ยั่วรักทนายคนโหด

ตอน604เขาทําเพื่อตัวเองทุกอย่าง



ตอน604เขาทําเพื่อตัวเองทุกอย่าง

ตอนที่ 604 เขาทำเพื่อตัวเองทุกอย่าง

ในรถที่เงียบสงบ ด้านนอกดังไปด้วยเสียงไซเลน นัชชา เพิ่งรู้สึกตัวว่าเมื่อสักครู่ตัวเองเพิ่งพูดอะไรออกไปบ้าง

hawk คดีลักพาตัว และสิ่งที่เขาทำในประเทศ Y ทันใด นั้นภาพเหล่านั้นหวนเข้ามาในสมองของเธออีกครั้ง เงียบสงบ ไม่มีความรู้สึกแปลกใดๆทั้งสิ้น เธอไม่จำเป็นต้องตั้งใจยอมรับ ในสิ่งที่เข้ามา ความทรงจำที่เป็นของเธอทั้งหมดค่อยๆกรอก เข้ามาในสมอง เติมเต็มช่องว่างทั้งหมดที่ขาดหายไป

หากไม่ใช่ตอนนี้ที่เตชิตสะกิดเธอ เธอก็คงยังไม่รู้ตัวว่า ความทรงจําทั้งหมดกลับคืนมาแล้ว

“ฉัน…” นัชชาชะงักไปชั่วครู่ ไม่รู้จะพูดอะไร แต่ที่เธอ ปฏิเสธไม่ได้คือเธอจำเรื่องราวทั้งหมดได้แล้ว

“เธอจําเรื่องทั้งหมดได้แล้วใช่ไหม?”

นัชชามองดูใบหน้าชายหนุ่มที่ตื่นเต้นและมีความคาดหวัง มากกว่าตัวเองเสียอีก ทันใดนั้นก็แสบจมูกขึ้นมา เวลาผ่านไป นานขนาดนั้น ต้องเผชิญหน้ากับเธอที่สูญเสียความทรงจำ มัน ช่างเป็นเรื่องที่น่ากลัวสำหรับเขามากเพียงใด นึกถึงเรื่องทุก อย่างที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ทำให้น้ำตาหยุดไหลไม่ได้…
ไม่ต้องมีคําบรรยายใดๆ เธอร้องไห้สะอึกสะอื้นจนไม่เป็น ภาษา เตชิตรู้ว่าเธอจำได้แล้ว จําเรื่องราวทั้งหมดได้แล้ว

หน้าจอมอนิเตอร์ของสายชีพจรที่เชื่อมต่อกับร่างของเธอ ประมวลผลแปรปรวนเดี๋ยวสูงเดียวเพราะอารมณ์ของเธอ พยาบาลที่อยู่ด้านข้างฝืนใจเตือน “คุณเตชิต ตอนนี้ผู้ป่วย อาการยังไม่คงที่อย่าให้อารมณ์เขาเกิดปั่นป่วนมากจนเกินไป”

เตชิตรีบเก็บอารมณ์ของตนทันที ยังไม่ลืมที่จะเตือนสติ เธอ “ผ่อนคลายๆ คนดี ฉันอยู่ที่นี่

ยิ่งเขาพูดแบบนี้ ในใจของนัชชาก็ยิ่งเจ็บแปบ ยิ่งเธอ นึกถึงเรื่องราวก่อนความทรงจำจะหายไป และในช่วงที่เธอสูญ เสียความทรงจำมาประติดประต่อกัน ก็ยิ่งรู้สึกเสียใจมากขึ้น

สิ่งที่ทำได้ สิ่งที่ทำไม่ได้ ผู้ชายคนนี้ทำทุกอย่างเพื่อเธอ เขาเป็นคนพูดไม่เป็น ไม่เคยพูดคำหวาน ถึงจะพูดบ้างก็น้อย ครั้งเต็มที

แต่นี่คือชายที่แสดงออกความรักไม่เป็น เขาเป็นคนดึงเธอ ขึ้นมาจากหุบเหว ตอนที่เธอสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง เสียโฉม สูญเสียแม้กระทั่งความทรงจำ

นัชชาทนอดกลั้นไม่ได้อีกต่อไป น้ำตาไหลออกมาผ่าน แก้มไปที่ไรผมเป็นทาง เธอไม่สามารถระงับอารมณ์ในใจได้อีก ต่อไป แม้กระทั่งน้ำตาก็ไม่สามารถบรรเทาความเจ็บในใจของ เธอได้ พลังของอารมณ์ความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความเสียใจอัด แน่นอยู่เต็มอกเอ่อล้นซะจนทำให้เธอจมดิ่งอยู่ในทะเลน้ำตา
นัชชารู้สึกเพียงภาพที่อยู่เบื้องหน้ามืดลง มองไม่เห็นอะไร

อีก

เตชิตมองเห็นหญิงสาวสลบไป หัวใจเต้นสูงมาถึงลูก กระเดือก รีบดูตัวเลขที่หน้าจอมอนิเตอร์ อารมณ์เขาเหมือนนั่ง อยู่บนเส้นด้าย ถามพยาบาลอย่างกระวนกระวายใจ “เกิดอะไร ขึ้น? เธอฟื้นขึ้นมาแล้ว ทำไมถึงสลบไปอีก?! ”

พยาบาลรีบปลอบใจเขาซึ่งกระวนกระวายใจจนแทบจะ กระโดดลงจากรถ “คุณเตชิต คุณวางใจเถอะ อาการคุณนัชชา ไม่ได้อันตรายถึงชีวิต เพียงแค่โดยกระแทกที่ศีรษะเท่านั้น ก็ เลยจะมีอาการแบบนี้เกิดขึ้นบ้าง

“จะเป็นแบบนี้ตลอดชีวิตไหม?”

สมองได้รับการกระทบกระเทือนเล็กน้อยแบบนี้ในสายตา ของทีมแพทย์เป็นเพียงระดับเริ่มต้นเท่านั้น แต่เมื่อประเมินถึง ความรู้สึกตึงเครียดของเตชิต พยาบาลก็ค่อยอธิบายอย่าง สุภาพ “ไม่หรอกค่ะ เพียงแค่พักผ่อนให้เพียงพอ ค่อยๆทำ กายภาพ ก็ไม่มีปัญหาอะไรคะ คุณดูสิ คลื่นหัวใจกับความดัน โลหิตยังเป็นปกติอยู่

ตอนนี้เองเตชิตถึงรู้ว่าเส้นที่แสดงบนจอหมายความว่า อย่างไร ในที่สุดก็สงบใจได้

พยาบาล โล่งใจไปได้หน่อยหนึ่ง กลัวว่าถ้าชายหนุ่มเกิด ใจร้อนขึ้นมาจะฉีกหลังคารออกเป็นชิ้นๆ ดีที่สงบลงแล้ว เธอ มองไปที่นอกหน้าต่างรถที่กำลังแล่น ครั้งแรกที่เธอรู้สึกว่ารถพยาบาลขับช้าเหลือเกิน

ยี่สิบนาทีต่อมา รถพยาบาลเข้าจอดที่หน้าประตูของโรง พยาบาลประจำตระกูลของปรัณ นัชชาถูกส่งต่อไปยังห้อง ฉุกเฉินของโรงพยาบาลทันที เตชิตอยู่ข้างๆเธอไปทุกหนแห่ง

สิ่งที่รอเธออยู่คือเครื่องมือทางการแพทย์เพื่อตรวจ

ร่างกายเธออย่างละเอียด และให้การรักษา

เตชิตถูกบังคับให้รออยู่ด้านนอกห้องตรวจ หลังจากเวลา ผ่านไปไม่ถึงห้านาที ปรัณเดินออกมาอย่างรวดเร็ว เขารีบกั้นไว้ “นัชชา…”

“อีกสักพักค่อยคุยกัน ฉันต้องเข้าไปที่ห้องควบคุมการ ตรวจตอนนี้” ปรัณรีบยกมือขึ้นห้าม ไม่ได้พูดอะไรเยอะ เขา รีบรุดไปห้องควบคุมการตรวจทันที

เตชิตมองประตูที่ค่อยๆปิดลง ร้อนใจเหมือนมดบนกองไฟ

เขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน หลังจากที่เผชิญกับมรสุม น้อยใหญ่มานับไม่ถ้วน เพิ่งจะรู้สึกกลัวเอาตอนนี้ ถ้าเมื่อห้าปี ก่อนเขาเห็นสภาพตัวเองในตอนนี้คงต้องด่าว่าไม่เอาไหนแน่ๆ แต่เสียดายที่เขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป

โชคดีที่เวลาการตรวจไม่นานนัก ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ปรัณ เดินออกมาเป็นคนแรก ในมือถือกระดาษรายงานพิมพ์ผลตรวจ ออกมาสดๆร้อนๆ
“แม้ว่าแกจะดูไม่เป็น แต่ฉันจะให้แกดูก่อน พูดง่ายๆก็คือ

ร่างกายของนัชชามีแต่บาดแผลภายนอก ไม่ได้รับบาดเจ็บ

สาหัสอะไร แต่ก็ต้องรอดูอาการสักหนึ่งวันก่อน แล้วค่อยไปพัก

พื้นที่บ้านอีกครึ่งเดือนค่อยมาตรวจใหม่อีกรอบ ก็น่าจะไม่มี

ปัญหาอะไร” ปรัญส่งรายงานผลตรวจให้เขา มองริมฝีปากที่

แห้งแตกของเขา อดไม่ได้ที่ต้องถอนหายใจ” ฉันว่าเธอยัง

ไม่ทันได้เป็นอะไร แกก็ตกใจตายไปซะก่อนแล้ว ”

เตชิตอ่านรายงานอย่างคร่าวๆ นิ้วมือเย็นเป็นน้ำแข็ง เมื่อ แน่ใจว่าเธอไม่เป็นอะไรมากเขาถึงได้เบาใจขึ้น เงยหน้า หลับตาลง ยกมือขึ้นนวดหางตา รู้สึกช่วยไม่ได้ เหมือนว่ากำลัง พยายามควบคุมอารมณ์พูดเสียงต่ำ “ควบคุมไม่ได้จริงๆ ”

“แกสองคนอ่ะ…ฉันว่ามาสมัครสมาชิกรายเดือนที่โรง พยาบาลฉันเลยดีไหม เดี๋ยวก็มาเดี๋ยวก็มาวันนี้บอกว่ารถคว่ำ ฉันตกใจจนเกือบทำอะไรไม่ถูก” ปรัณพูดไปพูดมา คนที่รับผิด ชอบที่ห้องตรวจค่อยๆทยอยกันออกมา เขาหันหน้ามองแวบ หนึ่ง เอียงคอไปมารู้สึกปวดคอพิลึก “เอาล่ะ เดี๋ยวอีกพักคนไข้ ก็ออกมาแล้ว แกไปรอเฝ้าที่ห้องพักคนไข้เถอะ เดี๋ยวฉันไปดู อาการของชีวภาก่อน”

เมื่อพูดถึงชีวภา เตชิตเก็บอารมณ์บางอย่างพลางถามเขา “สภาพอาการของเธอเป็นอย่างไรบ้าง?

“เธอ……”ปรัณพิจารณาสักครู่ ส่ายหัวอย่างหมดหวัง “ไม่ ดีอย่างมากๆ แม้ว่าจะสามารถรักษาสภาพของร่างกายไว้ได้ แต่คงอยาก……..ที่จะฟื้นขึ้นมา
“ไม่มีทางอื่นรักษาแล้วหรือ?”

“ไม่มี” ปรัณกล้าพูดแบบนี้ต่อหน้าเตชิต แต่ต่อหน้าแม่ ของชีวภาและชนุดม เขาได้แต่พยายามให้กำลังใจ ไม่กล้าให้ ความหวังมากจนเกินไป แต่ก็ไม่กล้าพูดให้หมดกำลังใจ เพราะ กลัวว่าพวกเขาจะรับไม่ได้

เป็นแพทย์มานานหลายปี ช่วงนี้เป็นช่วงที่เหนื่อยใจที่สุด

“บาดแผลของนัชชาต้องทำการรักษาด้วยเลเซอร์ตาม เวลาที่กำหนด แต่ครั้งนี้ฉันจะให้ชะลอไว้สองวัน รอให้เธอฟื้น ตัวกว่านี้ก่อน บอกแกล่วงหน้าก่อน เดี๋ยวจะทำให้แก่ปวดใจ อีก”

“อืม” เตชิตไม่ปฏิเสธ ทำให้ปรัณรู้สึกประหลาดใจ

“ถ้าอย่างนั้นฉันไปก่อนนะ?”

เตชิตเห็นเพื่อนรักสีหน้าหมองคล้ำ พูดเสียงต่ำ “รบกวน แล้ว”

“ไม่เป็นไร ฉันชินแล้ว” ปรัณตอบยิ้มๆ ท่าทางไม่คิดอะไร

มาก

“ฉันได้ยินมาว่า แกอยากทำวิจัยเรื่องนั้น ส่วนเงิน สนับสนุนอีกสองวันเดี๋ยวฉันโอนเข้าไปให้ในบัญชี” เตชิตไม่ แสดงสีหน้าอะไร เผชิญกับเงินก้อนโตที่ต้องเสียไป เหมือนเสีย แค่ไม่กี่ร้อย

ปรัณชะงักไปพักหนึ่ง เลิกคิ้วขึ้น “อะไรนะ ฉันไม่ได้ฟังผิดใช่ไหม?”

เตชิตพูดอย่างไม่ต้องคิด “แกฟังไม่ผิดหรอก เป็นการ ชดเชยให้แกแล้วกัน”

ปรัณมองเงาด้านหลังของชายหนุ่มที่หันหลังเดินไปที่ห้อง พักคนไข้ ความรู้สึกเหน็ดเหนื่อยหายเป็นปลิดทิ้ง ไม่ปวดหัว ไม่ เหนื่อยใจ ให้ไปผ่าตัดอีกสามเศสก็ยังไหว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ