ยั่วรักทนายคนโหด

ตอน665คุณท่านเสียไปแล้ว



ตอน665คุณท่านเสียไปแล้ว

ตอนที่665คุณท่านเสียไปแล้ว

ตัวของคุณท่านนั้นไม่มีแรงอะไรมากมายแล้วฉีดยาแก้ ปวดเยอะขนาดนั้นร่างกายของเขาก็แทบจะไม่มีความรู้สึกแล้ว ถึงจะเป็นแบบนี้เขาก็พยายามที่จะไปจับมือของเขา “ตอนนี้ ข้างๆของนายมีนัชชาและธีมนต์อยู่ฉันก็วางใจแล้วนายต้องใช้ ชีวิตของตัวเองให้ดีและดีกับพวกเขาเพราะพวกเขาถึงจะเป็น คนที่จะเดินกับนายทั้งชีวิตเข้าใจไหม?”

คำพูดอย่างนี้เหมือนกำลังพูดสั่งเสียทำให้ในใจของเตชิต นั้นรู้สึกเจ็บปวด

“ถ้าท่านยังจะดูธีมนต์โตอยู่ก็อย่าพูดคำพูดแบบนี้ครับ”

ในที่สุดที่คุณท่านยิ้มสักที” ใช่ฉันยังจะรอดูเด็กโตและฟัง เขาเรียกฉันว่าทวดอีกตั้งหลายปีแหนะ!”

ยากที่ทั้งสองอยู่โรงพยาบาลด้วยกันแล้วคุณท่านนั้นก็พูด เรื่องราวอดีตมากมายกับเขาและมีอีกมากมายที่เขานั้นไม่รู้ วินาทีนี้เขารู้สึกว่านี่เป็นครั้งที่เขาได้ใกล้ชิดกับคนแก่คนนี้มาก ที่สุดในชีวิตนี้

เขาเหมือนจะเข้าใจความยากลำบากของคนรุ่นที่แล้วและ เข้าใจว่าคุณท่านนี้ทั้งชีวิตนี้เดินผ่านมาได้ยังไง
ตอนที่พูดอยู่อารมณ์ของคุณท่านนั้นก็ยังสบายดีอย่าง น้อยเสียงฟังแล้วก็ยังมั่นคงอยู่เขาคิดว่ายังไงวันนี้ก็ต้องผ่านไป ได้แต่ไม่คิดว่าตอนที่คุณท่านพูดคำพวกนี้เสร็จหัวใจของเขาก็ เจ็บปวดมากขึ้น

เวลาตีสองเตชิตนอนอยู่ข้างๆเตียงกำลังเตรียมตัวจะพัก ผ่อนแต่หลับตาไม่นานก็ได้ยินเครื่องที่บนหัวตรงนั้นร้องดังขึ้น มา

เขาตกใจแล้วรีบตื่นขึ้นมาทันทีที่ลืมตาไม่พูดอะไรแล้วเดิน ไปทางเครื่องตรวจเป็นเครื่องตรวจที่วัดความดันเลือดและการ เต้นของหัวใจทีแรกยังมีภาพเส้นกราฟโค้งไปมาแต่ตอนนี้ กลายเป็นเส้นตรงไปแล้ว

นี่หมายความว่ายังไงเขาเข้าใจที่สุดแล้วแต่สิ่งแรกที่เขา ทำนั้นคือไปกดปุ่มฉุกเฉิน

ไม่ถึงครึ่งนาทีประตูก็ถูกเปิดจากด้านนอกมีคนกลุ่มหนึ่งที่ ใส่เสื้อขาวและเสื้อฟ้าพุ่งเข้ามา

เตชิตที่ยืนอยู่ข้างเตียง โดนเบียดออกไปถึงข้างๆ เขาอยาก จะเข้าใกล้แต่กลับโดนห้ามไว้

“ญาติผู้ป่วยออกไปก่อนครับตอนนี้ผู้ป่วยอาการไม่ดี ต้องการเข้ารักษาด่วนครับ!”มีหมอคนหนึ่งมาห้ามเขาไว้แล้ว หันกลับไปช่วยคนเหมือนเดิม

พวกเขารีบยกตัวคุณท่านมาไว้ที่เตียงและถอดอุปกรณ์ ต่างๆที่ติดในตัวออกจากนั้นก็เป็นออกไปจากห้องเตชิตเดินตามด้านหลังอยู่ใกล้ๆก็เห็นปรณที่รออยู่หน้าประตู

“เข้มแข็งไว้เพื่อน”

นี่เป็นคำแรกที่ปรัณคุยกับเขาแล้วก็เป็นคำเดียวที่พูด หลังจากนั้นเขาก็เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและเข้าร่วมการช่วย เหลือทันที

ข้างกำแพงมีไฟสีแดงที่น่ากลัวสว่างขึ้นมาช่วงนี้เห็นไฟ บ่อยเกินไปจนกระทั่งครั้งหนึ่งขับรถอยู่ที่ถนนเผลอดไฟแดงเป็น ไฟฉุกเฉินตอนนั้นเขารู้สึกกลัวและรู้สึกอยากอาเจียนมาก

ทางเดินนี้เงียบไปหมดความเงียบนั้นเหมือนกลายเป็นมือ คู่หนึ่งที่มาบีบที่คอของเขาจนเขาแทบจะหายใจไม่ออก

ไม่รู้ว่าเป็นใครแจ้งให้ญาติผู้ป่วยหลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง

คุณท่านยังไม่ออกมาจริยาและลูกสาวก็มาแล้วรวมถึงนัชชาเอง

ก็มาถึงคนเดียวที่ไม่มาคือภรรยาของคุณท่าน

ทุกคนรออยู่หน้าประตูไม่มีใครพูดอะไรทั้งนั้นจริยาทนไม่ ไหวเริ่มร้องไห้เบาๆแล้วแม้กระทั่งเวธนี้ที่ไม่เชื่อฟังก็นั่งอยู่ข้างๆ ไม่ได้พูดอะไรออกมา

นัชชาเดินไปข้างผู้ชายสีหน้าของเขาแย่มากๆหน้าใบนั้น เหมือนกำลังบวมอยู่ขอบตาดำปากซีดมือทั้งสองกำหมัดอยู่ ข้างๆหลังนั้นตรงจนเหมือนกำลังจะหัก

คุณท่านอาการหนักกะทันหันถึงขั้นเข้าห้องฉุกเฉินและเขานั้นเป็นคนที่เฝ้าอยู่ข้างๆ
นัชชาไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไงถึงจะทำให้เขานั้นไม่เครียด แต่ไม่ว่าพูดอะไรก็ไม่มีประโยชน์ก็เลยต้องอยู่อย่างนี้เพราะคน ที่อยู่ด้านในออกมาต้องพูดผลสรุปออกมาอยู่แล้ว

ความตายน่ากลัวจริงๆ

ผ่านไป10นาทีมีคนที่ใส่หมวกและผ้าปิดปากเดินออกมา จากด้านใน

จริยารีบเดินไปตรงหน้าอยากจะถามอาการของคุณท่าน แต่เพียงพูดมาค่าเดียวก็พูดต่อไม่ไหวแล้ว เป็น………..

ฝ่ายตรงข้ามรู้ความหมายของเธอก็เลยส่ายหัวแจ้งไว้ ก่อนครับการช่วยเหลือยังไม่สิ้นสุดเพราะเรากำลังพยายามแต่ ขอให้ญาติทำใจไว้ก่อนครับ พูดจบหมอก็หันหลังเข้าห้องฉุกเฉินแล้วปิดประตูทั้งๆ ที่

เป็นแค่ระยะใกล้ๆแต่กลับเหมือนโลก2ใบ

ในตอนที่ทุกคนได้ยินข่าวก็ไม่มีใครพูดอะไรเลยแม้กระทั่ง จริยาก็พยายามทำให้เสียงร้องไห้ของตัวเองนั้นเบาลง สถานการณ์ในตอนนี้เหมือนตกอยู่ในนรกทั้งเป็น

อยู่ดีๆเตชิตก็รู้สึกตลกไฟสีแดงที่สว่างนั้นไม่ใช่สิ่งที่น่า กลัวที่สุดสิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือไฟดวงนี้ดับไป

เหมือนจะรับรู้ถึงความคิดของเขาทันใดนั้นไฟที่อยู่ที่ กําแพงก็ดับไปทันที

ไฟสีแดงที่ส่องอยู่ตรงหน้าคนไม่มีแล้วเหลือแต่หน้าที่ซีดขาว

เตชิตเงยหน้าขึ้นมองไปทางประตูที่ปิดแน่นเหมือนจะมอง ทะลุผ่านบานประตูไป

นัชชาไม่เคยเห็นสายตาแบบนี้ของเขาถึงแม้จะสิ้นหวังใน ช่วงเวลาหนึ่งก็ไม่เคยเห็นสายตาแบบนั้นที่มีความคาดหวังและ ความโศกเศร้าปนอยู่แต่ความรู้สึกเสียใจขัดแย้งกันเป็นความ รู้สึกที่ไม่กล้าเผชิญกับความคิดในใจ

‘ตั๊ก’

ประตูเปิดออกคนที่เดินออกมาไม่ใช่คนอื่นแต่เป็นปรัณ

ทันใดนั้นเงียบไปหมด

สายตาของปรัณมองไปที่รอบๆของหน้าทุกคนสุดท้ายก็ หยุดอยู่ที่หน้าของเตชิตแล้วพูดเบาๆว่า “ขอโทษ…….คนช่วย กลับมาไม่ได้”

ตาโตๆของจริยาพอได้ยินคำนี้ก็เริ่มลดลงน้ำตาไหลออก มาอย่างควบคุมไม่ได้ความลับที่อยู่ในใจก็ระเบิดออกมาทันที เธอตะโกนเสียงดังและหมดหวัง

“อา!พ่อ……พ่อ……

…………

เวธนีที่อยู่ด้านหลังก็ร้องไห้ดังขึ้นมาอาจจะเป็นเพราะเธอ นั้นยังเป็นวัยรุ่นก็เลยมีแรงพยุงจริยา

นัชชามองไปรอบๆที่เกิดขึ้นนึกถึงคำพูดที่อ่านในหนังสือ
เธอเคยเห็นจุดที่ลึกที่สุดของทะเลไหม?

ตอนสุดท้ายของหนังสือเล่มนั้นผู้เขียนว่าอย่างนั้นตอนนั้น เธอคิดว่าไม่มีใครเคยเห็นจุดที่ลึกที่สุดของทะเลหรอกแต่วินาที นี้เธอเข้าใจแล้ว

มีจริง

สิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าก็คือสิ่งที่ลึกที่สุดของมหาสมุทรความ มืดมนนั้นรวมไปถึงความกดดันที่มาจากภายใต้มหาสมุทรใจ ของทุกคนได้รับการกระทบและแรงกดดันที่หนักหนาสาหัสไม่มี เสียงไม่มีลมหายใจเหมือนไม่มีอะไรทั้งนั้น

ทุกคนกลายเป็นของเล็กๆ ที่อยู่ในขวดถึงแม้รอบข้าง ทั้งหมดนั้นกำลังจะเผชิญเรื่องร้ายๆมีแต่จุดเล็กๆ ที่สามารถรับรู้ ได้นั่นก็คือหัวใจ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ