ยั่วรักทนายคนโหด

ตอน688ไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับเขาอย่างไร



ตอน688ไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับเขาอย่างไร

ตอนที่ 688 ไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับเขาอย่างไร

ถึงแม้ว่าจะพูดเช่นนี้ แต่ว่าเมื่อพูดออกมาแล้วจริงๆ ในใจ ก็ยังมีความคาดหวังอยู่เล็กน้อย หวังว่าเธอจะบอกกับตัวเองว่า เขาไม่ควรคิดเช่นนั้น เขายังสามารถมาหาเธอได้ตามปกติ แต่ว่าก็ไม่มี

ความคาดหวังทั้งหมดดับลงเมื่อเธอพยักหน้า

ในใจได้รับค่าตอบที่แน่ชัดอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ เธอไม่ อยากเจอเขา สักนิดก็ไม่อยาก

หัวใจของชนุดมห่อเหี่ยว หมดหนทางที่จะไปต่อกับผู้หญิง ที่เคยชอบเขามาก เมื่อเธอเปิดตาขึ้นกลับไม่ต้องการเห็นเขาอยู่

ข้างๆ

ขอให้เป็นอาการบาดเจ็บจากความเครียดก็ดี หรืออะไร ก็ได้ ไม่มีเหตุผลอะไรมาปลอบใจเขาได้

เมื่อความจริงปรากฏอยู่ตรงหน้า เขาไม่เหลือพื้นที่ให้ ปฏิเสธ คนที่นำอันตรายมาสู่เธอก็คือตัวเขาเอง ดังนั้นเขาจึง ต้องยอมรับผลที่ตามมา

“ได้” เสียงแหบแห้งดังขึ้น ชายคนนั้นลดไหล่ของเขาลง”เอาตามที่คุณว่า”

เมื่อได้ยิน ชีวภาก็เหลือบมองเขา จากนั้นเธอก็ค่อยๆ หลับตา พยายามแยกแยะทุกสิ่งทุกเรื่องราว

เสียงกรีดร้องดังก้องอยู่ในหู ไม่นานประตูห้องก็ถูกเปิด ออก จากนั้น “ปัง” เสียงปิดเบาๆ บรรยากาศความกดดันรอบ ตัวก็หายไป เขาไปแล้ว

ผ่านไปหลายนาที ชีวภาก็ค่อยๆลืมตาขึ้น หัวใจกลับไม่ ชัดเจน ในทางตรงกันข้ามกลับรู้สึกหดหูกว่าเมื่อสักครู่อีก

เธอพยายามอย่างหนักที่จะควบคุมอารมณ์ของตัวเอง ที่ จะเผชิญหน้ากับเขาอย่างใจเย็น ไม่ใช่เพราะไม่อยากเห็นเขา จึงหลับตา เธอกลัวที่จะลืมตาขึ้นและเห็นว่าเงาหลังของเขาจะ หายวับไปอีกครั้ง

การปฏิเสธชายที่เคยรักอย่างลึกซึ้งนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ เมื่อได้ยินเขาพูดอย่างมีเลศนัย “ถ้าคุณไม่อยากพบผม ผมก็จะ ไม่มา” ชีวภาก็ไม่ได้รู้สึกดีไปกว่าเขา

เธอพบว่าตัวเองยังมีความรู้สึกต่อชายคนนี้อยู่ ระยะเวลา สามเดือนที่โคม่า ความสัมพันธ์นี้ถูกบันทึกอยู่ในความทรงจำ ระดับลึก ไม่ได้ถูกนำมาปัดฝุ่น แต่กลับถูกลืม

อย่างไรก็ตามเธอไม่กล้าแสดงออกและไม่อยาก แสดงออก เธอต้องคิดอย่างใจเย็น เธอวิตกกังวลมากเกินไป และต้องการเอาชนะการปรับตัว แต่ไม่ใช่แสดงออกอย่าง สับสนเช่นนี้ เธอไม่ต้องการทำอะไรในระหว่างที่สับสน และไม่อยากตัดสินใจอะไร

ด้วยประสบการณ์ครั้งสุดท้าย การรักษาความรู้สึกนี้ เธอ ระมัดระวังมากยิ่งขึ้น แม้จะไม่รู้ว่าสิ่งที่ดีหรือไม่ อย่างน้อยตอน นี้เธอก็ไม่มีแรงกระตุ้นที่จะทำให้เดินหน้าต่อไป

ดังนั้นแยกกันก่อนเถอะ อย่างน้อยไม่เจอกันอย่างนี้ก็จะได้ ไม่ต้องกระอักกระอ่วน

ในคืนนั้น ชีวภานอนหลับแต่หัวค่ำ ในจมูกก็ยังไม่กลิ่น ของบุคคลนั้นในลมหายใจ หลับลึกมาก

ในเวลาต่อมานั้น นัชชาก็มาโรงพยาบาลหลายครั้งติดต่อ กัน ทุกครั้งที่มาก็จะนำของบำรุงต่างๆมามากมาย ถ้าไม่ได้ เตรียมมาให้ดุลยากให้ไวทย์ ราวกับจะเปิดศูนย์สุขภาพ

ต่อมาเมื่อร่างกายของชีวภาฟื้นฟูขึ้นบ้าง เธออดทนไม่ไหว จริงๆ เธอรู้สึกอายที่จะพูดว่า “พี่นัชชา พี่ไม่ต้องนำของมาให้ ฉันทุกครั้งก็ได้ มีเยอะมากแล้ว

“ไม่ได้ ตอนนี้ร่างกายคุณเพิ่งจะฟื้นฟู เป็นเวลาที่ต้องบำรุง แต่ต้องระวัง จะว่าไปแล้วที่บ้านฉันก็มีคุณน้าที่ทำอาหาร ฝีมือดี ฉันไม่ได้ทำด้วยตัวเองหรอก ไม่ต้องเกรงใจ

นัชชารู้ว่าเธอเจตนาดี กลัวว่าเธอเองจะเหนื่อย แต่ว่าชีว ภาได้รับบาดเจ็บเพราะธีมนต์เช่นนี้ เธอจะปัดเรื่องนี้ออกไปจาก ใจได้อย่างไร อย่างว่าแต่แค่ซุปบำรุงเลย ถ้าหากว่าได้รับอนุญาต เธออยากจะย้ายนารินมาที่นี่เลยด้วยซ้ำ

ชีวภามองสิ่งต่างๆที่กองอยู่บนโต๊ะ แม้จะรู้สึกเกรงใจ แต่ ความใส่ใจนั้นยิ่งใหญ่ เธอได้แต่รับมา

เมื่อทานอาหารกลางวันเรียบร้อยแล้ว ดุลยาก็ออกไปข้าง นอก นัชชาอยู่ในห้องเป็นเพื่อนเธอ แม้ว่าอายุของคนทั้งสอง นั้นค่อนข้างแตกต่างกัน แต่ว่าชีวภาเป็นเด็กผู้หญิงที่รู้เรื่องรู้ราว มาก ใจเธอเป็นผู้ใหญ่มาก ทำให้ไม่รู้สึกว่ามีช่องว่างในการ สื่อสาร

ชนุดมเป็นเหมือนเพื่อนคนเดียวที่คอยร่วมทุกข์ร่วมสุขกับ เธอ ว่าแล้วก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึงชายคนนั้น

ในฐานะที่นัชชาเป็นเพื่อน อยู่กับชนุดมมานานมาก หลัง จากที่ได้เห็นความเจ็บป่วยของชีวภา ระดับหัวใจของผู้ชายคน นั้น เธอก็รู้ว่าเขาชอบผู้หญิงคนนี้จริงๆ เธออดไม่ได้ที่จะพูดแทน เขาสักหน่อย

“ชีวภาพถามเธอนิดหน่อยเธออย่าเพิ่งอารมณ์เสียนะ เธอ ทะเลาะกับชนุดมอีกแล้ว

เมื่อชีวภาได้ยินชื่อคนคนนั้นเธอก็นิ่งไป จากนั้นก็ส่ายหัว “เปล่าค่ะ”

หลายวันนี้พวกเขาไม่ได้แม้แต่เห็นหน้ากัน จะทะเลาะกัน ได้อย่างไร

ในช่วงเวลานี้ ดุลยาและไวทย์ก็พยายามหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงชื่อนี้ เธอก็พยายามที่จะไม่คิดถึงอย่างไม่รู้ตัว เมื่อพูดถึง ขึ้นมาตอนนี้ มีบางอย่างทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัว

ไม่รู้ว่าหลายวันนี้ เขากำลังทำอะไรอยู่ จะคิดถึงเธอบ้าง

ไหม เป็นห่วงเธอบ้างไหม แต่ความคิดนั้นก็ได้ทะลุผ่านใจไป เธอส่ายหัวอย่างหลบ ซ่อน เป็นเธอเองที่ไม่ให้คนเขามา แต่ตอนนี้ทำไมกลับเป็นห่วง

ขึ้นมา

อย่างนี้ไม่ถูกต้อง

พฤติกรรมของหญิงสาว นัชชามองออก การแสดงออก เหมือนกับตอนที่เธอทะเลาะกับเตชิต ความจริงแล้วก็สนใจและ เป็นห่วงอีกฝ่าย แต่ว่าผ่านเรื่องราวมามากมาย ในใจมีปมที่ไม่ สามารถแก้ได้ ดังนั้นจึงพบกับทางต้นอยู่อย่างนี้ไม่ไปสักทาง

ที่จริงแล้วไม่ใช่เรื่องรักหรือว่าไม่รัก แต่ว่ายังไม่มีแรงที่จะ

ยืนหยัด

นัชชาเข้าใจเธอ และได้แต่ถอนใจ ตราบใดที่ไม่ได้หมด ความรู้สึกก็เพียงพอแล้ว ตราบใดที่ยังชอบก็ถือว่ายังพอพูดได้

“ความจริงแล้วพี่อยู่กับชนุดมมาเป็นเวลานาน พี่เข้าใจ นิสัยของเขาอยู่บ้าง เธออย่างคิดถึงใบหน้าอันเย็นชาของเขา ในยามปกติ ความจริงแล้วจิตใจเขาค่อนข้างละเอียดอ่อน อีก อย่างคนคนนี้ถ้าไม่ชอบใครแล้วก็เสแสร้งไม่เป็น

“ฉันรู้ค่ะ” ความจริงแล้วชีวภาเข้าใจดี แต่ว่า…
“ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง แต่ไม่อยากเห็นหน้าเขา เมื่อเห็นหน้าเขาแล้วก็จะคิดโยงใยต่อไปมาก รู้สึกตื่นเต้น โดย สัญชาตญาณ อยากจะดึงกลับ ก็อดไม่ได้ที่จะหนี

“มันเป็นเรื่องปกติ” นัชชาเห็นว่าเธอยินดีพูดความในใจ กับเธอ เธอจึงรีบปลอบโยนหลอน “ที่จริงแล้วมันเป็นกระบวน การหนึ่ง คนที่เคยผ่านประสบเหตุการณ์ที่ใหญ่หลวงมา จะเป็น ไปได้อย่างไรที่จะไม่มีอะไรติดค้างในใจ พี่เข้าใจ

พูดจบ คำพูดของเธอก็เปลี่ยนไป “แต่ว่าเธอไม่สามารถ หลบหลีกได้ตลอด ยังไงก็ต้องเผชิญกับปัญหานี้ ไม่ว่าจะพูดกับ ใครก็แล้วแต่ เหมือนที่พูดอยู่ตอนนี้ เธอก็รู้สึกไม่สบายใจไม่ใช่

คำพูดนี้แทงใจดำของชีวภา ที่จริงการปฏิบัติต่อเธอเช่นนี้ เธอเองก็รู้สึกอึดอัดเช่นกัน ไม่ใช่แค่อึดอัดเล็กน้อย แต่ว่าอึดอัด มากมาก

มีเรื่องค้างคาใจอยู่ทุกวัน ถ้าเธอไม่แก้ไขก็ต้องอึดอัดอยู่ เช่นนี้

“พี่นัชชา” เธอถามอย่างลังเล “ฉันไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับ เขาอย่างไร”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ