ยั่วรักทนายคนโหด

ตอน622ความเคลื่อนไหวของงานแต่งงาน



ตอน622ความเคลื่อนไหวของงานแต่งงาน

ตอนที่ 622 ความเคลื่อนไหวของงานแต่งงาน

นัชชาไม่คิดว่าเขาจะพูดอย่างนี้ ยังไงสุขภาพของคุณใน ตอนนี้ทุกคนก็ได้ให้ความใส่ใจแล้ว เธอก็ไม่ได้ร้องขออะไรที่ ไม่มีเหตุผล ยังไงในช่วงเวลาแบบนี้ เธอเข้าใจทุกอย่างอยู่แล้ว

แต่ว่ามีเหตุผลก็มีเหตุผล แต่ความผิดหวังในใจนิดหน่อย ก็คงมี งานแต่งนี้พวกเขาก็รอคอยกันมานานมาก และมันไม่ได้ มาง่ายๆ ทุกวันนี้การดำเนินงานด้วยวิธีทนี้ยังไงก็ทำให้รู้สึก เสียใจอย่างอธิบายไม่ได้

แต่คำพูดเขาตอนนี้ทำให้ภายในใจของนัชชาเต็มไปด้วย ความผิดหวังและความเสียใจอย่างไม่ต้องสงสัย สิ่งที่ผู้หญิง ต้องการ ไม่ใช่เงินทองหรือรูปแบบ แต่เป็นการเอาใจใส่ของ ผู้ชายเท่านั้น

มองเห็นแบบร่างที่คุ้นเคยตรงหนน้า เธอไม่รู้จะพูดอะไร

เพียงแต่อยากขอบคุณ “เตชิต พอแล้วนะคะ ขอบคุณที่คุณ แต่งงานกับฉัน”

ได้เป็นเจ้าสาวของเขา แค่นั้นก็พอแล้ว

แสงยามค่ำคืนที่หนาแน่น แสงไฟอ่อนๆบนศีรษะสะท้อนลงมาที่ร่างทั้งคู่ ในขณะนี้ ไม่ใช่คุณกับฉันอีกต่อไป แต่เป็นพวก เรา เป็นครอบครัวหนึ่ง

การวางแผนพิมพ์บัตรเชิญงานแต่ง ใช้เวลาทั้งหมดสองวัน ใบการ์ดสีชมพูมีตัวหนังสือตัวใหญ่สีทองแดง มุมทั้งสี่ประดับ ด้วยลูกไม้ เปิดออกมาก็จะเป็นปราสาทสามมิติปรากฏขึ้นมา งดงามมาก

ของชำร่วยคือกล่องเรียบๆสีชมพู ด้านในเต็มไปด้วย ดอกไม้อมตะ พื้นที่แบ่งออกเป็นสี่ส่วน พื้นที่หนึ่งมีช็อคโกแลต ทำมือครอบครัว G วางอยู่ พื้นที่หนึ่งวางน้ำหอมหนึ่งขวด ว่า กันว่าความหมายของดอกไม้หลักน้ำหอมนี้คือรักที่ไม่ เปลี่ยนแปลงตลอดกาล อีกสองพื้นที่ที่เหลือ หนึ่งคือวางขนม หวานนำเข้าจากแบรนด์เดียวกัน อีกหนึ่งวางการ์ดภาพร่าง ภาพเหมือนหนึ่งใบ

ตามคนที่ได้รับบัตรเชิญ ข่าวการแต่งงานของเตชิตก็เป็น ข่าวใหญ่โตอย่างรวดเร็ว ครั้งหนึ่งที่พวกเขารักๆ เลิกๆกันก็ถูก ขุดขึ้นมา คนจำนวนไม่น้อยยืนออกันหน้าประตู แต่การดูแล ความปลอดภัยดีมากจนเข้าไปไม่ได้

เป็นประเด็นร้อนในออนไลน์อยู่หลายวัน คนจำนวนไม่ น้อยคิดว่าคนฐานะอย่างเตชิต เลือกจัดงานแต่งในโรงแรมท้อง ถิ่น ดูไม่ค่อยให้ความสำคัญมากนัก แม้ว่าโรงแรมนี้จะแพงหู ฉีก แต่เทียบกับฐานะของเขาแล้วก็ไม่เท่าไหร่
นัชชาเห็นการถกเถียง ในใจสงบนิ่งมากอย่างเหนือความ คาดหมาย บางทีอาจจะประสบความเป็นความตายมาหลาย ครั้ง เรื่องพวกนี้ดูแล้วเป็นเรื่องเล็กน้อย คิดว่าเป็นเพียงขี้ปาก ชาวบ้านที่ไม่สำคัญ ไม่จำเป็นต้องใส่ใจ

ในตอนแรกไตรดากลัวว่าเธอจะมีผลกระทบอะไร คิดไม่ ถึงว่าเธอไม่ได้มีผลกระทบอะไรสักนิด ทำในสิ่งที่ควรทำ ทำให้ เขายิ่งมองเธอใหม่

แต่พูดถึงข้อดีใช่ไม่มี อย่างน้อยประเด็นร้อนนี้ ร้านดอกไม้ ของเธอก็กลายเป็นที่นิยมอีกครั้ง การสร้างแนวร่วมธุรกิจก็ใกล้ จะเกิดขึ้น คนจำนวนไม่น้อยชอบมาขอคำปรึกษาโอกาสด้าน ธุรกิจ เพียงแต่ในตอนแรกเงื่อนไขในการสร้างแนวร่วมของ ไตรดานั้นเข้มงวดมาก ยังไม่เจอผู้สมัครที่เหมาะสมชั่วคราว

ยิ่งต้องมาจัดงานแต่งงาน ต้องทำร้านดอกไม้ สี่วันสุดท้าย ก่อนถึงวันแต่ง นัชชาก็ขอลางาน พลังงานนั้นมีจำกัด เธอจะ ต้องดูแลตัวเองสักหน่อย

ไตรดานั้นมีความสุขมาก “เธอน่าจะลางานตั้งนานแล้ว รีบ ไปเถอะ งานสำคัญของชีวิต ฉันอวยพรให้ล่วงหน้า เจอกันที่ งานจ้า”

นัชชาตอบรับด้วยความยินดี ในที่สุดก็ได้มีความรู้สึกของ การแต่งงานอย่างแท้จริง “โอเค เจอกันที่งานจะ

ก็แบบนี้ เวลาหนึ่งวันผ่านไป วันแต่งงานก็มาถึง วันวันงาน แต่งอันใหญ่โต ทุกส่วนในโรงแรมมีการจัดการที่เข้มงวด ชนัยเป็นสื่อกลาง ใครกล้าแอบถ่ายรูป ก็เท่ากับฝ่าฝืนความตั้งใจ ของพี่น้อง

อาจจะเป็นเพราะการรวมอำนาจของชนัยและปรัณที่ช่วย กัน เลยไม่มีสื่อไหนกล้ามาเล่นตุกติก ตั้งแต่เริ่มงานจนเลิกงาน ถ่ายได้แต่รถของงานแต่ง แม้แต่เจ้าบ่าวเจ้าสาว ก็ไม่เห็นแม้แต่ เงา

ชนัยนั่งรถเบนท์ลีย์คันยาวแล้วลงจากรถที่หน้าประตู โรงแรมอย่างโอ้อวด เขาสวมชุดสูทสีชมพูอ่อน ผูกโบว์ที่ สมบูรณ์แบบอยู่ตรงคอปกเสื้อ ทรงผมถูกจัดมาอย่างเป็น ระเบียบเรียบร้อย เป็นประกายแวววาว ร่างกายสูงใหญ่ราวกับ เป็นต้นไม้อันแข็งแรง

เขาเป็นคนแรกที่ปรากฏกายที่หน้าประตูโรงแรม นักข่าว รีบเก็บภาพโดยทันที มีแสงแฟลชกระทบใบหน้าร้ายกาจนั้น

“คุณชนัยคะ วันนี้คุณมาร่วมงานแต่งคนเดียวหรอคะ?”

“คุณชนัย คนที่มาร่วมงานแต่งวันนี้เป็นเพื่อนที่ทุกคนรู้จัก ใช่ไหมครับ?”

“คุณชนัย ยอมรับกับข่าวลือออนไลน์หรือเปล่าคะ?”

ชนัยได้ยินเสียงที่แย่งกันถามดังขึ้นมา ยกมือขึ้นมาปิดหู เหมือนว่ามันหนวกหูอย่างนั้นแหละ แล้วเอ่ยออกไปช้าๆ เอา ล่ะๆ ทุกคนถามขึ้นมาพร้อมกันผมก็ฟังไม่ชัด จริงไหม? วันนี้เป็นวันที่น่ายินดีของพี่ชายผม เดี๋ยวโรงแรมจะมาแจกขนมใน งานให้ทุกคนนะครับ ยินดีกันหน่อยนะครับ อย่าทำท่าผิดหวัง แบบนี้ ไปละ

พูดจบประโยค ชนัยก็หันตัวเข้าไปในโรงแรมทันทีโดยมี การคุ้มกันจากบอดี้การ์ด เหลือเพียงแผ่นหลังสบายๆ ให้ทุกคน

นักข่าวพวกนั้นเห็นเขาเข้าไปแล้ว ก็ไม่ได้ถามอะไรออกไป จึงบ่นพึมพำออกมาอย่างต่อเนื่อง “อะไรกันเนี่ย ไม่พูดอะไรเลย ขี้เหนียวเกิ๊น…….”

“โอเค ไม่ต้องพูดแล้ว เดี๋ยวได้ยินแล้วจะหายนะ”

ภายในโรงแรม ในห้องโถงงานเลี้ยงเต็มไปด้วยแขกผู้มี เกียรติที่มาร่วมงาน ทุกคนล้วนขึ้นมาจากโรงจอดรถชั้นใต้ดิน มายังชั้นหนึ่ง แล้วขึ้นลิฟต์มาที่นี่ เพื่อเลี่ยงการวางระเบิดจาก นักข่าว

ในงานมีโต๊ะวางอยู่สิบหกตัว สไตล์ไม่เหมือนกับงานรื่น เริงอื่นๆที่มีเป็นสิบถึงร้อยตัว งานรื่นเริงครั้งนี้มีคนจำนวนไม่ มาก แต่ทุกคนล้วนเป็นคนใหญ่คนโตและมีเกียรติ ปรัณและ ชนัยถูกจัดให้นั่งโต๊ะด้านหลังที่เป็นโต๊ะของครอบครัว บอกได้ เลยว่ามีหน้ามีตามาก

ปรัณเห็นเขาเดินมา จึงถามด้วยเสียงทุ้ม “เข้ามาจาก ชั้นใต้ดินหรอ?”

“เปล่า” ชนัยนั่งลงไปอย่างวางท่า ถือโอกาสปลดกระดุมชุทสูท “ผมเข้ามาจากหน้าประตู

“……” ปรับส่ายหน้า เขารู้ “นายไม่กลัวนักข่าวจอมซื้อ พวกนั้นเลยสินะ”

ใครจะไปรู้ คนคนนี้ไม่ได้ใส่ใจ “ใครจะกล้าซื้อผม

ปณคิด ดูเหมือนว่า……..ก็มีเหตุผลนะ

?”

แต่แป๊ปเดียวชนัยก็พบว่าการที่นั่งอยู่ในห้องโถงที่สว่าง โอ่อ่าแห่งนี้ เขาก็ตื่นเต้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แต่ว่าเป็น งานแต่งของพี่เตชิต ทำไมผมถึงได้ตื่นเต้นขนาดนี้อ่ะ?”

ธนัทพ่นเสียงออกมา “พวกเราจะไปรู้ได้ไง”

“เพราะประสบการณ์ยังน้อยแน่ๆ” ชนัยพูดขึ้นด้วยตัวเอง “รอครั้งหน้าเป็นวันแต่งนาย ฉันน่าจะไม่ตื่นเต้นอย่างแน่นอน”

ธนัทคิดในใจ: ขอบใจนะ

อีกด้านหนึ่ง นัชชากำลังให้ช่างแต่งหน้ามาแต่งแต้มสีสัน บนใบหน้าเธอ ตรงหน้าเธอมีกระจกไฟ LED สีเหลืองอ่อนสอง ด้าน แสงไฟสีเหลืองอ่อน ยิ่งขับให้ใบหน้าเธออ่อนโยนขึ้นมา

ช่างแต่งหน้าช่วยเธอวาดคิ้วและดวงตา ทั้งๆที่ดูไม่ออกว่า แต่งหน้าจัด แต่ก็จัดการในส่วนของดวงตาได้ดีมาก

“พื้นฐานใบหน้าของคุณนัชชานี่ดีมากเลยนะคะ” ช่างแต่งหน้าไม่รู้ว่าถอนหายใจออกมาด้วยอารมณ์กรอบแล้ว ทุกครั้งที่มองเครื่องหน้าและผิวพรรณที่ยังไม่ได้ลงแป้ง ยังสวยเหลือเกิน ก็อดไม่ได้ที่จะประทับใจสุดๆอีกครั้ง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ