ยั่วรักทนายคนโหด

ตอน40การดูแลที่แตกต่างกัน



ตอน40การดูแลที่แตกต่างกัน

ตอนที่ 40 การดูแลที่แตกต่างกัน

นภันต์หยุดเดิน “อะไร”

“เป็นเพราะฉันวันนี้คุณโดนเข้าใจผิด ถ้าหากมีอะข่าง อะไรไม่ดีเกี่ยวกับคุณ คุณไม่ต้องไปใส่ใจ” ต้องพูดต่อหน้าเขา เธอรู้สึกอายๆ

นภันต์เหมือนจะใจกว้าง “ไม่เป็นไร วิธีที่อยากจะปฏิเสธ คำนินทาที่ดีคือการที่เราพยายามทำให้เองดูแข็งแกร่งที่สุด

นัชชาตาแวววาว “ขอบคุณค่ะ ทนายนภันต์

นภันต์มองหน้าเล็กที่กำลังยิ้ม ปากแดงฟันขาว เขา อธิบายรูปร่างหน้าตาของเธอ การที่รู้จักกับนัชชามานี่เป็นครั้ง แรกที่เขาเห็นเธอยิ้มขนาดนี้

เหมือนฝนตก ในฤดูใบไม้ผลิ ทำให้คนอุ่นใจ

“ทนายนภันต์คะ”

นภันต์ได้สติกลับมา ละสายตาจากหน้าเธอ ยกมือกระแอ มเบาๆ “ไม่ต้องขอบคุณ ตั้งใจทำงานๆ

พูด

จบ ไม่ได้รอให้นัชชาได้พูดไรต่อ ก็หันหลังเปิดประตู

เข้าห้องไป
เสียงปิดประตู นัชชาที่ยืนอยู่หน้าประตู

เองแล้วเดินจากมาแบบงงๆ

ยกมือจมูกตัว

น้ำฝนที่แอบอยู่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น

ยุ่งมาทั้งเช้า เวลาพักเที่ยง นัขขาไม่ต้องรีบกินแล้วหา เวลาไปอยู่กับเขา เพราะวันนี้เตชิตไม่อยู่บริษัทไม่รู้ว่าไปไหน หลังกินข้าวเสร็จเธอก็ไปฆ่าเวลากันที่ร้านกาแฟ

ทั้งสองคนยืนรออยู่หน้าเคาเตอร์ สัพพักพนักงานก็ชง กาแฟเสร็จแล้วยื่นมาให้ ในจังหวะนั้นก็มีคนเดินมาชนจากข้าง หลัง ทําให้ ซนโดนแขนนัชชา เธอไม่ได้ตั้งตัว ทำให้กาแฟหก โดนหลมือและหกลงบน

“อ้า” เธอร้องออกมาด้วยความเจ็บ

แก่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ตกใจ รีบเดินเข้าไปมองหลังมือที่แดง แล้วถามเธอ “แกเป็นไรมั้ย

มือที่ขาวเนียนตอนแรก ตอนนี้เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง มือ โดนลวกเริ่มแสบร้อน เดี๋ยวคงต้องไปหายาทาไม่งั้นคงเป็นตุ่ม น้ำใส่ๆขึ้น

นัชชาขมวดคิ้วเล็กน้อย “ไม่ได้เป็นไรมาก

แก่หันหลังไปมอง รู้สึกหน้าคุ้นๆ พอมองดูดีๆก็เห็นเป็นเพื่อนร่วมงานในบริษัท แต่ไม่อยู่กันคนะแผนก ปกติไม่เคยทัก กัน เธอก็หยุดคำพูดแล้วลดเสียงพูดด้วยน้ำเสียงเกรงใจมี มารยาทเล็กน้อย “ทำไมเดินไม่ดู เราสองคนยืนอย่างหน้าก็ยัง เดินชนมาได้

ตอนแรกนึกว่าเธอจะมีมารยาทแล้วขอโทษ แต่ใครจะรู้ ฝนไม่มีความรู้สึกผิด แล้วยังจะกวาดสายตาไปมองหลังมือของ นัชชา แล้วพูดว่า “โทษที ฉันไม่เห็น

ไม่เห็นหรอ

แก่อารมณ์ขึ้น “คนสองคนใหญ่ขนาดนี้มองไม่เห็น เธอมัว ดูอะไร”

“โถๆ ฉัน ด้ตั้งใจ เธอไม่ต้องทำเป็นเรื่องใหญ่ก็ได้

น้ำฝนก้มมองกาแฟที่หก “เดี๋ยวฉันซื้อแก้วใหม่คืนให้ก็ได้

แก่ถูกคำพูดไร้เหตุผลของเธอทำให้อารมณ์เสียมากกว่า เดิม “พวกฉันไม่ได้คิดถึงเรื่องกาแฟ แต่เธอชนคนแล้วไม่ ขอโทษ ไร้มารยาท

“ฉันไม่ได้ชนเธอ เธอเดือดร้อนทำไม” น้ำฝนพูดจบ ก็เหล่ ตามองนัชชา บ่นเบาๆ “ก็แค่ต้องการให้คนอื่นเอ็นดูไม่ใช่ หรอ”

แต่ยังไม่ทันได้พูดต่อ นัชชาที่ยินเงียบอยู่ก็ยื่นมือไปห้าม เธอไว้ เธอตั้งใจชนฉันหรอ

เธออาจจะแค่ถามเธอ แต่น้ำเสียงที่ใช้ถามทำให้คนไม่กล้าโกหก

นํ้าฝนตื่นตระหนกไปสักพัก แต่ก็ตอบกลับนิ่ง “จะบ้าหรือ ฉันมองไม่เห็นจริงๆ

“หรอ” นัชชาไม่ได้ถามต่อ แต่กลับเปลี่ยนถามเธอ กะทันหัน เธอชื่ออะไร

น้ำฝนงงทำอะไรไม่ถูก แต่ก็บอกชื่อไปง่ายๆ “ฉันชื่อน้ำ

ตอนแรกน้ำฝนนึกว่าเธอจะต่อว่าเธอ คำที่จะใช้ตอบโต้ เธอก็คิดไว้แล้ว แต่ดูเหมือนเธอจะไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบใดๆ หรือว่า ออกว่าเธอตั้งใจชนเธอ ที่ถามชื่อเธอเพราะต้องการ จะแก้แค้นเธอหรอ

เธอนึกถึงเรื่องที่คนในบริษัทพูดกัน ถ้านัชชามีคนหนุน หลังจริงๆ เธออาจจะเล่นงานเธอเพราะเรื่องนี้ก็ได้

น้ำฝนเสียใจที่ตัวเองอารมณ์ร้อน แต่นัชชาไม่ได้พูดอะไร ต่อ พูดเพียงแค่ ฉันรู้แล้ว” แล้วหันหลังเดินจากไป

แก่ที่เดินตามเธอออกมาถึงหน้าร้าน ไม่เข้าใจในการกระ ทำของเธอ “นัชชา แกจะปล่อยไปง่ายๆแบบนี้เลยหรอ

“แล้วจะให้ทําไง ตบกับเธอหรอ” นัชชาตอบยิ้มๆ

แก่แค้นแทน “น้ำฝนคนนั้น แกเคยทำให้เธอไม่พอใจ เปล่า ฉันว่าหล่อนตั้งใจ
“อย่าว่าแต่ทำอะไรเลย ฉันยังไม่รู้จักเขาเลย” นัชชาพูด แบบเซ็งๆ คงไม่ชอบขี้หน้าฉันมั้ง

ที่ทำงานก็เหมือนสังคมเล็กๆ มีคนทุกรูปแบบ ทั้งที่ยังไม่ เคยรู้จักเราก็เอาเราไปพูดเสียๆหายๆ

แล้วจะทำไงได้ นอกจากไม่สนใจมันเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้ว

แก่เก็บอารมณ์ ทำงานอยู่ในบริษัทเดียวกันไม่อยาก ทะเลาะให้เป็นเรื่องใหญ่โต “แล้วที่แกถามชื่อเธอ แกถามไป

นัชชาตอบ “ก็แค่แกล้งเล่นๆ

แก่งง แล้วบอกยิ้มๆ แอบร้ายเหมือนกันนะแก

บ่ายสามกว่าๆ นภันต์เรียกเธอไปพบที่ห้องทํางาน ให้เธอ เตรียมตัว คืนนี้จะเข้าไปคุยกับคนดูแลบริษัทที่ถูกฟ้องร้อง

นัชชากลับมานั่งอ่านคดีอีกรอบ ถึงแม้ว่าจะยังไม่ถึงขั้นจำ ได้แม้นทุกตัว แต่เธอก็ค่อนข้างลื่นไหลไม่ตะกุกตะกัก

ก่อนออกไป เธอลังเล แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะโทรบอกเต ชิตไว้ก่อน เมื่อกลับบ้านไม่ทันก่อนแปดโมง ทำเขาโกรธ สุดท้ายคนที่เดือดร้อนก็ต้องเป็นเธอ

แต่โทรไปตั้งนานก็ไม่มีคนรับสาย เธอกดโทรหาอีกรอบ แต่ก็ไม่มีคนรับเหมือนเดิม กลัวว่าเขากำลังยุ่งกับงานอยู่ เธอ
เลยไม่ได้กดโทรอีกรอบแต่เลือกส่งข้อความไปให้

เธอเพิ่งเก็บโทรศัพท์ ก็มีรถปอร์เชสีมาจอด นัชชามอง ดูตราสัญลักษณ์ที่อยู่ท้ายรถ

รถคันนี้อย่างน้อยราคาสองล้านกว่าๆ แต่นภันต์ที่เป็น ทนายของเตนท ก็คงไม่แปลกที่มีแบบนี้ขับ

ลดหน้าต่างลง ทำให้เห็นตาคู่สวย ขึ้นรถ นัชชาเปิดประตูขึ้นรถ ทั้งสองออกเดินทางไปยังจุดหมาย

ปลายทาง

พวกเขานัดที่ห้องวีไอพีโรงผลิตชา อยู่ข้างแม่น้ำ ก่อน หน้านั้นนัชชากับนกันต์เคยไปกันมาแล้วครั้งหนึ่ง บรรยากาศดี มาก แค่ใบซาราคาเริ่มต้นที่เลขห้าหลัก

ครึ่งชั่วโมงต่อมา หลังจอดรถเสร็จ นภันต์ก็ปลดเข็มขัด นิรภัยออก แล้วหันไปพูดกับเธอ “ไปกันเถอะ

นัชชายังคงตื่นเต้น “ทนายนภันต์คะ เดี๋ยวฉันต้องพูดอะไร

“เธออยากพูดอะไร

….นก็ไม่รู้เหมือนกัน”

นภันต์หัวเราะยิ้ม “เธอไม่ต้องตื่นเต้น ที่ให้เธอมาเพราะ ต้องการให้เธอได้เรียนรู้งาน ไม่ต้องเครียด

นัชชาพยักหน้าให้กำลังใจตัวเอง
นานกวาดสายตาไปเห็นหลังมือแดงๆของเธอ ยกคิ้ว ถาม “มือเธอไปโดนอะไรมา

นัชชางง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก “อุบัติเหตุนิดหน่อย แต่

ไม่ได้เป็นไร”

“ทายา ยัง”

นัชชาพยักหน้า “ทาแล้วค่ะ”

“เป็นผู้หญิงก็ระวังหน่อย มีแผลเป็นจะไม่สวย

คำพูดนี้ไม่เหมือนในภันต์จะพูดเป็น นัชชายิ้มอายๆ

“ขอบคุณค่ะ” เขาสองคนลงจากรถ หน้าประตูก็มีคนยืนต้อนรับไว้แล้ว พาพวกเข้ามาถึงห้อง หลังเปิดประตู นัชชาก็สบตาผู้ชายที่นั่ง

เรียบร้อยอยู่บนเก้าอี้ เธอยืนอึ้งมากๆ

เห็นได้ชัดว่าเขาก็มองเห็นเธอ หลังจากเอยทักนภันต์เสร็จ ก็หันมายิ้มนิดๆมองมาทางนัชชา “ไม่เจอกันนานเลยนะครับ คุณนัชชา”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ