ยั่วรักทนายคนโหด

ตอน746กลับมาใช้นามสกุลพ่อ



ตอน746กลับมาใช้นามสกุลพ่อ

ตอนที่746กลับมาใช้นามสกุลพ่อ

แม้ว่าธีมนต์จะยังเด็กแต่ว่าเรื่องราวต่างๆเขาเข้าใจอย่าง ดีมีหลายอย่างที่ไม่เหมือนกับเพื่อนที่อยู่ต่างชาติและเพื่อนที่อยู่ ในประเทศอีกก็มีหลายคนที่เคยถามเขาอยู่เหมือนกัน

“ทำไมนามสกุลไม่เหมือนพ่อ?”

แรกเริ่มเดิมทีคิดว่าก็งั้นแต่ว่าฟังมากเข้าก็เลยรู้ว่าเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ไม่ดีแน่ๆแม้ว่าตัวเขาจะไม่ได้รู้สึกอะไรแต่ว่าใน สายตาคนภายนอกมันก็จะเป็นแบบนี้แหละ

ยิ่งได้ยินเรื่องนี้อีกครั้งธีมนต์เลยนิ่งๆเงียบๆไปคำพูดที่ไม่

ดีไงเขารู้

เตชิตก็ไม่ได้บังคับเด็กน้อยคนนี้ให้ทำเหมือนสบายใจทุก คนต่างมีความคิดเป็นของตนเองมนต์ก็เช่นกันไม่สบายใจก็ คือไม่สบายใจไม่จำเป็นต้องบังคับอารมณ์ของตัวเองให้ สบายใจเพื่อเอาใจผู้ใหญ่

คนตัวตัวโตกับคนตัวตัวเล็กออกมาจากห้องน้ำซึ่งนัชชา กำลังรอพวกเขาอยู่ที่ริมข้างถนนเล็กๆสามคนพ่อแม่ลูกพูดคุย กับคุณครูสักพักแล้วค่อยขอตัวกลับบ้าน

หลังจากขึ้นรถแล้วเตชิตขับรถไปทางร้านอาหารซึ่งเป็นเวลาเลิกงานพอดีรถเลยเยอะติดขัดกันแน่นถนนขับมาได้ครึ่ง ทางเด็กน้อยที่อยู่หลังเบาะนั่งหลับสนิทไปแล้วอาจจะเป็นเพราะ เล่นที่โรงเรียนสนุกไปหน่อย

นัชชาหันหัวกลับไปมองได้แต่ยิ้มขำๆ เมื่อกี้น่าจะเล่นสนุก

สุดๆเลยหลับซะสนิทเลย เตชิตมองการจราจรด้านหน้าเขาไม่ได้ตอบกลับมาใน ดวงตาเขามันแอบซ่อนอะไรสักอย่างหนึ่งก็ไม่รู้

นัชชาหันมองเตชิตด้านข้างสัมผัสได้ถึงอาการที่เงียบผิด ปกติ คุณเป็นอะไรหรือป่าวเหนื่อยไปหน่อยหรอ?”

มือของเขาที่จับพวงมาลัยอยู่ขยับขึ้นมานิดหน่อยพอดี กลับที่สัญาณไฟจราจรกระพริบเป็นสีแดงเขาเลยจอดรถแล้ว พูดกับเธอ”ชื่อลูกจะเอายังไง?”

อยู่ดีๆเขาก็ถามเรื่องนี้ขึ้นมานัชชาอึ้งไปพักใหญ่เรื่องนี้ ผู้ใหญ่ก็ถามมาอยู่เนืองๆ แต่สำหรับพวกเขาเห็นว่าไม่จำเป็น เลยไม่ได้อะไรกันมาก

ทำไมมาถามเรื่องนี้ตอนนี้หล่ะ?

นัชชาถามเขาด้วยความแปลกใจ ทำไมอยู่ดีๆก็ถามถึง เรื่องนี้หล่ะ?”

“คือตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรมากมายแต่ว่าพวกชื่อ นามสกุลสำหรับเด็กนั้นในประเทศมันสำคัญมากไม่เหมือน ตอนอยู่ต่างประเทศมันเกี่ยวข้องกับเอกสารต่างๆมากมายพวกเราได้ใส่ใจอะไรที่กลัวหน่ะกลัวจะส่งผลกระทบกับ ลูกเรามากกว่า เตชิตพูดเรื่องนี้ขึ้นสีหน้าค่อนข้างกังวล ออกเลยเขาค่อนข้างวิตกกังวล

นัชชาเลิกคิ้วขึ้นถามหน่อยๆ เมื่อมีคนพูดเรื่องอะไรมา

ใช่ไหม”

ตามคาดไว้ไม่ตอบอะไรแต่การแสดงอาการเงียบ มันบ่งบอกเลยหล่อนทายถูก

แล้วเชียวต้องพวกปากหอยปูพูดแน่

ใจของนัชชาเหมือนเดือดขึ้นซึ่งถูกลุ่มโชดช่วงและกำลังปะทุลอยทั่วทุกทุกหล่อนตัว กลับมาสายตามไปด้านอย่างอุ่นข้องใจ ขอเวลาสอง วันเดี๋ยวจะเปลี่ยนนามสกุลให้หน้าไหนมันยังกล้า

สำหรับผู้ใหญ่แล้วเรื่องแค่สามารถปล่อยผ่านแต่ลูกอายุ ยังน้อยยังไม่เข้าใจจิตใจน้อยอีกเรื่องนี้จำเป็นต้อง

แต่มีผู้ใหญ่พูดเรื่องพวกกระทบกระเทียบดวงใจ

น้อยๆเด็กน้อย

จริงแล้วพวกเขามีความสุขกันแสดงออกมาได้อย่าง ชัดเจนนั้นตามละกันหล่อนเปลี่ยนนามลูกให้กลับใช้นามสกุลดังเดิม
เตชิตยังรับรู้ความรู้สึกคับข้องใจของนัชชาได้เป็นอย่างดี เพราะปกติแล้วเธอเป็นอบอุ่นที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้ต้อง เกี่ยวข้องกับเรื่องลูกแน่ๆ

“นัชชาผมรู้ว่าคุณไม่สบายใจผมก็ด้วยเอาเรื่องนี้เราต้อง ทำเพื่อลูกนะคุณกลับไปบอกกับครอบครัวคุณหน่อยละกัน

นัชชาเห็นเขาโทษตัวเองไม่หยุดอารมณ์หัวร้อนของนัชชา ถึงได้สงบลงมาบ้างหล่อนถอนหายใจไม่ได้ว่าคุณเลยแค่ รำคาญคนพวกนั้นที่เอาเด็กมานินทา

เตชิตจับมือน้อยๆที่เย็นเฉียบของนัชชา ฉันรู้ฉันเข้าใจ

หลายปีที่ผ่านมาพวกเขาสองคนผ่านร้อนผ่านหนาวทั้งเอา ชีวิตเข้าเสี่ยงมาตั้งหลายต่อหลายครั้งแค่เรื่องขี้ปะติ้วแค่นี้พวก เขาแทบไม่ได้ใส่ใจอะไรเลยแต่หัวใจของพ่อแม่ที่คิดถึงเรื่องลูก นั้นย่อมรู้ดี

“เดี๋ยวสองวันนี้ให้ที่ปรึกษาเตรียมเอกสารต่างๆ ให้ดีเรา จะจัดการเรื่องพวกนี้ให้เสร็จสิ้นดีไหม?”

นัชชาผงกหัวรับ”ดีค่ะ”

สำหรับเธอแล้วลูกจะใช้นามสกุลของใครก็ได้เป็นเรื่อง ธรรมดานามสกุลไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับพวกเราแค่เราเป็น ครอบครัวที่มีสายเลือดเดียวกันแค่กลัวว่าธีมนต์จะไม่สามารถ ปรับตัวให้เข้ากับเรื่องพวกนี้ได้เราเลยต้องแก้ไขบ้าง

จากสถานการณ์ในตอนนี้เรื่องนี้จะต้องจัดการให้เร็วที่สุด
รถจอดที่ร้านอาหารเวลาหกโมงสี่สิบนาทีเตชิตจอดรถ สนิทเขาถึงได้อ้อมไปเบาะหลังเปิดประตูแล้วอุ้มเด็กน้อยที่ ร่างกายห่อหุ้มด้วยเสื้อแจ็คเก็ตสีน้ำตาลออกพลันเรียกลูกชาย อย่างเบาๆ “ธีมนต์ตื่นเถอะเราถึงแล้ว

ธีมนต์กำลังฝันหวานอาการบ่งบอกเลยว่ายังสะลึมสะลือ อยู่แต่ได้ยินเสียงจากผู้ใหญ่เรียกได้แต่เอามือขยี้ตาแล้วลุกขึ้น มา“พ่อ…

“ครับพ่ออยู่นี่ เตชิตได้ยินเสียงงอแงตามประสาเด็กใจถึง กับอ่อนเลยทีเดียวเขาปลดเข็มขัดนิรภัยออกแล้วอุ้มเด็กน้อยลง รถไปลูกไปกันข้าวกันร้านนี้มีสเต็กเนื้อที่ลูกชอบ

พอได้ยินคำว่าสเต็กมื้อเขารีบตั้งสติให้ไววันนี้เล่นเหนื่อย มาทั้งวันถึงวลาหิวแล้ว เมื่อเดินเข้าร้านได้กลิ่นหอมฟุ้งลอย ออกมาดูท่าท้องจะร้องแล้ว

หลังจากสั่งอาหารเสร็จใช้เวลาที่อาหารยังมานัชชาสบตา เตชิตแล้วถามธีมนต์แบบไม่ได้ตั้งใจจะถาม “ธีมนต์ครับก่อน หน้านี้แม่เคยพูดกับลูกเรื่องจะเปลี่ยนชื่อนามสกุลใช่ไหมแล้ว หนูคิดยังไงบอกพ่อกับแม่สิ

ธีมนต์ที่กำลังตั้งอกตั้งใจกินพุดดิ้งคัสตาร์ดคาราเมลอยู่ เอาแต่ก้มหน้าแล้วพูดตอบ ผมยังไงก็ได้ หลังจากที่แม่ถาม

“งั้นลูกอยากเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยน? นัชชาถามละเอียดขึ้น มาอีกนิดอย่างไรก็ตามชื่อเป็นชื่อลูกจะเปลี่ยนก็ต้องฟังการ ตัดสินใจของลูกอยู่ดี
หล่อนคิดว่าเด็กอาจจะขอคิดสักพักแต่ทว่าเขากลับพยัก หน้าตกลงอย่างไม่ได้สงสัยอะไรมากนัก เปลี่ยนก็ดี

นัชชาประหลาดใจหน่อยๆ คิดดีแล้วหรอลูก?

ธีมนต์เอาแต่ก้มหน้ากินขนมแต่สิ่งที่เขาเอ่ยออกมานั้นมัน เป็นความจริงที่ทำให้พวกเขาปวดใจเหลือเกิน ครับเพื่อนที่ โรงเรียนใช้นามสกุลพ่อทั้งหมดผมก็อยากใช้

นัชชาถึงกับใจหาย แล้วทำไมไม่บอกแม่ว่าลูกคิดแบบ

พอพูดถึงเรื่องนี้เด็กน้อยเกิดอาการทำตัวไม่ถูกได้แต่เอา มือเล่นผมไปมาเขาพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ผมกลัวว่าจะแม่ไม่ ดีใจ….

นัชชาได้แต่อึ้งก่อนหน้านี้เคยพูดเรื่องนี้กับเขาแล้วแต่ก็ลูก ก็ไม่ได้ร้องขออะไรเลยยกเลิกเรื่องนี้ไปที่แท้ก็เป็นเรื่องนี้เองที่ หล่อนคิดไม่ถึง…..

ดวงตาหล่อนเริ่มแดงระเรื่อและพยายามบังคับน้ำเสียงให้ เป็นปกติ ทำไมแม่จะไม่ดีใจหล่ะลูกเป็นลูกของพ่อกับแม่จะใช้ นามสกุลใครก็เหมือนกันทั้งนั้นแหละ

พูดจบหล่อนก็ลุกขึ้นพยายามไม่ให้ลูกเห็นน้ำตาของตัว เอง “ฉันไปห้องน้ำ”

ห้องรับประทานอาหารขนาดใหญ่มีเพียงเตชิตกับเด็กน้อย สองคนในฐานะที่เป็นพ่อก็ปวดใจเช่นกันแต่เขาต้องอดกลั้นได้ดีกว่าแม่“วันสองนี้พ่อจะเปลี่ยนชื่อนามสกุลลูกให้ใหม่ลูกไม่ ต้องคิดมากไปเรียนกับเพื่อนๆ ให้เหมือนเมื่อก่อนก็พอ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ