ยั่วรักทนายคนโหด

ตอน715อารมณ์เหมือนไปเจอพ่อตาแม่ยาย



ตอน715อารมณ์เหมือนไปเจอพ่อตาแม่ยาย

ตอนที่ 715 อารมณ์เหมือนไปเจอพ่อตาแม่ยาย

ดราณีก็มีความคิดแบบนี้พอดี เลยพยักหน้า “ดีค่ะ แต่แม่

ไม่ต้องรีบหรอก รอให้พ่อสุขภาพดีขึ้นก่อน สำหรับเรื่องอื่นค่อย คุยก็ยังไม่สาย”

“อืม ดี!” เสนานี้เห็นเธอพูดแบบนี้ก็ยิ่งวางใจ คิดถึงชนัย จึงถามขึ้น “เดี๋ยวถ้าพ่อดีขึ้นแล้ว วันไหนพวกเราชวนเจ้านาย ลูกมาทานข้าว เป็นการขอบคุณน้ำใจเขาสักหน่อย

ดราณีกระตุกเปลือกตาเล็กน้อย นึกภาพที่พวกเขาทาน ข้าวด้วยกัน…….

“แม่คะ ไม่ต้องหรอก เจ้านายปกติเขายุ่งมาก ไม่มีเวลา ทานข้าว”

“งั้นลูกถามเขาหน่อย ยังไงก็ต้องขอบคุณเขา ไม่มีเวลา ทานข้าวอย่างน้อยก็ต้องไปขอบคุณต่อหน้า อาจจะไม่เหมาะสม พวกเราต้องสำนึกบุญคุณนะ!” เสนานยิ่งพูดก็ยิ่งประทับใจ สำหรับเธอ เงินแสนมันเป็นตัวเลขที่เยอะมาก ถ้ายอมรับอย่าง เงียบๆจริงๆ ในใจเธอคงหนักอกหนักใจ

ดราณีไม่อยากทำให้เธอตื่นเต้น จึงได้แต่พยักหน้า “โอเคงั้นเดี๋ยวหนูกลับไปถาม

ดังนั้น อยู่โรงพยาบาลอาทิตแรกผ่านไป ตอนตรวจสุข ภาพของทยุติอีกครั้งชนัยก็มาเยี่ยมด้วยตัวเองหนึ่งครั้ง ดราณี ห้ามไม่อยู่ จึงได้แต่ประจันหน้ามากับเขาอย่างหมดหนทาง

“คุณไม่ต้องมาแล้ว คุณมาแล้วแม่ฉันไม่ปล่อยคุณไปแน่

“??” ใบหน้าชนัยเต็มไปด้วยความตะลึง เดิมที่เธอปฏิเสธ เขาไม่หยุดจนทำให้เขาหงุดหงิด ตอนนี้ก็ห้ามไม่อยู่แล้ว “หมายความว่ายังไง?

ดราณีไม่มีทางเลือก จึงได้แต่พูดความจริง “ก่อนหน้านี้แม่ ฉันพูดว่าคุณช่วยครอบครัวพวกเรามากขนาดนี้ อยากจะชวน คุณมาทานข้าวและขอบคุณต่อหน้า ฉันกว่าผลัดได้ ตอนนี้คุณ ไปเธอต้อง……

“งั้นดีเลย!” สิ่งที่เหนือความคาดหมายคือ ชัยไม่ได้ถอย หนี แต่กลับตอบตกลง “คุณแม่อยากเจอฉัน ฉันจะไม่มีเวลาได้ ยังไง ถึงจะไม่ว่างก็ว่าง โอเคไหม?”

พูดจบ จู่ๆเขาก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่าง หรี่ตามองหญิงสาว ตัวเล็กที่นั่งข้างๆ “ดราณี ทำไมเธอเป็นแบบนี้ ไม่ถามความเห็น คนอื่นเลย เธอรู้ได้ยังไงว่าฉันจะไม่ไปอ่ะ?”

คราวนี้ทําให้ดราณีดูทิ่มไปเลย

เธอไม่เข้าใจว่าชนัยจะทานอาหารกับเสนานีลงได้อย่างไร พวกเขาจะคุยอะไรกัน?
“ฉันคิดดูแล้วคุณน่าจะปฏิเสธอะ ฉันเลยยืดเยื้อมันมา ตลอด……”

“ฉันอะไรล่ะ ฉันดีใจมากนะ! ทานข้าวกับคุณแม่นั่นคือ ความสุขของฉันเลย” ชนัยยิ่งพูดก็ยิ่งกระตือรือร้น สุดท้ายก็ โทรหาผู้ช่วยให้ไปจองร้านอาหารทันที “เอาวันนี้แล้วกัน ฉันให้ คนจองที่ที่บรรยากาศดี พวกเราไปทานอาหารกลางวันด้วย กัน”

ดราณีเกิดลางสังหรณ์ใจอะไรบางอย่าง “คุณ……อย่าตื่น เต้นสิ”

“ฉันเปล่าตื่นเต้น ผมมีเหตุผลมาก” ชนัยพูดไปด้วยพลาง ส่งข้อความไปหาผู้ช่วย “คุณแม่ชอบทานอะไร? โดยปกติแล้ว คนอายุเท่านี้ ค่อนข้างชอบทานอาหารจีนใช่ปะ?”

ดราณีเห็นเข้าตั้งใจเตรียมการมาก เลยกดมือเขาไว้ ใช้ สายตาสบตากับเขา เธอค่อยๆพูดอย่างจริงจัง “ชนัย นั่นแม่ฉัน นะ”

ชนัยถอนหายใจไร้เสียง แล้วพยักหน้า “รู้แล้ว

“งั้นคุณไปเจอ ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอ?”

“แปลกตรงไหน?”

“ก็……” ดราณีไม่รู้จะพูดอย่างไร คิดอยู่นานก่อนจะโพล่ง ออกมาอย่างยากลำบาก “คุณเป็นแฟนฉันนี่ ครอบครัวฉันก็ไม่รู้ คุณไปตอนนี้ก็ถูกจับง่ายๆเลยสิ”

“ไม่หรอก” ชนัยขมวดคิ้ว “ถึงฉันจะป่าวประกาศ แต่ถ้า เธอรู้สึกว่ามันไม่เหมาะสม ฉันช่วยเธอโกหกก็ได้”

อะไรนะ??

ดราณีอึ้งไปเลย พูดโกหก?! เขาใช้คำนี้บรรยายเธอน่ะหรอ?

“ฉัน ฉัน…..” ดราณีพูดไม่ออก ยิ่งเห็นสายตาที่ไม่สงสัย ของเขา รู้สึกเหมือนว่าตัวเองจะเป็นแฟนที่ไร้ความรับผิดชอบ

กลายเป็นความผิดเธอได้อย่างไร?

“เธอไม่ต้องกังวลหรอก แค่ทานข้าวด้วยกันเอง ฉันไม่พูด อะไรหรอก อีกอย่างนะ คุณแม่อยากเจอฉัน คุณห้ามไปก็ไม่ใช่ เรื่อง ช้าเร็วยังไงก็ต้องเจอ” ชนัยพูดกับเธออย่างมีเหตุผล “ไม่ งั้นแม่เธอต้องเก็บเรื่องนี้ไว้ในใจอยู่ตลอดเวลา ซึ่งมันไม่ดีกับ เธอและฉัน ต้องเข้าใจด้วย

ดราณีค่อนข้างสับสนกับคำพูดของเขา แบบนี้จริงๆแหละ เสนานี้เป็นผู้สูงอายุแล้ว ช่วงนี้เธอก็กังวลเพราะเรื่องเงินมาโดย ตลอด

เงินเป็นแสนน่ะ สำหรับครอบครัวธรรมดาอย่างพวกเธอ มันมากเกินไปจริงๆ ถ้าไม่เจอคนอย่างชนัยล่ะก็ คงไม่สบายใจ อยู่ตลอด

เธอค่อนข้างไม่สบายใจ
ถ้าได้เจอจริงๆ เรื่องจะเป็นยังไงต่อไปก็ไม่แน่นอน

ชนัยเห็นว่าเธอไม่พูดอะไรก็รู้ว่าเธอแอบลังเล ถือโอกาส พูดตอนนี้ “เอาอย่างนี้แล้วกัน ฉันไปที่ร้านอาหารรอเธอกับแม่ เธอ พ่อเธอตรวจสุขภาพเสร็จก็ค่อยมา แบบนี้โอเคไหม? ทาน อาหารก็เอาเธอเป็นหลัก ไม่ว่าเธอจะพูดยังไงฉันก็ยอม โอเค ไหม?”

ที่จริงปกติชนัยเป็นคนที่เกลียดการติดต่อกับผู้ใหญ่มาก ที่สุด ผู้อาวุโสในบ้าเขาก็เลี่ยงหมด แต่สำหรับแม่ของดราณีไม่ อยู่ในสถานการณ์นี้

แม้แต่เขาก็ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองกระตือรือร้นขนาดนี้ แค่คิด ว่าจะได้เจอพ่อเธอ ในใจก็ตื่นเต้นดีใจเป็นพิเศษ ราวกับว่า ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาจะพัฒนาไปอีกขั้น

ชนัยยิ่งรู้สึกว่าที่เขาช่วยการรักษาทยุติในตอนแรก

เป็นการเลือกที่ถูกที่สุดที่เคยทำมาจริงๆ

“งั้นโอเค” ดราณีคิดอยู่นานสุดท้ายก็ยอม “แต่คุณห้าม รุ่มร่ามนะ ครอบครัวฉันเป็นคนหัวโบราณมาก ฉันไม่อยากให้ เพวกเขาคิดมาก”

“ได้สิ” ชนัยรีบพยักหน้า ตอนนี้ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรก็เป็น เรื่องดีหมด ไม่มีการบ่นสักนิดเดียว ดังนั้น ทั้งสองก็ได้ตัดสินใจอย่างมีความสุขในการทานอาหารกลางวันนี้
หลังจากถึงโรงพยาบาล ดราณีไปตรวจร่างกายเป็นเพื่อ นทยุติเร็จถึงจะบอกเสนานี หลังจากได้รู้ข่าว เสนานี้ก็รีบเปลี่ยน เสื้อผ้าใหม่ หวีผมให้เป็นระเบียบเรียบร้อย

“แม่แบบนี้โอเคไหม?” เธอส่องกระจกไปด้วยพลางถาม

ลูกสาวข้างๆไปด้วย

ดราณีเห็นเธอแต่งตัวเป็นทางการแบบนี้ ก็แอบรู้สึก แปลกๆอย่างมาก ให้อารมณ์เหมือนกับไปเจอพ่อตาแม่ยาย อะไรแบบนั้น

เธอก็ค่อนข้างกังวลอย่างเลี่ยงไม่ได้ “โอเคแล้วแม่ พวก เราไปกันเถอะเดี๋ยวจะสาย

“โอเคๆ”

เสนานีถือกระเป๋าออกไป สองแม่ลูกควงแขนกันออกจาก โรงพยาบาล ตอนแรกจะนั่งรถไป ไม่คิดว่าตอนจะออกประตูไป ก็มีรถเบนซ์สีดำเบนซ์สีดำชั้นหนึ่งจอดอยู่

“สวัสดีครับ ใช่คุณเสนานี้หรือเปล่าครับ?” เขาลดกระจก ลงมา คนขับรถชะโงกศีรษะออกมาถามอย่างเคารพ

เสนานีที่ตัวเอง เคยเจอสถานการณ์แบบนี้ที่ไหน “ชะ ใช่

“คุณชนัยให้ผมมารับพวกคุณ ทั้งสองขึ้นรถได้เลยครับ”

ดราณีได้ยินคำพูดนี้ ก็แอบกรอกตาทันที บอกว่ารออยู่ที่ ร้านอาหาร ตัวเองไม่มีแต่ให้คนขับรถมา
เธอเหลือบมองปฏิกิริยาของเสนาน ค่อนข้าง……..กลัว

จริงๆ

ทำได้เพียงแกล้งยิ้มแล้วเปิดประตูรถขึ้นไป แล้วบังคับตัว เองให้พูด “แม่คะ เจ้านายเป็นคนที่สุภาพเอาใจใส่คนอื่น เราขึ้นรถเถอะค่ะ เดี๋ยวสาย”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ