ยั่วรักทนายคนโหด

ตอน101ความนิ่งเงียบก่อนมีพายุลมฝน



ตอน101ความนิ่งเงียบก่อนมีพายุลมฝน

ตอนที่ 101 ความนิ่งเงียบก่อนมีพายุลมฝน

คนพูดไม่คิดคนฟังคิด คำนี้ได้เตือนสติของดวิษ

ไข่ ถ้าหาวิธีเล่นงานเตชิตไม่ได้ ก็สามารถทำให้คนใน ครอบครัวของเขาแทรกแซง เตชิตอาจจะไม่สนใจชื่อเสียง แล้ว ถ้าเป็นคนในครอบครัวล่ะ

คงจะไม่อนุญาตให้เขายุ่งหรือดูแลปกป้องผู้หญิงที่เคย

หย่า

ควบยิ้มเจ้าเล่ห์ นั่งลงข้างๆ ปณิตา ยื่นมือไปโอบเอวเล็ก ของเธอ “ปณิตา เธอฉลาดมาก ทำไมฉันถึงนึกไม่ถึงข้อนี้ ถ้า เตชิตยอมเสียทุกอย่างขนาดนี้ เราก็แค่ทำให้เรื่องมันใหญ่ขึ้น กว่าเดิม เดี๋ยวก็จะมีคนออกมาห้ามเอง

ถึงเวลานั้นคนในบ้านนั้นทะเลาะกันเอง จะมีใครที่ไหนมี เวลามาดูแลนัชชา

ดวิษเหมือนรู้ความลับอะไรบางอย่างมา ในแววตาเต็มไป ด้วยความตื่นเต้น ปณิตาที่โดนเขาโอบ ครั้งแรกที่ในใจรู้สึก แปลกๆ อยากออกห่างไม่อยากให้เขาเข้าใกล้

พอคิดว่านัชชา โดนเตชิตกอด

อิจฉาขึ้นมาเฉยๆ

ในใจเธอก็มีความรู้สึก
ดาษเป็นคนโลภ ช่วงนี้มัวแต่ยุ่งเกี่ยวกับการเอาคืนเตชิต สร้างเรื่อง ไม่มีแม้กระทั่งเวลาออกไปข้างนอก ตอนนี้ความ ต้องการของร่างกายก็ถูกปล่อยออกมา

วิษจูบเธออย่างรีบร้อน ไม่มีความอ่อนโยน เปิดปากกัน เข้าไปอย่างเร่งรีบ ทำเหมือนเรื่องนี้ไม่ได้เป็นเรื่องที่งดงาม มี เพียงความรีบเร่งและต้องการปลดปล่อย

ปณิตารู้สึกไม่อยากทำ แต่ก็ไม่ได้ผลักเขาออก เปิดปาก รับจูบจากเขาด้วยซ้ำ เพราะทั้งชีวิตของเธอตอนนี้ยังต้อพึ่งบ้าน

รู้สึกได้ว่ามือใหญ่ของเขาล้วงเข้าไปในกางเกงของเธอ เธอพูดขึ้นและหอบหายใจ ……….…….

“ปณิดา เธอดีจังเลย

ปณิตาฟังเสียงที่แหบพร่าของเขา ไม่รู้สึกตื่นตัวแต่กลับ รู้สึกรังเกียจ แต่เธอก็ทำตามความต้องการของเขา “ด……..

ทั้งสองทำเรื่องอย่างว่ากลางห้องทำงาน ไม่มีการปกปิด

ใดๆ เลขาที่นั่งอยู่ข้างนอกมีเพียงประสานหนึ่งกั้นไว้ เสียงที่ดัง มาจากในห้อง ต้องหันหน้าหนีไปทางอื่นอย่างรังเกียจ

มันไม่ใช่ครั้งแรกที่ดวิษทำเรื่องแบบนี้ในห้องทำงาน เป็น ลูกน้องอึดอัด ในใจพวกเขาด นอกจากจะเป็นเจ้านายแล้ว ยังเป็นคนหน

มิลินหนึ่งในเลขาก็เคยถูกเขารังควาน แต่ก็ยอมทนเพื่อเงินเดือนที่สูง ในใจไม่รู้ว่าโกรธเกลียดมากแค่ไหน มีแค่เธอ

เท่านั้นที่รู้

ตอนนี้กำลังมองดูสถานการณ์ที่แย่ๆของบริษัท เดี๋ยวดี

เดี๋ยวร้ายไม่แน่นอน

มิลินอดมาจนถึงสุดขีดแล้ว พูดกับเพื่อนร่วมงานคนสนิท ที่อยู่ข้างๆ ฉันจะขอลาออก

“ห้ะ ทําไมกะทันหันจัง

มิลินหันไปมองที่ห้องทำงาน สีหน้าเปลี่ยนไป “ไม่ได้ กะทันหัน ฉันทนมานานแล้ว

เพื่อนร่วมงานเธอถอนหายใจ มันก็ถูก ทุกคนก็คอยทน ซวยมากที่ได้เจ้านายแบบนี้ ถ้าไม่ได้ดูที่เงิน คงไม่มีใครอยาก ทํางานกับดวิษหรอก

ในห้อทำงานทั้งสองกำลังร่วมรักกัน ไม่แม้แต่จะนึกถึง จิตใจของพนักงาน มัวแต่กระท่ากัน ตกอยู่ห้วงพะวงความคิด ที่อยากทําร้ายเตชิตกับนัชชา

ตั้งแต่วันแรกที่ความสัมพันธ์ระหว่างเขาสองคนถูกเปิด เผย กว่านัชชาจะชินและหลุดพ้นสายตาที่ถูกคนอื่นๆจับจ้อง ถึงเวลาเลิกงานแล้ว

เรื่องที่ควรดีใจคือ เมื่อก่อนคนที่คอยพูดร้ายเธอก็ไม่กล้า ว่าต่อหน้า ไม่ว่าในใจพวกเขาจะคิดยังไง แต่อย่างน้อยก็ยังให้เกรียติเธอ ไม่กล้าแสดงออกมา

ตอนเย็นตอนที่เธอไปถ่ายเอกสาร ระหว่างนั้นก็เจอปริมล

และน้ำฝนที่เคยตั้งใจชนเธอ ตอนพวกเธอเจอเธอทำหน้าไม่ ธรรมชาติเหมือนอึดอัดและตื่นกลัว แต่ก็แกล้งทำเป็นมั่นใจ นัชชาไม่ได้สนใจพวกเธอ หลบทางเดินไปยืนอยู่หน้า เครื่องถ่ายเอกสาร หยิบเอกสารออกมาแล้วถ่ายตามปกติ

ทั้งสองคนยืนอยู่ข้างหลังเธอไม่ได้ขยับไปไหน ส่งสายตา ให้กัน ปริมลเปิดปากพูดก่อน “นัชชา ฉันรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไร อยู่ ตอนนี้เธอก็มีอำนาจบ้างแล้ว คงไม่ปล่อยพวกฉันไปง่ายๆ เธออย่าคิดว่าอยู่กับคุณ……………มาบีบฉันทำไม

ตอนแรกน้ำฝนกะจะบีบเพื่อให้เธอหยุดพูด แต่ไม่นึกว่าป วิมลจะพูดออกมาตรงๆ น้ำฝนมองนัชชาอย่างอายๆ แต่ในแวว ตาก็แสดงออกถึงความกลัว

ก่อนหน้านั้นนัชชาก็ยังรู้สึกโกรธ แต่พอเห็นก็กลับรู้สึก ตลก ความจริงทุกคนมาทำงานก็คงจะอยากประสบความ สำเร็จ เรื่องที่พูดกันระหว่างผู้หญิงถ้าไม่ใช่เรื่องสำอางดูแลตัว เองก็คงจะเป็นเรื่องพูดนินทาชาวบ้าน เมื่อก่อนชื่อเสียงเธอไม่ดี จริงๆ เธอก็ไม่ถูกที่ตัดสินใจไปก่อน แต่ปวิมลก็ไม่ได้กระทำ ร้ายแรง

เมื่อเทียบกับปริมล เธอก็ไม่ได้ดูร้ายขนาดนั้น นัชชาหันไปจัดเอกสารต่อให้เรียบร้อย “ฉันไม่ได้จะทำอะไร หลังจากนี้แค่เธอไม่หาเรื่องฉันอีก ฉันจะไม่ว่าหรือพูด อะไรทั้งนั้น

ตอนแรกเธอแค่อยากอธิบาย แต่สิ่งที่ปริมลได้ยินเป็น เหมือนการพูดโอ้อวด เป็นการให้อภัยนี้ยิ่งใหญ่ ทําตัวเหมือน กําลังไว้ชีวิตเธอ

“นัชชา เธอไม่ต้องแสร้งทำเป็นคนดี เธอเป็นคนยังไงทุก คนแก่ใจ…..

“ฉันเป็นคนยังไง” นัชชาพูดแทรก มองไปทางปลื้มล สายตาที่อ่อนดยนเปลี่ยนเป็นแหลมคม คล้ายๆกับสายตาของ เดชิต “เธอกับฉันเราไม่ได้สนิทกัน ปกติก็ไม่เคยได้คุยกัน เธอ รู้จักฉันหรอ เธอรู้หรอว่าฉันเป็นคนยังไง เธอก็แค่อยากทำลาย ฉัน ถ้าฉันอยากจะเอาเรื่องเธอจริงๆ ไม่ต้องรอมาจนถึงทุกวันนี้ หรอก เธอโดนไล่ออกไปตั้งนานแล้ว

เธอพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังชัดเจน ทำให้ปริมลไม่กล้าโต้

เพราะมันคือความจริง

น้ำฝนก้มหน้า นึกถึงการกระทำของตนสีหน้าก็ไม่สู้ดีนัก “ขอโทษ…..…….

ไม่ว่าเธอจะพูดเบาขนาดไหน ก็พอที่จะได้ยินอย่างชัดเจน ปริมลมองเธออย่างไม่เชื่อหูตัวเอง “พูดบ้าอะไรของเธอ “มูลเราอย่าทำแบบนี้ มันไม่ดี” น้ำฝนเดือนและห้ามเธอ
ปริมลฟังไม่เข้าหู รู้สึกเหมือนตัวเองถูกหักหลัง ไม่แม้แต่ จะรู้สึกผิดกับการกระทำของตัวเอง สะบัดแขนเธอออก “แก…แกนเป็นคนไม่เอาไหน

พูดจบเธอก็หันหลังเดินจากไป ความโกรธที่แสดงออกมา คนที่ไม่รู้เรื่องคงคิดว่าถูกนัชชารังแก

ในห้องถ่ายเอกสารเหลือเพียงเขาสองคน น้ำฝนยังอยู่ใน ท่าเดิมไม่ขยับไปไหน

บรรยากาศน่าอึดอัด นัชชาพยายามเก็บอารมณ์ความ โกรธ ยกมือตบไหล่ของเธอ เมื่อก่อนก็มีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นหลาย อย่าง ให้เธอพูดดีด้วยเธอคงพูดไม่ออก เธอพูดเพียง “ไม่ เป็นไร

น้ำฝนไม่เชื่อหูตัวเองเงยหน้ามองเธอ เธอ เธอไม่โกรธ

ฉันหรอ”

นัชชายิ้ม “เรื่องมันก็ผ่านมานานแล้ว ความจริงที่เอเกลียด ฉันก็เป็นเพราะคนที่เธอชอบ

คำพูดนี้เหมือนพูดแทงใจดำเธอ ตอนแรกหน้าที่ขาวซีด

เปลี่ยนเป็นสีแดง เธอกำลังจะอ้าปากพูด แต่ถูกนัชชาพูดขัด “สบายใจได้ ฉันจะไม่เอาไปพูดต่อ ถ้าชอบก็แค่ไปสู้กันซึ่งๆ หน้า การเหยียบคนอื่นไม่ได้ทำให้ตัวเองดูสูงขึ้น

น้ำฝนกัดปาก ถึงนัชชาจะไม่ได้แสดงออกว่าสนใจขนาด นั้น แต่เธอก็รู้สึกไม่ดี
มองดูแผ่นหลังของชาเดินจากไป เธอก็เข้าใจขึ้นมาเลย ว่าทำไมเผชิตและภัณฑ์ถึงรู้สึกดีกับเธอ เพราะเธอเป็นคนที่ พิเศษ อ่อนโยน ซื่อตรง มีทุกอย่างที่หายากในสังคมสมัยนี้

เธอไม่เหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆ ดูจากภายนอกเหมือนจะ อ่อนแอแต่กลับมีใจที่เข้มแข็ง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ