ตอน649ฉันจะจีบเธอ
ตอนที่649ฉันจะจีบเธอ
วิธีที่ตรงๆและง่ายๆปฏิเสธการสารภาพรักของเขา
เกิดมา30ปีนี้เป็นครั้งแรกที่ชนัยได้เผชิญกับเหตุการณ์
แบบนี้ทำให้เขาอึ้งไปเลย
ตอนนี้เขาควรจะพูดอะไร?
หรือควรจะทําอะไร?
เขาควรจะทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรือว่าบอกเธอไปตรงๆ
ว่าไม่มีทาง?
ชนัยงงไปหมดแล้ว
ความคิดและความรู้สึกทั้งหมดปนอยู่ด้วยกันสุดท้ายก็
กลายเป็นความโมโห
“เฮ้อเธอมันยังคงเป็นผู้หญิงที่ไม่รู้ดี!”เขากัดฟันแล้วพูด หน้าก็แดงไปหมด
ดราณีตาตกมองไปที่พื้นน้ำเสียงของเธอฟังแล้วรู้สึกว่า สงสารฉันไม่อยากให้นายเข้าใจผิดและไม่อยากรับผิดชอบ
กับคำตอบใดๆแต่ฉันไม่ชอบนายจริงๆ
พูดจบกลัวว่าเขาจะโกรธก็รีบต่อเติมอีกว่า “นายก็ไม่ต้องรู้สึกอายไม่มีอะไรหรอกฉันรู้ว่านายไม่ได้ชอบฉันมากขนาดนั้น แค่ชอบชั่วคราวเท่านั้นเอง
คำพูดของชนัยที่กำลังจะพูดออกมาก็หยุดพูดลงไม่รู้จะพูด อะไรจริงๆ
ค่าพวกนี้เขาควรจะเป็นคนที่พูดไม่ใช่หรอและนี่เป็นบทพูด ของเขาไม่ใช่หรอ?
เขาเห็นจุดแตกต่างของตราณีอีกมุมหนึ่งที่เขาไม่เคยรู้เป็น ด้านที่แปลกประหลาดและเจ๋งมากๆ
ชนัยรู้สึกโมโหก็เลยไปกระชากที่มือของเธอ เธอจะรู้ได้ไง ว่าฉันชอบชั่วคราว?”
ดราณีกระพริบตามือก็โดนเขาจับจนรู้สึกเจ็บนิดนึง “นาย ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานขนาดนั้นต้องมีผู้หญิง มากมายที่ชอบนายฉันไม่มีอะไรทั้งนั้นนายจะชอบฉันได้ยังไง”
พอได้ยินแบบนี้เขาก็ยักคิ้วมีครั้งนี้แหละที่คำพูดของเธอ
ฟังเข้าหู
เขาเหลือบไปเห็นข้อมือของผู้หญิงที่เริ่มแดงก็เลยปล่อย มือแล้วพูดอย่างได้ใจว่า “ที่แท้เธอยังรู้ตัวอยู่หรอเนี่ย? ฉันคิดว่า เธอไม่รู้สึกอีก!”
….ดราณีไม่เข้าใจว่าเธอจะรู้หรือไม่รู้มันเกี่ยวอะไร ด้วยตอนนี้เธอกำลังปฏิเสธเขาแล้วผู้ชายคนนี้เหมือนจะวางจุดสําคัญผิดแล้วนะ
แล้วในวินาทีนี้จากเดิมชนัยที่ไม่มีความคิดอะไรก็เริ่มมี
ความคิดอันกล้าหาญขึ้นมาทันที ไหนๆเธอก็ไม่ยอมตกลงและเขาเองก็รู้สึกไม่สบายใจไม่ อย่างนั้น………
“ฉันจีบเธอดีกว่า”
คำเหล่านี้ทำให้เราณีตกใจจนเกือบเข่าอ่อน
เขาพูดว่าอะไรนะ?!
จีบเธอ?
ดราณีทำตาโตค้างแล้วจ้องมองไปทางชนัยหัวใจที่เต้นอยู่ ปกติกลับเต้นเร็วกว่าเดิมเมื่อหลายเท่า “นายนายจีบฉัน?”
“ใช่น่ะสิ”ชนัยทำหน้าตาชิวๆ “แปลกตรงไหนหรอ?”
“ไม่เอา”ดราณีได้สติกลับไม่คิดอะไรแล้วปฏิเสธไป ทันที”ฉันไม่ต้องการให้นายจีบฉัน
พูดเป็นเล่นน่ะเขาไม่ใช่คนธรรมดานี่คือชนัยนะเขาคงไม่ อยากจะจีบตัวเองหรอกแค่นึกถึงวิธีใหม่ๆที่จะมาทรมานเธอ แน่ๆเลย!
“คุณชนัยฉันมันก็แค่นักเรียนธรรมดาๆคนหนึ่งถ้าคุณจะ มาจีบฉันคงรับไม่ได้ฉันแค่อยากจะอยู่ชีวิตธรรมดาแล้วเรียน จบหางานที่เลี้ยงตัวเองได้ฉันไม่อยากมีแฟนและฉันก็ไม่อยาก…….
“พอแล้วพอแล้ว!”ชนัยไม่ฟังเธอพูดจบก็พูดแทรก “ฉันจะ จีบเธอนะไม่ได้จะทำร้ายเธอเธออยากเรียนต่อที่เรียนฉันไม่ได้ ห้าม”
“แต่ว่า”
“ไม่ต้องพูดแล้วเรื่องนี้ฉันแค่มาบอกเธอเธอไม่มีสิทธิ์ที่จะ เลือกพอแล้วกลับไปนอนเถอะระหว่างพูดชนัยก็ดันตัวเธอออก จากห้อง
ดราณีโดนดันออกมาจากห้องอย่างไม่มีทางเลือกจากนั้น ก็ได้ยินเสียงปิดประตูดัง ปัง จากด้านหลังเธอยกมือไปจับที่หู ของตัวเองรู้สึกว่าแก้วหูจะแตกอยู่แล้ว
เกิดมา20กว่าปีไม่เคยเห็นผู้ชายที่อารมณ์แปรปรวนขนาด
นี้
วินาทีที่แล้วทำท่าเหมือนจะฆ่าเธอให้ตายคาบ้านแต่วินาที ต่อไปกลับบอกว่าจะจีบเธอ
ดราณีรู้สึกสับสนมากเธอไม่เข้าใจเลยว่าเขานั้นกำลังคิด อะไรอยู่แล้วก็โทษเธอไม่ได้ด้วยที่เธอจะคิดไปทางที่แย่ที่สุด
ไม่ว่าเธอจะคิดยังไงผลสรุปก็ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงเธอกับ ชนัยเป็นคนละชั้นกันถ้าไม่ใช่เพราะอุบัติเหตุครั้งนั้นชาตินี้ ระหว่างพวกเขาก็จะไม่มีอะไรกันเลย
ดราณีเดินไปทางประตูที่อยู่ท้ายสุดเปิดประตูเปิดไฟเข้าห้องแล้วปิดประตู
หัวใจสงบนิ่งแล้ว
เธอจําเป็นต้องมีสติ
ชนัยน่ากลัวเกินไปแล้วเธอจะต้องออกห่างให้ไกลที่สุด
อีกด้านหนึ่งหลังจากที่จบงานแต่งเสร็จเวลาส่วนใหญ่ของ ณัชชาและเตชิตก็อยู่กับโรงพยาบาลและทำงาน
ไม่มีใครนึกถึงว่าอาการป่วยจะหนักขนาดนี้จะบอกว่าคนที่ เห็นทุกอย่างและยอมรับทุกอย่างได้ดีที่สุดก็คือตัวของคุณท่าน เอง
เขารับทุกการเปลี่ยนแปลงของร่างกายได้อย่างชัดเจน หมอและคนในบ้านก็ปกปิดไม่ได้ถ้ายิ่งเป็นแบบนี้ทุกคนก็ยิ่ง รู้สึกเจ็บปวดในตอนที่ยังมีสติอยู่แต่กลับโดนโรคหลายๆ โรค ทําร้ายมันทรมานมากกว่า
และคุณท่านเองก็ตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ถึงแม้เตชิต จะไม่ได้พูดอะไรทุกวันที่ไปห้องผู้ป่วยก็ไม่มีท่าทีแปลกๆแต่นช ชารู้ว่าในใจของเขานั้นรู้สึกลำบากมาก
ในวันหยุดเธอก็ยังเห็นผู้ชายคนนั้นอยู่ที่ห้องสมุดจน ดึกดื่น ในใจของเธอก็เหมือนมีมีดมากรีด
“แม่ครับช่วงนี้พ่ออารมณ์ไม่ค่อยดีใช่ไหมครับ?”
แม้กระทั่งเด็กยังดูออกว่าเขาผิดปกติตาใสๆคู่นั้นเต็มไป ด้วยความห่วงใย
“ช่วงนี้พ่อแค่รู้สึกเหนื่อยไม่มีอะไรหรอกธีมนต์ไม่ต้อง
คิดมากนะครับ เธอได้แต่ใช้คำพูดพวกนี้มาปลอบใจเด็ก เรื่องของคุณท่านเธอไม่ได้พูดกับธีมนต์ขนาดผู้ใหญ่ยังรับ ไม่ได้เด็กก็คงไม่เหลือ
ในค่ำคืนนี้ทั้งสองนอนไปพร้อมกันในยามดึกนัชชารู้สึก อยากอาเจียนก็เลยตื่นมานั่งตัวตรงที่เตียงถึงจะเห็นว่าผู้ชายที่ ควรจะอยู่ข้างตัวเองไม่เห็นแล้ว
เธอยื่นมือไปเปิดไฟบนหัวเตียงมองไปที่นาฬิกาตีสองแล้ว
เขาไม่ได้นอนอยู่
แล้วไปไหน?
นัชชาขมวดคิ้วแน่นใส่เสื้อกันหนาวออกจากห้องแล้วขึ้น ไปที่ชั้น3เป็นอย่างที่คิดมีแสงสว่างออกมาจากห้องสมุดเขาอยู่ ในนั้น
นัชชาเดินเบาๆไปทางประตูมือเล็กเปิดประตูออกนิดนึง แล้วมองเข้าไปเห็นผู้ชายใส่เสื้อสีเทาอ่อนนั่งอยู่ที่โซฟาไหล่ทั้ง สองข้างตกหัวก็ก้มอ่านหนังสือเขาเปิดแค่ไฟที่ติดข้างกำแพง ในห้องมีแต่ไฟสี่มุมดูแล้วรู้สึกมืดนิดนึง
นัชชากำลังจะพูดก็เหลือบไปมองเห็นบุหรี่ที่วางอยู่ตรง หน้าเขาเธอก็เลยหยุดความคิดที่จะพูดทันทีเหมือนมีมือมาปิดปากเธอไว้
เธอหันหลังกลับแล้วไปพิงกำแพงข้างๆประตูแม้กระทั่งลม หายใจก็เบามาก
ไม่ใช่ไม่อยากเข้าไปแต่เป็นเพราะในค่ำคืนที่มืดมนแบบนี้ หน้าตาของผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังร้องไห้ในความมืดมนดูแล้วทั้ง
อ่อนแอและเข้มแข็งในเวลาเดียวกัน
เธอไม่รู้ว่าจะไปยืนอยู่ตรงหน้าเขาด้วยสภาพหน้าตาแบบ ไหนเพื่อที่จะให้ทุกอย่างเป็นเหมือนเดิมเขานั้นทุกข์มามาก พอแล้ว
จะทำเป็นไม่รู้ละกันพรุ่งนี้ตื่นมาก็ค่อยไปกอดผู้ชายคนนี้
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ