ยั่วรักทนายคนโหด

ตอน302เธอมีเสน่ห์มากกว่าเมื่อห้าปีก่อน



ตอน302เธอมีเสน่ห์มากกว่าเมื่อห้าปีก่อน

ตอนที่ 302 เธอมีเสน่ห์มากกว่าเมื่อห้าปีก่อน

นนทนเห็นว่าจะปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปไม่ได้ จึงรีบเดิน ไปที่ด้านข้างของทั้งคู่ หัวเราะฮ่าฮ่าขึ้นมา “ท่านประธานเตชิต ครับ คนนี้เป็นเพื่อนทนายที่ได้รับเชิญในครั้งนี้ชื่อ Suran ครับ สองปีมานี้เธอมีพัฒนาการในแวดวงไม่เลว มีชื่อเสียงอยู่บ้าง

เตชิตทำปากงุ้ม ดวงตาสีดำเข้มทั้งคู่กดลงเหมือนคลื่น เขาอ้าปากถามเธอ คำพูดที่มีแค่คนทั้งคู่เท่านั้นที่เข้าใจ “อ้อ เธอชื่อ Suran อย่างนั้นหรอ

นัชชาเริ่มมีปัญหาในใจการหายใจในขณะที่เขาถาม เธอ เคยจินตนาการเอาไว้ ว่าหากพบหน้ากันอีกว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ไม่ได้คาดหวังว่ามันจะเป็นเช่นนี้

โลกตั้งกว้างใหญ่ ให้พวกเขามาพบกันโดยบังเอิญเช่นนี้

ได้อย่างไร

จะทำอย่างไรได้ เธอได้แต่สวมหัวโขนนี้ต่อไป “ใช่ค่ะ”

“ทำงานด้านกฎหมาย

นัชชาอึดอัดใจ “อื้อ”
สายตาของผู้ชายคนนั้นตกลงที่ใบหน้าซีดขาวของเธอ รอยยิ้มที่เกิดจากริมฝีปากบางๆนั้นดูแล้วเป็นสุภาพบุรุษมาก มี เพียงนัชชาเท่านั้นที่รู้ว่านั่นคือการเยาะเย้ย “กฎหมายของ ประเทศอังกฤษมีส่วนที่แตกต่างจากกฎหมายของประเทศจีน คุณSuran ปรับตัวได้รึเปล่าครับ

นัชชารู้ว่าเขาต้องการจะถามอะไร เขากำลังประชดประชัน การหายตัวไปหลายปีของเธอ

ก้นบึ้งของหัวใจแตกร้าวเป็นเสี่ยงจากคำถามของเขา เธอ เก็บกดความรู้สึกส่วนตัวของเธอเอาไว้ราวกับว่าพูดคุยกับคน แปลกหน้าที่เพิ่งเคยพบกัน “ประโยคนี้ควรจะให้ลูกค้าของฉัน เป็นคนพูดจะดีกว่า”

บรรยากาศตอนนั้นเปราะบางและแปลกมาก คนทั้งสี่คิด ไปกันคนละเรื่อง นนทินและธนิสรเป็นห่วงว่าเรื่องการบาดเจ็บ ในที่ทำงานจะไปเข้าหูเตชิต ขณะที่นัชชากำลังอยู่ในอาการ ช็อค มีเพียงชายคนนั้นที่สีหน้าไม่มีชีวิตชีวา ใครก็มองไม่ออก ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

เขาขยับข้อมือและค่อยๆเปิดปาก “ผมไม่เคยรู้มาก่อนว่ามี คนจีนที่อังกฤษเปิดสำนักงานกฎหมาย

นัชชาหน้าเสียนิดหน่อย แต่ก็ต้องพยายามรักษาความนิ่ง สงบเอาไว้ “สำนักนี้จะว่าใหญ่ก็ไม่ใหญ่ จะว่าเล็กก็ไม่เล็ก ฉันก็ ไม่ใช่มือหนึ่ง คนธุระเยอะอย่างคุณจะไม่รู้จักก็ไม่แปลกหรอก ค่ะ”
“โอ้โห ดูเหมือนคุณSuran จะรู้จักผมดีมากเลยนะครับ เตชิตจ้องไปที่ปากเล็กๆ ที่ทำให้เขาไม่มีความสุข ตั้งแต่ที่เข้า ประตูมาจนถึงตอนนี้ หัวใจของเขาสั่นระรัวไม่คงที่ เห็นท่าที ของเธอเช่นนี้ ได้ยินเสียงเธอเช่นนี้ หัวใจที่ลอยเคว้งคว้างอยู่ ห้าปีก็ได้กลับลงมา

คนนอกมองไม่เห็น ที่จริงแล้วนิ้วของเขาสั่นเล็กน้อย แต่ เขาปกปิดไว้อย่างมิดชิด

เธอยังไม่ตาย แต่เติบโตขึ้นมาอย่างดี มีพลังมากกว่าเมื่อ ห้าปีก่อน เขาตามหามาห้าปี ในที่สุดก็พบแล้ว

แล้วเธอล่ะ?

เมื่อเห็นเขาปรากฏตัว ในตาคู่นั้นนอกเหนือจากความ แปลกใจและความกลัวแล้ว ไม่มีร่องรอยของความประหลาด ใจเลยสักนิด ไม่มีความยินดีที่ได้กลับมาพบกัน เธอไม่ได้ ตกใจและตะโกนเรียกประธานเตชิต กลับเหมือนคนแปลกหน้า อย่างนั้น

หัวใจของเตชิตถูกขย่าบ่น ทั้งโกรธและผิดหวัง เขาเกลียดจนไม่สามารถถามเธอออกไปได้ ทำไมตลอด ห้าปีที่เธอมีชีวิตอยู่กลับไม่ตามหาเขา

นัชชาไม่สามารถทนต่อสายตาของชายคนนั้นที่ลุกเหมือน ไฟ เธอค่อยๆหลับตาลง พยายมชมเสียงไม่ให้สั่น “ฉันไม่ เข้าใจประธานเตชิตค่ะ แต่ว่าฉันเข้าใจบริษัทบิต โอเอ็ม เชื่อว่าพวกเขาไม่ได้เห็นฉันเป็นคนแปลกหน้า ถ้าหากประธานเต ชิตสัยสัยก็เชิญไปสอบถามได้ค่ะ

เมื่อธนิสรได้ยินประโยคนี้ก็รู้สึกใจคอไม่ดี เขาต้องรีบออก มาลงสนาม “เพิ่งพบกันเป็นครั้งแรก ไม่แน่ว่าในอนาคตจะได้ ร่วมงานกันอีกมาก ตอนนี้ใกล้ถึงเวลาแล้วพวกเรารีบไปยัง สถานที่จัดงานกันก่อนเถอะครับ….

แววตาของนัชชานั้นสดใส เมื่อเห็นท่าทีของธนิสรในเวลา นี้ ก็เข้าใจจุดประสงค์ของเขา เธอมองออกไป “ประธานธนิสร เมื่อสักครู่ที่ฉันหารือกับคุณ คุณยังไม่ได้ให้คำตอบเลยนะคะ

ธนิสรยิ้มขึ้นมาอย่างไม่เป็นธรรมชาติ แค่ทำไปลวกๆ “รอ ก่อนรอก่อน ยังมีเวลา

“ฉันกลัวว่าอีกสักพักพอคนมาเยอะแล้ว ประธานธนิสรจะ ดูแลฉันไม่ไหว ไม่เช่นนั้นคุยกันตอนนี้ดีกว่าไหมคะ” นัชชา ประกาศจุดยืน ทุกคำล้วนยืนกราน “บริษัทของคุณเป็นบริษัท วิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับเทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อม ปีนี้ก็ยัง บริจาคให้องค์กรการกุศล ส่วน Davy เป็นเพียงพนักงานระดับ รากหญ้าของบริษัท แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในส่วนสำคัญของ บริษัทก็ตาม แต่เขาก็ใช้จ่ายไปมาก ตอนนี้ตาข้างซ้ายของเขา เกือบจะบอดแล้ว เนื่องจากได้รับบาดเจ็บในระหว่างการ ทำงาน เงื่อนไขและข้อตกลงที่หยิบยกมานั้นถูกต้องและเหมาะ สมตามกฎหมาย บริษัทของคุณควรที่จะเผชิญหน้า ใช่หรือไม่ คะ”
ขณะที่เธอพูดเสียงก็ไม่ดังไม่ได้เบา แต่เต็มไปด้วยความ แข็งแกร่ง หากไม่ได้สวมใส่เดรสหรูอยู่ ก็เหมือนเธอกำลังยืน อยู่ในศาล

เตชิตเมื่อเห็นเธอเช่นนี้ สิ่งที่ปรากฏตรงหน้านั้นคือ ลักษณะของเธอเมื่อห้าปีก่อน ไม่อาจปฏิเสธได้ ตอนนี้เธอดูซับ ซ้อนและนิ่งขึ้น แต่ความยุติธรรมที่อยู่ในเส้นเลือดนั้นกลับไม่ ได้เปลี่ยนไป

หลังจากคำพูดพวกนี้จบธนิสรก็มองไปที่เตชิตด้วย สัญชาตญาณ เห็นว่าเขามองไปที่นัชชาตลอด ในใจได้แต่รู้สึก ผิด เขายกมือขึ้นดันกรอบแว่นบนใบหน้า รู้สึกว่าน่าละอาย “คุณทนายณัชชา วันนี้คุณมาที่นี่ไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ใช่ไหม

เขาต้องการให้นัชชาให้ทางออกแก่เขา แต่น่าเสียดาย……

“ไม่ผิด วันนี้ฉันมาเพื่อที่จะทำความเข้าใจว่าประธาน ธนิสรคิดอย่างไรกับเรื่องนี้” เธอไม่มีเจตนาจะผ่อนปรน อย่างไรก็ตามด้วยคำพูดที่ชัดเจน เห็นได้ชัดว่าธนิสรกลัวท่าที ของเตชิต เธอจึงลุยเต็มที่

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่นัชชาไม่ได้คาดหวังก็คือ ธนิสรพูดจา ยังไม่ทันพูดจา ชายที่อยู่ข้างหน้ากลับอ้าปากพูดขึ้นก่อน

“ดังนั้นคุณ Suranถึงไม่ได้มีบัตรเชิญของงานเลี้ยงในคืน นี้ ก็แอบลักลอบเข้ามาด้วยตัวเองอย่างนั้นครับ” ชายคนนั้น ยกประเด็นนี้ขึ้นมา เขามองออกถึงกลอุบาลเล็กน้อยของเธอ
นัชชาไม่คิดว่าจู่ๆเขาจะพูดเช่นนี้ คิ้วที่เรียวบางนั้นขมวด ขึ้นทันที ตอนนี้สิ่งที่ควรให้ความสำคัญคือคดีของ Davy ไม่ใช่ รึไง

ความข้องใจของเธอก็อยู่ได้ไม่นาน สักครู่เตชิตก็พูดขึ้น ต่อไปว่า “นับว่าคุณไม่คิดพิจารณาถึงตัวเองเลยลองคิดดูสิ คุณ มีเพื่อนมาในงานเลี้ยงรึเปล่าครับ

คำพูดนั้น ทำให้นัชชายืนอึ้งอยู่กับที่ พูดอะไรไม่ออก เขากำลังคุกคามตัวเธอ เปลือยกาย ไม่ปกปิด

เธอแอบกัดฟัน ห้านิ้วขาวเรียวของเธอกระชับเข้าด้วยกัน ด้วยความหยิ่งและทรนง “รอให้ประธานธนิสรให้คำตอบ ฉันก็ ออกไปจากที่นี่ทันที…

“คุณ Suran คุณรู้ไหมว่าคุณอยู่ที่ไหน” เสียงของชายคน นั้นต่ำลง “นึกอยากมาก็มา นึกอยากไปก็ไป เห็นเป็นตลาดเสรี หรืออย่างไรครับ

ความมีความสามารถในเรื่องนี้ พูดให้คนกลืนไม่เข้าคาย ไม่ออกได้ คำพูดเหมือนการออกหมัด ต่อให้เธอสิบคนก็ไม่ใช่ คู่ต่อสู้ของเตชิต ข้อนี้เธอรู้ตั้งแต่เมื่อห้าปีที่แล้ว

“เมื่อคุณมีคำถามต้องการถาม รอให้งานเลี้ยงจบก่อน ผมเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุดในบริษัทบิต โอเอ็ม สามารถตอบคุณ ได้ด้วยตัวเอง นัชชามองหน้าเจ้าหน้าที่ที่อยู่ทางด้านหลังของ เขา ดวงตาเหมือนจะจ้องดึงลงไปถึงในอดีต เขาพูดมามากมายขนาดนี้ ทั้งหมดเพราะเรื่องปัจจุบัน

ทั้งสองคนเดินไปที่ด้านหน้าของนัชชา ผู้หญิงคนนี้ รบกวน

นัชชามองคนทั้งสอง “หมายความว่าอะไร

“คุณแอบเข้ามา ผมปล่อยไม่ได้ ถ้าหาก หาตำรวจ” เขามีน้ำเสียงที่ผ่อนคลาย เธอด้วยท่าทีสงบนิ่ง

เรื่องง่ายเมื่อเป็นการตัดสินใจของเขา เขาโทรหาตำรวจ นั้นเขาถามเธอหน้าตาเฉย ในฐานะ นักกฎหมาย นัชชารู้ตัวว่าเธอไม่ควรละเมิดกฎหมายและข้อบัง คับใดๆ

เธอทางเลือกอื่นนอกจากเชื่อฟังอย่างอดทน

เมื่อสักเธอยังยืนอยู่อย่างอิสระกับธนิสรและนันทน แต่ตอนสถานการณ์

นัชชายิ้มอย่างขมขืน ถึงแม้หัวจะร้อนรนแต่ยังคงรักษา อาการให้สงบนิ่ง “ได้ ถ้าอย่างนั้นฉันจะรอจนกว่าประธานเต ชิตจะเสร็จธุระ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ