ยั่วรักทนายคนโหด

ตอน719ฉันจะไปหาคุณ



ตอน719ฉันจะไปหาคุณ

ตอนที่ 719 ฉันจะไปหาคุณ

และเพียงเอ่ยถึงพ่อของเขา เขาถึงจะมีสีหน้าท่าทางแบบนี้ ตั้งแต่เขาอายุยี่สิบหกปี คำว่าคุณพ่อสองพยางค์นี้เป็นคำต้อง ห้ามในชีวิตเขา

ความเงียบเหมือนป่าช้าทำให้บรรยากาศของทั้งคู่ยิ่ง รุนแรงเข้าไปอีก ชนัยเป็นคนไม่อดทน “ไม่มีอะไรก็กลับไปเถอะ ครับ”

คุณปุ๋ยขึ้น สุดท้ายก็มองเขาอย่างลึกซึ้ง “ทำโปรเจ็คนี้ให้ สําเร็จ อย่าทําพลาดอีก”

พูดจบ เขาก็ทิ้งชนัยที่ตัวแข็งที่อไว้ข้างหลัง เดินตรงออก

จากห้องไป

เปิดประตูออก พวกบอดี้การ์ดก็เดินตามเขาไปทีละคน เสื้อสูทสีดำเสื้อเชิ้ตสีขาว เดินตามคุณไปทางลิฟต์อย่างเป็น ระเบียบ

จากนั้น ถึงจะออกมาไม่กี่ก้าว ในห้องก็มีเสียงสิ่งของหล่น แตกดังโครมครามน่ากลัว คุณปูหลับตาเบาๆ ทำเป็นเหมือนไม่ ได้ยินอะไร

อีกด้านหนึ่ง หลังจากผู้จัดการเห็นคุณปู่ออกจากลิฟต์ไปแล้ว ก็อยากขึ้นมาดูสักหน่อย ไม่คิดว่าเพียงก้าวเท้าเข้าไป ตรง ปลายเท้ามีโทรศัพท์ลอยมา

เสียงดัง “โครม ลงมาที่ข้างเท้า แตกละเอียดเป็นชิ้นๆ

ผู้จัดการด้านหลังจับเขาไว้ “อย่าเข้าไปครับ รอให้คุณ ชนัยเย็นลงก่อนค่อยคุย

ไม่ได้กลัว และไม่ใช่เพิกเฉยในหน้าที่ เพียงแต่ทุกครั้งที่ คุณปู่มามคลับเฮาส์จะก่อให้เกิดภาพโหดเหี้ยมแบบนี้ และวิธี จัดการที่ดีที่สุดคือการให้ชนัยเย็นลงด้วยตัวเอง

ไม่อย่างนั้น จะยิ่งทำให้เขาอารมณ์เสีย

ในตอนนี้ ไม่มีใครสามารถปลอบโยนเขาได้ ไม่มีใครช่วย เขาได้เหมือนกัน ถึงผู้จัดการจะไม่รู้ว่าเนื้อหาที่ทั้งสองพูดคุยกัน คือเรื่องอะไร แต่ทุกครั้งที่ทำให้ชนัยสูญเสียการควบคุมแบบนี้ จะต้องเป็นเรื่องที่จริงจังมากอย่างแน่นอน

ผู้จัดการก็แอบลัว เลยออกมาอยู่อีกฝั่ง “งั้นฉันรออยู่ข้าง

นอกแล้วกัน”

หลังจากดราณีกลับโรงพยาบาลกับเสนาน คุณป้ากับคุณ ลุงก็มาแล้ว ทั้งคู่นำซุปกระดูกที่ตื่นมาอย่างดีให้กับทยุติ กลัว ว่าอาหารที่โรงพยาบาลจะไม่ดี

เห็นว่าพวกเธอมาสาย เลยอดถามไม่ได้ “ฉันได้ยินพ่อ บอกว่าไปทานข้าวกับเจ้านายคนนั้นเมื่อตอนกลางวันหรอ?”
ดราณีที่เพิ่งถูกเสนานีอบรมเมื่อครู่ ตอนนี้จึงไม่กล้าพูด อะไรมาก หลังจากเรียกอย่างเชื่อฟังแล้วก็ก้มหน้าออกไปกดน้ำ ให้ทยุต

– เสนานีนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวเล็กข้างๆ และตอบอย่างสบายๆ “ไปเลี้ยงอาหารเขาน่ะ ยังไงก็เป็นคนที่มีบุญคุณกับครอบครัว เรา”

“ก็จริง” คุณลุงก็อีกหน และถามต่อทันที “แต่เขาเป็น เจ้านายใหญ่โตขนาดนั้น มีเวลายอมออกมาทานอาหารกับ พวกเรา เกิดขึ้นได้ยากมากเลยนะ

เสนานฟังคำถามของพวกเขาออก เขาเป็นคนดี ครอบครัวคนอื่นค่อนข้างมีปัญหา เขาก็ยังคิดบวกกับคนอื่น แต่ ยังไงก็เป็นคนในครอบครัว และและตรงหน้าเตียงของทยุติ เธอ ก็ไม่ได้แสดงอาการที่โอเวอร์เกินไป

“เขาจะเป็นเจ้านายยังไงก็ไม่เกี่ยวกับพวกเรา เดี๋ยววัน ไหนฉันทำใบยืมเงินให้ตราณีส่งไปให้ ฉันกับทยุติจะรวบรวม เงินไปคืนเขา”

ได้ยินเธอพูดแบบนี้ ป้าก็รีบเอาศอกกระทุ่งลุงข้างๆ แล้ว แกล้งยิ้มพูดต่อ “จริงด้วยๆ ยังไงเงินก้อนนี้ก็ยืมเขามา ยังต้อง คืน”

ดังนั้น คำถามนี้ก็จบลงแบบนี้ สุดท้ายก็ไม่ได้ปลุกปั่นต่อ ให้พูดต่อก็ไม่รู้ว่าจะถามอะไรออกไป

ตอนที่ดราณีกลับมาถึงห้องผู้ป่วย ก็ไม่มีใครพูดถึงชนัยแล้ว เธอแอบโล่งอก เอาน้ำร้อนวางไว้ข้างหัวตัว แล้วช่วยนวด ขาให้ทยุติ

ไม่ได้ลงจากเตียงมาหลายวัน ร่างกายต้องแข็งมากแน่ๆ

การนวดจะทำให้เลือดไหลเวียนได้ปกติ ทำให้ไม่ทรมาณมาก “เธอทั้งคู่กลับไปก่อนเถอะ ฉันจะอยู่กับตราณีเอง พรุ่ง นี้เข้ามาแทนก็พอแล้ว” เสนานเห็นว่าไม่มีอะไรก็ให้สองสามี

ภรรยากลับบ้านไปก่อน

ป้าไม่ได้เกรงใจ “งั้นก็โอเค มีอะไรก็โทรศัพท์หาฉันนะ ฉัน ไปก่อน”

หลังจากไปส่ง ดราณีก็ให้เสนานไปนอนบนเตียงเล็กข้างๆ สักหน่อย เธอจะดูช่วงบ่ายเอง ตอนเย็นค่อยเปลี่ยน ถ้าไม่พัก ผ่อนอยู่ตลอดเวลาจะแย่เอา

เสนานนี้หลับไปจนถึงหนึ่งทุ่มครึ่ง ตอนที่ตื่นขึ้นมา ข้าว

ยังไม่ได้ทานก็รีบให้ดราณีไปก่อน

ดราณีก็ทำให้เธอเปลี่ยนใจไม่ได้ ถือโทรศัพท์เดินไปที่โรง อาหารของโรงพยาบาล คิดว่าเดี๋ยวจะสั่งอาหารไปที่ห้อง แบบ นี้เสนานี้จะได้ไม่ต้องรอให้เธอทานเสร็จ

ระหว่างทาง เธอยกโทรศัพท์ขึ้น วันนี้ตอนบ่ายไม่ได้ ติดต่อกับชนัยเลย ที่แปลกก็คือ อีกฝ่ายไม่ได้แม้แต่จะส่ง ข้อความมาหาเลยแม้แต่ข้อความเดียว

แปลกจัง หรือว่าบ่ายวันนี้จะยุ่งอยู่ตลอด
เมื่อก่อนขนัยส่งข้อความหาเธอบ่อยมาก หนึ่งวันประมาณ ยี่สิบกว่าข้อความ แม้ว่าส่วนมาเธอไม่ได้รับ แต่อย่างน้อยก็ ต้องมีสักเจ็ดแปดข้อความแหละ

วันนี้…….ผิดปกติไปหน่อยนะ

ดราณีหยุดฝีเท้าลง อยากจะโทรหาเขา แต่กลัวว่าจะทำให้ เขาเสียเวลาทำงาน คิดอยู่นานถึงได้ตัดสินใจ

ลองโทรหน่อยดีกว่า ถ้ายุ่งอยู่ล่ะก็ เธอจะได้รีบวาง

พอคิดแบบนี้ เธอก็หาเบอร์ชนัยแล้วกดโทรออก แป๊ป เดียวก็ได้ยินเสียงสัญญาณไม่ว่างดัง “ตุ๊ดๆ อยู่ข้างหู แต่เสียงนี้ ดังอยู่นานก็ยังไม่มีคนรับ

ขณะที่ดราณีคิดว่าไม่มีคนรับแล้ว จู่ๆข้างหูก็มีเสียงทุ้มคุ้น หูดังขึ้นมา “ฮัลโหล”

“ฮัล ฮัลโหล?” ไม่รู้ว่าทำไม เธอค่อนข้างตื่นตระหนก ปกติ ชนัยจะเป็นคนที่ติดต่อเธอมา เธอโทรไปหาเขาก่อนน้อยมาก ตอนนี้จู่ๆ โทรไปเธอก็รู้สึกไม่สบายใจนิดหน่อย “คุณ คุณทำ อะไรอยู่?”

สิ่งที่เกินความคาดหมายก็คือ น้ำเสียงของเขาไม่ได้ดูตื่น เต้นเหมือนแต่ก่อน ค่อนข้างเซื่องซึม นอน

“นอนหรอ?” ดราณียกโทรศัพท์ออกจากหูเปิดดูเวลา แล้ว ก็เอาแนบหูเหมือนเดิม ปากก็พูดใส่ไมโครโฟน เอ่ยปากถาม แผ่วเบา “ทำไมหลับตอนนี้ล่ะ?”
“เหนื่อยนิดหน่อย”

“ทานข้าวหรือยัง?”

“ยัง”

ดราก็ไม่ได้พูดต่อ ไม่ใช่ไม่เป็นห่วงเขา แต่จากคำตอบ ของเขาทั้งสอง ก็รู้สึกว่าอีกฝ่ายไม่อยากตอบ

นี่ไม่เหมือนชนัยคนบ้าบิ่นเลย อย่างน้อยได้รู้จักเขาใน ระยะสั้น ไม่เคยเห็นท่าทางเขาหดหู่แบบนี้

หรือว่าวันนี้ไม่มีความสุขที่มาเจอกัน? ไม่คิดสนใจตน แล้ว?

คงไม่หรอก คำพูดของเสนานี้เธอไม่ได้บอกเขาสักหน่อย ตอนทานข้าวเสร็จเขาก็ยังมีความสุขมากอยู่เลย แป๊ปเดียว ทำไมถึงได้………

ดราณีค่อนข้างเป็นห่วงเขา จึงรวบรวมความกล้าถามออก ไป “ชนัย ตอนนี้คุณอยู่ไหน?

ตอนที่ถามออกไป เธอตัดสินใจจะไปหาเขา

พอถามออกไป อารมณ์เขาก็ชะงัก “คฤหาสน์ “งั้นหรอฉันแป๊ปหนึ่งได้ไหม ฉันจะเอาอะไรไปให้ทาน

ชนัยไม่ได้ตอบรับและไม่ได้ปฏิเสธ แต่ก็พูดขึ้นทันที “ฉัน ดื่มเหล้า”

ดราณีอึ้งไปเลย เกือบตามไม่ทันกับความคิดเขา นี่มันเพิ่งทุ่มสองทุ่ม ทำไมเขาดื่มเหล้าล่ะ? แปลกจัง แปลกมากเกินไป จริงๆ

การกระทำที่ผิดปกติแบบนี้ทำให้เราณียิ่งเป็นห่วง “คุณ รออยู่ที่บ้านนะ อย่าดื่มอีก โอเคไหม?” ตั้งแต่คุณกลับไปจนถึงตอนนี้ หลายคนก็ได้โน้มน้าวเขา

แต่สุดท้ายสิ่งที่เขาหูเขามีแค่ประโยคเดียวของดราณี

เธออยากมาหาตน ไม่สามารถดื่มเยอะจนทำให้เธอกลัว

ชนัยถือโทรศัพท์พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง “โอเค”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ