ยั่วรักทนายคนโหด

ตอน716ความรู้สึกมั่นคงแบบนี้แต่ยังไม่แต่งงาน



ตอน716ความรู้สึกมั่นคงแบบนี้แต่ยังไม่แต่งงาน

ตอนที่ 716 ความรู้สึกมั่นคงแบบนี้แต่ยังไม่แต่งงาน

เสนานี้ใช้ชีวิตมาอย่างดี เคยเจอสถานการณ์แบบนี้ที่ไหน เธอลงไปสักพัก แต่ก็ไม่ได้ให้คนขับรถรอนาน จึงขึ้นรถไปก่อน

สิ่งที่สวยงามเหมือนภายนอกรถก็คือการตกแต่งภายใน รถ คอนโซลตรงกลางที่นั่งด้านหลังมีน้ำสองขวดวางอยู่ เห็นก็รู้ แล้วว่าเตรียมมาโดยเฉพาะ ดูแลทั่วถึงจริงๆ

ดราก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เธอรู้ว่านี่เป็นรถที่ราคาถูกที่สุด ในบรรดารถของชนัยทั้งหมด แต่สำหรับคนธรรมดา มันก็ใหญ่ โตมาก

ระหว่างทาง เสนานี้รู้สึกอึดอัด นั่งในรถแล้วรู้สึกกังวลอยู่ ตลอด ดราณีก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก กลัวพูดอะไรมากแล้วจะ หลุดปาก

คนขับรถเป็นคนหน้าใหม่ที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน เดาว่า เพื่อไม่ให้โป๊ะแตก

ตลอดทางรถขับตรงไปที่ร้านอาหาร สองแม่ลูกพูดคุยกัน

น้อยมาก รอจนกว่ารถจะถึงหน้าประตูร้านอาหารไม่ง่ายเลย ดราณีถึงได้โล่งอก
เธอเงยหน้ามองตึกสามชั้นนอกหน้าต่างรถ มันคือร้าน อาหารกวางตุ้งในเครือที่มีร้านมากที่สุดในท้องถิ่นเมือง ราคาเป็นกันเองอย่างมาก มีคนมากมายสามารถมาทานได้ มี คนหลากหลายฐานะมาทานบ่อยๆ

แต่ร้านอาหารเล็กๆแบบนี้ช่างห่างไกลจากชนัย ดราณี ค่อนข้างประหลาดใจนิดหน่อย หลังจากลงรถก็นำเสนานี เข้าไป เห็นสีหน้าของแม่ตนค่อยๆ ผ่อนคลายลง เธอก็เข้าใจถึง ความเอาใจใส่ของอีกฝ่าย

ก่อนหน้านี้เธอพูดกับเขาว่าเสนานอยากตอบแทนน้ำใจ อยากเลี้ยงอาหารเขา เดาว่าได้คิดถึงใจเธอเลยเลือกร้าน อาหารที่ค่อนข้างธรรมดาหน่อยล่ะมั้ง

คิดถึงเรื่องพวกนี้แล้ว ใจดราณีก็อ่อนยวบ ใครบอกว่า ชนัยทำตัวไร้สาระกัน ผู้ชายคนนี้เห็นอกเห็นใจคนอื่นจะตาย

บริกรนำทั้งคู่ไปยังหน้าประตูห้องหนึ่งของชั้นสอง “คุณผู้ หญิงครับ ที่นี่ครับ”

ดราณีรู้สึกตื่นเต้น คิดถึงภาพที่สามคนทานอาหารด้วยกัน และค่อนข้างกังวลนิดหน่อย แต่ก็มาถึงแล้ว ก็ควรทานๆไป

เธอยกมือขึ้นผลักประตู พื้นที่ในห้องนี้ถือว่าใหญ่ที่สุดใน ร้าน มีพื้นที่ทานอาหารกับห้องส่วนตัวเล็กๆ และชนัยกำลังนั่ง ดื่มชาอยู่บนโต๊ะไม้เล็กๆข้างโต๊ะกลม

ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหว เขาก็หันหน้าขึ้นมามองทันที ท่าทางตอนลุกขึ้นมานั้นโอเวอร์มาก “คุณแม่ สวัสดีครับ ผมชนัยครับ”

น้ำเสียงของเขาพยายามคุมให้สงบอย่างมาก แต่ปลาย ดราณีรู้สึกได้

เสียงยังคงสั่นเล็กน้อย ถ้าคนไม่คุ้นเคยอาจจะฟังไม่ออก แต่

เธอถึงพบว่า ไม่ใช่มีแค่เธอที่ตื่นเต้น แต่ชนัยก็ตื่นเต้นมาก เหมือนกัน แต่หน้าตาก็ยังดู……..จริงจังกว่าเธอ

เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นสีหน้าท่าทางเขาแบบนี้ ดราณีที่ อธิบายไม่ได้จู่ๆความรู้สึกระมัดระวังก็น้อยลงอย่างมาก

เสนานค่อนข้างไม่คาดคิดเมื่อได้รับการตอบรับที่อบอุ่น ของเขา ยื่นมือไปจับมือกับเขาหนึ่งที่ “สวัสดีค่ะคุณชนัย ฉันได้ ยินดราณีพูดถึงคุณ เรื่องครอบครัวฉันในครั้งนี้ต้องขอบคุณ การช่วยเหลือจากคุณมากๆเลยนะคะ ครอบครัวเรารู้สึกซาบซึ้ง มาก”

ชนัยรีบโบกมือ “ไม่เป็นไรครับ คุณแม่อย่าพูดแบบนี้…

ตอนแรกเสนานี้นึกว่าชนัยจะเป็นคนที่เย่อหยิ่งคนหนึ่ง ยัง ไงฐานะเขาก็เป็นเจ้านายของดราณี จะหาเวลามาทานอาหาร กับพวกเธอก็ยากมากแล้ว

แต่ตอนนี้เห็นท่าทางที่น่านับถือและน่าเกรงขามของชนัย จู่ๆเธอก็รู้สึกสับสนนิดหน่อย

ทำไมรู้สึกว่าเขาอึดอัด

หรือว่าผู้ที่ประสบความสำเร็จจะค่อนข้างอ่อนน้อมถ่อมดน?

แต่ดูใบหน้าเขาที่ดูอ่อนเยาว์มาก ถ้าไม่บอกอายุก็ดูไม่ ออกว่าจริงๆแล้วเป็นคนที่อายุสามสิบสี่ปี ถ้าบอกว่ายี่สิบหก ยี่สิบเจ็ดก็คงเชื่อ

วันนี้ชนัยสวมชุดสูทที่ค่อนข้างสบายๆนิดหน่อย ไม่อยาก

ให้ตัวเองดูมีอายุเขาลากเก้าอี้ออกให้ “คุณแม่ เชิญนั่งครับ” เสนานีมองไปแวบหนึ่ง มันคือที่นั่งหลัก ก็รีบขยับไปอีก ทาง “คุณชนัย ที่นั่งนี้คุณต้องนั่งนะคะ ฉันไม่….”

“ไม่ได้ได้ยังไงครับ” ชนัยยืนกรานไม่ยอม ในสายตาของ เขาคนคนนี้คือคุณแม่ของแฟนเขา จึงห้ามเพิกเฉยไม่ได้เด็ด ขาด “คุณแม่เป็นผู้ใหญ่ นั่งตรงนี้เหมาะสมที่สุดแล้วครับ”

ดราณีเห็นทั้งคู่ผลักให้กันไปมา บรรยากาศก็แข็งทื่อขึ้น มาทันที ก็รีบเล่นมุขตลก “แม่คะ ในเมื่อคุณชนัยเขาบอกแล้ว แม่ก็นั่งเถอะ ไม่งั้นเขาจะลำบากใจนะ”

เสนานี้ได้ยินแล้วก็ยังคงลังเลเล็กน้อย แต่ก็รู้ว่าถ้าให้เป็น แบบนี้ต่อไปไม่ดีแน่ เลยนั่งลงไปด้วยความไม่ค่อยสบายใจ

ดราณีนั่งตามไปข้างๆเธอ และชนัยอยู่ฝั่งตรงข้าม

ทั้งสามสบตากับอย่างช่วยไม่ได้ บรรยากาศอบอวลไป ด้วยความกระอักกระอ่วน สุดท้ายบริกรก็ถือเมนูอาหารมาให้

“คุณแม่ ลองดูว่ามีอาหารที่ชอบทานไหม ผมให้พวกเขา เตรียมอาหารแนะนำหน้าร้านมาแล้ว คุณแม่สั่งเพิ่มได้เลยครับ”

จุดประสงค์หลักของการมาครั้งนี้ของเสนานี้ไม่ใช่การ ทานอาหาร “คุณสั่งแล้วก็โอเค ฉันทานได้หมด

หลังจากส่งเมนูอาหารคืนให้บริกร ตราณีก็ส่งสายตาให้ กับชนัย ราวกับต้มน้ำเดือด แล้วก็เป็นสายตาออกอย่างรวดเร็ว กลัวว่าความจริงจะเปิดเผย

ไม่นาน อาหารมากมายที่พิถีพิถันก็วางบนโต๊ะ ดูออกว่า ชนัย ใจจดใจจ่อกับอาหารมาก

เสนานีมองผู้ชายที่นั่งฝั่งตรงข้าม เผยออร่าที่ไม่ได้ตั้งใจ ออกมาทุกๆการเคลื่นไหว เป็นครั้งแรกที่ได้พบกับเจ้านายที่มี ฐานะแบบนี้ รู้สึกถึงความแตกต่างระหว่างคนเรา และระยะห่าง ของสถานะอย่างชัดเจน

เปรียบเทียบกันไม่ได้จริงๆ แค่มองแวบเดียวก็ไม่ใช่คน ประเภทเดียวกัน

เสนานีหุบสายตาออกมา ยกแก้วชาข้างตัวมาดื่ม “คุณ ชนัย สามีฉันยังอยู่ที่โรงพยาบาล ตอนบ่ายต้องไปเฝ้า เลยดื่ม เหล้าไม่ได้ เลยให้ชาเป็นเหล้าแทน ชนแก้วเป็นเกียรติเสีย หน่อย รู้สึกขอบคุณที่คุณช่วยเหลือคราณีของพวกเราให้ผ่าน ความยากลำบากไปได้”

ชนัยรีบลุกขึ้นมาชนแก้วกับเสนานี ขณะที่ชนแก้ว เขาก็ ตั้งใจวางแก้วลง “คุณแม่ไม่ต้องเกรงใจครับ นี่มันเป็น……. สิ่ง ที่ผมควรทำ
ประโยคหลังเกือบจะพูดออกไป ได้รับสายตาเตือนจากด ราณี เกือบหลุดปากพูดออกไป “เป็นเรื่องที่ผมสามารถทำได้

“อย่าพูดแบบนั้นเลย คุณเป็นเจ้านายดราณี เธอเป็น พนักงานฝึกหัด ได้การดูแลดีจากบริษัทขนาดนี้ พวกเรารู้สึก เป็นบุญคุณมาก”

ชนัยยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกหวาดผวากับการที่เธอเลี้ยวกลับมา ชื่นชมเขาอย่างสดใส ยิ่งทำให้เขารู้สึกผิด ถ้าวันหนึ่งความจริง เปิดเผย……

ชนัยไม่กล้าจินตนาการภาพนั้น ทำได้แต่ยิ่ง อ่อนน้อม ถ่อมตน “คุณแม่อย่าพูดแล้วครับ ดราณีก็ดีมากเหมือนกัน”

หลังจากเสนานี้ได้ยินประโยคนี้ สายตาก็เปลี่ยนไปเล็ก น้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ได้แต่ดื่มแก้วชาในมือตรงหน้าจนหมด

พูดขอบคุณไปแล้ว ทุกคนต่างตักอาหารกันคนละที่สองที่ บรรยากาศรอบตัวตอนนี้ไม่ได้กระอักกระอ่วนเหมือนในตอน แรก

ระหว่างทานอาหาร ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ จู่ๆเสนานก็ถามขึ้น มา “คุณชนัยยังหนุ่มขนาดนี้ จิตใจก็ดี คงจะมีความสุขมากกว่า ครอบครัวอื่นเลยสินะคะ”

ชนัยปากไวใจเร็ว ยังไม่ทันคิดก็รีบตอบกลับ “คุณแม่ ผม ยังไม่มีครอบครัวหรอกครับ

“ไม่มีหรอ?” เสนานีชะงักตะเกียบในมือ “มั่นคงขนาดนี้ยังไม่แต่งงานหรอคะ?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ