ยั่วรักทนายคนโหด

ตอน744เรื่องนี้ใครก็ช่วยฉันไม่ได้



ตอน744เรื่องนี้ใครก็ช่วยฉันไม่ได้

ตอนที่ 744เรื่องนี้ใครก็ช่วยฉันไม่ได้

เรื่องชนัยกับดราณีไม่ใช่เพิ่งรู้จักกันไม่นานมานี้พวกเขา ต่างรู้เรื่องกันมาโดยตลอดแต่ว่าไม่เคยคิดว่าสถานการณ์นี้จะ เกิดขึ้นมาได้

ก็อย่างว่าแหละปกติแล้วก็ไม่เคยยุ่งกับท่านธิสกุลนิสัย ของท่านเป็นอย่างไรทุกคนก็รู้ดีอยู่แก่ใจคนแก่ก็นิสัยแบบคน แก่ยากนักที่จะพูดด้วย

อีกอย่างชนัยเป็นทายาทคนเดียวของที่บ้านพ่อของชนัย เองก็หนีจากบ้านไปหลายปีแล้วดังนั้นความหวังทุกสิ่งทุกอย่าง เลยตกมาที่ตัวของชนัยทั้งหมดตามที่คิดคือเรื่องต่างๆก็ไม่ใช่ ว่าชนัยจะสามารถตามใจคิดเองเออเองได้อย่างแน่นอน

แต่เรื่องของอารมณ์ความรู้สึกนึกคิดแล้วนั้นมันยากมากที่ จะเข้าใจได้

หลังจากวางสายเตชิตได้แต่เงียบขรึมเป็นเพื่อนกันมาตั้ง หลายปีเห็นเขาเป็นแบบนี้ในใจของเตชิตเองก็เป็นทุกข์ไปด้วย

นัชชาเปลี่ยนเสื้อผ้าออกมาจากห้องแต่งตัวเสร็จหล่อนก็ เดินลงมาชั้นล่างเพื่อที่จะไปดูโรงเรียนด้วยกันที่ไหนได้กลับเห็น สภาพเขานั่งคอตกแบบนั้นเลยแปลกใจถามเขา คุณเป็นอะไรหรือป่าว?”

เตชิตได้ยินเสียงที่คุ้นหูเลยทำให้ดึงอารมณ์กลับมาได้เขา มองหล่อนที่ยืนอยู่ข้างตัวเขาพลางดึงหล่อนทั้งตัวเข้ามาอยู่ใน อ้อมอก นัชชา….……..

นัชชาถึงกับงงมากกว่าเดิมว่าเพราะอะไรหล่อนยื่นมือออก ไปกอดตอบเขา คุณเป็นอะไร….

“ทางชนิยมเกิดเรื่องขึ้น

เกิดเรื่อง?

นัชชา โก้งโค้งคิ้วขึ้นเรื่องอะไร?หนักไหมคุณจะไปดูสัก หน่อยไหมเรื่องที่โรงเรียนฉันไปเองได้”

พอดีกับวันนี้ที่โรงเรียนมีงานพบปะผู้ปกครองนักเรียน คุณครูจะเรียกผู้ปกครองไปเล่นเกมเหมือนกับเป็นวิธีการที่ให้ ทุกคนมีส่วนร่วมด้วยกัน

แต่ตอนนี้ลูกกําลังรอพวกเขาสองคนอยู่ที่โรงเรียนซึ่งเขา สองคนเตรียมตัวเสร็จแล้ว

“เรื่องนี้ผมคงช่วยอะไรเขาไม่ได้ เวลาที่เตชิตพูดน้ำเสียง เขามันอมทุกข์เป็นพิเศษไม่ยากเลยที่จะดูออกในทันทีเขาอยาก จะช่วยชนัยมาก

แต่นัชชาก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าเรื่องอะไรกันที่ขนาดเตชิต ไม่สามารถยื่นมือเข้าไปช่วยได้
“มีปัญหาอะไรหรือป่าว?

“อื้อปู่เขาไม่ยอมให้เขาและเด็กสาวนั่นคบกันและตอนนี้ บังคับเขาให้กลับไปสืบทอดกิจการ

นัชชาอ้าปากค้างหล่อนตกใจมาก คุณหมายถึง…..ราณี หรอ?”

“อื้อ”

“โอ้พระเจ้า… นัชชานิ่งไปสักพักหล่อนไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี หล่อนรู้ว่าธุรกิจที่บ้านของชนัยไม่เหมือนกับเตชิตหรือคนอื่นๆ ตระกูลธิสกุลนั้นก่อตั้งธุรกิจด้านมืดขนาดใหญ่ขึ้นมาทั้งหมด และยังมีการแบ่งเขตธุรกิจด้านมืดอีก

แม้ว่าเขาจะทำมูตี้คลับเฮาส์ขึ้นมาเองแต่ก็ทำอย่างถูก กฎหมายไม่ละเมิดข้อกฎหมายใดๆหากว่าชนัยกลับไปสืบทอด ธุรกิจที่บ้านพอถึงเวลานั้นเขาคงไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว

ในที่สุดคนทางบ้านเลยใช้ความรักนี้มาบังคับหลานตัว เองให้กลับไปรับหน้าที่ของตัวเองทุกสิ่งทุกอย่าง

หล่อนไม่เข้าใจหลักการนี้จริงๆ

เป็นเรื่องที่เตชิตเข้าไปช่วยไม่ได้จริงๆ เพราะเป็นคนนอก ได้แต่มองอยู่ห่างๆอย่างเป็นห่วง

นัชชาไม่รู้ว่าจะปลอบใจเขายังไงหากว่าตระกูลคำนึงนิจ ปัญหาแบบนี้เกิดขึ้นหล่อนก็คงจะลำบากใจมากแน่ๆ
สุดท้ายเตชิตได้แต่ถอนหายใจ ไม่เป็นไรไปโรงเรียนก่อน เถอะ”

นัชชาพยักหน้าหล่อนเดินตามหลังผู้ชายไปมองแผ่นหลังที่ ใหญ่โตก็มีบ้างที่ไม่มีความสุขไม่ง่ายเลยที่ชีวิตของพวกเขาจะ สงบสุขลงได้หล่อนดูไม่ออกจริงๆว่าเขาไม่มีสักนิดที่จะไม่มี ความสุข

โรงเรียนจัดกิจกรรมให้พ่อแม่และลูกเตชิตขับรถไปเองไม่ ได้ให้คนขับรถขับไปให้

ตลอดทางเขาสองคนพูดกันน้อยมากนัชชาก็ไม่อยากเริ่ม หาหัวข้อสนทนาหล่อนคิดว่าเขาอารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ก็เลย เงียบดีแล้ว

รถของพวกเขาจอดที่หน้าประตูโรงเรียนพอกำลังลงจาก รถเขาก็ถูกคุณครูที่มาก่อนแล้วนำทาง

ทั้งคู่เดินไปยังด้านหนังห้องเรียนของธีมนต์วันนี้นัชชาใส่ ชุดแซกยาวสีฟ้าอ่อนสีดังกับสายน้ำพร้อมกับเสื้อแจ็คเก็ตกำมะ หยี่สีขาวสั้นส่วนเตชิตนั้นใส่สูทธรรมดาสีอ่อนสบายตาเมื่อทั้งคู่ ยืนอยู่ด้วยกันกลายเป็นที่จับตามองของทุกคน

พวกเขาแต่งตัวไม่เหมือนผู้ปกครองคนอื่นที่แต่งตัวหรูหรา พวกเขาดูไม่แก่ดูออกเลยว่ามีระดับเหมือนกับนางแบบนาย แบบตามปกนิตยสาร

“พ่อครับแม่ครับ! ธีมนต์เห็นพวกเขาทั้งสองก็รีบวิ่งปรเข้าไปหาแต่กลับไปชนเข้ากับขาของเตชิตแทน

เขาไม่รู้สึกถึงอาการเจ็บแต่อย่างใดได้แต่เงยหน้ามองยิ้ม กว้างจนปากจะฉีกถึงหูอยู่แล้ว ในที่สุดพ่อกับแม่ก็มาผมรอ นานแล้วพ่อแม่คนอื่นก็มาหมดแล้วผมยังคิดว่าพ่อกับแม่คง งานยุ่ง.……..

นัชชาฟังธีมนต์พูดแล้วถึงกับปวดใจที่เขาพยายาม ระมัดระวังหรือว่าปวดใจกับสิ่งที่ลูกชายพูดออกมาแบบไม่เชื่อ ใจได้แต่ลูบบนหัวไปมาอย่างเอ็นดู พ่อกับแม่สัญญาว่าจะมา แล้วทำไมจะผิดคำพูดได้ล่ะ

“แหะๆผมกลัวนี่หน่า ธีมนต์พูดไปมือซ้ายขวาก็จับมือของ ทั้งสองคนเดินไปยังด้านหน้าแถว เดี๋ยวมีเกมมัดเท้าเล่นเกมนะ พ่อกับแม่อยู่ข้างๆผมอยู่ตรงกลางถ้าได้ที่หนึ่งคุณครูจะมีรางวัล ให้และยังมีการชมเชยแยกต่างหากอีก!

เตชิตมองเชือกหนาๆที่กองอยู่บนพื้น ใช้ไอ้นี่มัดหรอ?”

ธีมนต์พนักหน้าเหมือนไก่ที่กำลังจิกข้าวอยู่ ใช่ ใช่อันนี้ แหละพ่อครับเดี่ยวผมช่วย

พูดเสร็จตัวเล็กก็งอตัวลงไปไม่พูดพร่ำทำแพลงหยิบเชือก หนาๆขึ้นมาแกะมันออกแล้วจัดการมัดและผูกเงื่อนในเวลา พริบตาเดียวอย่าถามเลยว่าคล่องแคล่วขนาดไหน

ขาของทั้งสามคนถูกมัดอยู่ด้วยกันธีมนต์อยู่ตรงกลางแล้ว มีการแนะนำผู้ใหญ่สองคนอีกต่างหาก พ่อกับแม่เรามาลองดูก่อนไหมเดี๋ยวพ่อกับแม่ฟังสัญญาณผมนะเดี๋ยวผมตะโกนว่า หนึ่งให้ก้าวเท้าซ้ายพอตะโดนว่าสองค่อยก้าวเท้าขวา

พวกเขาฟังที่มนต์พูดถึงกับมองตากันตอนมาบรรยากาศก็ ยังเกร็งๆอยู่บ้างแต่ตอนนี้ดีขึ้นบ้างแล้ว ในสายตาของเขาทั้ง สองคนเต็มไปด้วยรอยยิ้มอันแสนอบอุ่น

ช่วงเวลาที่อยู่ต่างประเทศก่อนที่จะกลับมานั้นตลอดถึง ช่วงที่เขาใช้ชีวิตอยู่กับบวรพลนั้นเด็กคนนี้ฉลาดมากรู้เรื่องทุก อย่างไม่เคยก่อเรื่อง ให้ผู้ใหญ่ลำบากใจเลย

เรื่องที่วุฒิภาวะเขาเกินวัยนั้นมันทำให้ทั้งสองคนเป็นห่วง

มาก

พวกเขาตระหนักเป็นอย่างดีเรื่องที่อุบัติเหตุหลังโดนรถชน จะโมโหดื้อรั้นเอาแต่ใจยังไงก็ช่าง

แต่เขากลับไม่ได้เป็นอย่างนั้นเขาเชื่อฟังมากให้ทำอะไรก็

ทำตามรู้เรื่องไวมาก

ตั้งแต่ความรู้สึกของทั้งสองกลับมาดีกันเหมือนเดิมเรื่อง ร้ายต่างๆ ในชีวิตก็ลดน้อยถอยลงเช่นกันมันปกติตลอดธีมนต์ ถึงได้มีอารมณ์เหมือนกับเด็กทั่วๆไป

แม้บางทีเขายังได้รับผลกระทบกับเรื่องพวกนี้บ้างแต่ก็

ไม่ใช่นึกคิดอยู่เรื่องราวที่แบกรับไม่ไหวอยู่ตลอดเวลา

แต่ว่าตอนนี้เขาเหมือนกับเด็กคนอื่นเพราะว่าเกมนี้ทำให้ เขาสบายใจมากขนาดใจอยู่กับเกมตลอดนัชชาและเตชิตได้แต่ยินดีมาก

เตชิตงอตัวคุกเข่าลงเหมือนเด็กๆ และยกฝ่ามือด้านขวา ของตัวเองขึ้นมาตีมือ เพื่อนนายทำได้ดีมากนะ

เขายากนักที่จะพูดล้อเล่นธีมนต์เขาได้รับการศึกษาจาก ต่างประเทศตั้งแต่เด็กเรื่องพรรณนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติเขายิ้ม กว้างมากกว่าเดิมและเขาพูดตอบกลับมาเป็นภาษาอังกฤษ หนึ่งประโยค Ofcourse, Pieceofcake!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ