ยั่วรักทนายคนโหด

ตอน621 ให้เป็นงานแต่งที่ไม่ทำให้คุณน้อยใจ



ตอน621 ให้เป็นงานแต่งที่ไม่ทำให้คุณน้อยใจ

ตอนที่ 621 ให้เป็นงานแต่งที่ไม่ทำให้คุณน้อยใจ

นัชชารอเตชิตกลับมาในห้องผู้ป่วย รอไปรอมาสุดท้ายก็

รอไม่ไหว ไปหาเขาที่ห้องทํางานอย่างไม่สบายใจ คิดไม่ถึงว่า คุณหมอบอกว่าเขาออกไปแล้วประมาณยี่สิบนาที

เธอขอบคุณคุณหมอเสร็จออกมาจากห้องทำงานแล้วก็ โทรหาเขาทันที ดีที่โทรศัพท์ดังไม่กี่ทีเขาก็รับ น้ำเสียงนัชชา ตึงเครียด “คุณอยู่ไหน?

“ห้องทํางานปรัณ”

“ตอนนี้อะนะ?”

“อืม”

ได้ยินคำตอบเขา นัชชาก็โล่งอก “หาคุณไม่เจอฉันตกใจ แทบแย่ นึกว่าคุณหนีไปแล้ว”

ได้ยินเสียงหายใจเธอหนักหน่วงเข้าหูผ่านลำโพง สุดท้าย เตชิตก็ลุกขึ้นจากโซฟา แล้วก็ส่งสายตาให้ปรัณข้างๆว่าจะไป แล้ว “เดี๋ยวผมลงไปแล้ว รอผมที่หน้าลิฟต์นะ”

“โอเคค่ะ”
ไม่ถึงห้านาที ร่างสูงใหญ่ของเขาก็ออกมาจากลิฟต์ พอ เห็นเขาก็รู้สึกสบายใจ ภายในใจนัชชาเหมือนยกหินออกจาก อก “ทําไมคุณไม่พูดอะไรสักค่า……….

ยังไม่ทันพูดจบ เธอก็ถูกดึงเข้าไปในอ้อมกอดอุ่น ริม ฝีปากถูกหน้าอกเขาทับไว้ จึงต้องกลืนคำพูดลงไป

สัมผัสได้ถึงแขนที่กำแน่นด้านหลังเธอ เหวลึกในก้นบึง หัวใจ รู้สึกเจ็บปวด สัญชาติญาณความเป็นผู้หญิงท้วมล้นออก มา “เป็นอะไรน่ะ ไม่เจอแป๊ปเดียวกลายเป็นแบบนี้

“นัชชา เราแต่งงานกันเถอะ”

ประโยคเดียว สามารถทำให้มือของนัชชาที่ลูบหลังเขาอยู่ ชะงักขึ้นมา ไม่มีปี่มีขลุ่ย เขาไม่ได้เตรียมใจมาก่อนสักนิด

นัชชาคิดว่าเขากําลังตื่นเต้น “คุณพูดอะไรน่ะ…….

“อาการคุณไม่ค่อยดี คุณหมอบอกว่าซื้อไม่ได้นานนัก ผมไม่อยากให้ตอนเขาจากไปแล้วยังไม่ได้เห็นความสุขของ หลานตัวเอง”

ที่แท้เขาก็คิดแบบนี้เอง

ใจนัชชารู้สึกขยายตัว เหมือนถูกมือเล็กที่มองไม่เห็นมา ฉีกมันออก “โอเค แล้วแต่คุณเลย”

เตชิตไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่กุมมือเธอให้กระชับขึ้น โชค ดีที่มีเธอ ไม่เช่นนั้นเขาก็ไม่รู้จะดำเนินต่อไปได้อย่างไร
อาการป่วยของคุณ ไม่มีใครบอกเขา บอกแค่ว่าไม่เป็น อะไรมาก คุณหมอบอกว่าไม่เป็นอะไร นอนโรงพยาบาลตรวจดู อาการสักพักแล้วทานอย่างต่อเนื่องก็โอเคแล้ว

คุณปู่ก็ดูไม่สงสัยอะไร พยักหน้ารับคำ แต่ดวงตาแก่ชราคู่ นั้นขาดจิตวิญญาณแบบเมื่อก่อน นัชชาตั้งใจให้ธีมนต์มาโรง พยาบาลทุกวัน ให้มาอยู่เป็นเพื่อนคุณปู่บ่อยๆ

พอคิดว่ามีเวลาไม่มากแล้ว ในฐานะที่เป็นหลานสะใภ้ใน

ใจเธอก็รู้สึกไม่โอเค

ในหนึ่งวัน เตชิตพานิชชาและธีมนต์มาเยี่ยมคุณปู่ที่โรง

พยาบาลด้วยกัน บรรยากาศรื่นเริงอย่างมาก เขาถือโอกาสพูด

ขึ้น “คุณครับ ผมวางแผนเรื่องงานแต่งของผมกับนัชชาแล้ว นะครับ ยังไม่ได้กำหนดวัน คิดว่าวันไหนดีครับ?”

คุณกำลังก้มศีรษะมองธีมนต์วาดรูป ได้ยินแล้วก็ชะงัก

มือ หันศีรษะไปมองเขา “งานแต่งหรอ…..

เขาดูเหมือนกำลังคำนวณอะไรสักอย่าง รอสักพักถึงพูด ออกมาอย่างต่อเนื่อง “คิดว่าวันที่สิบแปดก็ไม่เลวนะ พวกเธอ คิดว่าไงล่ะ”

วันที่สิบแปดหรอ?

นัชชายก โทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูปฏิทิน อาทิตย์หน้าวัน เสาร์ ใกล้ตอนนี้มากๆ มีเวลาแค่สิบวันเท่านั้น

จะทันไหมนะ?
เตชิตไม่ได้ขัด “ครับ งั้นก็วันที่สิบแปด

สำหรับเขา ยิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี ยิ่งผลัดไปหนึ่งวันก็จะกังวัล ว่าร่างกายของคุณปู่จะรับไม่ไหว สำหรับงานแต่งงาน จะใช้เงิน เท่าไหร่ก็ไม่เกี่ยง ตราบใดที่เตรียมให้ทันวันงานก็พอแล้ว

“เตชิต รู้ทำไมเธออยากจัดงานแต่งตอนนี้ ขณะที่ทั้ง สองกำลังคิดเรื่องแต่งงาน จู่ๆคุณก็พูดขึ้น “ปูแก่จนทนไม่ไหว

แล้วสินะ”

ตั้งแต่นอนโรงพยาบาลมา คุณไม่เคยถามใครเกี่ยวกับ อาการป่วยของตัวเองเลย ทุกคนคิดว่าท่านเชื่อคำพูดคุณหมอ คิดว่าร่างกายตัวเองไม่ได้มีปัญหาอะไรร้ายแรง

“รู้ว่าพวกเธอกำลังปิดบัง สุขภาพตัวเองเป็นยังไง รู้ตัวดี พวกเธอทั้งคู่ไม่ต้องมาใส่ใจอะไรมากหรอก ดูในใจนี่นะ ก็เหมือนกระจกใส” คุณปู่พูดไปก็ออกแรงยกมือขึ้นมาวางไว้ บริเวณหน้าอก

ประโยคนี้พูดออกไป คุณปู่พูดความในใจตัวเองออกไป หมดแล้ว ทำให้เตชิตกับนัชชาอึ้งไปเลย

ที่แท้เวลาที่ผ่านมา คุณรู้สุขภาพร่างกายตัวเองอยู่แล้ว พวกเขานึกว่า……..

แม้แต่เตชิตที่ฟังแล้วก็อึ้งไปเลย “ปู่ครับ..……..

“ไม่เป็นไร ไม่ต้องมาโน้มน้าวปูเลย อายุปูนนี้แล้ว ได้ เตรียมใจไว้นานแล้ว
ภายในห้องรอบข้างไร้เสียงไปชั่วขณะ พวกผู้ใหญ่ตกอยู่ ในความเงียบที่ลำบากใจ ธีมนต์ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำได้แต่ เงยหน้าแล้วถามออกไปอย่างใสซื่อ “คุณทวด เตรียมใจอะไร ไว้หรอครับ?”

เขาฟังแล้วก็สับสน ไม่ค่อยเข้าใจความหมาย โพล่งออก ไปอย่างไม่รู้ตัว ขณะที่นัชชาเตรียมจะพูดแทรกก็ไม่ทันแล้ว

นึกว่าคุณจะรู้สึกแย่ คิดไม่ถึงว่าเขาจะหัวเราะออกมา “ทวดเตรียมให้หนูได้ใส่ชุดเพจบอยสวยๆยังไงล่ะ……..

ไม่พูดเสียยังดีกว่า พอฟังแล้วนัชชาก็ปวดใจ

เธอละสายตาออกมาทันที กลัวว่าตัวเองจะทนไม่ไหว

ร้องไห้ออกไป

ทุกคนกลั้นหายใจเอาไว้ ไม่อยากให้บรรยากาศอึมครึม

เธอจึงได้แต่กลั้นไว้

ดังนั้น ก็เป็นแบบนี้แหละ วันแต่งของพวกเขาก็คือวันเสาร์ หน้า วันที่สิบแปดของเดือนนี้

ตอนที่รวมตัวกันสุดสัปดาห์ เตชิตก็พานัชชาไป และได้ บอกข่าวนี้กับทุกคนพอดี และก็ได้พูดถึงอาการป่วยของคุณปู่ ด้วย ดีที่เขารอใกล้งานเลิกแล้วถึงได้พูดขึ้น กลัวจะเสีย บรรยากาศ

ทุกคนก็ทำได้แต่ปลอบเขา แล้วก็ปรับเปลี่ยนวันเวลา ให้ว่าง ในวันเสาร์นั้น
ชุดเจ้าสาวก็ได้ทำขึ้นมาก่อนแล้ว นักออกแบบก็ได้เก็บไว้ ตลอด และได้เก็บรักษาไว้อย่างดี ไม่เพียงแต่สีและแบบผ้าไม่ ได้มีขาดตกบกพร่อง สถานที่ที่จัดขึ้นที่โรงแรมที่ดีที่สุดในเมือง นี้ หนึ่งปีก่อนจองสถานที่ไม่ได้ เตชิตจึงยืนกรานหาคนให้เหลือ ห้องที่ใหญ่ที่สุดไว้

นัชชาได้ยินเขาเตรียมการทั้งหมด ก็ไม่ได้มีความคิดเห็น อะไร ไปร้านดอกไม้ในตอนช้า ตอนบ่ายไปรับธีมนต์ก็ไปเยี่ยม คุณปู่ที่โรงพยาบาล เตชิตจัดเตรียมงานแต่งด้วยตัวเอง เจอ หน้ากันเพียงตอนเย็นเท่านั้น

หนึ่งวันกลับบ้านมา นัชชาไม่ค่อยได้ไปที่โรงพยาบาล อยู่ บ้านช่วยธีมนต์สอนการบ้านเสร็จก็กว่าจะกล่อมให้เขานอน เต ชิตถึงจะกลับมา

เห็นผู้ชายที่เหนื่อยล้าไปทั้งร่างกาย นัชชาก็เป็นห่วงเรื่อง

งานแต่งไม่ได้จริงๆ เขารับไม่ไหวแล้วล่ะ

เดินเข้าไปหาด้วยความรู้สึกสงสาร หยิบกระเป๋าทำงาน ในมือของเขา แล้วเงยหน้ามองเวลา สี่ทุ่มกว่าแล้ว “ทำไมกลับ ดึกขนาดนี้?”

“ไปดูสถานที่มาครับ”

“ให้ผู้ช่วยไปดูสิ ไม่งั้นจะเหนื่อยเกินไปแล้วนะ”

เตชิตเอนตัวลงไปเปลี่ยนรองเท้า ลุกขึ้นมามองดวงตา กลมโตที่เต็มไปด้วยความกังวล “นัชชา การแต่งงานมันฉับ พลัน ถ้าผมไม่ได้ดำเนินการด้วยตัวเอง มันจะไม่แฟร์กับคุณนะ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ