ยั่วรักทนายคนโหด

ตอน540พ่อกับแม่ไม่เอาผมแล้วหรอ



ตอน540พ่อกับแม่ไม่เอาผมแล้วหรอ

ตอนที่540พ่อกับแม่ไม่เอาผมแล้วหรอ

“ฉันไม่ยอมให้เธอพูดตัวเองแบบนี้!”ค่นี้เหมือนมีมีดแทง เข้าไปในใจของเธอแต่เขาเพิ่มระดับเสียงเหมือนกำลังจะทำให้ เธอได้สติคืน เรื่องเลวร้ายขนาดนั้นพวกเราก็ผ่านมาแล้วตอนนี้ เพราะแค่แผลที่ยังไม่หายหมดเธอก็จะท้อแล้วหรอ?”

“ฉันก็ไม่อยากจะท้อแท้แต่ว่า……..เธอร้องไห้แล้วพูดต่อ

ไปไม่ลง

“ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉันและปรัณเองเขาจะช่วยเธอ ผ่านด่านนี้ไปทุกคนกำลังรอเธอกลับไปหรือเธอไม่อยากจะเห็น ธีมนต์เร็วๆ?”

พอพูดถึงธีมนต์นัชชาก็ได้มีการตอบสนองนิดนึงถึงแม้จ ไม่ได้ว่าเด็กคนนั้นมายังไงแต่ทุกครั้งที่พูดถึงเขาในใจของเธอ ก็จะเต้นแรงอารมณ์แบบนั้นที่พูดไม่ค่อยออกพร้อมกับความตื่น เต้นถึงแม้จะจำเด็กคนนั้นไม่ได้แล้วแต่ความรู้สึกที่อยู่ในใจ ลึกๆไม่มีทางหลอกคนหรอก

เธอเกือบลืมไปแล้วว่าตอนนี้ตัวเองเป็นแม่คนแล้ว

เตชิตเห็นเธอฟังเข้าหูก็โล่งอกไป “นัชชานี่ไม่ใช่ชีวิตของ พวกเราแต่ตอนนี้เพียงแค่ต้องรับการรักษาเท่านั้นขอเพียงเธอ มีความเชื่อมั่นแผลก็จะฟื้นตัวเร็วเราก็จะกลับไปอยู่ในชีวิตที่เหมือนเดิม”

ตั้งแต่ที่เธอนั้นถูกจับตัวไปชีวิตของพวกเขาก็พังไปหมด ตอนนี้คดีจบลงแล้วสิ่งที่ต้องรออย่างเดียวคือ ให้สุขภาพ ร่างกายแข็งแรงส่วนเรื่องอื่นแค่พวกเขากลับไปในประเทศทุก อย่างก็จะดีขึ้น”

นัชชาเริ่มตั้งสติได้จึงหยุดคิดเรื่องที่ทำให้ตัวเองปวดหัว นั่งเงียบๆข้างเตียงมองไปทางนอกหน้าต่างมองไปทางสวนที่ เต็มไปด้วยต้นไม้กับหญ้ามองไปยังผู้ป่วยที่กำลังเดินเล่นกันอยู่ เตชิตรู้ว่าเธอต้องการอยู่คนเดียวเงียบๆก็เลยไปอยู่นอกห้อง

ในตอนที่ปรัณกับสุวีรามาเปลี่ยนยาก็เห็นเขานั่งอยู่ที่เก้าอี้ ปรัณจึงส่งสายตาให้สุวีราจากนั้นเธอก็เอายาเข้าไปในห้อง ปล่อยให้ผู้ชาย2คนอยู่นอกประตู

“โดนไล่ออกมาเหรอ?”ปรัณแกล้งเขา

“เธอเห็นแผลที่อยู่หลังตัวเองแล้วจากนั้นก็ร้องไห้หนักมาก อารมณ์แย่มาก “เตชิตเอาศอกสองข้างเท้าไว้บนเขามือไปจับที่ จมูกน้ำเสียงที่พูดออกมาเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า

ปรัณรู้สึกประหลาดใจแต่ก็เหมือนสิ่งที่เขาคิดไว้เขาเงียบ ไปสักครู่แล้วพูดต่อว่า “จะช้าหรือเร็วยังไงก็ต้องรู้

“ปรัณฉันอยู่ดีๆก็รู้สึกไม่รู้จะต้องทำยังไงแล้ว”เสียงทุ้ม ของผู้ชายดังขึ้นที่คิ้วก็ดูเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าและความ กดดัน “เธอจำเรื่องราวระหว่างเราสองคนไม่ได้ไม่ว่าฉันจะพูด ยังไงเธอก็เหมือนจะไม่เข้าใจสักอย่าง
ปรัณเข้าใจความรู้สึกของเขาสิ่งที่สำคัญมากที่สุดคือทั้ง สองพยุงกันและให้ความเชื่อใจกันแต่ตอนนี้นัชชาจำเขาไม่ได้ ทำให้เขาไม่รู้ว่าจะต้องลงมือยังไง

แต่ว่า……

“เตชิตถึงแม้การเสียความทรงจำทำให้ลืมนายไปชั่วคราว แต่ความทรงจำนั้นไม่มีวันหายไปคนคือสิ่งที่มีความรู้สึกใน ความทรงจำลึกๆนั้นนายก็ยังคงเป็นคนที่เธอเชื่อใจมากที่สุด ปรัณยกมือขึ้นไปตบที่ไหล่ของเขาเขาผอมไปเยอะมากที่ไหล่ เหมือนมีเนื้อหายไปมากเลย ตอนนี้เธออยู่ในช่วงที่กำลังสับสน มากที่สุดนายจะต้องอดทนไว้

ถ้าทั้ง2เสียความมั่นใจไปถ้าเป็นอย่างนั้นไม่ว่าฝีมือของ เขาจะดีขนาดไหนสุดท้ายก็ไม่มีทางดีขึ้น

แปลว่ายังไงนัชชาก็คือผู้ป่วยการยอมรับเรื่องราวต่างๆก็ มีขีดจำกัดต้องใช้สติที่แข็งแรงและกำลังใจจากคนรอบข้างถึง จะผ่านไปได้ด้วยดีและสิ่งที่เขากลัวมากที่สุดก็คือเธอเสียความ มั่นใจไป

แต่ไม่ว่ายังไงก็ดีที่เขาไม่เคยคิดที่จะยอมแพ้หลังจากที่ ปรัณพูดจบเขาก็ลุกขึ้นมาแล้วเดินเข้าไปในห้อง

ปรัณถอนหายใจมองไปทางประตูห้องผู้ป่วยในใจไม่ได้ โล่งอกตั้งแต่เป็นหมอมาครั้งนี้เป็นครั้งที่ทำให้เขารู้สึกยากที่สุด หวังว่าทั้งสองคนจะไม่เจอเรื่องที่ทุกข์ทรมานอีก
แค่แป๊ปเดียวก็ผ่านไปแล้ว2เดือนนัชชารักษาอยู่ต่าง ประเทศรวมกับก่อนหน้านี้ที่จากไปก็ราวๆ3เดือนแล้วเทอม ที่2ของเมนต์จะจบลงแล้วแต่ก็ยังไม่ได้เจอพ่อกับแม่

ใครว่าเตชิตไม่อยากกลับมาดูเด็กแต่ถ้าเขากลับมาก็อยู่ ได้แค่แป๊บเดียวสำหรับเด็กแล้วก็เป็นการทำร้ายเช่นกันอีก อย่างสภาพของนัชชาก็ไม่อำนวยให้เขากลับมาด้วย

การวีดีโอคอลเป็นเรื่องที่ธีมนต์หวังในทุกๆ วัน ใช้iPadเล็กๆนี้มาสื่อความรักที่มีอยู่

พอเวลาผ่านไปในใจของเด็กก็อาจจะมีความรู้สึกอื่นๆ ช ชนม์และเมทนี้เห็นแล้วก็รู้สึกสงสารพวกเขาทั้งสองอายุเยอะ แล้วเวลาคุยกับเด็กก็ไม่ค่อยเข้าใจเด็กนักก็เลยต้องให้จินต์พา เด็กไปเล่น

จินต์ก็ดีใจที่ได้ช่วยดูแลเด็กได้ยินธนัทพูดเกี่ยวกับเรื่อง ราวต่างๆของนัชชาเธอก็รู้สึกผิดที่ช่วยอะไรไม่ได้แต่ตอนนี้ สามารถดูแลเด็กได้เธอก็รู้สึกดี

วันนี้เธอพาธีมนต์ไปสนามเด็กเล่นที่ที่เขาชอบที่สุดเธอได้ เห็นรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าของเด็กแต่ไม่นานก็หายไปจนถึงเวลา กินข้าวก็ไม่มีความสุขเหมือนตอนแรกพี่มาแล้ว

จินต์นั่นสเต็กที่อยู่ตรงหน้าหันไปด้วยถามไปด้วยมนต์ กินข้าวแล้วคิดอะไรอยู่?

ธีมนต์ส่ายหัวนัยน์ตาดูไม่ค่อยดีนัก ไม่ได้คิดอะไรครับ
จินต์ตั้งใจทำหน้าตาเศร้าๆมองไปทางเขา”ธีมนต์โตแล้ว มีความลับของตัวเองแล้วไม่อยากพูดกับแม่บุญธรรมแล้วใช่ ไหม?แม่บุญธรรมเสียใจจังเลย…….

ธีมนต์เป็นเด็กมีเมตตาเขากระพริบตาแล้วก้มหน้าลงสัก พักหนึ่งถึงจะพูดเบาๆออกมาว่า “ผมคิดถึงพ่อกับแม่แล้วครับ”

จินต์มองไปทางไหล่ที่เล็กๆของเขาเมื่อเห็นร่างกายที่เล็กๆ ของเขาพร้อมกับเสียงที่เบาๆก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นมาทันที

“เธอวีดีโอคอลกับพ่อแม่ทุกวันไม่ใช่หรอ?”

ธีมนต์พยักหน้า “แต่ผมอยากเห็นพวกท่านอยากให้พวก ท่านส่งผมไปโรงเรียนเหมือนเมื่อก่อนแล้วก็กินข้าวกับผมครับ ธีมนต์โตมาด้วยการเลี้ยงดูของนัชชาขาดความรักของพ่อ

ไปทำให้เขารู้เรื่องและโตกว่าเด็กวัยเดียวกันตอนนี้ได้ใช้ชีวิต

อย่างเป็นครอบครัวไม่นานก็ต้องเผชิญหน้ากับการจากลาเด็กที่

อายุ6ขวบในใจคงจะลำบากแน่ๆเลย

จินต์รู้สึกสงสารจึงรีบไปจับมือของเขาที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ พ่อ กับแม่มีธุระกลับมาไม่ได้จริงๆ พวกเขาก็อยากจะเจอเธอมากๆ เหมือนกัน”

“จริงหรอครับ?”ธีมนต์เบะปากพยายามกลั้นความรู้สึกที่ อยากร้องไห้ไว้ ผมกลัวว่าพวกเขาจะไม่เอาผมแล้ว……..

“จะเป็นไปได้ไง!” ในใจของจินต์เหมือนมีมีดมาทิ่ม แทง “พวกเขาไม่มีทางที่จะทิ้งธีมนต์ไปแน่นอนพ่อกับแม่รักธีมนต์มากที่สุดแล้ว”

“แล้วทำไมพวกเขาไม่มาดูผมหล่ะครับ?”

จินต์ไม่รู้จะอธิบายกับเขายังไงก็เลยบอกไปว่า “มนต์ครับ ทุกคนมีหน้าที่ของตัวเองพวกเขานอกจากเป็นพ่อแม่ของเธอ แล้วยังเป็นทนายพ่อของลูกต้องไปช่วยผู้คนอีกมากมายเลยนะ ครับ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ