ยั่วรักทนายคนโหด

ตอน556หัวใจมีเจ้าของแล้ว



ตอน556หัวใจมีเจ้าของแล้ว

ตอนที่ 556 หัวใจมีเจ้าของแล้ว

หนึ่งจูบจบลง ลมหายใจของทั้งคู่ค่อนข้างยุ่งเหยิง โดยเฉ พาะนัชชา เบิกตากว้างมองไปรอบๆห้อง มองทุกที่ไม่กล้ามอง เขา สบตากับสายตาลึกซึ้งนั่นอย่างไม่ระวัง หัวใจเต้นแรง ตุ้บตั้บ เหมือนกับเร่งเครื่องยนต์

เธอบ้าไปแล้วแน่ๆ ที่กล้ารุกจูบผู้ชายคนนั้น

เห็นท่าทางหดหูของเขา แม้แต่เธอก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงกล้า บ้าบินทำอะไรแบบนั้น เธอเพียงไม่อยากให้เขาทำแบบนั้นเพื่อ เธอ แต่ก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร อยากแสดงความรู้สึกแต่ไม่มีคำพูด สักค้า ท่าดเพียงใช้วิธีการนี้แสดงออกไปตรงๆ

อย่างเห็นได้ชัด วิธีการได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม และ ดีกว่าคําพูดตั้งเยอะ

เพราะเธอเห็นความสุขใจและความร่าเริงจากผู้ชายที่ เคร่งขรึมตรงหน้านี้อย่างเห็นได้ชัด เขาดีใจจริงๆ ทุกอย่างเขีย ไว้บนหน้าหมดแล้ว เพียงแต่สบตาไม่กี่วินาที นัชชาก็รีบละ สายตาออกมา

“นัชชา……. เขาแค่เรียกชื่อของเธอ แต่น้ำเสียงเอาอก เอาใจทำให้คนฟังหน้าแดง
นัชชาก้มศีรษะลงอย่างเขินๆ ลืมสิ่งที่เพิ่งทำกับเขา เหมือน กับยอมรับผู้ชายคนนี้อีกครั้ง ทำอะไร…..

“นี่เป็น ‘จูบแรก’ ของพวกเรา” เขาเอื้อมมือไปกุมมีเล็กที่ดู ไม่สบายใจ ทำให้เธออายจนอยากมดรูหนีกับคำพูดเขา “คุณ รุกจูบผมก่อนนะ”

แม้ว่าทั้งสองจะมีลูกด้วยกันแล้ว แต่สำหรับนัชชาที่สูญ เสียความทรงจำนั้น จูบเมื่อครู่นั้น ในสายตาก็คือ “จูบแรก จริงๆ

“ไม่ต้องพูดเลย!” นัชชาพยายามออกมาจากมือเขาเล็ก น้อย แต่กลับถูกอีกฝ่ายกุมแน่นกว่าเดิม

ดูเหมือนว่าจะยังไม่พอ เตชิตก็พูดอีกว่า “ผมดีใจมาก

” ไม่ต้องพูด เธอก็ดูออก คนมีตาเขาก็ดูออกกันทั้งนั้น โอเคไหม!

นัชชาไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมเขาต้องพูดแบบนี้ออกมา ทำให้เป็นอยู่นั่น…….

ขณะที่เธอเป็นอยู่ เกือบจะเสียงใจที่ตนทำแบบนั้นลงไป เขาก็โน้มตัวลงมาโอบกอดเธอไว้ การกระทำอ่อนโยนราวกับ กำลังโอบกอดตุ๊กตากระเบื้องอันมีเกียรติอยู่ “การยอมรับจาก คุณ สัมผัสจากคุณ แม้ว่าคุณแค่ทำให้ผมยิ้ม ทั้งหมดนี้ทำให้ ผมรู้สึกมีความสุขเหลือเกิน

นัชชาร่างกายผ่อนคลายขึ้น โอบกอดเธอไว้อย่างอบอุ่นและเร่าร้อนนี้อย่างสิ้นเชิง ลมหายใจระหว่างพวกเขาสัมผัสถึง กลิ่นอันคุ้นเคย

“ผมถึงขั้นกลัว ถ้ากลับไปแล้วคุณมีพ่อแม่ มีเพื่อน มีลูก และคนอื่นๆ ที่ทำให้คุณเบี่ยงเบนความสนใจ คุณจะเย็นชากับ ผมไหม คุณจะยังพึ่งพิงผมอยู่เหมือนตอนนี้ไหม” เตชิตวางคาง ไว้ที่ข้างลำคอเธอ ประโยคนี้ถ้าพูดต่อหน้า เขาคงจะเขิน จึงได้ กอดเธอไว้อยู่ เพียงแค่พูด โดยที่ไม่มองหน้าเธอ ก็จะพูดได้ อย่างง่ายขึ้น

เขาทั้งหวังว่าทั้งคู่จะกลับไปที่เมืองที่พวกเขามีความทรง จําร่วมกันมานับครั้งไม่ถ้วน ทั้งเต็มไปด้วยความกังวลที่ไม่ แน่นอน ในใจ

ได้ยินดังนั้น นัชชาก็อึ้งสักพัก คิดไม่ถึงว่าเขาจะกังวลอะไร แบบนี้ ได้รับรู้ถึงความอ่อนโยนของผู้ชายคนนี้ ก็รู้สึกทั้งตลก ทั้งสงสารอย่างอดไม่ได้ แม้ว่าเธอจะอายที่จะพูดความในใจ ออกไป ตอนนี้เลยกล้าพูดออกไป อยากให้เขาได้รู้

“แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าฉันหนีคุณไปไม่ได้แล้ว ถ้าไม่ได้เจอ คุณ ฉันคงกังวลใจอย่างมาก เธอไม่แน่ใจว่าความรู้สึก ปลอดภัยนี้เพราะว่าสิ่งที่ได้มากับอาการป่วยหรือว่าอย่างอื่น เธอรู้เพียงว่าในใจเธออยากบอกเขา สำหรับเตชิต ตอนนี้เธอ เริ่มยอมรับความเคยชินแล้ว

เขาอาจจะบอกเธอได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องห้องผู้ป่วย และเรื่องราวที่ครั้งหนึ่งเคยเกิดขึ้นทั้งหมด บางทีความสงบใจอาจจะมาจากบรรยากาศที่มีพลังแบบนี้ “จริงหรอ?” เขาเอ่ยถามเสียงเบา พูดออกไปอย่างไม่

แน่ใจ

“จริง” ระหว่างที่ลังเลนัชชาก็ยกมือขึ้นไปวางไว้บนหลัง กว้าง ลูบหลังแกร่งอย่างแผ่วเบา ตั้งใจจะแหย่เขา “คุณหล่อ ขนาดนี้ มีเงินมีอำนาจ ทำดีกับฉันขนาดนี้ ทำเหมือนผู้หญิงใจ เต้นยากนักแหละ?”

คิดไม่ถึงว่าพอฟังจบ ก็เงียบต่อ “ผมไม่เคยล้อเล่นกับคุณ

“ฉันก็ไม่ได้ล้อเล่น” นัชชาเม้มปากเล็กน้อย แอบขาได้ เสียง “นี่เป็นความคิดที่แท้จริงของฉัน”

เตชิตไม่เคยคิดว่าตัวเองหล่อ เรื่องรวยเป็นเรื่องที่สุดยอด กริยาท่าทางและความแข็งแกร่งของผู้ชายคนหนึ่งถึงจะสำคัญ ที่สุด แต่ตอนนี้ได้ยินเธอพูดแบบนี้ เป็นครั้งแรกที่รู้สึกขอบคุณ พระเจ้าที่มอบใบหน้าหล่อให้เขา

“ถ้ากลับไปแล้วคุณไม่สนใจผม ผมจะกักตัวคุณไว้ตลอด เวลา ห้ามคิดหนีไปจากน้ำมือผม รู้ใช่ไหม?” ในที่สุดก็ได้ความ มั่นใจกลับคืนมา อดไม่ได้ที่จะเน้น

นัชชาหัวเราะเบาๆหนึ่งที ตอบรับเสียงยาว “ค่า~”

เปิดเรียนอาทิตย์แรก หลังจากชีวภากลับไปที่โรงเรียน ก็ เข้ากับเพื่อนร่วมชั้นได้อย่างรวดเร็ว สำหรับเรื่องที่เธอชั้นเธอก็ไม่ได้เลี่ยงมันสักนิด ก็บอกกับเพื่อนร่วมชั้นก่อนเลย หลัง จากได้รู้ว่าเธอดรอปเรียนไปทำงาน ทุกคนไม่เพียงแต่ไม่คิดว่า เธอไม่ดี แต่ยังชื่นชมความกล้าหาญและประสบการณ์ของเธอ อีก การตอบรับแบบนี้ทำให้ชีวภา โล่งอก

ที่จริงตอนเรียนปีหนึ่ง ถ้าไม่มียัยน้ำหวานคนที่คอยปลุก ใน บางทีอาจจะไม่เกิดการรบกวนหรือคำวิพากษ์วิจารณ์เยอะ ขนาดนี้ ตอนนี้นักศึกษาก็ยังใสซื่อ จึงเกิดความอคติอย่างเป็น ธรรมชาติ ส่วนมากก็จะตามเทรนด์หรือถูกคนอื่นเป่าหู จึงได้ เชื่อคำพูดพวกนั้น ปลาเน่าตัวเดียว เหม็นไปทั้งของ

หลังจากเปิดเรียนมา เธอก็ย้ายเข้ามาในหอ วิชาเรียนจัด ไว้อย่างแน่นมาก แต่แม้ว่าจะเป็นแบบนี้เธอก็พยายามหาเวลา กลับบ้านไปเยี่ยมดุลยา

พริบตาเดียวก็สุดสัปดาห์แล้ว นึกถึงที่นัดกับชนุดมไว้ เธอ

ก็อดตื่นเต้นไม่ได้

ในวันศุกร์นั้น เธอได้ขอดุลยาไว้โดยเฉพาะ บอกว่าสุด สัปดาห์นี้ที่โรงเรียนมีจัดกิจกรรมสังคม อาจจะยุ่งสองวันเต็มๆ กลับไปเยี่ยมที่บ้านไม่ได้ ดุลยาก็หวังว่าเธอจะอยู่ที่โรงเรียน ตลอด เลยตอบรับไป

สี่โมงเย็นวันศุกร์ คาบเรียนทั้งหมดเสร็จสิ้นแล้ว ชีวภา กลับไปควานหาเครื่องสำอางค์ในกล่องสมบัติของเธอ แต่ง หน้าอ่อนๆ ทำให้เพื่อนร่วมหออดไม่ได้ที่จะจินตนาการ

“ชีวภา ทำไมวันนี้ตั้งใจแต่งหน้าจัง มีนัดหรอ?” คนที่พูดคือหัวหน้าหอชื่อแพรวตา เป็นคนตัวใหญ่ ที่ไม่มีหัวใจ

“จริงด้วย ปกติเธอไม่แต่งนี้ วันที่ตั้งใจแต่งตัวซะด้วย ไป เจอแฟนแน่เลย!! คนที่ตอบคือคนข้างๆเตียงชีวภาชื่อสปิน ทุก คนตั้งชื่อเล่น ให้เธอว่าสไปรท์

ชีวภาถูกทั้งสองพูดแซวจนยกศีรษะไม่ขึ้น เธอเป็นคนที่ เขินง่ายอยู่แล้ว ดีที่ว่ามีแป้งบังอยู่ดูไม่ออก ไม่งั้นต้องแดงเป็น ก้นลึงแน่ๆ “ไม่ใช่ซะหน่อย พวกเธออย่าพูดไร้สาระ

“พวกเราไม่ได้พูดไร้สาระนะ พวกเราพูดความจริงต่าง หาก” แพรวตาพูดไปก็โน้มตัวลงมา แล้วหรี่ตา แกล้งทำเป็น สืบสวนแล้วพูด “ฉันว่านะผู้ชายที่คอยตามเธอตั้งมากมายเธอ ไม่มองเลย ที่แท้ก็มีเจ้าของอยู่แล้วสินะ…….


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ