ยั่วรักทนายคนโหด

ตอน419ได้รับการยอมรับ



ตอน419ได้รับการยอมรับ

ตอนที่419ได้รับการยอมรับ

ครึ่งชั่วโมงต่อมารถขับเข้าไปถึงหน้าบ้านตระกูลจิระพงษ์ ก่อนจะลงจากรถนัชชาตื่นเต้นจนเห็นได้ชัดเธอกดปลดล็อค เข็มขัดอยู่เป็นนานถึงได้ชายหนุ่มเอื้อมมือไปกุมมือเล็กๆของ เธอไว้”ไม่ต้องกังวลจะไม่เกิดเรื่องที่จะทำให้ไม่สบายใจหรอก เชื่อผมเถอะ”

หากท่าทีของคนชราทั้งสองยังคงเหมือนเดิมเขาคงไม่ พานัชชามายิ่งไปกว่านั้นเขาจะไม่ยอมให้ใครกลั่นแกล้งเธอ เป็นอันขาด

“สะใภ้ขี้เหร่ยังไงก็ต้องเจอพ่อตาแม่ยายเธอก็เจอตายาย ของฉันก่อนจะได้เป็นการอุ่นเครื่องเขาจงใจหยอกล้อเธอ

นัชชาผลักเขาพลางว่า “พูดไร้สาระอะไรไม่รู้”

ทั้งสองออกจากรถเตชิตรีบไปเอาชาชั้นดีกับกล่องใส่ผ้า พันคอออกมาจากท้ายรถพ่อบ้านกำลังจะช่วยถือของแต่เขา ปฏิเสธ”เดี๋ยวผมจัดการเอง”

เขาส่งกล่องที่เบาๆ ให้นัชชาถือไว้เดินเข้าไปในบ้าน

จากสถานีตำรวจมาถึงบ้านเป็นเวลาอาหารพอดีเมื่อรู้ว่า เตชิตจะกลับมาที่บ้านก็จัดเตรียมอาหารไว้อย่างหลากหลายทั้งคาวหวานมีแต่ที่เขาชอบทานทั้งนั้น

ทันทีที่นัชชาเข้าประตูไปเธอเห็นคนชราทั้งสองนั่งอยู่ที่ โซฟาไม่ได้มาสักพักแล้วรู้สึกว่าบรรยากาศในการมาครั้งนี้ไม่ เหมือนกับครั้งก่อนเธอจับถุงใส่ของขวัญไว้แน่นในใจก็เต้นไม่ เป็นระบบเธอเดินตัวตรงแต่วข้างเตชิต

“มากันแล้วเหรอ”ชายชราเห็นทั้งสองคนเดินเข้ามามอง สิ่งที่พวกเขาถืออยู่ในมือก็อดไม่ได้ที่จะบ่นออกมา”กลับก็กลับ มาจะซื้อของฝากมาทำไมกัน

ที่จริงเขาเดาว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์น่าจะเป็นนัชชาเตรียม มาเองเพราะเตชิตไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน โดยปกติงาน ของเขาก็ยุ่งมากอยู่แล้วอยากซื้ออะไรก็ให้คนจัดเตรียมมาส่วน เขาก็แสดงออกไม่เก่ง

แล้วก็เป็นอย่างที่เดาไว้วินาทีต่อมาเตชิตวางของลงบน โต๊ะพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ”นี่เป็นชากับผ้าพันคอที่นัชชาซื้อ มาฝากดูจากความชอบของคุณตาคุณยายครับ”

ชายชรามองไปที่นัชชา “มาก็มาเถอะไม่จำเป็นต้องซื้อ อะไรติดมือมาหรอกที่บ้านมีเยอะแยะ

เขาก็พูดไปตามมารยาทความหมายก็ไม่ได้ปฏิเสธที่จะไม่ รับของขวัญที่เธอซื้อมาเขาหันไปหาพี่เลี้ยงด้านข้าง ไปชงชา มาสักกาสฉันอยากลองชาใหม่ที่ได้มา

นัชชา โล่งอกไปได้เปราะหนึ่งเธอรู้ว่าเรื่องของธีมนต์มีครั้ง ก่อนคงจะติดอยู่ในใจของพวกเขาอยู่แม้ว่าเธอไม่ได้ทำผิดอะไรแต่ยังไงเธอก็เป็นผู้น้อยหากต้องการอยู่เคียงข้างเตชิต ต้องได้รับความเห็นชอบจากพวกเขาก่อนจะรอให้ผู้ใหญ่มา ขอโทษก่อนมันก็ไม่งาม

ถอยออกมาคนละก้าวจะได้ไม่ต้องเก้อเขินในภายหลัง

เตชิตนั่งอยู่บนโซฟาตรงข้ามคนชราทั้งสองนัชชาก็นั่งอยู่

ด้านข้างของชายหนุ่มส่วนใหญ่ฟังแต่พวกเขาพูดเธอน้อยครั้งที่ จะพูดแทรก

หลังจากพูดคุยกันซักพักหนึ่งคนชรานึกถึงเด็กน้อยขึ้น มา”ทำไมไม่เอาลูกมาด้วยล่ะอยู่บ้านมีคนดูแลไหม?”

“น้ารินอยู่ไม่เป็นไรหรอกครับ”พอนึกถึงธีมนต์แววตาของ เตชิตก็อ่อนโยนขึ้นมาทันที”เด็กอายุยังไม่ห้าขวบดีมีผู้ใหญ่ กว่าดูแลก็ไม่มีปัญหา”

พอพูดถึงเรื่องนี้ชายชราก็เลยถามต่อเรื่องเข้าโรงเรียนจะ เข้าโรงเรียนไหนคิดแล้วหรือยังรีบเข้าโรงเรียนจะได้จบเร็วๆ

“ดูอยู่ครับกำลังปรึกษากันอยู่ตอนนี้รายชื่อในทะเบียน บ้านยังไม่โอนกลับมา”พูดจบเขาก็หันไปมองนัชชาแวบหนึ่ง

ชายชราก็มองตามเตชิตอยากจะพูดอะไรแต่ก็ไม่พูด สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ”ไปทานข้าวกันก่อนเถอะเดี๋ยว อาหารจะเย็นไปเสียก่อน”

ทั้งสี่คนเดินไปที่โต๊ะอาหารชายชรานั่งหัวโต๊ะเตชิตนั่งหัน หน้าให้คุณยายส่วนนัชชาด้านหน้าไม่มีใครทำให้สบายใจขึ้นนิดหนึ่ง

อาหารอร่อยเธอกินเยอะมากแต่น่าแปลกใจสุดๆคือหลัง จากที่เธอดื่มซุปปลาหมดคุณยายแห่งตระกูลจิวะพงษ์ก็ตักซุป ปลาให้เธออีกถ้วยพลางพูดว่า “กินเยอะๆนะซุปนี้ดีต่อสุขภาพ”

ประโยคที่เรียบง่ายที่ได้ยินทำให้คุณยายเก้อเขินอยู่ไม่ น้อยนัชชาได้ยินก็รู้ว่าเธอพูดไม่เป็นธรรมชาติสักเท่าไรแต่ก็ ดีใจเธอตอบรับอย่างจริงใจยื่นมือไปหยิบถ้วย”ไม่เป็นไรค่ะหนู ตักเองก็ถึงค่ะ”

“กินเยอะๆจะได้มีแรงดูแลลูก”

ได้ยินดังนั้นนัชชาไม่ได้พูดอะไรแม้ว่าการที่เธอแสดงออก มาเป็นเพราะธีมนต์เธอผ่านเรื่องราวมานับไม่ถ้วนที่จริงก็ชินซะ แล้วถ้าสิ่งที่แสดงมีจุดประสงค์ดีก็เพียงพอแล้ว

ชายชรามองไปที่นัชชา โดยไม่ให้ใครสังเกตเห็นเห็นเธอ ไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรก็เลยคุยเรื่องของหลานต่อ”ตอนนี้ตัดสิน จะให้เขาเรียนหนังสืออยู่ที่นี่พวกเธอวางแผนอะไรกันหรือยัง

เตชิตคีบกุ้งใส่จานของนัชชาเขาตอบโดยไม่เงยหน้าลูก ก็อยู่นี่แล้วพ่อแม่ก็ต้องอยู่ที่นี่ด้วยกันนะสิครับ”

เขาพูดออกมาเหมือนเล่นๆแต่ชายชราก็ไม่ได้สนใจอะไร

ใจก็คิดว่าเพียงแค่ตระกูลจิวะพงษ์ยังสามารถสืบเชื้อสายต่อไป ได้ก็พอแล้ว
ชายชราโล่งใจนึกถึงวันนี้ที่จันทร์จิรา โทรศัพท์มาหาไม่ได้ พูดออกไปตรงๆแต่ถามเขาอย่างอ้อมๆ “หลานทะเลาะกับประ ทิน ?”

ในไม่กี่ปีที่ผ่านมาเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ ทุกครั้งที่เขาไม่ ไว้หน้าประทินคุณตาก็จะเตือนเกลี้ยกล่อมอยู่บ่อยครั้งเกลี้ย กล่อมไม่ได้ก็ทะเลาะกันเมื่อเขาได้ยินดังนั้นคิ้วของเขาก็ขมวด เข้าหากัน”เกิดอะไรขึ้นอีกล่ะครับ?”

“วันนี้แม่ของเธอโทรมาบอกว่าอยากจะมาคุยกันเรื่อง หลานกับประทินแต่ตาบอกปัดไป”คำพูดของชายชราทำให้เต ชิตประหลาดใจอย่างมาก

หลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยได้ยินความคิดของชายชรา เลยชายชราได้แต่ยัดประทินให้อยู่ข้างๆเขาเตชิตจึงไม่เคยหวัง ว่าคุณตาจะตอบปฏิเสธใดๆเกี่ยวกับเรื่องนี้

แต่ตอนนี้คุณตาบอกเขาว่าท่านปฏิเสธคำขอจากตระกูล

บุญชู

เมื่อสบตากันก็เห็นชายหนุ่มทำหน้าแปลกใจและไม่เข้าใจ โดยปกติแล้วเขาเป็นคนเก็บอารมณ์เก่งและเยือกเย็นครั้งนี้พอ เห็นสีหน้าของเขาก็รู้ได้เลยว่าเมื่อก่อนสิ่งที่ตนบังคับให้เขาทำ มันทำให้เขาเกียจและขยะแขยงแค่ไหน

“ตอนนี้นัชชากลับมาแล้วไม่ว่าพวกเธอสองคนจะวางแผน ในอนาคตยังไงก็ไม่ควรลากคนอื่นมาเกี่ยวพันอีกตารู้ว่าหลาน ไม่ชอบประทินถ้าอย่างนั้นก็ไม่เป็นไร”ชายชรากล่าวจบก็หยิบเอาผ้าเช็ดปากที่อยู่ด้านข้างมาเช็ดปากแล้วมองไปที่นัชชา’ถึง อย่างไรระหว่างพวกเธอสองคนก็มีลูกด้วยกันแล้วไม่ว่าผู้ใหญ่ จะเป็นยังไงที่สำคัญคือลูก”

ที่เตชิตมีนิสัยแปลกๆติดตัวมานี้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเมื่อ สมัยจริยาสาวๆชอบทะเลาะกับคุณพ่อของเตชิตบ่อยๆและ ครอบครัวที่ไม่อบอุ่นชายชราเห็นเขามาตั้งแต่เด็กเขาจึงไม่ ต้องการให้ธีมนต์ตกอยู่ในสภาพเดียวกับเตชิต

ก่อนที่เตชิตจะมาเขารู้ว่าคุณตาน่าจะมีทัศนคติดีขึ้นกว่า แต่ก่อนแต่พอมาเห็นเข้าจริงๆไม่นึกว่าคุณตาจะพูดแบบนี้ขึ้นมา เองเขาดีใจจนคุมอารมณ์ตัวเองไม่ค่อยอยู่”คุณตายอมให้เรา อยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหมครับ?”

ชายชรา โบกมือไปมา”เรื่องของพวกเธอตากับยายจะไม่ ยุ่งอีกแล้วกีดกันไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น”

สิ่งที่คาดหวังมาโดยตลอด ในที่สุดก็สมหวังสักทีดวงตา ของเตชิตรู้สึกปวดเป็นพักๆเขาอดทนไว้เป็นผู้ชายไม่ใช่ว่านิดๆ หน่อยๆก็จะร้องไห้เขาจะอ่อนแอแบบนั้นไม่ได้

“เราตั้งใจที่จะแต่งงานกันหลังจากได้ใบรับรองการมี สถานะตัวตนของนัชชา”ไหนๆก็ไหนเขาจึงพูดแผนการใน อนาคตให้แจ่มแจ้งไปเลย

นัชชารู้สึกว่ามันยังเร็วเกินไปที่จะพูดเรื่องนี้เธอเอื้อมมือไป งเสื้อเขาที่อยู่ใต้โต๊ะไม่กล้าให้เป็นที่สังเกตพูดเสียงกระซิบ เตือนเขาว่า”คุณพูดอะไรนะ……..
กิริยาเล็กน้อยของสองคนเป็นที่สังเกตเห็นอย่างชัดเจน ของแดงเพราะความอายดีที่เธอแต่งหน้าเลยมองค่อยออกความอายที่แสดงธรรมชาติและเรียบง่าย

เมื่อก่อนชายค่อยกังวลและเป็นห่วงชายหนุ่มมาโดย ตลอดเตชิตไม่รับใจสักครั้งตั้งแต่เขาบรรลุนิติภาวะ ชายก็ไม่ค่อยได้เห็นดีใจหรือมีความเขาความจนแสดงออกมาทางสีหน้าและท่าทางจากตนอนุญาตให้พวกเขาด้วยกันชายชราก็โล่งใจแล้ว

หลายปีผ่านมาเหมือนแขวนอยู่บนเส้นได้ได้รับ ปลดปล่อยสักได้หลานทำอายุเก้าสิบกว่าปีแล้วยังโอกาสได้เห็นเหลนนับว่าคุ้ม แล้วหล่ะ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ