ยั่วรักทนายคนโหด

ตอน161 ค่ำคืนอันแสนปวดใจ



ตอน161 ค่ำคืนอันแสนปวดใจ

ตอนที่ 161 ค่ำคืนอันแสนปวดใจ

นัชชาเดินเข้าไปในคฤหาสน์ด้วยท่าทีไร้ซึ่งอารมณ์ เธอไม่ ได้กลับไปยังห้องนอน แต่ทว่าเดินไปที่ห้องรับแขกที่อยู่ด้าน ข้าง ล็อคประตูลง ยังเดินไม่ทันถึงเตียง เธอก็ล้มตัวลงไปนั่ง บนพื้น

เธอไม่ได้เปิดไฟ ผ้าม่านอันแสนหนาปิดกั้นแสงสว่างไว้จน หมด เธอขดตัวลงน้ำแขนทั้งสองขึ้นมาโอบกอดเข่าไว้ในมุม เล็กๆภายในห้อง บรรยากาศในคฤหาสน์อุ่นกำลังดี แต่เธอ กลับรู้สึกหนาวจนตัวแข็งไปหมด

ความรู้สึกที่ถูกคนที่ตัวเองไว้ใจที่สุดทรยศนั้น ในชีวิตของ เธอเคยผ่านมันมาแล้วครั้งหนึ่ง และแทบจะพรากเอาชีวิตเธอ ไปทั้งหมด ก่อนหน้านี้เตชิตคือผู้ที่ช่วยเธอออกมาจากภัย อันตรายทั้งปวง แต่ในวันนี้ เขากลับเป็นผู้ที่ทรยศโกหกเธอ

น้องสาว?

ไม่ใช่ว่านัชชาจะมองสายตาอาลัยอาวรณ์คู่นั้นของทีนาร์ ไม่ออก ผู้หญิงคนนั้นยังมีความรู้สึกและเยื่อใยที่ดีต่อเตชิต นี่ เป็นสัญชาตญานของผู้หญิงที่เข้าใจผู้หญิงกันเอง

งั้นเตชิตล่ะ?
เธอเชื่อว่าเดซิตคงไม่ทำเรื่องอะไรที่ไม่ดีกับตัวเธอ แต่ โกหกเธอ มันใช่เรื่องเหรอ?

นัชชารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนนอก ถ้าเตชิตบอกเธอ เรื่องการมีตัวตนอยู่ของทีนาร์ตั้งแต่แรก มันอาจจะไม่ทำให้เธอ ต้องมานั่งเสียใจขนาดนี้ ความรู้สึกที่รับรู้ได้ถึงความไว้ เรี่ยวแรงและความทุกข์เสียใจที่ฝังลึกอยู่ในกระดูกมันล้นออก มาจนเธอไม่รู้จะเผชิญหน้ารับมือมันยังไง

คำพูดของเขาเพียงประโยคเดียวทำเธอโง่คล้อยตามเชื่อ สนิทใจมาเป็นเวลานาน เขามองดูเธอเหมือนคนโง่ที่เชื่อคำพูด พวกนี้ทุกวัน ในใจเขาจะรู้สึกผิดเสียใจกับเรื่องนี้สักนิดบ้าง หรือไหมนะ?

นัชชาไม่กล้าแม้แต่จะคิด เธอกลัวว่าสิ่งที่เธอเห็นอยู่ตรง หน้าทั้งหมดจะกลับกลายเป็นสิ่งที่เธอมโนขึ้นมาเอง กลัวว่า ผู้ชายที่ตัวเองตกหลุมรักจะเปลี่ยนเป็นคนที่เธอไม่รู้จัก

นัชชาไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองร้องไห้มานานเท่าไหร่ นั่งมา นานแค่ไหนแล้ว เธอเพียงรู้ว่าผู้ชายที่นั่งอยู่ในรถคนนั้นได้จาก เธอไปอีกแล้ว เธอได้ยินเสียงเครื่องยนต์ที่ดังมาจากในสวน หน้าคฤหาสน์ รถวิ่งสวนกันไปมา

นัชชา ใช้แรงกอดแขนสองข้างหนักขึ้นไปอีก ราวกับว่าทำ แบบนี้แล้วจะสามารถสร้างกำแพงขึ้นมาให้ตัวเองได้ เธอ หลับตาลง น้ำตารินไหลลงมา เสียงสะอึกขึ้นที่นัชชากำลัง ร้องไห้ ค่อยๆเปลี่ยนเป็นเสียงร้องไห้ฟูมฟายดังโฮออกมา เขาไปไหนอีกแล้ว? บริษัท ที่พักที่อื่น หรือว่า ลีลาเขตเหนือ?

ไม่มีใครสามารถตอบได้และยิ่งไม่มีใครรู้ ความรู้สึกที่ สับสนกังวลย้อนกลับมาทําร้ายเธออีกครั้ง

ก่อนที่เตชิตจะขับรถออกจากไวโรจน์วิลล่า เขาได้ส่งกำลัง คนเฝ้าดูบริเวณโดยรอบคฤหาสน์ ถ้าหากนัชชาออกไปหรือมี เรื่องอะไรเกิดขึ้น ให้แจ้งเขาให้ทราบเป็นคนแรก

เธออยากอยู่เงียบๆ แต่เมื่อเขาอยู่บ้านกลับอดไม่ได้ที่จะ เข้าหาเธอ ดังนั้นเขาทำได้เพียงหนีออกไป จึงจะควบคุมตัวเอง ได้

เวลาค่อยๆผ่านไปจนกระทั่งเช้ามืด ทั้งๆที่ชีวิตกลางคืน ของเขาผ่านไปอย่างเพลิดเพลิน แต่เขากลับมืดแปดด้านไม่รู้จะ ไปไหนดี ปกติทำงานยุ่ง ไม่ชอบไปเที่ยวเล่น คิดไปคิดมาก คิดถึงแค่ชนัยผู้เดียว

เขาโทรหาชนัยด้วยความกลัดกลุ้มใจ คู่สายรับโทรศัพท์

อย่างรวดเร็ว ตามมาด้วยเสียงดนตรีที่แสนดังทะลุผ่านเข้ามา ในหู “พี่เตชิต? พี่โทรมาหาผมตอนนี้เนี่ยนะ ช่างเหลือเชื่อ จริงๆ….

เสียงของเขากวัดแกว่งไปมา ฟังก็รู้ว่าเขาดื่มไปไม่น้อย เลยทีเดียว

เตชิตขี้เกียจจะพูดมากกับเขา “ตอนนี้นายอยู่ไหน?
“ผมจะอยู่ที่ไหนได้อีกล่ะ แน่นอนว่าต้องเป็นมติคลับเฮาส์ พี่มีธุระกับผมงั้นหรอ?” เหมือนเขาเกรงว่าเสียงตรงนั้นจะดังไป ขนัยจึงปิดเพลงลง แต่ยังมีเสียงสาวๆที่รายล้อมเขาอยู่บ่นขึ้น “พี่ขนยขา ทําไมปิดเพลงล่ะคะ ?”

ชมัยพูดด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ “เดี๋ยวเปิดนะจ๊ะ รอแป

ปปิ้ง”

เตชิตกลับรถทันที มุ่งหน้าไปยังมูคลับเฮาส์ “ฉันจะไปหา นาย

“พี่จะมา!?” เสียงของชนัยสูงขึ้นสองชั้น ฟังดูตกใจมาก

“ตอนนี้หรอ?”

“ยิ้ม”

“ไม่มีปัญหา เสียงของชนัยแฝงไปด้วยความดีใจแบบฉุด ไม่อยู่ เดี๋ยวผมจะให้ผู้จัดการเอาเหล้าที่ดีที่สุดมาให้ พี่รีบมาก พอ ผมเหมาห้องรอไว้แล้ว เตชิต

เตชิตขานรับและวางสายไป คันเร่งที่เท้าถูกเหยียบแล้ว

เหยียบอีก ความกลัดกลุ้มใจในตอนนี้อดไม่ไหวที่จะให้ แอลกอฮอล์เป็นตัวช่วยบรรเทา

หลังจากนั้น 40นาที รถก็จอดอยู่หน้าประตูมคลับเฮาส์ เด็กจอดรถจำทะเบียนรถของเขาได้จึงรีบเข้ามารับกุญแจรถ อย่างนอบน้อม และขับรถเข้าไปจอด

ผู้จัดการร้านออกมาต้อนรับเขาด้วยตัวเอง ขณะที่เตชิตเดินเข้าห้องรับรองที่ขมัยจัดแจงไว้ ชนัยกำลังนั่งลงบนโซฟา ท่าที่เหมือนเจ้าพ่อ นั่งไขว่ห้างคาบบุหรี่ไว้

เห็นเขาเดินเข้ามา รีบลุกขึ้นทักทาย “พี่เตชิต

สีหน้าของเตชิตไม่สู้ดีนัก รีบเดินตรงไปนั่งข้างเขา หยิบ เหล้านอกบนโต๊ะราคาหลักแสนรินใส่แก้ว ไม่ทักทายสนใจ อะไรทั้งนั้น รีบจัดการกรอกเข้าปากทันที

ของเหลวที่มีฤทธิ์แสบร้อนไหลลื่นลงคอ ตามด้วย หลอดอาหาร และ ลงไปที่กระเพาะ ทำให้ทั้งตัวของเขารู้สึก ร้อนวาบขึ้นมา จิตใจที่ด้านซาในที่สุดก็กลับมารู้สึกอีกครั้ง เต ชิตกำลังจะต่อแก้วที่สอง แต่กลับถูกชนัยห้ามไว้

“เป็นอะไรไป?” สังเกตเห็นความผิดปกติของเตชิต ชนัย ไม่คิดที่จะหยอกล้อ สีหน้าจริงจังขึ้นมาทันใด

เตชิตหัวเราะเย้ย กัดฟันสองครั้ง กระตุกแก้มขึ้นมา “กลุ่ม

“กลุ้มใจ?”

ชนัยหยิบแก้วในมือเขามาไว้ที่ตัวเอง ในใจกำลังครุ่นคิด ว่าเรื่องอะไรที่ทำให้เตชิตกลุ้มใจจนออกมาดื่มได้ขนาดนี้ นอก จากนัชชาที่ไม่มีเหตุผลอะไรมาควบคุมได้แล้ว คงไม่มีคนอื่น

“เพราะพี่สะใภ้?” เขาคุ้นชนที่จะเรียกนัซซาว่าพี่สะใภ้ เมื่อ พูดออกมาทำให้รู้สึกไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่ หันไปมองดูเตชิตไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบรับเท่าไหร่เขาจึงโล่งใจขึ้นมา

“วันนี้เธอ…ไปหาที่นามา” พูดถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น

มาไม่นาน นัยน์ตาของชายผู้นี้ดำเข้มเหมือนหมึกสีดำที่ยังไม่ ละลาย สายตาคมกริบของชนัยเบิกโพลงขึ้นมาทันใด “พี่สะใภ้

แล้วงั้นหรอ?”

“ใช่” สองมือของเตชิตจับเข่าไว้ ใบหน้าครึ่งหนึ่งซุกอยู่ ในฝ่ามือ “รู้ถึงการมีอยู่ของที่นาร์ แต่ยังไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ ระหว่างเรา”

ตอนนี้ชนัยจึงเข้าใจว่าทำไมดึกดื่นแบบนี้เตชิตจึงออกมา ดื่มกับเขาได้ ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับตัวเขาเอง เขาคงตกอยู่ในที่ นั่งลำบาก อึดอัดจนทำอะไรไม่ถูก และ ไม่รู้จะรับมือกับมันยัง ไงแน่ๆ

“พี่ได้อธิบายกับเธอรึยัง?”

เตชิต อึ้งถอนหายใจ สามคำที่พูดออกมาแฝงไปด้วย ความรู้สึกหมดหนทางและทรมานใจ “เธอไม่เชื่อ

และตอนนี้เขาก็ไม่รู้จะหาวิธีไหนไปขอร้องให้เธอกลับมา

เชื่อใจ

ชนัยไม่รู้จะปลอบเขายังไง มองดูแก้วเหล้าบนมือ เขา กัดฟันพูด “พี่เตชิต พี่มีอะไรไม่สบายใจ รีบระบายออกมาให้ หมด คืนนี้ข้าน้อยสละชีพเพื่อท่านเอง”
เตชิตหัวเราะ แต่ในเสียงหัวเราะนั้นคงรู้สึกเจ็บปวดไม่ น้อย “ดี”

ทั้งสองชนแก้วไปมาอย่างไม่หยุดยั้ง เหล้าที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ หมดลงไปครึ่งหนึ่งอย่างรวดเร็ว แม้ว่าชนัยจะเป็นคนที่คอแข็ง ดื่มเก่ง แต่ดื่มกันทั้งเยอะทั้งเร็วขนาดนี้ถือเป็นครั้งแรกเลย สุดท้ายเขาดื่มจนไม่มีสติ ทั้งๆที่มีห้องน้ำอยู่ในห้องแต่เขาก็ยัง จะพยายามออกมาข้างนอก เดินไปไม่กี่ก้าวก็เกือบล้มลงไป

ผู้จัดการที่เดินตามหลังเขามาติดๆตกใจวาบ รีบเดิน เข้าไปประคอง “คุณชนัย คุณชนัย!

ชนัยรู้สึกเหมือนมีคนตะโกนเรียกตัวเอง ตอนนี้เขาแทบจะ ทรงตัวไม่ได้ พูดติดๆขัดๆ “มี มีอะไรเหรอ?”

“คุณดื่มเยอะไปแล้ว ผมจะประคองคุณขึ้นไปพักด้านบน กลิ่นเหล้าอันคละคลุ้งบนตัวเขาทำผู้จัดการแสบจมูกไปหมด ถ้าไม่ เห็นว่าเป็นผู้บริหารระดับสูง เขาคิดว่าเป็นพวกขี้เหล้า ข้างถนนไปแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ