ยั่วรักทนายคนโหด

ตอน617การหมั้นที่ฉับพลัน



ตอน617การหมั้นที่ฉับพลัน

ตอนที่ 617 การหมั้นที่ฉับพลัน

หลังจากนัชชาได้ฟื้นฟูร่างกายแล้ว เรื่องแรกที่ทำคือพา ธีมนต์ไปบ้านตระกูลจิวงพงษ์ หลังจากกลับมาจากประเทศ เธอพยายามซ่อนตัวให้มากที่สุด กลัวจะถูกจับได้ ตอนนี้ความ จํากลับมาแล้ว คิดถึงตอนที่เพิกเฉยเมื่อก่อนแล้วรู้สึกผิด

หลังจากยุ่งกับร้านดอกไม้เสร็จ เธอเข้าห้างไปเลือกผ้า คลุมศีรษะแฮนด์เมดหนึ่งผืน โดยเฉพาะ แล้วก็ไปเอาชาดชั้นดี ที่สั่งไว้ล่วงหน้าเรียบร้อยแล้วที่ร้านขายชา และขับรถตรงไปที่ เตนัทลอว์เฟิร์ม

หลังจอดที่โรงรถแล้ว นัชชาก็ขึ้นลิฟต์ไปถึงทางเข้าบริษัท อย่างสบายๆ ขนาดของเตนทลอว์เฟิร์มยิ่งทำยิ่งเติบโต เดิมทีมี สองชั้น จากนั้นเพิ่มเป็นสี่ชั้น ตอนนี้ทั้งหมดมีหกชั้น ศูนย์กลาง ตึกใหญ่ที่แพงแบบนี้ ค่าเช่าเป็นจำนวนไม่น้อยเลย

ตอนนี้ห้าหกชั้นคือโปรเจ็คของต่างประเทศ ห้องทำงาน ของผู้บริหารสูงของบริษัทอยู่ชั้นหก

นัชชาทำการลงทะเบียนเข้าที่แผนกต้อนรับชั้นหนึ่งเสร็จก็ เข้าบริษัทไป วันนี้เธอสวมชุดสูทสีครีมเก็บเอว ด้านในเป็นชุด กระโปรงชีฟองลายดอกไม้ ตอนลงจากรถก็เปลี่ยนเป็นส้นสูง ห้าเซนติเมตรโดยเฉพาะ ทั้งร่างเธอดูแล้วยอดเยี่ยมมาก
เตนัทลอว์เฟิร์มมีพนักงานอาวุโสไม่น้อย ทำงานที่นี่มา มากกว่าสิบปี บางคนก็อยู่ในช่วงเดียวกับที่นัชชาทำที่นี่ เห็น เธอมา ทุกคนก็อยากจะทักทายแต่ก็ไม่กล้า ยังไงเธอก็เป็น ภรรยาของประธาน ไม่ใช่เพื่อนร่วมงานแล้ว

นัชชาก็ไม่ได้ฝัน ยิ้มบางๆ ให้แล้วเดินไปที่ห้องทำงานของ เตชิตต่อไป

กว่าจะถึงประตูทางเข้า เลขาก็เคาะประตูให้เธอ ผลัก ประตูเข้าไป เตชิตกำลังนั่งอยู่บนโซฟากลางห้อง คนที่อยู่กับ เขาอีก คือธนัท

เห็นเธอเข้ามา ทั้งสองก็หยุดบทสนทนาลงโดยบังเอิญ เต ชิตลุกขึ้นเดินมาหาเธอ “มาแล้วหรอ”

“อืม”

“ธีมนต์ล่ะ?”

“ฉันให้คนขับรถไปรับเขาแล้ว เดี๋ยวไปเจอที่บ้านคุณ

พ่อคุณแม่”

เตชิตขมวดคิ้วเล็กน้อย โดยไม่ได้พูดอะไร

นัชชารู้ว่าเขาไม่วางใจ จึงค่อยๆพูดออกมา “ฉันเพิ่งไปซื้อ ของที่ห้างมานิดหน่อย คุณไม่ต้องเป็นห่วง

ธนัทเห็นหนุ่มสาวยืนอยู่ในระดับเดียวกัน หลายปีที่ผ่าน มาทั้งสองก็ได้เจออะไรโชคร้ายกันมา หลายครั้งคนนอกอย่าง เขาก็ยังคิดว่าไม่มีหวังแล้ว แต่ก็ยังประคองกันมาได้จนถึงตอนนี้ เขาไม่รู้ว่าพลังของเตชิตมันมาจากไหน รู้สึกถึงบรรยากาศ ระหว่างทั้งคู่ในตอนนี้ เขาก็เข้าใจแล้ว

คนคนนนี้คงเป็นคนที่ดีที่สุดในชีวิตเขาแล้วล่ะ

นอกจาก

เธอก็ไม่มีใครมีโชคชะตาแบบนี้ “นัชชา ไม่เจอกันนานเลยนะ” ธนัทเดินมาตรงหน้าทั้งคู่

ทําท่าทักทายเลขา “รินชาดำมาให้หน่อย

“พี่ธนัท ไม่ต้องลำบากหรอกค่ะ เดี๋ยวพวกเราก็ไปแล้ว” นัชชาก็รีบห้ามปราม กลัวว่าจะลำบากเขา

“ไม่เจอเธอตั้งนาน สุขภาพเป็นยังไงบ้าง?

ระหว่างที่นัชชาป่วย คนที่เจอบ่อยที่สุดคือปรัณ ปกติธนัท ก็งานยุ่งมาก ถามเตชิตหลายรอบมากว่าอยากมาเยี่ยมไหมก็ ถูกเขาปฏิเสธ เขาก็ไม่ได้ซื้อ

นัชชาพยักหน้ายิ้ม “วางใจเถอะ ทุกอย่างดีแล้ว

ที่จริงไม่ต้องพูดธนัทก็ดูออก สีหน้าของใบหน้าเท่าฝ่ามือ

นั้นไม่เลวเลย มีเนื้อหนังไม่น้อยกว่าตอนเจอเมื่อก่อน ผิวอม ชมพู “ดูเหมือนเตชิตจะบำรุงเธอได้ไม่เลว

พูดจบ เขาก็ถอนหายใจ “คิดว่าทุกปีที่ผ่านไป ทำไมอยู่ที่นี่ ไม่เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาเลยล่ะ?”

นับแล้วปีนี้นัชชาก็สามสิบสองปี แต่อายุบนหน้าเธอไม่มี รอยย่นสักนิด แม้จะดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก แต่ใบหน้าไม่มีริ้วรอย สักนิด โดยเฉพาะตอนนี้ที่อวบอิ่มขึ้นมาหน่อย ดูแล้วเหมือนเต็มไปด้วยคอลลาเจน

ได้ยินดังนั้น นัชชาก็เขิน ทำได้เพียงโบกมือแล้วพูด “พี่ ธนัทไม่ต้องมาแกล้งฉันเลย จินต์ก็ยังสาวอยู่เลยไม่ใช่หรอ”

“เธอน่ะนะ…….” พูดถึงจินต์ ธนัทมีสีหน้าหมดหนทาง “เธอ ใช้อารมณ์เก่ง”

นัชชาอยากจะปกป้องเธอ แต่พอคิดถึงเวลาเธออารมณ์ไม่ ดี ก็ทำได้เพียงเงียบไปโดยปริยาย

“จริงด้วย มีเรื่องที่ยังไม่ทันบอกทุกคน ในเมื่อเธอสองคน อยู่พอดี ฉันก็จะบอกก่อน” ธนัทจู่ๆก็นึกอะไรขึ้นมาได้ แล้วพูด ออกมาอย่างเป็นปริศนาอย่างมาก จากนั้นก็เอ่ยปากออกมา อย่างไม่รีบร้อน “ฉันหมั้นกับจินต์แล้วนะ”

นัชชา “………….

เตชิต “……”

ทั้งสองไม่ได้พูดอะไร ไม่ใช่ไม่ดีใจ แต่……….ประหลาด

ใจเกินไป

การที่จู่ๆหมั้นกันแบบเงียบๆ? ก่อนหน้านี้หนึ่งปี ธนัทและ จินต์ทั้งสองทะเลาะกันเมื่อไหร่ก็จะทะเลาะกันให้แตกไปข้าง

“จัดเมื่อไหร่?” สุดท้าย เป็นเตชิตที่มีสติกลับมา ธนัท โพล่งออกมาแบบไม่คิด “วันที่สิบหกเดือนที่แล้ว

“วันที่ไม่เลว”
“แน่นอนอยู่แล้ว”

นัชชาฟังบทสนทนาของผู้ชายทั้งสอง ในที่สุดก็รู้สึกจริงๆ ได้รู้ว่าเพื่อนรัก ในที่สุดก็เจอความสุขส่วนหนึ่งของชีวิตสักที เธอตื่นเต้นไม่ไหวแล้ว

เธอรู้ว่าในปีนั้นเพราะว่าตัวเองหายไป จินต์กับธนัท ทะเลาะจนเลิกกัน เพราะว่าเธอโทษเตชิต และโทษคนรอบกาย ของเตชิต เพื่อตัวเอง เธอไม่ได้พิจารณาความสุขของตนเอง วัน นี้ได้ยินข่าวนี้ ก็เหมือนแบกหินออกจากอก

เตชิตยกมือขึ้นวางบนไหล่เธอ เห็นขอบตาเธอแดงเล็ก

น้อย ก็ปลอบเธอเล็กน้อย “เรื่องดี ไม่ต้องร้องไห้ “พี่ธนัทคะ พี่ต้องดูแลจินต์ดีนะๆ เธอโดนเอาใจมาตั้งแต่ เล็ก พี่ห้ามทำให้เธอลำบากและน้อยใจเลย” นัชชาแกล้งเตือน

ออกไปด้วยความแข็งกร้าวทั้งๆที่ไม่รู้ร้องไห้หรือหัวเราะ

เหมือนเป็นผู้ปกครองของเธอ

ธนัทพูด “วางใจได้ แค่ลำบากและเหนื่อย ไม่ทำให้เธอ น้อยใจเธอสักนิด”

จินต์ปกติดูแล้วเป็นคนที่เข้มแข็ง มีความกล้ามาก เป็น ท่าทางที่ไม่กลัวอะไร แต่ในใจก็เป็นคนที่อ่อนโยนกว่าใคร มอง เห็นสัตว์ตัวเล็กเดินเตร็ดเตร่อยู่ข้างถนนลำบาก เห็นคนแก่ ลำบากก็อยากเข้าไปช่วยพวกเขา เรื่องพวกนี้ธนัทก็รู้

เตชิตรวบตัวเธอเข้ามา มองไปทางพี่ตัวเอง “วันอื่นเรียก ทุกคนมานั่งคุยกัน เรื่องนี้ฉันจะไม่บอกคนอื่นนะ นายบอกเอง
“ได้ ไม่มีปัญหา” ธนัทก็ตัดสินใจวันทันที “วันอาทิตย์ตอน เย็น? นายว่างไหม?”

“ได้” เตชิตตอบรับทันที แล้วหัวเราะกับตัวเอง “ตอนนี้ฉัน เป็นพ่อบ้านแล้ว เวลาเหลือเฟือ

หลังจากเตชิตกับนัชชาออกมาจากบริษัท ลงลิฟต์ลงไป โรงจอดรถทันที นัชชาขับรถมา เตชิตน่ารถตัวเองจอดไว้ที่ บริษัท ขับรถของเธอไปที่บ้านพ่อตาแม่ยาย

เมื่อเข้าไปนั่งข้างคนขับ นัชชาก็ยกโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหา จินต์อย่างทนไม่ไหว

ผ่านไม่กี่วินาที ก็มีคนรับโทรศัพท์ เสียงกระตือรือร้นของ

จินต์ดังเข้ามา “นัชชาหรอ? ในที่สุดแกก็คิดถึงเพื่อนร้ายอย่างฉันแล้ว ฉันคิดว่าแกลืมฉันไปแล้ว!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ