ยั่วรักทนายคนโหด

ตอน723ที่เรียกว่าขโมยกิน



ตอน723ที่เรียกว่าขโมยกิน

ตอนที่ 723 ที่เรียกว่าขโมยกิน

ดราณีไม่คิดว่าชนัยจะพูดแบบนี้ เธอนึกว่าเขาจะไม่ดีใจ มากๆหลังจากได้รู้ ไม่มีใครหวังว่าจะได้พบกับคำวิพากษ์ วิจารณ์จากพ่อแม่อีกฝ่ายหรอก

แต่เขาก็เป็นผู้ใหญ่มากกว่าที่เธอคิด เขาผ่านอะไรมา มากมายถึงได้มีความใจเย็น สิ่งที่เขาคิดคือจะต้องพยายาม เผชิญหน้ากับพ่อแม่เธอให้มากขึ้น และไม่ได้มีความรู้สึกในแง่ ลบ

ถ้าเป็นตัวเอง คงทำไม่ได้แบบนี้ล่ะมั้ง?

จู่ๆเราก็รู้สึกจู่ๆดราณีก็รู้สึกเคารพคนตรงหน้าขึ้นมา “คุณไม่ใส่ใจจริงๆหรอ?”

“ใส่ใจสิ” ชนัยปล่อยมือลงอย่างช่วยไม่ได้ แต่นั่นเป็นพ่อ แม่ของเธอ คุณแม่พูดแบบนั้นก็เพื่อพิจารณาเพื่อเธอ พอคิดดีๆ แล้วก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไร

เขายอมรับว่าตนเองก็ค่อนข้างผิดหวัง ยังไงตั้งแต่เล็กจน

โตน้อยคนที่จะไม่ยอมรับเขา ถึงจะมีก็เป็นคนที่มีความเห็นไม่ ลงรอยกันในครอบครัว

แต่ตอนนี้ยากที่จะจับมือตราไว้ ยังหวานกันได้ไม่นานก็มีอุปสรรคอื่นแล้ว ในใจต้องรู้สึกแย่อย่างแน่นอน แต่ความรู้สึก แต่นี้ไม่ได้มาครอบครองอารมณ์ของชนัยทั้งหมด

เขาได้เธอแล้ว ยังไม่พอใจอะไรอีกล่ะ? สมบัติอันล้ำค่า ต้องมีอะไรให้ทดสอบมากมาย เขามั่นใจว่าตัวเองต้องเอาชนะ มาได้

ดราณียื่นมือไปคว้าปลายเสื้อเขาไว้ แสงในดวงตาราวกับ ซ่อนดวงดาวนับไม่ถ้วนไว้ “ชนัย ขอบคุรที่เข้าใจนะคะ

เขาผลุบตาลงมองไปที่ใบหน้าเนียนนั้น

เธอเป็นแบบนี้มาโดยตลอด ไม่ว่าความสัมพันธ์ของพวก เขาจะเป็นอย่างไร เธอก็จะเป็นผู้หญิงที่มีความแตกต่างชัดเจน เธอมีกฎระเบียบและความรู้ความเข้าใจของตัวเอง เหมือนกับ ตอนนี้แบบนี้ ไม่ว่าความสัมพันธ์ทั้งสองจะเปลี่ยนไปอย่างไร เธอก็จะพูดขอบคุณที่เข้าใจเหมือนเดิม แสดงออกถึงการรู้สึก ขอบคุณกับเขาแบบนี้

ที่จริงแล้วชนัยไม่ต้องการคำ “ขอบคุณ” จากเธอ เขา เต็มใจให้เธอ ไม่ต้องการให้เธอทำอะไรเพื่อตัวเขาเอง แต่จะมี ใครไม่อยากได้สิ่งใดจากอีกฝ่ายล่ะ

เธอไม่เคยทำไปเพราะหวังผลอะไรจากอีกฝ่าย ดราณีคนนี้ จะไม่ให้เขาชอบได้อย่างไร

ดังนั้นการเข้าใจผิดนี้ก็ไม่มีอะไร เขามีเวลาให้พ่อแม่เธอ เกิดความประทับใจต่อตัวเขาเอง
“ฉันควรจะขอบคุณพ่อแม่เธอ ที่ได้สอนเธอมาดีขนาดนี้ เติบโตมาอย่างแข็งแรง ไม่งั้นฉันคงไม่ได้เจอแฟนสาวที่น่ารัก ขนาดนี้”

แม้ว่าปกติชนัยจะเป็นคนที่ปากเสียง พูดจาหวานเลี่ยน น้อยครั้ง คำพูดเลี่ยนๆพวกนี้ก็น้อยครั้งที่จะพูดเหมือนกัน

เมื่อก่อนคราณีจะระมัดระวังชมัยมาก แต่หลังจากที่ตัวเอง ชอบผู้ชายคนนี้จริงๆ ทุกครั้งที่ได้ฟังคำพูดแบบนี้ ในใจก็ ปรากฏความสุข

“ไม่ว่าจะเป็นยังไง คุณก็อย่าเก็บไปใส่ใจเลย ฉันไม่อยาก ให้คุณไม่มีความสุข”

เสียงจุ๊บอ่อนหวานของหญิงสาวอยู่ข้างหู ชนัยเหมือนกับ ถูกแสงแดดอุ่นๆ โอบรอบตัว “โอเค”

หวานก็คือหวาน ยังไงก็ต้องไปโรงพยาบาล

ดราค่อยลุกขึ้น พยายามไม่ใช้ร่างกายส่วนล่าง แต่แม้ ว่าจะพยยามแค่ไหนก็ยังเจ็บ ชนัยเห็นก็สงสาร ถึงขั้นเริ่มเสียใจ ทำไมเมื่อวานตนเองถึงได้ตื่นเต้นขนาดนั้น

ดราณีก็อายไปด้วยแต่ก็ปลอบเขาไปด้วย สุดท้ายคนที่ รู้สึกผิดที่สุดก็คือเธอ

หลังจากจัดการคนง่ายๆ นิดหน่อย ล้างหน้าแปรงฟัน เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว ชนัยก็พาเธอลงมาทานอาหารเช้า บริเวณ คกาสน์มีร้านอาหาร ส่งมาถึงในบ้านทันที
ทั้งสองนั่งใกล้กัน เต็มไปด้วยกลิ่นอายคู่รักข้าวใหม่ปลา

มัน

ดราณีถือเสี่ยวหลงเปามาหนึ่งเข่ง เปิดฝาออก ไอนชาว ลอยขึ้นมา กลิ่นหอมก็ลอยเข้าจมูก เธอยกตะเกียบตักขึ้นมา เข้าปากหนึ่งชิ้น ขนาดพอดีค ฟันกัดลงไป น้ำซุปแสนอร่อยจาก ด้านนอกไหลเข้าไปในปาก ความอร่อยที่ไม่ได้เลี่ยน ทำให้วาง ตะเกียบไม่ลง

ชนัยเห็นเธอทานอย่างน่าพอใจ ก็เลื่อนกาแฟสไตล์ อเมริกันกับคอนเฟล็กไปข้างๆ และคีบขึ้นมาหนึ่งชิ้น พอชิมแล้ว ก็อดพูดไม่ได้ ไม่คิดว่าร้านอาหารนี้จะทำเสี่ยวหลงเปาได้ไม่ เลวเลย”

ดราณีมีอาหารอยู่ในปาก จึงไม่ได้มีช่องว่างให้สนใจเขา

ชนัยหรี่ตามองเธอ “ดราณี ดูเธอทำสิ คนอื่นมีอาหารอ ร่อยๆก็ต้องแบ่งปันกันก่อน แต่เธอกลับกินคนเดียวไม่สนใจ ฉัน?”

“โอ๊ย ใช่ที่ไหนกันเล่า…….. ดราคิดว่าเขาตั้งใจหาเรื่อง และไม่คิดจะสนใจ

ชนัยไม่ได้กวนต่อ เห็นเธอทานก็รู้สึกได้รับการเยียวยา อารมณ์ดีแล้ว

เขาตัดสินใจแล้ว ต่อไปนี้ถ้าดราณีมาที่นี่เขาจะให้พ่อครัว ที่ร้านอาหารทําเสี่ยวหลงเปาให้เธอ ก็พอแล้ว
ดราณีทานไปเจ็ดแปดชิ้นก็ไม่ได้ทานต่อ ชนัยเป็นคนทาน อาหารช้ามากมาโดยตลอด เขารู้จักพิธีรีตองบนโต๊ะอาหาร ความสง่างามนี้ไม่ได้แกล้งทำออกมา แต่มันอยู่ในชีวิตประจำ วันเขาตั้งแต่แรก คนที่ถูกสอนแบบนี้มาตั้งแต่ยังเด็กก็จะดำเนิน ต่อไปแบบนี้

ดราณีนึกถึงเรื่องเมื่อคืนที่ติดต่อกันอย่างช่วยไม่ได้ เธอจึง ลองถามดู “เมื่อคืนทำไมคุณถึงไม่มีความสุข?

ชนัยได้ยินประโยคนี้ อุปกรณ์ทานอาหารในมือก็ชะงัก แม้แต่มุมปากก็ยังแข็งทื่อ เพียงครู่เดียวเขาก็แค่ทำท่าไม่มีอะไร น่าใส่ใจ “ไม่มีอะไร แค่หงุดหงิดนิดหน่อย

ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยอารมณ์ไม่อยากพูด ดราก็ขมวด คิ้ว อยากพูดแต่ก็ลังเล แต่รู้สึกถึงการตัดสินใจปฏิเสธที่จะพูด เรื่องนี้ สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป

ช่างมันเถอะ เขาไม่อยากเอ่ยถึง เธอถามไปก็ไม่มีความ

หมาย

แต่พอคิดว่าเขามีเรื่องที่ปิดบังตัวเอง ไม่อยากบอกเธอ ดราก็รู้สึกหงุดหงิดไม่มากก็น้อย ยังไงเรื่องของเธอ เขาก็ แทบจะเข้าใจทั้งหมด แต่เรื่องที่เขาไม่มีความสุข เขาไม่คิดจะ บอกตน

ดราณีพูดไม่ออก รู้สึกไม่ได้รับการเชื่อใจ ไม่ค่อยดีเลย แต่เธอก็รู้ว่าแฟนก็คือแฟน ทุกคนต้องการพื้นที่ให้ตัวเอง เธอ ไม่สามารถยืนกรานได้
หลังจาทานเสร็จ ชนัยก็ขับรถไปส่งเธอที่โรงพยาบาลด้วย ตัวเอง ระหว่างทาง ดราก็รู้สึกไม่สบายใจ เลยไม่ได้พูดอะไร มาก แม้ว่าเธอจะพยายามปรับอารมณ์ตัวเองอย่างมาก แต่ก็ หนีสายตาของชนัยไม่พ้น

ตรงหน้าเขา หญิงสาวมีความคิดอย่างไรแค่มองแวบเดียว ก็ดูออก ไม่ต้องเอาเลย

รถจอดที่ลานจอดรถใต้ดินของโรงพยาบา ชนัยหันไปมอง คนตัวเล็กที่กำลังปลดเข็มขัดเตรียมจะลงจากรถ

“ฉันลงก่อนนะ คุณขับระวังด้วย ถึงบริษัทแล้วบอกฉัน ด้วย” เธอพูดไปพลางเอื้อมมือไปเปิดประตู

ชนัยจับข้อมือเล็กของเธอไว้ ลูกกระเดือกเซ็กซี่ขยับสองที แสงไฟจากบนรถค่อยๆมืดลง เขาเลยพูดออกมาอย่างช้าๆ “เมื่อคืน……..ที่จริงคุณปู่ที่บ้านฉันมาหาที่บริษัท เพราะมีปัญหา เรื่องโปรเจ็คหนึ่ง แล้วก็พูดถึงพ่อฉัน ฉันรังเกียจพ่อฉันมา ตลอด เพราะคุณฉัน พ่อฉันเลยต้องเลิกกับแม่ ดังนั้น…….

เขาพูดได้กำกวมอย่างมาก ค่อนข้างไม่ค่อยมีเหตุผล แต่ ท่ามกลางประโยคแบบนี้ ดราณีก็ฟังออกถึงความรู้สึกสะเปะสะ ปะ

พูดถึงเรื่องพวกนี้ เขาตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัดมาก เขา หลบซ่อนมัน มันคือบาดแผลในใจเขา ไม่เช่นนั้นจะเข้าไปอยู่ ในอารมณ์แบบนี้ได้อย่างไร?

คิดถึงตรงนี้ เธอก็สงสารเหลือเกิน โน้มตัวลงไปกอดเขา”ไม่เป็นไรนะ ฉันไม่ถามแล้ว ไม่ถามแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ