ยั่วรักทนายคนโหด

ตอน93เธออยู่ในอ้อมกอด



ตอน93เธออยู่ในอ้อมกอด

ตอนที่ 93 เธออยู่ในอ้อมกอด

ช่วงเวลาที่ตาทั้ง 2 ข้างมองโต้ตอบกัน เธอไม่ได้หลบตา เขา ในสายตาที่ตื่นตระหนกเริ่มดีขึ้นสักนิด เริ่มมองชายผู้ที่นั่ง อยู่บนเก้าอี้พิงไม่ไกลนัก

ชนุดมขมวดขึ้นอย่างประหลาดใจ ไม่ใช่ว่าเลือดไหลไม่ หยุด มุมปากของเขายังมีการยิ้มแบบมีเลศนัย “ไม่ใช่

นัซซาโล่งใจก็ยังดี บางประเทศการพกปืนนั้นถือว่าเป็น เรื่องที่ผิดกฎหมาย

หลังจากถามเรื่องนี้เสร็จเธอก็ไม่ได้เอ่ยปากถามอะไรอีก เลย ยิ่งรู้และเข้าใจเรื่องราวเยอะ ยิ่งเป็นอันตรายแก่ตัวเธอเอง เธอเพียงคิดว่าแค่มีชีวิตรอดออกไปจากที่นี่ก็พอแล้ว

เวลาผ่านไปแต่ละวินาที นัชชานั่งยองๆนานมาก นานจน ขาทั้งสองข้างชาจนไม่มีความรู้สึกแล้ว ช่วงเวลาที่เธอกำลัง โอนเอนจะล้มลง ด้านนอกก็มีเสียงเท้าอันแผ่วเบาเล็ดลอดเข้า มาพอดี

เธอเงยหน้าขึ้นไปดู เธอยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคือใคร กลับมี คนโยนระเบิดควันรูปวงรีเข้ามาทางหน้าต่าง 1 อัน

“นิ้ว พว” เสียงดังขึ้นในบ้านไม้ วินาทีนั้นเองควันสีขาวพวยพุ่งพุ่งไปเต็มบ้าน มองอะไรไม่เห็นเลยสักอย่าง

นัชชารีบอุดปากและรับออกจากมุมบ้าน และรับกวาดหา ผนังของตัวบ้านเพื่อที่จะหาที่เดินออกไปยังประตู ในที่สุดเธอก็ หาประตูเจอ เธอผลักประตูแล้ววิ่งออกไปทันที แต่วินาทีนั้นก็ หยุดเท้าหมุนตัวกลับ

ผู้ชายคนนั้น …

เธอยืนคิดอยู่ตรงนั้นนานมาก ปัญหาคือเธอไม่สามารถที่ จะไม่ช่วยคนที่กำลังจะตายได้ หันหลังกลับไปวิ่งเข้าไปในบ้าน ตอนนั้นเองถึงได้รู้ว่าคนที่อยู่ในบ้านไม่ได้อยู่ในบ้านเสียแล้ว มี เพียงแค่แหวนสีเงินประกายหนึ่งวงวางอยู่เท่านั้น

บนแหวนมีสัญลักษณ์เปลวไฟ แหวนก็เหมือนกับผู้ชายคน นั้นที่ลึกลับและเป็นประกาย

นัชชาไม่ทันได้คิดอะไรมากแล้ว รับเอามันออกมา ทันใด นั้นเองมีคนคว้าคอของเธอไว้

“อย่าส่งเสียง” ชนุดมที่มือถือปืนไว้แต่ครั้งนี้เขาไม่ได้เปิด ตัวระบบ safety “ในเมื่อคุณเข้าไปหาผม ผมก็เลยต้องมอบ ของขวัญชิ้นใหญ่ให้คุณไว้หนึ่งอย่าง คราวนี้คุณช่วยผมไว้ คราวหน้าผม ชนุดมต้องตอบแทนบุญคุณ มีแหวนวงนี้คุณ สามารถหาผมเจอได้ตลอดเวลา”

ฟังเสียงเขาแล้ว นัชชาต้องการหันหัวกลับมาแต่ถูกปากกระบอกปืนจี้เอาไว้ อย่าหันกลับมา

เธอรีบยืนนิ่งๆไม่ขยับตัว

ปืนที่เธอได้ย้ายออกไป ผ่านไปสักครึ่งนาทีน่าจะได้ นั ชาลองตะโกนเสียง “ฉันไปได้ยัง?”

ข้างหลังเงียบสนิทไม่มีคนตอบ เธอเริ่มถามอีกครั้ง ความ

เงียบกลายเป็นเสียงตอบรับแทน

นัชชาค่อยๆหันกลับมา ที่แท้ด้านหลังไม่มีคนอยู่สักคน เมื่อกี้ยังโดนผู้ชายตัวเองอยู่ ตอนนี้แค่เงายังไม่เห็นเลย

นัชชาดูแหวนเย็นๆวงนั้นที่อยู่ในมือแหวนก็เหมือนกับ ผู้ชายคนนั้น มันไม่ได้มีความอุ่นใดๆเลย เธอนำแหวนใส่ด้าน ในนิ้วชี้เพื่อที่จะได้ไม่หลุด แต่กลับพบว่าวงแหวนนั้นไม่ได้เรียบ กลับมีนูนๆ ยาวเป็นแถว

เธอลองเพ่งมอง ในที่สุดก็เจอตัวเลขอาหรับอยู่หนึ่งแถว เอามาต่อกันถึงได้รู้ว่าที่แท้มันคือเบอร์โทรศัพท์

นัชชาตกใจนิดหนึ่ง ที่แท้ที่เขาทิ้งแหวนไว้ให้เธอก็เพราะ จุดประสงค์นี้นี่เอง

แค่เพราะเธอวิ่งออกมาจากบ้านแล้วยังย้อนกลับเข้าไป

เพื่อหาเขาหรอ?

นัชชารู้เลยว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนที่อันตรายมาก เธอคิดจะ

ถอดทิ้งแหวนวงนี้ไปแต่คิดว่าได้ใส่เก็บไว้ดีกว่า หากมีใครมา เก็บไปอาจจะได้รับอันตรายมากกว่าเดิมก็ได้
หลังออกมาจากบ้านไม้แล้ว นัชชารีบถอดเสื้อนอกออก แล้วใส่มันไว้ในกระเป๋า พร้อมกับหาที่พักเล็กๆ พักสักแบบใน ละแวกนั้น ที่พักราคาถูกแต่เครื่องใช้สอยต่างๆไม่ดีเลย ใน ห้องยังมีกลิ่นอับๆของเชื้อราและความเย็นอื่นๆ

หลังจากถอดเสื้อผ้าชักจนสะอาดหมดจดพร้อมตาก เรียบร้อยแล้ว นัชชาสู้กับการอาบน้ำ ขัดแล้วขัดอีก หลังจากที่ เธอถูกผู้ชายคนนั้นรบกวนทั้งคืนไม่ได้หลับไม่ได้นอนเลย เธอเปิด โทรศัพท์เพื่อหาเกมเล่นผ่อนคลายบ้าง ยังไม่ทันได้เปิด โหมดเครื่องบินเลย ตรัณก็โทรเข้ามา

เธอลังเลอยู่หลายวินาทีก็รับ “ฮัลโหล

“คุณนัชชา?” ตรัณเรียกแบบไม่ค่อยแน่ใจสักเท่าไหร่

“ฉันเอง”

“คุณจริงๆหรอเนี่ย ในที่สุดคุณก็รับโทรศัพท์ผม ไม่ทราบ ว่าตอนนี้คุณอยู่ไหนหรือครับ ท่านประธานเตชิตตามหาคุณจน จะเป็นบ้านแล้วครับ เสียงของตรักดูตื่นเต้นและรีบร้อน

นัชชากำลังอึ้งอยู่ “ประธานเตชิตหรอ?”

“ใช่ครับ ท่านประธานเตชิตเพิ่งลงเครื่องกลับมาครับ พอ ลงเครื่องเสร็จก็รีบกลับมาหาคุณ แต่ว่าคุณไม่อยู่บ้าน โทรศัพท์ที่ติดต่อไม่ได้ ถ้าคืนนี้คุณไม่รับโทรศัพท์ ผมว่า ประธานเตชิตก็คงต้องพลิกเมือง 3 ตามหาคุณจนว่าจะเข้าแน่ๆ”

ตรักอยากจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตาไหล ถ้าตามหาคุณนัช ขาไม่เจอ ท่านประธานเตชิตคงให้เขาโทรหาคุณนัชชาตลอด 24 ชั่วโมงแน่ๆ นี่ก็โทรมาหลายรอบแล้ว โทรจนนิ้วปวดไป หมด

นัชชาคิดไม่ถึงเลยว่าเดซิตจะกลับมา และก็คาดไม่ถึงว่า เขาตามหาเธออยู่ สมองของเธอตามไม่ทัน “เขาไม่ได้ไปดูงาน ที่อเมริกาหรอกหรือ

“กลับก่อนกำหนดครับ” ตรักรีบจนไม่รู้จะรีบยังไงแล้ว “คุณนัชชาตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนกันแน่ครับ

นัชชาคิดแล้วคิดอีก หยิบนามบัตรที่พักที่อยู่บนโต๊ะ บน บัตรมีที่อยู่ของที่นี่ เธออ่านที่อยู่ตามนั้นโดยไม่มีผิดแม้แต่ตัว เดียว “คือที่อยู่ที่นี่แหละ

“ครับ คุณอย่าเพิ่งวางสายนะครับ ผมขอคุยกับท่าน ประธานเตชิตสักครู่ครับ”

ผ่านไปหลายนาที เตชิตก็โทรเข้ามา เธอรับสายเขา ยัง ไม่ทันได้เอ่ยปากก็ได้ยินเสียงคุ้นเคยและนิ่งเงียบของเขา “คุณ เอาคําพูดของผมเป็นหูทวนลมหรือไง?

คำพูดที่เริ่มจากการตำหนิทำให้เสียงของนัชชาที่เดิม เครียดอยู่แล้วกลายเป็นหลุดค้างไป เธอไม่สามารถที่จะพูด ออกเสียงได้ กลัวว่าหากพูดออกมาแล้วจะร้องไห้ออกมาแทน
คนที่ไปอเมริกาแล้วหายไปก็คือเขา คนที่เริ่มหยุดความ สัมพันธ์ก็คือเขา ตอนนี้กลับมาจากต่างประเทศก็ไม่บอกกัน หาเธอไม่เจอก็มาโทษเธออีก

นัชชาทั้งโมโหทั้งลำบากใจ ตอนแรกเธอไม่พูดอะไรแล้วก็ ไม่รู้จะพูดอะไรอีกด้วย

อีกฝ่าย ไม่ได้ยินเสียงคนที่คิดถึงตลอดทั้งวันทั้งคืนเตชิต เริ่มขมวดคิ้วนิดๆ “นัชชา

เธอพยายามสูดลมหายใจไม่อยากให้เขารับรู้ถึงความ รู้สึกที่แปลกไปไม่เหมือนเดิม แต่ว่าคำแรกที่เอ่ยออกมาก็ หลุดน้ำเสียงไปเสียแล้ว “ฉัน…

เพิ่งจะพูดได้คำเดียวก็พูดไม่ออกเสียแล้ว นัชชา โทรศัพท์แน่น ข้อมือกลายเป็นสีขาวซีด ใช้เวลาสักพักจึงจะมี เสียงของตัวเองออกมา “ฉันเกือบจะไม่ได้เจอคุณแล้วนะ”

หัวใจของเตชิตตก ใจเต้นแรง “เกิดอะไรขึ้น

นัชชาลังเลอยู่แปบหนึ่งแต่ก็ไม่บอกเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้กับ เขา เธอไม่รู้ด้วยว่าถ้าเขารู้แล้วจะทำอะไรตอบโต้ และก็ว่าตัว เธอจะทำให้เขาวุ่นวายไปกับเรื่องนี้ด้วย ได้แต่ส่ายหัวไปส่าย หัวมาแต่ก็ไม่รู้หรอกเพราะเขามองไม่เห็น “ไม่ค่ะ ฉันคิดว่าคุณ ไม่สนใจฉันแล้ว….

เสียงต่ำที่สั่นเบาๆที่ดังออกมาจากปลายสาย เตชิตที่ กำลังฟังถึงกับรู้สึกเหมือนมีใครเอาใบมีดมากรีดอยู่ที่หัวใจในตอนนี้เขาโมโหที่ตัวเขาเองไม่สามารถยืนอยู่ข้างๆเธอได้ “คุณ…ร้องไห้หรอ”

เธอไม่ได้พูดอะไร ความเงียบคือคำตอบที่ดีที่สุด

ตั้งแต่เตชิตเกิดมาจนถึงตอนนี้ไม่เคยมีตอนไหนเลยสัก ครั้งที่จะรู้สึกเสียใจภายหลังแบบนี้มาก่อนเลย หัวใจของเขา บีบแน่นขึ้นกว่าเดิม “อย่าร้อง ผมจะรีบไปหาคุณเดี๋ยวนี้

เวลาที่เธอร้องไห้หัวใจเหมือนโดนสายฟ้าฟาด มีอาการ หายใจไม่ออก

ระยะทางต้องใช้เวลาการเดินทางเต็มๆ หนึ่งชั่วโมง เตชิต ออกคําสั่งให้คนขับรถเหยียบให้มิดโดยไม่สนใจถึงอันตราย อะไรเลย ครึ่งชั่วโมงก็ถึงที่พักที่ตรันส่งตำแหน่งที่อยู่ของที่พัก มาให้

ด้านนอกของที่พักเป็นร้านเล็กๆ ในชนบท ป้ายที่พักเป็น ป้ายที่ไฟกระพริบสีแดงเขียวกระพริบอยู่ บอดี้การ์ดติดตามถึง กับหน้าถอดสีเลยทีเดียว เพราะตัวเตชิตเป็นผู้ชายรักที่สะอาด มาก แต่ทว่าเขากับไม่รู้สึกถึงอะไรที่นี่เลย เขารีบเดินเข้าไป อย่างรวดเร็ว

เถ้าแก่ที่กำลังสัปหงกอยู่ถึงกับสะดุ้งตื่นและรีบยืนทันที เมื่อเห็นกลุ่มคนที่มีอำนาจยืนอยู่ “สวัสดีครับ ท่านคือ….

“มาหาคน” คำแค่ไม่กี่คำ ทำให้บรรยากาศยิ่งดูกดดัน หนักขึ้นไปอีก
เถ้าแก่ไม่กล้าที่จะกันไว้ รีบพาเขาเข้าไปอย่างลนลาน แทบจะไม่ได้พูดอะไรสักประโยคก็ยื่นกุญแจให้เขาไป

เมื่อเขาหาห้องนั้นที่นัชชาอยู่เจอ เหล่าบอดี้การ์ดก็อยู่หน้า ด้านนอกประตู และเขาเอาตัวดันประตูเข้าไป

ประตูห้องถูกเปิดออก นัชชาได้แต่มองร่างที่สูงยาวที่ ก้าวเข้ามาในห้อง ตัวเขาทำให้เพดานห้องดูเตี้ยไปเลย เขาก็ เหมือนลูกเศรษฐีมายืนอยู่ในสลัม มันไม่ได้เขากับเขาสักนิด เลย

เขาเดินตรงมาหาตัวเธอเอง เขาใส่สูทสีเข้ม กางเกงส แล็คสีดำยาวดูภูมิฐาน รองเท้าหนังที่สั่งทำด้วยมือที่เหมือน ราคาถูกตามแผงลอย มันทำให้เธอดูราคาถูกไปเลย

เตชิตมองผู้หญิงคนที่อยู่ตรงหน้าไหล่กำลังสั่น ตาแดงแจ๋ ดวงตามีน้ำตาเต็มไปหมด เขารีบยื่นมือออกไปดึงเธอเข้ามาใน อ้อมกอด “อย่าร้องไห้นะ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ