ยั่วรักทนายคนโหด

ตอน 171เปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเธอ



ตอน 171เปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเธอ

ตอนที่ 171 เปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเธอ

เตชิตเองก็อึ้ง แต่ไม่นานก็ทำหน้าให้เป็นปกติ เขาค่อยๆ ปลดเข็มขัดกางเกงออก “เป็นอะไร รับร้อนอะไรขนาดนี้

นัชชาหน้าแดงหันหน้าไปมองทางอื่น เธอกระแอม “คือ คุณไปหาแม่บ้านมาจากไหน

“ไม่นานมานี้ เขาตอบกลับนิ่งๆ เสียงถอดเข็มขัด ปลด กระดุม

นัชชาหูแดง เธอไม่กล้ามองไปเรื่อย ก้มมองพรหมบนพื้น

“ฉันจำได้ว่าคุณไม่ชอบให้คนแปลกหน้ามาอยู่ในบ้านไม่ใช่

หรอ แล้วไปจ้างแม่บ้านมาทำไม

“ใช่ ฉันไม่ชอบ แต่ถ้าไม่มีกลัวว่าเธอดูแลคนเดียวจะ เหนื่อยเกินไป” เธอทำกับข้าวไปส่งให้เขาที่โรงพยาบาล หลายครั้ง ถึงจะไม่ได้พูดอะไร แต่เขาก็สังเกตเห็นรอยมีดบาน ตามนิ้วขอเธอ เขาก็คิดพิจารณาถึงเรื่องนี้ เลยตัดสินใจจ้างแม่ บ้านมาช่วยดูแล

นัชชาดีใจที่มีคนคอยช่วย แต่พอนึกถึงเรื่องที่เขาเจอตอน เด็ก เธอรู้ว่าเขาจะไม่ชอบให้มีแม่บ้านหรือคนแปลกหน้ามาอยู่ ในบ้าน ไม่อยากให้เขารู้สึกไม่ดี “ฉันโอเค แค่ช่วงที่คุณอยู่โรงพยาบาล อาจจะต้องคอยไปๆมาๆ แต่ถ้าวันปกติฉันไหวสบาย มาก

“แต่ฉันเป็นห่วง” เตชิตเดินมาอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว กางเกงที่ถูกปลดกระดุมทิ้งแล้ว เปิดอ้าแล้วไหลอยู่ที่เอวทำให้ เห็นขอบกางเกงใน

นัชชาก้าวถอยหนีหนึ่งก้าว เขาก็ขยับขึ้นตามหนึ่งก้าว ไล่ ไปมาจนทำให้นัชชาหลังติดกำแพงถอยหนีไปไหนไม่ได้

นัชชากลืนน้ำลายลงคอ เธอยกมือดันอกใหญ่ของเขาไหว “มีอะไรก็พูดกันดีๆ คุณอย่ามาทำรุ่มร่าม เอะอะๆก็คิดจะทำแต่ เรื่องอย่างว่า”

เขายกมือข้างหนึ่งมันไว้ที่กำแพง ฉันทำรุ่มร่ามยังไง นัชชาขี้เกียจเถียงเขา “คุณรู้ดีอยู่แก่ใจ ยังจะกล้าถามอีก

“อืม” เขาแกล้งลากเสียงยาว “ความจริง เมื่อก่อนที่นี่มี ความทรงจำที่ดีมากมาย

เขาตั้งใจเน้นเสียง พูดเตือนให้นัชชาย้อนคิด

ในหัวมีภาพต่างๆวิ่งผ่าน หน้าเธอเริ่มแดง เขม่งตาต้อง เขา “ฉันพูดเรื่องที่จริงจังอยู่

“ฉันจ้างมาแล้ว คงจะไม่ยกเลิกง่ายๆ มีคนคอยช่วยเธอ มันก็ดีแล้ว เหตุผลง่ายๆแค่นี้แหละ
“ไม่มีแต่” เขาไม่ให้เธอพูดขัดเขา “ฉันไม่ชอบก็จริง แต่ ฉันยอมได้ถ้าเพื่อเธอ

นัชชาได้ยินดังนี้เธอเถียงต่อไม่ออก พูดว่าไงดี รู้สึก แปลกๆ เธอเป็นห่วงและคิดทุกอย่างเพื่อดีกับตัวเขา เขาก็ เหมือนกัน ทั้งสองกลับคิดและยืนอยู่จุดตรงข้ามของกันและกัน เพื่อทำให้เขาหรือเธอมีความสุขมากกว่าตัวเอง

นัชชาพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง “ก็ฉันกลัวว่าคุณจะรู้สึกไม่

“ฉันรู้” เตชิตก้มไปจูบแตะที่ริมฝีปากเธอเบาๆ พูดกระซิบ ข้างหูเธอด้วยน้ำเสียงแหบพร่าที่มีเสน่ห์ “นอกจากเรื่องอย่าง ว่าที่จะทำกับเธอ อย่างอื่นก็คงไม่น่าจะมีปัญหาใหญ่อะไร

!!!!!” นัชชาตกใจ ตาโต “คุณ คุณคุณพูดอะไรของคุณ

เธอออกแรงผลักเขาออก เตชิตไม่ได้คัดค้าน ยอมถอย หลังตามแรงที่เธอผลัก มองดูหน้าที่แดงไปถึงต้นคอ หน้า เหมือนกวางน้อยแลดูน่ารัก

กลิ่นกายหอมอ่อนของเธอเหมือนยังอยู่ปลายจมูก เตชิต มองดูน้องชายที่เริ่มจะฟื้นของตัวเอง

นัชชาวิ่งหนีลงไปชั้นหนึ่ง น้าในยกอาหารออกมาตั้งที่โต๊ะ พอดี เธอตั้งใจหุงข้าวกล้อง แลดูมีประโยชน์ต่อร่างกาย

นัชชาเดินเข้าไปช่วยเอาตะเกียบซ้อน น้าในเห็นจึงรีบมาห้ามเธอ “ไม่ได้ค่ะๆ เดี๋ยวน้าทำเอง คุณนัชไม่ต้องทำค่ะ

“ไม่เป็นไรค่ะ เห็นน้ากำลังยุ่งอยู่แค่นี้สบายมาก

“ไม่ได้ค่ะ นี่เป็นหน้าที่ของน้า จะให้คุณทำได้ยังไง” น้าใน แย่งมันมาจากมือเธอ แล้วนำมาเรียงไว้บนโต๊ะให้เรียบร้อย “เดี๋ยวคุณเตก็เป็นห่วงแล้วไม่สบายใจอีก

นัชชาเป็นที่ถูกมอง เธอยกมือปัดผม “ไม่เป็นไรค่ะ เมื่อ ก่อนฉันก็เป็นคนทำเรื่องพวกนี้ น้านไม่ต้องเกรงใจ ฉันไม่มี กฎบังคับอะไรมากสบายๆ ได้เจอน้ามันก็คงเป็นโชคชะตาที่ ทำให้เราได้เจอกัน

เตชิตได้ยินคำพูดของเธอพอดี เขาไม่แปลกใจเพราะเธอ เป็นคนจิตใจดี ไม่มีทางทำให้คนอื่นรู้สึกแย่

เพราเธอเป็นคนจิตใจดี เขาก็เลยถูกเสน่ห์ของเธอข้อนี้

ดึงดูด

เตชิตเปลี่ยนเป็นชุดธรรมดาอยู่บ้าน บ้านดึงเก้าอี้ออกให้ เขา “คุณเตเชิญนั่งค่ะ รีบกินตอนที่มันยังร้อนๆ

เมื่อเทียบกับนัชชา เตชิตเป็นคนเคร่งเครียดเข้าถึงยาก

ทั้งสองนั่งลง เตชิตไม่ชอบพูดคุยเวลากินข้าว นัชชาก็ก้ม กินอย่างเอร็ดอร่อย ไม่มีเสียงพูดคุยมีเพียงเสียงช้อนส้อม กระทบกับถ้วยจาน

อาจจะเป็นเพราะห้องอาหารเงียบผิดปกติ เตชิตรู้สึก แปลกๆ หันหน้าไปมองผู้หญิงที่นั่งกินอยู่ข้าง ถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน อาหารถูกปากมั้ย

“ไม่ใช่แค่ถูกปาก แต่อร่อยมาก ฝีมือการทำอาหารดีกว่า อร่อยกว่าแม่ฉันทํามาก” ถึงณัชชนม์ทำอาหารอร่อย แต่เมื่อ เทียบกับนารินก็เห็นความต่างได้ค่อนข้างชัด

เตชิตยกยิ้ม “เธอชอบก็ดีแล้ว

นัชชาเห็นในถ้วยไม่มีน้ำซุปแล้ว ยื่นมือไปหยิบมาแล้ว เติมมันให้เขา “ดื่มนี่หน่อย มันช่วยบำรุงร่างกายได้ดี

พูดเสร็จ เธอก็ฉีกน่องไก่ไปวางไว้ที่ถ้วยของเขา “แบ่งให้ คุณหนึ่งข้าง

เตชิตเห็นกับข้าวที่เต็มถ้วย พอนึกถึงครั้งสุดท้ายที่มีคน แบ่งน่องให้คือตอนอายุหกเจ็ดขวบ ตอนนั้นเขาเป็นเด็กใน บ้านคนเดียว ตอนนั้นพ่อแม่ของเขายังไม่หย่ากัน ทุกคนใน บ้านจะคอยฉีกแบ่งน่องให้เขากินคนเดียว เสียดายที่หลังจาก นั้นทุกอย่าก็จางหายไปเหลือเพียแค่ความทรงจำ

นัชชาเห็นเขาเอาแต่จ้องที่น่อง กำลังจะอ้าปากพูด เห็น แววตาของเขาเริ่มจะเศร้าๆ รู้สึกใจไม่ดี เลยพูดเล่นๆ เพื่อไม่ให้ เขาเศร้า “ซึ่งใช่มั้ย ปกติฉันไม่แบ่งใครนะ แต่เห็นว่าคุณเป็น คนป่วยเลยแบ่งให้

เตชิตเพิ่งดึงสติกลับมา คีบน้องขึ้นมาป้อนเข้าปาก เนื้อ นุ่ม รสชาติกลกล่อม “ไม่เลวใช้ได้

มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่เขาจะเอ่ยปากชมใคร นัชชาหันไปพูดกับนาริน “นาริน คุณคือคนแรกที่เขาเอ่ยปากชม

“จริงหรอคะ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากเลยค่ะ น้าในด้ยิน คำว่าอร่อยก็รู้สึกสบายใจ

มื้อนี้เป็นมื้อที่อุ่นใจมาก นัชชาไม่หยุดกิน อาหารอย่าง เธอกินคนเดียวเกินครึ่ง ดื่มน้ำซุปไปหนึ่งถ้วย เธอรู้สึกนั่งอยู่ บนโซฟาขยับไปไหนไม่ไหว

เตชิตยื่นน้ำอุ่น ให้เธอ เธอโบกมือปฏิเสธ “ไม่ไหวแล้วๆ ด่นไม่ลงแล้วคุณ

“ดื่มหน่อย เดี๋ยวมีงานต้องทำ” เขาบังคับจะให้เธอดื่มให้

นัชชาเห็นว่ายังไงก็คงไม่ชนะเขา เธอเลยรับมาแล้วจิบเล็ก

ได้

หน่อย “มีเรื่องอะไรต้องทำหรอคุณ

ตอนนี้ก็เกือบจะสองทุ่มแล้ว จะออกไปข้างนอกหรือ

เตชิตมองดูหน้าที่มีอาการสงสัยของเธอ ตาเขามันวาว เป็นประกาย จ้องมองมาที่นัชชา อารมณ์ค่อยๆเร้าร้อนขึ้น

แก้วน้ำในมือของนัชชารู้สึกร้อนขึ้นกว่าเดิม เธอ…เหมือน จะเริ่มเข้าใจว่าเขาหมายความว่ายังไง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ