ยั่วรักทนายคนโหด

ตอน160คิดจะปิดบังฉันไปถึงเมื่อไหร่



ตอน160คิดจะปิดบังฉันไปถึงเมื่อไหร่

ตอนที่ 160 คิดจะปิดบังฉันไปถึงเมื่อไหร่

“ความจริงคืออะไร” คำถามสั้นๆง่ายๆ

ทีนาร์ไม่คิดเลยว่าตัวเองจะกลายเป็นกุญแจดอกสําคัญใน เวลานี้ เธออยากจะพูดว่าเธอและเตชิตนั้นเหมาะสมกันราวกิ่ง ทองใบหยก สนิทสนมลึกซึ้ง ไม่มีใครสามารถพรากเราออก จากกันได้

แต่เมื่อเห็นเตชิตดูเดือดเนื้อร้อนใจเป็นห่วงเป็นใยเธอ ขนาดนี้ เธอก็เข้าใจโดยทันทีเลยว่าหากเธอพูดอะไรไม่เข้าหู เขาแล้วล่ะก็ ความสัมพันธ์ของเธอกับเขาคงต้องจบลงตรงนี้

ทีนาร์หายใจเข้าลึกๆ ดึงสายตาตัวเองกลับมา มองไปที่ นัชชา ผ่านไปไม่กี่วินาที เธอจึงเริ่มพูดว่า “ถึงแม้ว่าเราสองคน ไม่มีสัมพันธ์ทางสายเลือด แต่สำหรับฉันเตชิตก็เหมือนพี่ชาย แท้ๆ เราไม่ได้มีความสัมพันธ์เกินเลยใดๆ คุณคิดมากระแวง ไปเองทั้งนั้น

ประโยคนี้ของเธอฟังผิวเผินก็ไม่มีอะไร แต่ที่บอกว่าเธอ คิดมาก นี่คืออะไร เธอจะเข้าใจผิดมันก็เป็นเรื่องปกติ คิดมาก จนระแวงนี้มาจากไหนกัน

“ไม่ใช่พี่ชาย โดยสายเลือด” นัชชาหัวเราะออกมา “นี่พวกคุณเล่นอะไรกันอยู่

เตชิตเม้มปากก่อนจะรีบตอบว่า “พ่อแม่เธอเป็นผู้มี พระคุณของผม”

นัชชาหันกลับไปหาเขา ดวงตาโตที่แดงกล่ำตอนนี้ไม่ สามารถปกปิดความเคลือบแคลงสงสัยได้ “แล้วทําไมคุณต้อง ปิดบังฉัน”

ถึงแม้ว่าเตชิตกับที่นาร์จะไม่ได้มีอะไรกันจริงๆ ก็ตาม แต่ เมื่อสบตากับนัชชาเตชิตก็ยังคงมีความกลัวอยู่ในใจ “ทนาร์ ร่างกายยังไม่แข็งแรงดี ผมคิดว่ารอให้เค้าแข็งแรงขึ้นอีก หน่อยค่อยบอกคุณ”

“รอให้แข็งแรงอีกหน่อยนี่คือเมื่อไหร่” สภาพนัชชาตอนนี้ เหมือนแช่อยู่ในน้ำที่มีฝาปิดมิดชิด คล้ายจะสำลักหายใจไม่ ออก “ถ้าวันนี้ฉันไม่ตามคุณมา คุณคิดจะปิดบังฉันไปถึงเมื่อ ไหร่ เห็นฉันเป็นนั่งหน้าโง่ที่ถูกหลอก ในใจคุณเคยรู้สึกผิดต่อ ฉันบ้างไหม”

พูดจบยังไม่รอให้เขาตอบ เธอก็ถามเขาอีกว่า”เตชิต ฉัน ไม่เคยรู้จักคุณเลยจริงๆตั้งแต่แรกใช่มั้ย

เขาไม่ใช่ผู้ชายที่เธอเข้าใจตัวตนเป็นอย่างดี ในสายตา ของนัชชา เขาไม่ใช่คนโกหกหลอกลวง คำพูดของเขาทุกคำ ล้วนผ่านการกลั่นกรองเป็นอย่างดี สิ่งที่เขาทำไม่ได้เขาจะไม่ พูดมันออกมา เรียกว่าเป็นผู้ชายที่น่าเชื่อถือคนนึง แต่มาวันนี้ กลับทำให้เธอเห็นฉากแบบนี้
เธอนึกถึง บ่อยครั้งที่เขาออกมาตอนดึกๆ บางครั้งก็ไม่ได้ กลับบ้าน ตกลงว่าเขาเป็นคนแบบไหนถึงได้หลอกลวงเธอ แล้วยังมีผู้หญิงอีกคนมาพัวพัน

น่ากลัว น่ากลัวจริงๆ ความเชื่อถือของเธอถูกเก็บกลับไป หมดแล้ว ความเชื่อมั่นในตัวของเขาพังทลายหมดสิ้น ผู้ชาย คนนี้ไม่ใช่เตชิตที่เธอเคยรู้จักและเข้าใจอีกต่อไป

ดวงตาของนัชชาไร้ซึ่งความหวัง จนทำให้เตชิตกลัวว่าจะ ต้องสูญเสียเธอไป “ผมแค่เป็นห่วงว่าอาการของเธอจะกำเริบ ขึ้นมาเลยแวะมาดูเท่านั้นเอง ไม่มีเรื่องอะไรอีก ผม…..

“คุณอยากจะทำอะไรอีก คุณยังหลอกฉันไม่พอใช่มั้ย”

คำถามของเธอทำให้เตชิตพูดอะไรไม่ออก สิ่งที่เขากังวล ในตอนแรกสุดท้ายก็เกิดขึ้นแล้ว เขาโกหกเธอจริงๆ ไม่ว่าจะ ทำด้วยเจตนาที่ดีก็ตาม สุดท้ายเขาก็ทำลายความเชื่อมั่นของ เธอไป

“ผมขอโทษนัชชา ผมขอโทษ “เขาขอโทษเธอ

ทนาไม่เคยเห็นเตชิตในสภาพนี้มาก่อน เขาเป็นคนที่เย่อ หยิ่ง เฉยชา อยู่ที่ไหนมีแต่คนห้อมล้อม ผ่านไปชั่วพริบตาเพื่อ ผู้หญิงคนหนึ่งเขาต้องตกต่ำถึงเพียงนี้เลยหรอ

ผู้ชายรักศักดิ์ศรีไม่มีทางก้มหัวให้ใครหน้าไหนง่ายๆ แต่ มาวันนี้เพราะนัชชาเขาต้องทำตัวตกต่ำถึงเพียงนี้

ใจของนาร์เหมือนถูกมีดเสียบ เจ็บจนแทบยืนไม่ไหว
ผู้ชายที่เธอแอบหลงรักตลอดมา ทำไมถึงท่าตัวตกต่ำรอ

การให้อภัยของนัชชา

ทีนาร์มองนัชชาด้วยสายตาเกลียดชัง มองทีท่าของเตชิต เธอเริ่มหวาดกลัวว่านัชชาจะเป็นต้นเหตุทำให้

เตชิตตีตัวออกห่างจากเธอ

เมื่อคิดว่าอีกหน่อยอาจจะไม่ได้อยู่ใกล้เตชิดอีกต่อไปแล้ว ทีนาร์ก็รู้สึกหวาดหวั่นใจขึ้นมา รีบเดินเข้าไปแต่หลบสายตาที่ แฝงความโกรธเกลียดนั้นไว้แล้วพูดว่า

คุณนัชชา หากฉันทำให้คุณเข้าใจผิด ฉันต้องขอโทษ ด้วย ฉันกับเตชิตเราไม่ได้มีอะไรกันนอกจากความเป็นพี่น้อง พ่อแม่ของฉันเคยช่วยเตชิตไว้ ต่อมาพวกเขาก็จากโลกนี้ไป เพราะช่วยเตชิต ตอนนี้ฉันก็ป่วยด้วยโรคประหลาดอีกทำอะไร ไม่ได้จึงต้องอาศัยเขา หวังว่าคุณจะเข้าใจ คิดว่าสงสารฉัน ก็ได้”

คำพูดของเธอก็ยังคงพูดถึงความสัมพันธ์ของพวกเขา พูด ถึงพ่อแม่ของเธอ ใช้ความสัมพันธ์สารพัดมา โน้มน้าวเธอ นัช ชายิ่งรู้สึกโกรธมากขึ้น แต่ก็ไม่สามารถจับผิดอะไรได้ เธอแค่ ไม่อยากเห็นการมีตัวตนของทีนาร์ แต่ดูจากสถานการณ์แล้ว คงจะเป็นไปได้ยาก

คิดถึงสิ่งเหล่านี้ นัชชาก็เหนื่อยใจ กลายเป็นเธอต้องเป็น คนตัดสินใจตั้งแต่เมื่อไหร่
“นัชชา..”

เตชิตต้องการพูดต่อ แต่นัขชายกมือขึ้นห้ามไว้ “ไม่ต้อง

พูดอะไรแล้ว ฉันอยากอยู่คนเดียวเงียบๆ คืนนี้มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย เรี่ยวแรงของเธอเหมือน

จะถูกใช้ไปจนหมด สมองล้ามาก มีหลายเรื่องที่เธอต้องค่อยๆ

เรียบเรียง

เตชิตจับข้อมือของเธอ อุ้งมือเขารู้สึกได้เลยว่าเธอ พยายามใช้แรงดึงออก เขาใช้แรงดึงเธอเพิ่มขึ้น “ผมส่งคุณ กลับเอง

“ฉันกลับเองได้”

“ผมส่งคุณ” เขาพูดซ้ำอีกรอบเสียงไม่สามารถอดกลั้น ได้อีกแล้ว เขาเป็นห่วงเธอที่สภาพจิตใจในตอนนี้หลัวว่าจะเกิด อุบัติเหตุขึ้น ก็กลัวว่าถ้าหันหลังกลับไปเธอจะหายตัวไปอีกครั้ง

ทีนาร์รู้ตัวว่าไม่สามารถรั้งเขาไว้ได้และก็ไม่อยากบังคับ จิตใจเขา เธอเปิดประตูรถให้นัชชาทุกการกระทำของเธอไม่มี ส่วนไหนเลยที่แสดงออกว่าไม่เต็มใจ “พวกคุณเดินทางดีๆนะ

นัชชาไม่ได้หลบตา เตชิตได้แต่ตอบรับเบาๆสตาร์ทรถขับ ออกไป

ช่วงระหว่างยืนอยู่ที่หน้าประตูวิลล่าที่นารได้แต่มองไฟ ท้ายรถที่ค่อยๆหายไป ใบหน้าของเธอที่อ่อนล้ากลับแปร เปลี่ยนเต็มไปด้วยความโกรธความอิจฉาริษยา เตชิตรักผู้หญิงคนนั้นมากกว่าที่คิดไว้อีก เธอคิดจะไม่ปล่อยให้ผู้หญิงคนไหน มายึดเอาความรู้สึกแบบนี้ไปได้ ต้องรีบเอาหัวใจของเขากลับ คืนมา ให้ได้

ระหว่างทางกลับบรรยากาศในรถเต็มไปด้วยความเงียบ สงบ ไฟที่อยู่ด้านนอกรถส่องเข้ามาที่ใบหน้าทั้งสองคนซึ่ง เหมือนกับใจของทั้งคู่ในตอนนี้ที่มันไม่มีความชัดเจน

นัชชาหลับตาลงอย่างกับอ่อนล้าอย่างที่สุด เตชิตรับรู้ได้ เลยว่านี่คือการปฏิเสธแบบต่อต้านของเธอ เธอไม่อยากพูดกับ เขา แม้แต่หน้าของเขาเธอก็ไม่อยากมอง

เขากำมือแน่นบนพวงมาลัย ใบหน้าเคร่งเครียด ทั้งคู่ เหมือนทําตัวเหมือนเส้นด้าย ถ้ามีใครขยับสักนิดราวกับจะ ทำให้มันขาดออกจากกัน

ตลอดการเดินทางอันเงียบสนิท รถขับกลับมาถึงไวโรจน์

วิลล่าก็ราวๆเที่ยงคืนแล้ว รถเข้าจอดในโรงจอดรถ เสียงดัง ติด ติด ดังขึ้น ในขณะนั้นเองนัชชากำลังเอื้อมมือออกไปจับ ประตูรถ

เตชิตรีบล็อกรถ บรรยากาศเริ่มตึงเครียดขึ้นมาอีกครั้ง

“ฉันต้องการลงรถ” เสียงของนัชชาเอ่ยขึ้นหลังจาก เหตุการณ์นั้นเกือบขึ้นเกือบครึ่งนาที

เขาเริ่มมีเสียงกระแอมที่ลำคอ มันยากที่จะมองเธอ ลิ้นเริ่มขม เขาใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดพยายามเอ่ยชื่อเธอออกมา “นัก

นัชชาที่เพิ่งพยายามกลั้นน้ำตาไว้เริ่มน้ำตาไหลลงเต็ม ใบหน้าเพียงแค่ได้ยินคำสองคำนี้ เธอไม่ได้มองเขา แต่มีเสียง พูดออกมา “เตชิต อย่าเพิ่งกดดันฉัน ปล่อยให้ฉันอยู่เงียบๆสัก พัก ไม่งั้นฉันไม่รู้เลยว่าตัวเองจะก่อเรื่องอะไรขึ้นมาอีก

เธอต้องการระยะเวลาพักหน่อยเพื่อผ่อนคลาย ต้องการ ความเงียบอย่างมาก แต่เขาอยู่ตรงนี้ เธอไม่สามารถสงบ อารมณ์ของตัวเองได้

เตชิตอยากเข้าไปกอดให้เธออยู่ในอ้อมอกเขา อยากจะ เข้าไปอธิบายให้เธอเข้าใจอย่างชัดเจนถี่ถ้วน แต่สภาพของ เธอที่หน้าตากำลังอดกลั้นจนกลายเป็นสีขาวซีด หัวใจก็เหมือน แตกเป็นเสี่ยงๆ ไม่มีชิ้นดี เจ็บจนจุกขนาดที่พูดไม่ออก

เขาหันกลับไปมองที่ด้านหน้าโรงจอดรถ ศีรษะพิงพนัก เก้าอี้พยายามเอนลงมา พยายามที่ข่มตาที่แดง พร้อมสะบัด มันออกและปลดล็อกประตูรถ

เธอบอกว่าไม่อยากให้เขากดดันเธอได้เขาไม่กดดัน

นัชชาเม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรงสักพัก เธอก็หันศีรษะออก ไปเปิดประตูลงรถ โดยไม่หันหลังกลับมา เธอปิดประตู โดยที่ ไม่หันกลับมามองด้วยซ้ำ ไฟในรถที่สว่างกลับมืดลงอีกครั้ง ในความมืดในรถนั้นมีผู้ชายคนหนึ่งอยู่ในนั้นด้วย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ