ยั่วรักทนายคนโหด

ตอน403สัมผัสถึงกระดูก



ตอน403สัมผัสถึงกระดูก

ตอนที่403 สัมผัสถึงกระดูก

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ช่วงกลางนัชชาหมดสติไปเพียง ครั้งเดียว รอให้เธอตื่นขึ้นมา คนนี้ถึงจะดำเนินการต่อ จนใน ที่สุด เธอต้องร้องขอความเมตตา “ฉันง่วงแล้ว อยากหลับแล้ว

“เธอก็หลับไปสิ”

เขาเป็นอย่างนี้ เธอจะนอนหลับได้อย่างไร

นัชชาร้องไห้โดยไม่มีน้ำตา รู้ว่าผลจะออกมาเป็นเช่นนี้ ไม่รู้สึกเขินอายอีกต่อไป คอก็ตะโกนร้องบอกเขา “เตชิต ให้ฉัน นอนเถอะ ฉันเหนื่อยมาก

“ถ้ามีความสามารถที่ช่วยทำให้ผมเร็วหน่อยสิ ถ้าทำไม่ ได้ก็อดทนหน่อย” เขาพูดขณะที่จูบหน้าผากเธอเบาๆ แม้ว่าจะ พูดจาอย่างไร้เหตุผลแต่ก็ยังพยายามเอาใจเธออยู่

ไม่ใช่ไม่สามารถควบคุม ไม่ใช่ไม่รู้สึกแย่กับเธอ แต่ความ จริงแล้ว….มันใช้เวลานานเกินไป

เขาเป็นคนธรรมดาที่มีความต้องการ แต่เขาคิดว่าสิ่งนี้ ควรทำกับคนที่รัก ไม่มีการตอบสนองกับคนอื่น แม้แต่ปรับ บอกว่าเขาเป็นนักพรตออกบวชไปแล้ว มีแต่เขาเท่านั้นที่รู้ว่าเมื่อเขานึกถึงนัชชาเขาได้สัมผัสถึงกระดูก

มันยากที่จะมีโอกาสนี้ในตอนนี้ มันอดไม่ได้จริงๆ

นัชชาไม่รู้ว่าเธอถูกโยนไปแล้วกี่ครั้ง ในที่สุดเธอก็ง่วง แล้วจริงๆ ไม่เหลือความแข็งแกร่งในร่างกาย คนที่หมอบอยู่ บนร่างของเธอก็เหมือนสัตว์ร้ายที่ไม่คิดจะเหน็ดเหนื่อย และ ไม่มีความตั้งใจที่จะหยุด

เธอต่อสู้กับเปลือกตาตัวเอง แต่ร่างกายถูกโยกโดยเขา จนนอนไม่หลับ เธอเห็นแสงไฟเล็กน้อยลอดผ่านม่าน

ในที่สุด เมื่อฟ้าใกล้สว่าง ในที่สุดเตชิตก็ได้ทานอาหาร ปล่อยให้เธอฉีกขาดหันมาเขาผ้าขนหนูมาเช็ดตัวเธอเบาๆ

นัชชาหลับตาไปเข้าเฝ้าแล้ว ไม่มีความรู้สึกอะไรทั้งนั้น

ชายคนนั้นมองดูหญิงสาวที่ใบหน้าจมลงในหมอน ใบหน้ายังแดงอยู่ปากบวมเปิดหายใจเข้าออกโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว หายใจเข้า หายใจออก….

เตชิตรีบถอนสายตาออกจากเธอโดยเร็ว กลัวว่าตัวเองได้ กลายเป็นสัตว์ร้ายไปแล้ว

หูของเขากลับมาดังก้องถึงคำที่เธอร้องอยู่ข้างหูว่าขอ ความเมตตาและเขากลับรู้สึกว่าน่าขัน เขาเอื้อมมือออกไปหม ผ้า ให้เธอ “ราตรีสวัสดิ์

ตื่นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น เป็นเวลาสิบโมงกว่า นี่เป็นวันที่ชชาตินสายมากครั้งหนึ่งในรอบหลายปีที่ผ่านมา

เธอยื่นมือออกไปหยิบมือถือ แต่กลับสัมผัสถูกวัตถุที่เป็น

แก้วที่รู้สึกเย็น เธอชะงักและหันไปมอง เป็นขวดไวน์แดงที่ยังไม่ ได้เปิด เมื่อคืนเธอไม่ได้เอาเข้ามา นั่นต้องเป็นเตชิตที่เอาเข้า มาแน่

เธออดไม่ได้ที่จะเหม่อลอย คิดถึงรูปร่างส่วนโค้งเว้าของ เขาบนเตียงเมื่อคืนนี้ ค่อยๆพยายามทำความเข้าใจ คนคนนี้ ต้องการที่จะเล่นสนุก และโกรธที่ถูกเธอยังอยู่ที่ด้านนอกประตู ต่อมาพอยู่บนเตียงก็ไม่ได้สนใจอะไรแล้ว

เมื่อคิดถึงเมื่อคืน ก็นึกออกอย่างเป็นฉากที่ไม่ต่อเนื่อง นัก ชาหน้าแดงขึ้นอีกครั้งและส่ายหัวพยายามกำจัดภาพที่ติดเรท ออกไปจากหัวสมอง

เธอวางมือทั้งสองอยู่บนเตียงเตรียมตัวที่จะลุก อย่างไร ก็ตามเพียงแค่ขยับเท่านั้น ตรงนั้นก็รู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก เธอทนไม่ได้และร้องออกมา

นัชชา โก่งคิ้วและไม่สามารถขยับเขยื้อน เธอหายใจด้วย ปาก พยายามที่จะลุกขึ้นจากเตียงอย่างช้าๆ ประตูห้องถูกผลัก ออกจากทางด้านนอก

ลมหอบหนึ่งพัดมา เธอไม่ได้พูดอะไรได้แต่ใช้ผ้าห่มปกปิด

ร่างกายเอาไว้

เตชิตมองดูผู้หญิงที่ห่อหุ้มตัวเองด้วยผ้าห่มอย่างเคร่งขรึม มีร่องรอยของความกังวล “ตื่นแล้วหรอ ธีมนต์ร้องหาคุณ พูดอย่างไรก็ไม่ฟัง โกรธผมอยู่ในห้องนอนน่ะ”

พูดจบ เขาก็กัดฟันตัวเอง “ต้องพยายามเปลี่ยนนิสัยนี้นะ ปล่อยไว้นานไปจะไม่ดี

นัชชามองเขาอย่างเย็นชา คิดถึงเมื่อคืนที่เธอขอร้องเขา แต่เขากลับไม่ฟัง เธอรู้สึกรำคาญใจเล็กน้อย หันไปมองค้อน เขา “คุณออกไปซะ”

เตชิตเพิ่งจะอารมณ์เสียกับลูกชายมาไม่น้อย ไม่คิดว่าพอ เข้ามาในห้องยังต้องมารองรับอารมณ์โกรธอีก เขารู้สึก หงุดหงิด “เช้านี้อะไรกันเนี่ย

“คุณว่ายังไงนะ” นัชชาพูดจบก็อดไม่ได้ที่จะต่อว่าเขาเรื่อง เมื่อคืน “เมื่อคืนคุณ…คุณทำอย่างนั้น ตอนนี้ฉันเจ็บมาก

เจ็บรี

ผู้ชายขมวดคิ้ว จากนั้นก็ดึงผ้าห่มห่มไปบนร่างเธอ นัชชา สังเกตการณ์เคลื่อนไหวของเขา เธอรีบกลิ้งตัวไปทางด้านข้าง แม้ว่าการกระทำเช่นนี้จะทำให้เธอเจ็บปวดจนอยากจะกรีดร้อง ออกมา “คุณทำอะไรน่ะ”

“ไม่ได้ทําอะไร เอามือออกไป

นัชชางอตัวแน่นและจ้องมองเขา “ไม่เอา!”

“คนดี ฟังผมนะ ให้ผมดูหน่อย” เป็นไปได้ว่าอาจจะคิดได้ ว่าตัวเองทำเกินไปเมื่อคืนนี้ เขาไม่โกรธ แต่ว่าพูดโน้มน้าว อย่างอดทน
“ไม่ต้องดู กลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว จะดูอะไร” ตอนนี้เธอ ไม่เชื่อคําพูดใดๆของเตชิตทั้งนั้น เมื่อคืนกลายเป็นบทเรียนที่ เข้าไปในเส้นเลือดแล้ว

จะว่าไป เขาแค่ไม่ได้ทำเรื่องนี้มานานแล้ว เขาต้องการมัน มาก นี่ก็เป็นเรื่องปกติ

ร่างกายที่สูงใหญ่โน้มไปข้างหน้าเล็กน้อย มือทั้งสองข้าง เอื้อมไปที่ด้านข้างของร่างกายเธอ ซึ่งเธอเอาไว้ไม่ให้ดิ้นหนีไป ไหน เขาจับข้อมือเธอเอาไว้และทันใดนั้น ในวินาทีต่อมา เขาดึง ผ้านวมออกและโยนมันทิ้งไป

นัชชามองเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ “คุณ!”

สายตาชายคนนั้นมองตรงไปบนร่างใต้ผ้าห่ม ผิวสีขาว ปรากฏให้เห็นรอยที่เกิดจากการทำลายล้างของเขาอย่าง ชัดเจน รอยแดงและรอยฟกช้ำปรากฏอยู่ทั่วผิวขาวของเธอ เห็นแล้วเขารู้สึกอายยิ่งนัก

ผิวหนังของเธอบอบบาง เมื่อถูกบีบรัดข้อมือเป็นเวลานาน ก็มักจะขึ้นรอยแดงอยู่เป็นเวลานาน แต่ว่าเขาจะตั้งใจยังยั้ง เรื่องเมื่อคืนนี้ แต่ว่า…การเร่งรัดภายในคืนหนึ่ง ปรากฏเป็น รอยเข้มและลึก คิ้วของชายขมวดเป็นปม ทำได้แต่ลดแรงที่จับ ตรงข้อมือให้หลวมขึ้น

นัชชารีบห่อตัวเองใหม่ในทันที เธอเฝ้ามองเขาอย่างระวัง ตัว “คุณจะไม่….อีกใช่ไหม”

เธอยังพูดไม่ทันจบ เตชิตก็เข้าใจแล้ว ความจริงคิดเอาไว้แต่แรกแล้ว ไฟที่สะสมมาห้าปี ภายในคืนหนึ่งจะดับลงได้ อย่างไร แต่เมื่อเห็นร่างที่บอบช้ำของเธอ ในใจก็ไม่กล้าคิดถึง ครั้งต่อไป เขารู้สึกปวดใจ

ในขณะที่นัชชาตกอกตกใจ คิดหาวิธีว่าจะแก้ไขกับเขา อย่างไรนั้น พลังอันอ่อนโยนก็ซบลงบนศีรษะของเธอ เธอมอง ขึ้นไปก็เห็นฝ่ามือใหญ่ของชายคนนั้น

เหมือนกับการสัมผัสสัตว์เลี้ยงตัวน้อย เขาลูบหัวของเธอ ไปมาอย่างอ่อนโยน

นัชชานิ่งอึ้งด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยนของ เขา มีบางอย่างที่ไม่ปกติ นี่เป็นคนละคนกับสัตว์ป่าที่ดุร้ายเมื่อ คืนนี้

และประโยคต่อไปก็ไม่ต้องสงสัยเลยเพราะทำให้นัชชา

นั้นยิ่งคาดไม่ถึง

แค่เห็นเขาลูบหัวเธออย่างอ่อนโยน เขาโทษตัวเองและ เปิดปากอย่างอึดอัดใจ “ผมขอโทษ ผมพยายามทุกอย่างแล้วที่ จะควบคุมตัวเอง แต่ก็ยังพลั้งไปทำร้ายคุณ???”

นัชชากะพริบตา บางคนก็เปลี่ยนไม่ได้จริงๆ ดังนั้นเขาจึง ขอโทษเธอในสิ่งต่างๆที่เขาทำไปเมื่อคืนอย่างนั้น

การขอโทษสำหรับสิ่งนี้…. ความอึดอัดและความคับข้อง ใจที่นัชชาเก็บสะสมอยู่ก็ค่อยๆคลายลง มันเป็นความน่าอาย และความอัปยศที่เธอแทบจะทนไม่ได้
เธอลังเลอยู่เป็นเวลานานก่อนที่ฝนพูดประโยคนี้ออกมา “ไม่เป็นไรหรอก คุณไม่ได้ตั้งใจ

เขาเงยหน้าไม่ขึ้น เหมือนกับว่าคนที่ทำผิดก็รู้ตัวอยู่แล้วว่า ได้ทำอะไรลงไป

ถึงแม้เตชิตจะไม่ได้แสดงอาการตกใจทางสีหน้า แต่ในใจ กลับรู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก ถ้าหากว่าทำให้เธอขุ่นเคืองใจ ในตอนนี้ หลังจากนี้ชีวิตทางเพศของเขาคงไม่มีอะไรรับประกัน ได้อีก

“น้าในไม่อยู่ อีกสักพักผมจะพาธีมนต์ไปซื้ออะไรกลับมา ทาน แล้วจะแวะซื้อยาและครีมแก้ปวดให้กับคุณ” นัยน์ตาสีดำ ลึกจ้องมองไปที่เธอเบาๆ

นัชชาพยักหน้ารับคำ “อื้อ ระวังตัวด้วย ดูแลลูกให้ดีล่ะ”

“ผมไม่เป็นห่วงลูกหรอก” เขาเอนกายลงและจูบเบาๆบน ริมฝีปากของเธอ “คนที่ผมเป็นห่วงคือคุณต่างหาก

ลำคอของนัชชาแห้งผาก เธอชักสีหน้าดุร้ายอย่างรวดเร็ว และเร่งเขา “คุณรีบไปเถอะค่ะ”

เขาตอบสนองเธอด้วยการจูบที่ร้อนแรง เธอหรี่ตาลงและ เห็นแสงที่ส่องสว่างผ่านทางผ้าม่านด้านหลังชายคนนั้น ร่าง ของเขาบดบังร่างของเธอไว้ ทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยอย่างบอก ไม่ถูก

ชั่วขณะหนึ่ง เมื่อจูบเสร็จสิ้นแล้ว นัชชาก็หายใจเข้า ชายคนนั้นก็หันกายออกจากห้องไป

เห็นได้ชัดว่าเป็นมนุษย์ที่อายุยี่สิบแปดปีแล้ว หลายปีมานี้

เธอมีอิสระอย่างมากมาย เธอเชื่อว่าตัวเองไม่ค่อยได้มี พฤติกรรมและการกระทำที่ไร้สาระ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเขา กลับเหมือนกลายเป็นเด็กน้อยที่อายุเพียงห้าขวบ เธอ

นัชชายกมือขึ้นและสัมผัสไปที่แก้มอันร้อนฉ่าของตัวเอง “ตื่นได้แล้ว ตื่น ตื่น!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ