ยั่วรักทนายคนโหด

ตอน624ท่าทางที่มีความสุข



ตอน624ท่าทางที่มีความสุข

ตอนที่ 624 ท่าทางที่มีความสุข

ช่างแต่งหน้าชายมองอุปกรณ์ในมือ เมื่อครู่เพิ่งลงรองพื้น เอง ยังเหลือการแต่งหน้าอ่อนๆและลิปสติก สุดท้ายก็จัดปรับ แต่ง

แต่ดูจากอารมณ์ของผู้จ้างแล้ว เขาคงทำได้ไม่ถึงขั้นตอน สุดท้ายก็คงจะโดนไล่ออกมา เพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ร้ายแรง นั้นเกิดขึ้น ช่างแต่งหน้าจึงตัดสินใจบอกกับเตชิตล่วงหน้า

“คุณเตชิต เดี๋ยวพวกเราขออีกยี่สิบกว่านาทีนะครับ แต่ผม จะรีบแต่งให้เร็วที่สุด” ช่างแต่งหน้าเห็นใบหน้าบูดบึงของเขา ก็รีบโน้มน้าวว่า “ยังไงวันนี้ก็เป็นวันแต่งงานของคุณกับคุณนัช ชานะครับ ได้ยินคนแต่งหน้าของคุณนัชชาบอกมาว่า เจ้าสาว แต่งหน้าสวยมากเลยล่ะ ทางนี้ก็ต้องหล่อเหมือนกันนะครับ!

เตชิตไม่ได้ฟังคำพูดเขาเลย ได้ยินแต่ประโยคที่ว่า “เจ้า สาวแต่หน้าสวยมาก เขาก็สงสัยและรอคอย เกิดมาสามสิบ กว่าปี ไม่มีอะไรตื่นเต้นไปกว่าตอนนี้แล้ว

ก่อนมาที่นี่ธนัทเคยถามเขาว่า ตื่นเต้นไหม เขาบอกไม่ตื่น เต้น ที่จริงเขาเป็นที่จะพูดความจริง เขาตื่นเต้นมากเป็นพิเศษ คืนก่อนวันงานเขานอนไม่หลับ หลังจากถึงโรงแรมร่างกายเขา ก็ไม่ดี
อะไรที่วางแผนไว้ ความสามารถในการจัดการ ล้วนไม่มี แล้ว เหลือเพียงความว่างเปล่าและการรอคอย

จินตนาการภาพที่เดี๋ยวจะเจอเธอแล้ว ผ้าคลุมศีรษะสีขาว คลุมลงมา กระโปรงตัวยาวที่วางไว้หลักวางไว้หลังฉฉากงาน แต่งเขาไม่เคยบอกเธอมาตลอด เมื่อครู่ที่มาถึงเขาให้เธอดูแค่ คร่าวๆ แม้ว่าจะซ้อมมาแล้วสองรอบ แต่ว่ารายละเอียดพวกคำ พูดยังมีแสงไฟและเอฟเฟค เธอไม่รู้เลย จินตนาการถึงตอนที่ ดวงตาของเธอ……..ต้องเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดในโลก แน่นอน

แม้ว่าเตชิตไม่ได้พูด แต่สีหน้าเขาก็อ่อนโยนลงมา ช่าง แต่งหน้าขอบคุณพระเจ้า รีบหยิบอุปกรณ์มาวาดบนใบหน้าคม กลัวว่าในวินาทีต่อมาเขาจะกลับคำพูด

ธนัทมองดูใบหน้าหล่อที่บูดบึงในกระจก ก็อดแหย่ไม่ได้ “แกนะ แค่ทำหน้าเฉยๆก็ไม่ได้? คนเขาอุตส่าแต่งหน้าให้แก เดี๋ยวแต่งออกมาไม่ดีก็โทษชาวบ้านอีก

เตชิตไม่เข้าใจคำพูดเยาะเย้ยนั้นชั่วคราว แค่อยากแต่ง หน้าให้เสร็จไวๆ

“เดี๋ยวขึ้นเวทีแล้วคิดคำพูดเสร็จหรือยัง?”

“อืม”

“ฉันเป็นห่วงแกตอนถึงเวลาแสดงบทบาทจริงๆนะ แต่ขอให้โชคดี”
” เตชิตกวาดสายตาไปมองธนัท “คิดว่าฉันเป็นนาย

หรอ?”

“ฉันทำไมหรอ ฉันแสดงได้อยู่แล้วไม่มีปัญหา

คำพูดแบบนี้ธนัทน้อยครั้งที่จะพูด สายตาเตชิตเกิดความ ประหลาดใจแวบหนึ่ง “ช่วงนี้นายอยู่กับชนัยบ่อยหรอ?”

“เปล่า ไม่รู้ช่วงนี้เจ้านั่นยุ่งอะไรอยู่ ไม่ค่อยได้เจอ” ธนัท ไม่รู้ว่าทำไมเป็นเช่นนั้น “ทำไมหรอ?”

“เปล่าหรอก คิดว่าชนัยผู้หน้าไม่อายนั่นจะอยู่กับนาย “…” ธนัทจ้องอย่างเงียบๆ เป็นเพื่อนเจ้าบ่าวแล้วยังโดน

ด่าอีก

บทสนทนาระหว่างผู้ชายทั้งสองนั้นมีมากกว่าปกติอย่าง เห็นได้ชัด หนึ่งคือเป็นวันแต่งงานทุกคนก็ยินดีปรีดา สองคือ ตื่นเต้น การพูดมากหน่อยจะทำให้มันตื่นเต้นน้อยลง

เจ้าบ่าวเจ้าสาวเตรียมเวลา การตกแต่งภายในโรงแรม เสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว ภายในห้องโถงตกแต่งด้วยสามสีคือ สีชมพู ขาว และทอง พรมทั้งหมดไม่ได้ใช่ของโรงแรม ทั้งหมด เปลี่ยนเป็นพรมขนสัตว์ชั้นดีสีเทาอ่อน เพื่อให้เข้ากันกับการ ออกแบบสถานที่ทั้งหมด

ดอกไม้สวยงามตกแต่งไว้ทุกที่อย่างเห็นได้ชัด อุปกรณ์บน โต๊ะอาหารที่เป็นของนำเข้าจากครอบครับ H ลูกโป่ง โคมไฟ แก้ว ของหวานที่สวยงามและแชมเปญชั้นดีวางลงบนโต๊ะอย่างช้าๆ แขกทุกท่านที่เขามาต่างก็มองรอบๆอย่างอดไม่ได้

การตกแต่งที่พิถีพิถันนี้ ดูน่าดึงดูดมากกว่า โรงแรมในต่าง ประเทศอีก ที่ว่าเตชิตจัดงานแต่งในประเทศคือไม่ให้ความ สำคัญแก่เจ้าสาว เพื่อความสะดวกสบาย แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า จะไม่ใช่อย่างที่คิด เหมือนกับเปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่างในชั้นนี้ ทั้งหมด

ไม่ต้องพูดว่ามีค่าใช้จ่ายมากขนาดไหน แค่ระดับการ เอาใจใส่ใครก็เทียบไม่ได้แล้ว

ทั้งหมดคือที่วาดฝันไว้ อีกไม่นานเจ้าบ่าวเจ้าสาวเตรียม ขึ้นเวทีด้วยกันแล้ว

ปรัณนั่งไม่นานก็ขึ้นลิฟต์มาบนห้องโถง ทางด้านคุณปู่ยัง ไม่ได้ออกมาจากโรงพยาบาล ในใจเขาเหมือนมีหินแขวนไว้ รู้สึกกังวลและหวาดกลัว

เขาโทรหาคุณหมอที่รับผิดชอบส่งคุณปู่ “ถึงไหนแล้วครับ ไม่มีปัญหาใช่ไหมครับ?”

“ผู้อำนวยการ ไม่มีปัญหา ทุกอย่างราบรื่นดีครับ ก็คือ ว่า…….” คุณหมอพูดถึงตรงนี้แล้วหยุดไว้อย่างลังเล

ขณะที่ปรัณรู้สึกกระวนกระวายใจ ทำให้เขาใจบีบรัดแบบ นี้ จึงเพิ่มความดังของเสียง “คือว่าอะไร?”

“คือว่าคุณหมอสุราอยากมาด้วยกัน ไม่ว่าจะพูดยังไงก็ ไม่เกิดประโยชน์ เลยมาด้วยกันแล้วครับ
คุณหมอสุวีรา?

ปรับขมวดคิ้วเล็กน้อย ปฏิกิริยาแรกคือ “สุวีรา?”

“ครับ…….. คุณหมอไม่กล้าพูดอะไรมาก ยังไงทุกคนในโรง พยาบาลประจำตระกูลของปรัณรู้ว่าความสัมพันธ์ของสุวีราและ ปรัณ ทั้งสองนั้นไม่ลงรอยกัน ยากมากที่จะเป็นตัวกลางของ พวกเขา

ปรัณนึกถึงตอนที่ออกจากโรงพยาบาลมาวันนี้ เพื่อเลี้ยงสุ วีรา ตอนนี้เข้าใจได้ทันที จึงเอ่ยเสียงทุ้ม “ให้เธอรับ โทรศัพท์หน่อย”

คุณหมอถึงได้ส่ง เผือกร้อนๆ ก้อนนี้ในมือให้กับสุรา “คุณหมอสุวีราครับ ผู้อำนวยการอยากคุยด้วยครับ

สุวีราก็ไม่ได้เลี่ยง รับโทรศัพท์มาแนบหู แล้วพูดด้วยน้ำ

เสียงสงบนิ่ง “ฮัลโหล?”

“ทำไมไม่อยากคุยกับผม?” ปรัณพอได้ยินเสียงที่ไม่ พอใจของเธอ ความฉุนเฉียวภายในใจก็ยิ่งเพิ่ม “ตัดสินใจโดย ไม่ได้รับอนุญาตอีกแล้วหรอ?”

“ฉันไม่วางใจให้คุณปู่มาคนเดียว”

“แล้วคุณไม่ปรึกษากันหน่อยหรอ? อยากจะปิดบังผมมาก ล่ะสิ?” ปรัณลุกขึ้นมาจากโซฟา เดินไปที่มุมห้องโถง ยกมือขึ้น มากุมขมับทั้งสองข้าง แล้วปิดตาลง “สุวีรา ผมบอกกี่ครั้ง แล้ว………..
“คุณปู่อยู่ข้างๆนะ ไม่มีเวลามาคุยกับคุณแล้ว” พูดจบ เธอ ก็พูดเสริมอย่างไม่ เธอก็พูดเสริมอย่างช้าๆ “อีกอย่างนะ ช่วงนี้ คุณก็ทำอะไรปิดบังฉันอยู่ไม่ใช่หรือไง”

ตั้งแต่ที่ชีวภานอนโรงพยาบาลจนถึงการรักษานัชชา จน ต่อมาถึงเรื่องของคุณปู่ เธอไม่เคยฟังเขาเลยสักครั้ง

ปรัณรู้ดีว่าช่วงนี้ตัวเองงานยุ่งอยู่เสมอ เย็นชากับเธอ เป็น

เฉยเธอ แต่เขานึกว่ามันไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร

“ผมไม่มีทางเลือก แล้วคุณละ? การกระทำของคุณ คุณรู้ ไหมว่าคุณกำลังแหกกฎ!” ยิ่งเขาพูดก็ยิ่งโมโห อยากจะตีตรง หน้าสักที

เขาโมโห สุวีราก็ยิ่งโมโห ถึงไม่ใส่ใจว่าเขาจะคิดอย่างไร เลยวางโทรศัพท์ทันที แม้แต่คำพูด แล้วเจอกัน ก็ไม่มี

ในหูมีเสียง ติดๆ ดังเข้ามา ปรัณรอประมาณสองวินาที ถึงเอาโทรศัพท์ออกมาจากหู จ้องมองหน้าจอโทรศัพท์ที่บท สนทนาเพิ่งจบไปอยู่นานสักพัก

เธอวางโทรศัพท์หรอ?

เขายังพูดไม่จบเลย เธอวางโทรศัพท์ใส่เขา?

ปรัณรู้สึกว่าตัวเองถูกเหยียดหยาม ได้ ปีกกล้าขาแข็ง มี ความสามารถแล้วสินะ สุวีรา ดีมาก!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ