ยั่วรักทนายคนโหด

ตอน466หลอดเลือดสมองฉีกฉับพลัน



ตอน466หลอดเลือดสมองฉีกฉับพลัน

ตอนที่466 หลอดเลือดสมองลึกฉับพลัน

ธีมนต์ปิดเรียน นัชชายุ่งๆกับร้าน ถึงเธอจะพยายามหา เวลามาอยู่กับลูก แต่ส่วนใหญ่เธอก็ไม่สามารถทำได้ทั่วถึง

โชคดีที่ชนุดมจะกลับไปเคลียร์งานที่อังกฤษ อีกสามสี่วัน กลับมาแล้ว ธีมนต์ก็ไม่ได้กลับอังกฤษนานแล้วเขาอยากกลับ ไปด้วย นัชชาลังเลอยู่นานแต่สุดท้ายก็อนุญาตให้เขาไป

ก่อนไป เธอพูดแล้วอีก คนเป็นแม่ใจไม่มีทางวางใจ เมื่อก่อนนัชชาเบื่อที่พ่อคอยพูดซ้ำๆ ตอนนี้เธอเข้าใจความรู้สึก นั้นแล้ว

หลังจากส่งพวกเขาเสร็จ เธอคิดว่าเธอจะมีเวลาพักหายใจ ไม่คาดคิดเช้าวันต่อมา ณัชชนม์โทรมาบอกว่าพ่อของเธอเข้า

โรงพยาบาล

นัชชาตกใจ หน้าซีด “แม่ ใจเย็นๆ เดี๋ยวหนูจะรีบไปหา ติณณาได้ยิน เลยถามขึ้น “พี่นัช มีเรื่องอะไรรึเปล่า”

“ที่บ้านมีปัญหานิดหน่อย พี่ต้องไปโรงพยาบาลแปปนึง พี่ ฝากร้านหน่อย มีอะไรโทรหาพี่” เธอพูดสั่งไว้ แล้วรีบเดินออก จากร้านไป

เธอมาถึงโรงพยาบาล รีบวิ่งเข้าลิฟท์ขึ้นมาถึงห้องฉุกเฉินณัชชนม์นั่งก้มหน้าอยู่เก้าอี้หน้าห้องฉุกเฉิน

นัชชาเดินเข้าไปถึงเธอเข้ามากอด “แม่ พ่อเป็นยังไงบ้าง

“อาการไม่ค่อยดี ตอนมาก็สลบไม่มีสติ…….. ณัชชนม์เป็น ห่วงมาก เธอพูดไปด้วยน้ำตาไหลไปด้วย พอนึกเหตุการณ์เมื่อ ครู่ ยังตกใจไม่หาย

ตอนแรกทั้งสองกะจะไปเดินเล่นหลังกินข้าวเสร็จ หลังจาก เกษียนทั้งสองก็ไม่มีอะไรทำ ใครจะขาดคิดหลังจากเพิ่งเปลี่ยน รองเท้าเสร็จ เมทนีกเซ แล้วล้มตัวลงไปนั่งกับพื้นแล้วลุกขึ้นมา ไม่ได้อีกเลย

นัชชามองดูประตูห้องฉุกเฉิน เธอร้อนใจ เธอรู้มาตลอดว่า ร่างกายของเขาไม่ค่อยแข็งแรง แต่หลายปีที่ผ่านมานี้เขาก็ไป ตรวจร่างการอยู่สม่ำเสมอ แล้วทำไมจู่ๆถึงเป็นลมไปได้ล่ะ

และคำถามพวกนี้ คงต้องรอให้หมอออกมาตอบ

เวลาค่อยๆผ่านไป เป็นการรอที่ทรมานมาก เธอกับณัช ชนม์ไม่มีใครพูดอะไรเลย อาจเป็นเพราะห่วงมากเกินไปจนพูด อะไรไม่ออก

ไม่รู้ผ่านไปนานเท่าไหร่ ไฟหน้าห้องดับลง หมอเปิดประตู

ออก

หมอเดินออกมาก่อน ตามด้วยพยาบาลที่เป็นเมทนีที่นอน หมดสติอยุ่บนเตียง

นัชชาลูกออกมาจากเก้าอี้ เดินเข้าไปหาหมอ ถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง “หมอค่ะ พอดิฉันเป็นยังไงบ้างคะ

หมอดึงหน้ากากออก มองดูเธอและณัชชนม์ “เป็นญาติ ของคนไข้หรอ”

“ค่ะ หนูเป็นลูกสาว”

อาการของคนไข้ค่อนข้างซับซ้อน แต่เป็นเพราะสมองตีบ เฉียบพลัน หลังจากนี้ต้องตรวจเช็คอีกหลายๆรอบ ไปกรอก ประวัติผู้ป่วย ยินยอมย้ายในการย้ายผู้ป่วยก่อน” หมอเห็นณัช ชนร้องไห้ตาแดง หันไปพูดกับนัชชา “คุณช่วยมากับหมอ หน่อย”

“ค่ะ” นัชชายนกระเป๋าให้เธอ “แม่ เดินตรงไปฮ่องสอง ใน กระเป๋าหนูมีเงินสด แม่ใช้ได้เลย เดี๋ยวหนูไปกับหมอแปปนึง

“ได้ๆ ลูกไปเถอะ”

“แม่ไม่ต้องเป็นห่วง

นัชชาเดินตามหมอเข้าไปในห้องทำงาน หมอเปิดหน้าจอ

คอมขึ้น บนจอแสดงผลสแกนสมอง “นี่เป็นผลที่สแกนเมื่อกี้ ดู

จากรูปแล้ว หลอดเลือดในสมองของพ่อคุณตีบอยู่สองเส้น เส้น

แรกไม่มีปัญหาร้ายแรง อีกเส้นค่อนข้างร้ายแรงเพราะเป็น

เส้นเลือดใหญ่ เลยทำให้เป็นลมหมดสติ ดุจากภาพแล้วมัน

ค่อนข้างใหญ่ อาจไปกดทับเส้นอื่น ถึงแม้จะฟื้นแล้วแต่ก็อาจจะ

ขยับลําบากหรือไม่ก็อาจจะเป็นอัมพาตเลยก็ได้”

คำพูดของหมอเหมือนก้อนหินฟาดเข้ามาในหัวของเธอเธอขมวดคิ้ว แต่ก่อนหน้านั้นก็ปกติดหนิคะ ท่าไมอยู่ๆถึงเป็น แบบนี้ไปคะ”

ได้ยินดังนี้ หมอส่ายหน้า “ถ้าเป็นครั้งแรกมันไม่ร้ายแรง ขนาดนี้ ก่อนหน้านั้นต้องรู้สึกไม่ดีมาก่อน หรือไม่ก็ไม่ได้บอก คุณ หรือไม่ก็ไม่สนใจ ถ้าแรกกินยาก็หายได้ แต่ตอนนี้ต้อง ผ่าตัดอย่างเดียว

“หมอหมายความว่าก่อนหน้านั้นก็มีอาการแล้วหรอคะ”

“ใช่” หมอก้มเขียนอะไรบางอย่าง “เด็กสมัยนี้มัวแต่ ทำงาน ไม่มีเวลามาดูแล และพ่อแม่ก็ไม่อยากสร้างปัญหาให้ ถ้าเขาตื่นคุณลองไปถามเขาดูถ้าคุณไม่เชื่อ

นัชชานั่งเงียบ หลายปีที่ผ่านมานี้เธอมีเรื่องวุ่นวายเต็มไป หมด ณัชชนม์กับเมทนี้ไม่เคยโทษเธอ ไม่เคยสร้างปัญหาให้ เธอเลยคิดไปเองว่าพวกเขาคงไม่ต้องการให้เธอดูแล จน หลงลืมว่าพวกเขาแก่ตัวลง ไม่ได้เป็นเพราะไม่ต้องการเธอแต่ เพราะกลัวไม่อยากให้เธอรู้ไม่อยากรบกวนเธอ

หมอเห็นเธอเงียบไป “คุณก็ไม่ต้องเสียใจไป โรคนี้เป็น ธรรมดาที่วัยนี้ต้องเป็น รักษาไม่ยาก แต่ที่สำคัญคือต้องรอให้ พ่อคุณทำการตรวจร่างกายก่อน ถึงจะรู้ว่าควรทำยังไงต่อ

“แล้วจะตรวจได้เมื่อไหร่คะ”

“พรุ่งนี้ รอให้เขาฟื้นก่อน

นัชชานั่งคิด “หมอคะ ถ้าตรวจพรุ่งนี้ เราขอย้ายโรงพยาบาลได้มั้ยคะ”

“ย้ายหรอ” หมอถามแบบงง ที่นี่เป็นโรงพยาบาลรัฐที่ดี ที่สุดของย่านนี้แล้ว “คุณจะย้ายไปไหน”

“โรงพยาบาลของหมอปรัณ ฉันมีเพื่อนที่สนิทอยู่ที่นั่น

นัชชาบอกไปตามตรง เพราะเป็นพ่อ เธอไม่มีทางปล่อยผ่านไป ต้องเป็นที่ที่ดีที่สุด เธอเชื่อใจปรัณ

ได้ยินดังนั้นหมอก็เข้าใจขึ้นมา โรงพยาบาลนั้น ถึงจะรวย มีเงินก็เข้ารักษาไม่ได้ง่ายๆ ถึงจะเป็นโรงพยาบาลเอกชนแต่ เครื่องมือดีกว่าของรัฐเป็นอย่างมาก

เขาชะงักค้าง “งั้นก็ได้ ผมจะเบิกยาของคืนนี้ให้ไปก่อน ที่ เหลือพวกคุณจัดการต่อ

“ค่ะ ขอบคุณนะคะ”

หลังจากออกจากห้อง นัชชาเดินเข้าห้องผู้ป่วย เพราะไม่ ได้ทำเรื่องไว้ล่วงหน้า เลยได้ห้องรวม ค่อนข้างแคบ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ