ยั่วรักทนายคนโหด

ตอน770จูบบนชิงช้า



ตอน770จูบบนชิงช้า

ตอนที่770 จูบบนชิงช้า

ดราณีส่ายหัว “ไม่นอนแล้วค่ะ เรายังไม่ได้กินข้าวเย็นกัน

“ล้างมือก่อน แล้วไปที่ห้องอาหารกันมั้ย?”

หลังจากที่เราได้ยินก็ส่ายหัวอีก สาวน้อยที่ใส่ถุงเท้า ยืนอยู่บนพรมปูพื้นข้างโซฟา เอื้อมมือไปโอบที่เอวของชาย ตรงหน้า กอดร่างที่แข็งแกร่งที่อยู่ตรงหน้า แก้มเนียนละเอียด ของเธอแนบกับอกของเขา เหมือนกับลูกแมวขี้อ้อนหน้าไปมา “ฉันคิดถึงคุณมาก ๆ เลย

ทันทีที่ได้ยิน ใจที่แข็งแกร่งก็กลับอ่อนยวบ “ทำไมถึงไม่ กินข้าวก่อน? ดูดึกดื่นขนาดนี้แล้ว

“รอคุณอยู่ไงค่ะ” ดราณีไม่รู้สึกอะไร “ฉันไม่อยากกินคน เดียว มันน่าเบื่อ”

เธอบอกว่าเธอเบื่อ แต่เป็นเพราะอะไรชนัยชัดเจนที่สุด

กอดกันอย่างเงียบๆแบบนี้ หลังจากผ่านไปครู่หนึ่งทั้งสอง จึงแยกจากกัน ชนัยค่อยๆก้มตัวลง เอามือซ้อนข้อพับขาและ หลังเธอ แล้วใช้แรงอุ้มเธอขึ้น
ดราณีไม่ได้รู้ตัวก่อน ก็ตกใจและอุทาน “อ้า! คุณทำอะไร นะ? ”

ชายหนุ่มไม่พูดไม่จา เดินตรงไปที่ห้องน้ำ จนถึง อ่างล้างหน้าถึงวางเธอลง

ภายใต้แสงไฟอันสว่างไสว เขายกมือคลายกระดุมเสื้อ เชิ้ตตรงข้อมือออก พับขึ้นมาถึงข้อศอก เปิดก๊อกน้ำ น้ำอุ่นๆ

ผ่านมือทั้งสองของเขา บีบที่ล้างมือกลิ่นมะพร้าวลงที่ฝ่ามือ

เขากำลังล้างมือ ให้เธอ

ดราณีหน้าแดงก่ำ รีบเอามือออก “ฉันล้างมือเองได้คะ …

เธอโตขนาดนี้แล้ว จะทำตัวเป็นเด็กให้เขาล้างมือให้ได้ ยังไง หน้าของเธอร้อนผ่าว

แต่ชนัยไม่ให้เธอหนีได้ ไม่มีทีท่าว่าคลายมือออกสักนิด ล้างมือของเธอสะอาดเรียบร้อยแล้วถึงจะปล่อยมือเธอ “ปกติ เราเจอกันไม่บ่อย เมื่อเราเจอกันทั้งที อะไรที่ฉันอยากจะทำให้ เธอ ฉันจะทำให้สำเร็จ”

ประโยคเดียว ทำให้เราเหมือนล่องลอยอยู่บนอากาศ เธอกระพริบตา แล้วก็กระพริบตาอีกครั้ง จ้องมองที่ใบหน้าอัน หล่อเหลาอย่างอื่นๆ

ดูเหมือนว่าแววตาของเธอมันเร่าร้อนเกินไป ชนัยหันหน้า มาสบตาเธอ ขมวดคิ้ว “มีอะไร ไม่เต็มใจเหรอ?”
“เต็มใจสิคะ” ดราณีสูดลมหายใจลึก “ฉันแค่รู้สึกว่าไม่ ค่อยเหมือนตัวคุณ

พอได้ยินแบบนี้ ชนัยกลับหัวเราะ เอนตัวพิงกำแพงที่อยู่ ข้างๆ กั้นประตูไว้ไม่ให้ออก “แล้วต้องทำยังไงถึงจะเหมือน ฉัน?”

พอดราณีเห็นสถานการณ์แบบนี้ ก็รู้ว่าต้องตอบเขาดี ๆ

ไม่อย่างนั้นอาจจะได้กินข้าวเย็นแน่ ๆ เธอยิ้มอย่างนักธุรกิจทันที “ไม่มีอะไรซะหน่อย คุณฟังผิด แล้ว ฉันบอกว่าแบบนี้สิถึงเหมือนคุณ

ตอนแรกชนัยแค่อยากหยอกเธอเล่น เห็นเธอแซวตัวเอง แบบนั้นก็ยิ้มไม่หุบ ยกหลังนิ้วแตะไปที่ปลายจมูกเธอเบาๆ “ไม่ใช่แน่ ๆ

ทั้งสองตัวติดกันเดิมมาถึงโต๊ะอาหาร มองดูอาหารเย็นชืด บนโต๊ะ ชนัยไม่ได้รู้จี้จุกจิกอะไรสักนิด แต่คราณียืนกรานให้ อุ่นก่อน

“ตอนดึกๆแบบนี้ต้องกินอะไรร้อนๆ จะดีกว่าคะ ไม่อย่าง นั้นจะทำให้ระบบการย่อยอาหารไม่ดีนะ”

เธอเดินไปเดินมาน่าอาหารทั้งหมดไปอุ่นแล้วเดินมาวาง บนโต๊ะใหม่ ภายใต้แสงไฟมองดูควันจากอาหารที่ลอยขึ้นมา รู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่กับครอบครัว

ชนัยไม่ใช่ว่าไม่อยากช่วยเธอ แต่เขารู้สึกเห็นแก่ตัวนิดๆที่ชอบเห็นเธอยิ่งนั้นยุ่งนี้เพื่อเขา หัวใจที่หว้าเหว่ของเขาถึงจะ รู้สึกได้เติมเต็ม

มันช่างวิเศษเหลือเกิน เขาจึงได้แต่มอง ต้องการความ อบอุ่นนี้อย่างเห็นแก่ตัว

เวลาสามทุ่มยี่สิบนาที ใกล้เวลาดึกสงัด ดราณีไม่เคยรู้สึก ว่าจะหิวขนาดนี้ กินข้าวไปหนึ่งถ้วยครึ่งถึงจะหยุด

มองดูชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า เขากินข้าวช้าเสมอ ไม่ว่า เขาจะพูดอะไรก็ตาม หรือจะมีเรื่องอะไรต่อ ไม่มีผลกระทบต่อ ความสง่างามในการกินของเขา

มารยาทบนโต๊ะอาหารที่ดีแบบนี้ไม่สามารถแสร้งทำได้ หรือแค่แสดงนิดๆหน่อยๆ แต่เป็นนิสัยที่ปลูกฝังในกระดูกถูก สั่งสอนมาตั้งแต่เด็กจนติดเป็นนิสัยมาจนถึงตอนนี้

เมื่อเปรียบเทียบกัน เรารู้สึกว่าตัวเองไม่มีมารยาทบน โต๊ะอาหารเสียเลย ถ้าในกรณีที่ไม่ต้องรีบยังพอจะแกล้งเป็น ลูกผู้ดีได้บ้าง ปกติก็เหมือนคนธรรมดาทั่ว ๆ ไปเธอรู้สึกว่าทำ ในสิ่งที่เธอเป็นไม่จำเป็นต้องแสดง ถึงจะสบายใจที่สุด

เธอไปที่จานที่อยู่ด้านหน้าของทั้งสอง อันหนึ่งเป็น ระเบียบเรียบร้อย กระดูกกับก้างปลาวางไว้ด้านหนึ่ง พอมองดู จานที่เธอใช้เหมือนทุกอย่างกองอยู่รวมกันเหมือนเพิ่งผ่าน สงครามมา

อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมาลอย ๆ “เฮ้ย เรามีช่องว่างระหว่างกัน”

ชนัยเหลียวดูพักหนึ่ง ไม่ได้สนใจอะไร “ช่องว่างระหว่าง เธอกับฉันไม่ใช่แค่นี้หรอก”

ดราก็เลยถามต่อ “แล้วมีอะไรอีกล่ะ?”

เห็นแต่ชายหนุ่มแกะลูกอม ใส่เข้าปาก จากนั้นก็ยกนิ้วชี้ งอๆเรียกเธอเข้ามาใกล้ๆ “มานี่สิ เดี๋ยวฉันจะบอก

ดราณีไม่ได้สงสัยเลยสักนิด เธอลุกขึ้นเดินไปหาเขา เพิ่ง เดินไปถึงด้านข้างของชายหนุ่ม เขาก็ดึงแขนเธอลงมานั่งที่ตัก สบอกของเขาทันที

หัวไหล่ชนไปที่หน้าอกแข็งๆของเขา ดราณีเบิกตาโต “อ้า “คุณ!”

ยังไม่ทันพูดจบ รับฝีปากก็โดนชายหนุ่มจูบทันที ผม หายใจที่ร้อนผ่าวของทั้งสองพันกันไปมา นั่งอยู่บนขาที่แข็ง แรงคู่นั้น ทำให้รู้สึกถึงกล้ามเนื้อที่ทรงพลังของเขา

ดราณีจับที่ไหล่เขา รู้สึกถึงความรุ่มร้อนที่เขาส่งผ่านมาให้

เธอ ทำให้เธอรู้สึกรับแทบไม่ไหว

คนๆนี้เป็นอย่างนี้เสมอ ชอบหาเล่ห์กลให้เธอเข้าใกล้แล้ว ก็เหมือนหมาป่าขยำเหยื่อ กลืนเธอเข้าไปทั้งตัว

ชนัยคลายตัวเธอออกก่อนที่เขาจะควบคุมตัวเองไม่อยู่ หน้าผากของเขาจรดไปที่หน้าผากของเธอ ฝ่ามือกุมใบหน้า ของเธอไว้ “นี่ถึงเรียกว่าช่องว่าง เข้าใจหรือยัง?”
ตราณีไม่รู้จะพูดอะไรอีก ได้แต่กระซิบกระซาบ “คน

ทะเล!”

“ฉันเป็นผีทะเลเหรอ?” ชนัยได้แต่หัวเราะ “อดทนหน่อย

นะ ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลาเจอกับเธอ ฉันก็เป็นผู้ชายธรรมดาทั่ว ๆ ไป… ”

“คุณ คุณอย่าพูดต่อเลย!! ดราณีรีบตัดบทประโยค สุดท้ายของเขา คำพูดของเขาที่พูดนั้นพูดนี่โดยไม่เขินอายของ เขาทำให้เธอทำตัวไม่ถูก “ฉันเก็บของบนโต๊ะก่อนนะคะ

เธอพูดพลางลุกขึ้นยืน เพิ่งลุกขึ้นก็ถูกชนยโอบเอวไว้ “ยัง ไม่ต้องเก็บหรอก ไปนั่งเล่นที่สนามหญ้ากับฉันสักพัก

สนามหญ้า?

ดราณีชะงักไปพักหนึ่ง ถามโดยสันชาตญาณ “คุณไม่พัก ผ่อนหน่อยเหรอ?”

“ถ้าเธอรีบ ก็ได้…”

“ชนัย!” ดราณีเรียกชื่อเขาเสียงแหลม หน้าของเธอแดง

ชนัยปล่อยมือ “ฉันขึ้นไปเอาผ้าห่มก่อน เธอไปรอฉันที่

สนามหญ้าก่อนนะ”

พูดจบ เขาก็หันกลับเดินขึ้นไปที่ชั้นสอง ดราณีมองดูเงา ชายหนุ่มหายไปที่ประตูบันได เสียงหัวใจเต้นไม่เป็นยังคง ได้ยินอยู่ สายตามองไปที่นอกหน้าต่างเห็นชิงช้าที่ห้อยอยู่ เห็นดังนั้นเธอก็เดินออกไปทันที

เธอเอาทิชชูเช็ดที่นั่งชิงช้า เพราะรู้ว่าชนัยค่อยข้างเป็นคน เจ้าระเบียบ ไม่ชอบที่ที่มีฝุ่นเกาะ

อากาศเริ่มเย็น จำเป็นต้องมีผ้าห่มเล็ก ๆ สักผืน ถ้านั่ง เฉยๆแบบนี้ก็เริ่มรู้สึกเย็นๆเหมือนกัน

ดราณีอุ่นนมร้อนๆ เดินถือมา เพิ่งจะนั่งลงที่ชิงช้าก็เห็น ชนัยถือผ้าห่มผืนเล็ก ๆ เดินมาที่เธอ

ไม่เคยรู้สึกว่าบ้านหลังนี้สวยงามเลย ไม่ใช่เพราะรูปแบบ ภายนอกไม่สวย เพียงแต่ก้าวแรกที่เขาเยียบเข้าบริเวณบ้าน มี เสียงฉิบๆ เสียงคนเดินถึงได้ทำให้บ้านนี้ดูสวยสดใสขึ้น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ