจ็บปวด แค่ไม่กี่ที เขารู้สึกราวกับว่าหัวจะระเบิดออกมาอย่างไรอย่างนั้น

เพียงแค่เวลาห้านาที นักเลงหัวไม้ยี่สิบกว่าคนก็ล้ม ระเนระนาดไปกองกับพื้น

ไตรทศจับวัยรุ่นผมทองโยนออกไป วัยรุ่นผมทองกัดฟัน ลุกขึ้นยืน ตัวโงนเงน แล้วล้มลง ไปอีก

ไตรทศปรบมือชอบใจ เดินไปหยุดตรงหน้าวัยรุ่นผมทอง พูดขึ้น”ตอนนี้ยังอยากใช้พวกเราเป็นหินรองตีนอีกไหม”

วัยรุ่นผมทองขนลุกซู่ มองไตรทศด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วย ความหวาดกลัว ในใจคิดว่าทำไมคนๆนี้ถึงได้ร้ายกาจขนาด นี้ คงจะไม่ใช่ไตรทศจริงๆหรอกมั้ง

แต่ว่าไตรทศจะมาอยู่กับรพีพงษ์ได้ไง ต้องเป็นตัวปลอม แน่ๆ ก็แค่วิวาทเก่งก็เท่านั้น แต่ยังห่างไกลกับตรีทศอยู่ หรอก

วัยรุ่นผมทองนั่งลงบนพื้น มองไตรทศแล้วกลืนน้ำลาย พูดว่า”แก..แกลำพองใจให้น้อยๆหน่อย พวกเรา ก็แค่มาทดสอบแกเท่านั้นแหละ ลูกพี่เรายังไม่มา รอให้เขา มาก่อนเถอะ แกจะไม่มีโอกาสลำพองใจ ! ”

ไตรทศฟังคำพูดของเขา แล้วยื่นกำปั้นออกมา อยากจะ

สั่งสอนอีกสักที่สองที

รพีพงษ์ได้เดินมาตอนนี้เอง แล้วขวางเอาไว้

“ในเมื่อมันยังมีลูกพี่ ก็รอลูกพี่มันมาเถอะ จะถอนหญ้า ก็ต้องถอนให้ถึงโคน ไม่งั้นก็จะยังวุ่นวายเหมือนเดิม”รพี พงษ์เปิดปากพูด

ไตรทศจึงได้เก็บหมัดตัวเองเข้าไป ด่าทอออกมา”งั้นฉันก็ รอเก็บพร้อมลูกพี่แกแล้วกัน แม่งเอ๊ย พูดมากจริงโว้ย”

วัยรุ่นผมทองเห็นว่ายังไงพวกนี้ยังต้องฟังไอ้สวะอยู่ ความกลัวในใจจึงลดน้อยลง

เขาหัดฉลาดขึ้นมาบ้างแล้ว ไม่พูดกับไตรทศแล้ว แต่หัน ไปพูดกับรพีพงษ์แทน พูดขึ้นว่า”ลูกพี่พวกกูไม่ธรรมดา นะว้อย เก่งกว่าพวกเราเยอะ รอเขามา พวกมึงเห็นดีแน่”

รพีพงษ์จ้องไปที่วัยรุ่นผมทองแล้วถาม”ลูกพี่พวกแกเป็น

ใคร”

“รอเขามาก็รู้เองแหละ รับประกันว่าจะตกใจ ! “เจ้าผม

ทองพูด

จากนั้นเขาจึงหยิบมือถือออกมา ส่งข้อความให้ลูกพี่

ผมทองนั่งตรงบนพื้น จ้องมองไตรทศอย่างละเอียด เปิด ปากพูด”พี่น้อง แกวิวาทเก่งขนาดนี้ ต้องมาตามไอ้สวะดู ท่าจะบัดซบไปหน่อยละมั้ง มาตามลูกพี่เราดีกว่า ลูกพี่เรา เนี่ยเป็นบุคคลสำคัญเมืองริเวอร์เลยนะ รับรองว่าทำให้นาย ใหญ่โตได้แน่”

ไตรทศเบ้ปาก พูดขึ้น”เจ้าหนู ถ้าแกยังกล้าเรียกเขาว่าสวะ อีกล่ะก็ ฉันจหักขาแกออกทั้งสองท่อน กูพูดจริงทำจริง ไม่ เชื่อลองดู”

ผมทองคอหดทันที บ่นพึมพำในใจ”ไม่มีสมองจริงๆเล้ยย ใครๆก็รู้ทั่วเมืองริเวอร์ว่า รพีพงษ์เป็นสวะ แกยังมาพูดเข้า ข้างมันอีก สงสัยจะน้ำเข้าสมอง คนแบบนี้อ่ะเก่งแค่ไหนแล้วมีประโยชน์อะไรวะ”

ประมาณสิบนาทีให้หลัง ไม่ไกลนักมีกลุ่มคนแห่กันมา คน พวกนี้สักไปทั่วตัว ดูแล้ว เหมือนกองโจรไม่มีผิด

เจ้าผมทองสนใจขึ้นมา ลูกพี่พวกเขาพาคนมาแล้ว ไม่ ต้องกลัวไอ้พวกธฤตญาณสามคน นั้นแล้ว

ไตรทศกับธฤตญาณหันไปมอง หรี่ตาลง

สายตารพีพงษ์จับจ้องไปที่หัวโจก แล้วยิ้มขั้นที่มุมปาก

หัวโจกก็คือคนที่เขาเพิ่งสั่งสอนไปเมื่อกี้นี่เอง เสือ !


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ