ยั่วรักทนายคนโหด

ตอน119ความบังเอิญเจอกันบนเกาะ อย่างน่าประหลาดใจ



ตอน119ความบังเอิญเจอกันบนเกาะ อย่างน่าประหลาดใจ

ตอนที่ 119 ความบังเอิญเจอกันบนเกาะอย่างน่าประหลาดใจ

เตชิตหาเธอเกือบทุกซอกทุกมุมในเมือง 3 ทว่านัชชาก็ยัง ไม่รู้เรื่องรู้ราวกับใครเขาเลย หลังจากที่เธอลงเครื่องจากสาย การบินที่เธอนั่งมา เธอก็ลากกระเป๋าขึ้นรถเปิดประทุนของจินต์ เพื่อเดินทางไปยังโรงแรมริมทะเลสุดหรูที่สุดของเมือง H

ตัวเธอเองไม่ได้มีเงินมากนัก แต่ว่าทำงานกับเดนัทมา นานพอ ยังพอมีเงินเก็บอยู่บ้าง เอาออกมาใช้บ้างนิดๆ หน่อยๆ คงไม่มีปัญหาอะไร เธอเสียใจมากกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาก เลยต้องเอาเงินมาใช้เพื่อเติมเต็มให้กับตัวเอง

ล็อบบี้ของโรงแรมสวยสง่าและมีสไตล์มาก ทั้งคู่ต้องการ ห้องชุดสวีทหนึ่งห้องที่ติดกันที่สามารถมองเห็นวิวทะเลได้

“จินต์ เธอใช้บัตรประจำตัวประชาชนของเธอเปิดห้อง เถอะนะ” นัชชาไม่กล้าที่จะเอ่ยปากพูดในช่วงเวลาเช็คอิน โรงแรม

จินต์ไม่ได้คิดอะไรกลับโบกมือไปมา “ไม่เป็นไรเราก็พัก อยู่กันแค่สองคนจะใช้ของใครก็เหมือนกันทั้งนั้นแหละ

ในใจนัชชารู้สึกละอายใจนิดๆ คือไม่ได้บอกความจริงที่ว่าเธอไม่อยากให้เดซิตหาตัวเธอเจอ เอาเข้าจริงเธอก็ยังไม่รู้ ว่าผู้ชายคนนั้นจะรีบร้อนตามหาตัวเธอหรือป่าว ตัวเธอเองแค่ อยากพักสงบสติอารมณ์บ้างและอยากจะกำจัดอารมณ์ที่เป็น อยู่แบบนี้ออกไป

กว่าจะเช็คอินเสร็จเวลาก็บ่ายแล้ว เมืองนั้นถือว่าอยู่ใน พื้นที่เขตร้อนชื้น อากาศดีมาก อากาศเหมือนมีแต่ฤดูใบไม้ผลิ ทั้งสี่ฤดู ทั้งคู่เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นกระโปรงยาวเพื่อไปนั่งทานร้าน อาหารริมทะเลที่กำลังดังมากในตอนนี้

ยังไม่ทันได้ถึงประตูร้านอาหารที่มีเสียงเพลงที่มีนักร้อง กําลังร้องเพลงแว่วดังออกมาจากร้านแต่ไกล

ยามค่ำ ลมทะเลพัดมาเป็นระลอก มันคลอเคลีย ใบหน้า และร่างกาย แต่ทว่าก็ไม่สามารถพัดความโศกเศร้าที่อยู่ในใจ ของนัชชาออกไปได้

จินต์เลือกที่นั่งที่เห็นท้องฟ้าด้านนอกร้าน โต๊ะข้างๆ โดย ส่วนมากเป็นคนต่างชาติ บรรยากาศครื้นเครงเสียงหัวเราะพูด คุยกันอย่างสนุกสนาน

อาหารส่วนใหญ่คืออาหารทะเล จินต์สั่งกุ้งมังกรตัวใหญ่

และอาหารพวกสลัดต่างๆ นัชชารู้สึกว่าจินต์นั่งเก้าอี้ไม่ติด ไปทางกองไฟว่า “พนักงานบอกว่าเดี๋ยวมีระบำรอบกองไฟ ไป เต้นกันไหม?”

นัชชาหลบตา “ฉันไม่ได้อยากเต้น มาดื่มกันดีกว่า
จินต์ ตกตะลึง “กินเหล้าหรอ?” “เธอแน่ใจนะ?”

ครั้งที่แล้วที่เธอสองคนไปดื่มที่ร้านคาราโอเกะ ดื่มจนแม่ ยังไม่คิดว่านี่คือลูกของตัวเอง พอคิดถึงเรื่องนี้ก็อดนึกถึงอีกคน ไม่ได้ ธนัท

เป็นครั้งแรกเลยที่ถูกผู้ชายคนหนึ่งเกลียดชัง

“โอเค เราต่างมีปัญหาหัวใจไม่มีความสุขทั้งคู่ กินเหล้า เยอะหน่อยก็คงไม่เป็นไร” จินต์ยิ้มจนตาหยีเรียกพนักงานให้ เอา ค็อกเทลมาเพิ่มอีกหลายแก้วและยังมีแชมเปญตามมาอีก หนึ่งขวด “พระเจ้าที่อยู่ไกลแสนไกลบนฟ้าพวกท่านจะมายุ่งก็ ยุ่งไม่ได้

เป็นหนึ่งมื้อที่รสชาติอาหารถูกปาก ไม่ไกลจากพวกเธอ นักสามารถมองเห็นเกลียวคลื่นทะเลยามค่ำคืน รอบตัวมีเสียง ครื้นเครงสนุกสนานตลอดเวลา หลังจากดื่มเหล้าเข้าไปมากขึ้น เรื่อยๆ เรื่อง ในใจก็เบาลงบ้าง

“เคร่ง” เสียงแก้วชนแก้วดังกังวานขึ้น นัชชาเงยหัวยก แก้วดื่มหมดแก้ว น้ำสีทองอ่อนๆหายเข้าไปในปากก็แล้วหาย ไปเลย สมองของเธอมีอาการมึนหน่อยๆ ความคิดฟุ้งซ่าน ไปเรื่อยเปื่อย “นี่จินต์ ทำไมผู้ชายมีของดีอยู่กับตัวแล้วยัง อยากจะไปอยากได้ของคนอื่นอีก?

“เอก” จินต์เรอเสียงดังจนผู้ชายคนต่างชาติหล่อหน้าตา หันตัวกลับมามอง เธอชี้นิ้วขึ้นพลางพูดออกมาว่า “เพราะว่า พวกเขา–เลว”
** นัชชาที่กำลังเศร้าโศกเสียใจถึงกับสะดุดกับสิ่งที่ จินต์พูดออกมา “เอาจริงนะ ตอนนี้ฉันไม่คิดที่จะเชื่อผู้ชายคน ไหนอีกแล้ว”

ทำไมล่ะ? เพราะผู้ชายทุเรศอย่างเหนะหรอ?” จนถึง ส่ายหัว แล้วก็เปล่งเสียงออกมา “มันไม่คุ้ม

นัชชาไม่ได้ตอบออกมา เธอรู้ว่ามันไม่คุ้ม ไม่คุ้มมาก แต่ มันเหมือนกลับมาโดนทำให้เสียใจอีกครั้ง ถูกหลอกลวง หัวใจ ของเธอก็มีเลือดเนื้อ มันเหมือนหัวใจมีบาดแผลไปทั่ว

เอาจริงเธอก็ไม่อยากสัมผัสความรู้สึกแบบเดิมนี้อีกครั้ง เธอรับไม่ไหวแล้ว มันรับไม่ไหวจริงๆ

หลังจากดื่มเหล้าไปหลายแก้ว ใบหน้าของทั้งคู่แดงกล่ำ ไม่ใช่ไม่สวย แต่ทว่ามันยิ่งขับผิวขาวให้ขาวขึ้นกว่าเดิม

นัชชาใส่กระโปรงเรียบยาวสีน้ำเงินเข้มสีสดชายกระโปรง ยาวจนถึงข้อเท้า ยามเมื่อลมทะเลพัดชายกระโปรงปลิวไสวพัด ไปตามสายลมที่พัดมา สวยดั่งอย่างกับนางฟ้าบนสรวงสวรรค์

จินต์พยายามที่จะลากเธอไปเต้นให้ได้ นัชชาดื่มน้ำหนัก ไปหน่อยปฏิเสธก็ไม่ได้เลยเดินไปเต้นด้วย

คนจับมือกันล้อมรอบกองไฟจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว เต็มแน่นขนัดทั้งรอบ จินต์กำลังหาที่ยืนนัชชาก็เดินตามไป แต่ ว่าคนเยอะมากทำให้ทั้งคู่เดินหลุดมือกันเว้นระยะห่างกันอยู่ หลายช่วงตัว
“จินต์ จินต์…” นัชชาตะโกนเรียก แต่ทว่าเสียงรอบตัวเธอ อีกทีกครึกโครมมาก จินต์ก็เต้นอย่างเมามัน ไม่ได้ยินเสียงที่ นัชชาตะโกนเรียกเลยสักนิด

ในช่วงที่เธอกำลังจะเดินไปหาจินต์ มือซ้ายของเธอถูกมือ อื่นๆอีกมือจับไว้ เธอตกใจจนตัวแข็ง ได้แต่คิดว่าคงมีคนจับ มือผิดแน่ๆ เลยคิดจะดึงมือออกมา มันน่าเบื่อตรงที่ยิ่งดึงออก มือที่จับเธอไว้ยิ่งแน่นขึ้น

นัชชาเงยหน้าลืมตาขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ รีบหันหลัง กลับไปเพื่อจะไปด่าเขาแต่ทว่ากลับชนเข้ากับตาดำสนิทคู่นั้น

“คุณนี่น่า! ”

หลังจากที่ได้เห็นใบหน้าชัดเจน นัชชาดิ้นรนหนักขึ้น เธอ เกือบจะสร่างเมาในทันที “คุณสะกดรอยตามฉันมาหรอ?!

ถ้าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในเมือง แล้วคราวนี้เธอไม่เชื่ออย่างแน่นอนว่าจะเป็นเรื่องบังเอิญ

ชนุดมมองไปที่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่อยู่ข้างหน้าเขา เห็นได้ ชัดว่าเธอดื่มเหล้ามา ใบหน้าของเธอแดง เธอพูดด้วยน้ำ เสียงขึ้นจมูกเล็กน้อย เสื้อคอวี กระโปรงยาว สีน้ำเงินและผิว ขาว ผมที่ดำขลับสลวยของเธอพลิ้วไปตามสายลม มันไม่ได้ สะดุดตาอะไรนัก

แต่ท่ามกลางฝูงชน เขาเห็นเธอในทันที

เมื่อได้ยินคำถามน้ำเสียงเกรี้ยวกราดของเธอ ชายผู้นี้ก็ยิ้มเยาะ “มันเป็นความบังเอิญจริงๆ

เขาไม่ได้คาดหวังว่าจะพบเธอที่นี่ เพียงเห็นเธอยืนอยู่ ก็ เลยเดินเข้ามาจับมือของเธอ ส่วนเหตุผลที่จับมือเธอเขาก็ไม่ ชัดเจนเหมือนกัน รู้แค่ว่าอยากจะอยู่ใกล้ๆเธอ

“อย่าพูดไร้สาระเลย!” นัชชาไม่เชื่อเลยสักนิด “เมือง H ใหญ่มากขนาดนี้ มันจะเป็นไปได้อย่างไรที่เราจะพบกันในที่ เดียวกัน ในเวลาเดียวกันสองครั้งติดต่อกัน

ชนุดมยักไหล่ ” มันไม่น่าเชื่อจริงๆนั่นหล่ะ แต่นี่คือความ จริง แล้วอีกอย่างทำไมผมต้องสะกดรอยตามคุณด้วย?

“นี่คุณ!” นัชชาถูกเขาพูดแบบนั้น ก็ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ คิด แค่อยากจะสลัดเขาออกไป สีหน้าของเธอเคร่งขรึมขึ้น ไม่ว่า คุณจะคิดยังไง ตั้งแต่นี้อย่าตามฉันมาอีกนะ แล้วก็ไม่ต้องมา ทักฉันด้วย ”

ชนุดมหัวเราะ “คุณนัชชาคุณเคยช่วยชีวิตของผม ผมจะ แกล้งไม่รู้จักได้อย่างไร”

นัชชาอารมณ์เสีย บวกกับเพิ่งดื่มเหล้าเข้าไปมาก อดไม่ ได้ที่จะตะโกนใส่เขา “ถ้าฉันรู้ว่าช่วยคุณแล้วคุณจะมายุ่งย่าม กับฉัน ฉันก็คงไม่ช่วยคุณหรอก!

รอยยิ้มในแววตาของชายผู้นั้นจางหายไปในทันที ดวงตา เรียวเล็กของเขากลับเป็นเยือกเย็นเหมือนเดิม ทำให้คนที่มอง เห็นเย็นชาไปหมด หม
เขาหัวเราะเบา ๆ พร้อมปล่อยฝ่ามือจากมือของเธอทันที “เสียดายนะ ที่ในโลกนี้ไม่มีคำว่าถ้า…..

นัชชา งมือกลับอย่างทันควัน มองเขาอย่างระแวดระวัง และเดินจากไปอย่างรวดเร็ว

ขณะที่จินต์กำลังเต้นอย่างเมามัน เธอก็ถูกนัชชาเดินลาก

ออกมา เดินไปเธอก็บ่นไป “เฮ้ๆๆๆ ฉันยังเต้นกับผู้ชายหล่อ ไม่เสร็จนะ!”

“ไม่ต้องเต้นแล้ว มัวแต่เต้นอยู่ที่เดี๋ยวก็กลับไม่ถึงโรงแรม

นพอดี …”

พูดยังไม่ทันจบ ด้านหน้าก็ปรากฏชายใส่สูทสีดำสามคน ร่างกายล่ำสัน ท่าที่น่ายำเกรง ดูแล้วไม่น่ามาตีเท่าไหร่ โดย เฉพาะสิ่งสีดำที่เหมือนหูฟังที่ติดอยู่ที่หูของพวกเขา ดูแล้วก็ไม่ น่าจะมาดีจริงๆ

ฝีเท้าของนัชชาเริ่มลุกลน เริ่มสับสนเล็กน้อย อยากจะเดิน อ้อมคนพวกนั้นไป แต่กลับโดนกักตัวไว้ “ขอประทานโทษนะ ครับคุณนัชชา คุณชนุดมเชิญคุณให้ไปพบเขา”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ